บริษัทโลจิสติกส์ในต่างประเทศ

บริษัทโลจิสติกส์ขนส่งจากภายนอก หรือ 3PL ให้บริการ Fulfillment เพื่อช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ 3PL

บริษัทโลจิสติกส์ขนส่งจากภายนอก (3PL): คู่มือฉบับสมบูรณ์

บริษัทโลจิสติกส์ขนส่งจากภายนอก หรือ 3PL ให้บริการ Fulfillment เพื่อช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ 3PL

ในกรณีที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณขยายไปสู่ตลาดใหม่และเริ่มสร้างฐานลูกค้าใหม่ การทำ Fulfillment ภายในองค์กร รวมถึงการจัดส่งด้วยตนเองไม่สามารถรองรับการขยายตัวของยอดสั่งซื้อได้

และนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับเจ้าของร้านที่จะต้องตัดสินใจเลือกใช้บริการ Fulfillment จากพาร์ทเนอร์ภายนอกเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า

หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับบริการของ 3PL และศึกษาว่าบริการเหล่านี้สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร นี่คือคู่มือที่จะช่วยสร้างความเข้าใจและความคุ้นเคยมากขึ้นให้กับคุณ

เมื่อการจัดการ Fulfillment แบบเดิม ๆ ที่ทำกันเองภายในองค์กรไม่ตอบโจทย์ และขาดประสิทธิภาพ หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มเบนความสนใจและมองหาบริการจากบริษัทขนส่งโลจิสติกส์ภายนอก หรือ 3PL เพื่อมาช่วยจัดการนำสินค้าส่งไปยังผู้บริโภค บริษัทขนส่งเหล่านี้ให้บริการที่ครบวงจรเพื่อร้านค้าอีคอมเมิร์ซ ตั้งแต่การบริการคลังสินค้า ช่วยหยิบ รับแพ็คสินค้า ส่งสินค้า รวมไปถึงการขนส่งแบบ Last-mile delivery ที่เชื่อมถึงลูกค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญด้านขนส่ง รองรับความท้าทายที่เกิดขึ้นกับการทำ Fulfillment​

3PL คืออะไร

3PL เปรียบเสมือนร่มที่ครอบคลุมการทำงานและการจัดการของโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

บริษัทโลจิสติกส์ขนส่งจากภายนอกทำหน้าที่เป็นตัวแทน หรือ 3PL ให้บริการคลังสินค้า จัดการสินค้าในคลัง มีบริการขนส่งสินค้าเหมาเต็มคันรถ (FTL) และขนส่งแบบไม่เต็มคันรถ (LTL) รวมไปถึงการปรับให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า บริการหยิบ แพ็คสินค้า รวมไปถึงการส่งสินค้าตีกลับคืน โดยทั่วไปแล้ว มักมีการดำเนินงานที่ศูนย์กระจายสินค้า หรือคลังสินค้า ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ซึ่ง 3PL เป็นการผสมผสานการทำงานระหว่างบริษัทขนส่งและระบบการจัดการคลังสินค้า เพื่อให้การส่งสินค้าไปยังลูกค้าไม่มีสะดุด

เมื่อบริษัทหรือร้านค้าใดตกลงร่วมงาน ใช้บริการจาก 3PL หมายความว่า ทุก ๆ ขั้นตอนของการทำ Fulfillment และการจัดการถูกดูแลโดยภายนอกบริษัทหรือร้านค้าของตนเอง การใช้บริการ 3PL ช่วยลดความเสี่ยงได้ดีกว่าการดูแลทั้งหมดเองภายในองค์กร และทำให้เจ้าของร้านค้าสามารถนำเวลาไปโฟกัสในด้านอื่น ๆ เช่น การตลาด และการพัฒนาสินค้า เป็นต้น

ปัจจุบันนี้ ความต้องการจัดการ Fulfillment ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตามความต้องธุรกิจมีสูงมากขึ้น การขยายตัวที่สูงขึ้นของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการเติบโตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กลับกลายมาเป็นประเด็นสำคัญที่บริษัท 3PL จะต้องมาคิดพิจารณากับรูปแบบการให้บริการของตนเอง และแน่นอนว่า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเลือกบริษัท 3PL ที่เหมาะสมกับธุรกิจและสินค้าของตนเอง

ประเภทของผู้ให้บริการ 3PL

บริษัทโลจิสติกส์ที่ทำหน้าที่แทน หรือ 3PL มีหลากหลายประเภท โดยเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องหา 3PL ที่ใช่สำหรับธุรกิจตนเอง และต้องทำความเข้าใจ แยกแยะความแตกต่างของ 3PL ได้

3PL แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภททำหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องการและลักษณะของธุรกิจนั้น

1. Standard 3PL Providers

Standard 3PL providers ผู้ให้บริการ 3PL ประเภทนี้ ให้บริการโลจิสติกส์ขั้นพื้นฐาน เช่น การจัดเก็บ และการจัดส่งสินค้าออก เป็นต้น

2. Service Developer 3PLs

Service developer 3PLs ให้บริการเชิงโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมขึ้นมา และมีระบบสนับสนุนการบริหารจัดการ พร้อมทั้งมีการบริหารงานตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดนอกเหนือไปจากการจัดเก็บสินค้า และขนส่งตามมาตรฐานทั่วไป

3. Customer Adapter 3PLs

Customer Adapter 3PLs จัดการขั้นตอนการจัดส่งแทบจะทั้งหมดแทนผู้ประกอบการ มีระบบแสดงผลต่าง ๆ ที่สามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าผ่านเทคโนโลยีหรือโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาให้ผู้ประกอบการได้ใช้งาน

4. Customer Developer 3PLs

Customