ขั้นตอนการเสนอโครงงานและการพิจารณา
ขั้นตอนการเสนอโครงงานและการพิจารณา
1. ผู้เสนอโครงงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอโครงงาน จำนวน 3 ชุด พร้อมแผ่นซีดีบรรจุไฟล์ข้อมูล 1 แผ่น ส่งมายังศูนย์ประสานงานตามภูมิภาคต่างๆ (ซึ่งระบุในตอนท้ายของเอกสาร) ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์
2. พิจารณาข้อเสนอโครงงานที่เสนอโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
3.
ประกาศผลโครงงานที่ผ่านการพิจารณาได้รับทุนสนับสนุนผ่านทางเว็บไซต์ //www.fic.nectec.or.th/และมอบเงินทุนงวดที่ 1 โครงงานละ 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน)
4. นักเรียนที่โครงงานผ่านการคัดเลือกได้รับทุน ทำการพัฒนาโครงงานต่อให้สมบูรณ์และจัดส่งผลงาน พร้อมบทคัดย่อและรายงานฉบับสมบูรณ์ จำนวน 2 ชุด และแผ่นซีดีจำนวน 2 ชุด ที่บรรจุไฟล์ข้อมูลต่อไปนี้
4.1 ไฟล์ข้อเสนอโครงงาน
4.2
ไฟล์รายงานฉบับสมบูรณ์ (ดูรายละเอียดในหัวข้อ “รายงานฉบับสมบูรณ์”)
4.3 ไฟล์สรุปโครงงาน/บทคัดย่อ สรุปโครงงานโดยย่อประมาณ 2 - 3 หน้ากระดาษ A 4
(ดูรายละเอียดในหัวข้อ “แบบฟอร์มสรุปโครงงาน”)
4.4 ไฟล์โปรแกรมคอมพิวเตอร์แะรหัสต้นฉบับ (Source Code) (ถ้ามี)
โดยต้องส่งเอกสารรายงานและแผ่นซีดีที่บรรจุไฟล์ข้อมูลดังกล่าวที่ศูนย์ประสานงานตามภูมิภาคต่างๆ
ด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ภายในเวลาที่กำหนด รวมทั้งต้องให้ความร่วมมือในการกรอกข้อมูลสรุปโครงงาน/บทคัดย่อผ่านทางเว็บไซต์ของโครงการฯ //www.fic.nectec.or.th/ และ/หรือให้ข้อมูลอื่นๆ ที่ทางโครงการฯ ขอความร่วมมือ
5. พิจารณาผลงานที่ส่งมอบโดยกำหนดให้ผู้พัฒนามานำเสนอผลงานที่ศูนย์ประสานงานตามภูมิภาคต่างๆ ผลงานที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ จะได้รับเงินทุนงวดที่ 2 โครงงานละ 7,000 บาท (เจ็ดพันบาทถ้วน)
และอาจารย์ที่ปรึกษาได้รับค่าตอบแทนโครงงานละ 2,000 บาท
6. จัดประกวดผลงานรอบชิงชนะเลิศ โดยนักเรียนที่โครงงานได้รับรางวัลที่ 1 จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประกวด Intel International Science and Engineering Fair (Intel ISEF) ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- 7001 reads
การแสดงผลงาน
การแสดงผลงานเป็นการเสนอผลงานที่ได้ศึกษาค้นคว้าสำเร็จลงแล้วให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจ อาจทำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดนิทรรศการ ซึ่งเป็นการจัดแสดงให้ผู้อื่นทราบถึงกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ของการศึกษาค้นคว้า อาจมีอุปกรณ์ และเครื่องมือหรือภาพและแผนภูมิประกอบคำบรรยาย อาจมีหรือไม่มีการสาธิตประกอบด้วยก็ได้ หรืออาจจัดแสดงในรูปแบบอื่น ๆ เช่นการรายงานปากเปล่าก็ได้
การแสดงผลงานการทำโครงงานวิทยาศาสตร์นี้ อาจจัดได้หลายระดับ เช่น
- การจัดเสนอผลงานภายในชั้นเรียน
- การแสดงนิทรรศการภายในโรงเรียนเป็นการภายใน
- การจัดนิทรรศการในงานประจำปีของโรงเรียน
- การส่งผลงานเข้าร่วมในงานแสดงหรือประกวดภายนอกโรงเรียน ในระดับต่าง ๆ เช่น กลุ่มโรงเรียน ระดับจังหวัด ระดับเขตการศึกษา และระดับชาติ เป็นต้น
การแสดงผลงานในลักษณะที่มีการจัดแสดง ขั้นจำเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่ต้องเขียนโปสเตอร์ติดแสดงโครงงาน ข้อความที่สำคัญที่จะต้องเขียน คือ
- ชื่อโครงงาน
- ชื่อผู้ทำโครงงาน
- ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
- ชื่อสถานศึกษา
- คำอธิบายย่อ ๆ ถึงมูลเหตุจูงใจในการทำโครงงานและความสำคัญของโครงงาน
- จุดมุ่งหมาย
- วิธีการดำเนินงาน อธิบายเป็นข้อ ๆ โดยย่อ หรืออาจแสดงเป็นภาพแสดงขั้นตอนดำเนินการประกอบด้วย
- ผลการศึกษา ควรเสนอเฉพาะข้อมูลเด่น ๆ อาจมีภาพประกอบด้วย
- สรุปผล
นอกจากนั้น ยังต้องจัดอุปกรณ์แสดงหรือสาธิตผลที่ได้จากการศึกษาด้วยการเสนอผลงานในลักษณะของการจัดแสดงนั้น ควรคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ความปลอดภัยของการแสดง
- ความเหมาะสมของพื้นที่ที่จัดแสดง
- คำอธิบายที่เขียนแสดงนั้น ควรเน้นเฉพาะประเด็นต่าง ๆ ข้อความกะทัดรัด ชัดเจนและเข้าใจง่าย
- นาดตัวอักษรต้องมีขนาดใหญ่ ผู้ชมสามารถอ่านได้ในระยะ 2 เมตร คือตัวอักษรที่เป็นชื่อเรื่อง ควรมีขนาดความสูงประมาณ 5 เซนติเมตร หัวข้อย่อย ขนาดความสูงประมาณ 2 เซนติเมตร และข้อความอื่น ๆ ขนาดความสูงประมาณ 1.5 เซนติเมตร
- ดึงดูดความสนใจของผู้ชม โดยใช้สีที่สดใสคือ สีตัวอักษรต้องเด่นชัด และข้อความที่เป็นจุดเน้นที่สำคัญควรใช้สีที่สดใส
- ใช้ตาราง และรูปภาพประกอบ โดยจัดวางอย่างเหมาะสม
- สิ่งที่แสดงทุกอย่างต้องถูกต้อง ไม่มีการสะกดคำหรืออธิบายหลักการผิด
- ในกรณีที่เป็นโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์ที่นำมาแสดงประกอบนั้น ต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับการเสนอผลงานในรูปแบบของการรายงานปากเปล่าในที่ประชุมนั้น ควรมีการใช้สื่อประเภทโสตทัศนูปกรณ์ ประกอบการรายงานด้วย เช่น แผ่นโปร่งใส หรือสไลด์ เป็นต้น ส่วนข้อความที่จะเขียนลงบนแผ่นโปร่งใสนั้น ก็เป็นข้อความเช่นเดียวกับที่เขียนโปสเตอร์ดังที่กล่าวข้างต้น
การรายงานปากเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการรายงานปากเปล่า ที่เป็นการอธิบายด้วยคำพูดประกอบกับการจัดแสดงโครงงาน หรือการรายงานปากเปล่าต่อที่ประชุมก็ตาม ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- ต้องทำความเข้าใจในเรื่องที่จะอธิบายเป็นอย่างดี
- ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของการใช้ภาษาให้เหมาะสมกับระดับผู้ฟัง
- รายงานตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมหลีกเลี่ยงการอ่านรายงานแต่อาจดูหัวข้อสำคัญ ๆ ไว้เพื่อช่วยให้การรายงานเป็นขั้นตอน และควรชี้จุดเน้นหรือประเด็นที่สำคัญ ๆ ของโครงงานประกอบคำอธิบาย
- อย่าท่องจำรายงาน เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ขณะรายงานต้องมองตรงไปยังผู้ฟัง
- ควรรายงานให้เสร็จในระยะเวลาที่กำหนด
- เมื่อรายงานเสร็จควรเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ซักถาม
- การตอบคำถามควรตอบให้ตรงประเด็นที่ถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นกล่าวถึงสิ่งที่ไม่ได้ถาม
- หากติดขัดในการตอบ อย่าเสแสร้งหรือกลบเกลื่อน ควรยอมรับแต่โดยดี
การเตรียมการก่อนการเสนอผลงานนั้น นักเรียน ควรซักซ้อมการอธิบายปากเปล่า รวมทั้งการซักซ้อมการตอบคำถาม ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนเกิดความมั่นใจ
ส่วนประกอบของแผงโครงงาน
1. ชื่อสถานศึกษา
2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
3. บทคัดย่อ
ส่วน ข ขนาด 120 X 60 เซนติเมตร ประกอบด้วยหัวข้อดังนี้
1. ชื่อโครงงาน 2. ที่มาและความสำคัญ
3. ขอบเขตการศึกษา 4. จุดมุ่งหมายการศึกษา
5. สมมติฐาน 6. วัสดุอุปกรณ์
7. วิธีการทดลอง
ส่วน ก2 ขนาด 60 X 60 เซนติเมตร ประกอบด้วยหัวข้อดังนี้
1. ผลการทดลอง 2. สรุปและอภิปรายผลการทดลอง
3. ข้อเสนอแนะ 4. เอกสารอ้างอิง
เทคนิคการรายงานผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การรายงานผลงานโครงงานวิทยาศาสตร์ นักเรียนผู้ทำโครงงานจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่ทำเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเกิดจากประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคืออาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องเอาใจใส่ แนะนำให้นักเรียนได้ฝึกซ้อมการรายงานจนคล่องเป็นธรรมชาติ พอสรุปเป็นขั้น ๆ ได้ดังนี้
1. หัวหน้ากลุ่มผู้ทำโครงงานแนะนำสมาชิกภายในกลุ่มพร้อมทำความเคารพ
2. แบ่งหัวข้อให้ทุกคนในกลุ่มได้รายงาน
- การรายงานต้องมีน้ำเสียงน่าฟัง เสียงดังชัดเจน
- มีอุปกรณ์ช่วยชี้หัวข้อ บนแผงโครงงาน ไม่อ่านเนื้อหาบนแผงโครงงาน
- หยิบอุปกรณ์ประกอบแผง เพื่อประกอบการรายงานอย่างคล่องแคล่ว
3. เมื่อรายงานจบแล้วเปิดโอกาสให้กรรมการซักถามและพร้อมที่จะตอบคำถามอย่างมั่นใจ กรณีที่กรรมการซักถามลึกลงไปมากกว่าที่ได้ปฏิบัติจริง ให้ชี้แจงกรรมการตามความเป็นจริงว่า ยังไม่ได้ปฏิบัติและอาจจะรับไปปฏิบัติต่อไป
4. มีเอกสารย่อ หรือผลงานแจก หรือกรณีชิมได้มีให้ชิมด้วย จะช่วยให้ผลงานเป็นที่สนใจของผู้ชมโดยทั่วไปมากยิ่งขึ้น
5. เมื่อกรรมการหรือผู้ชม เสร็จสิ้นการตรวจหรือการชมแล้ว นักเรียนในกลุ่มกล่าวขอบคุณและแสดงความเคารพ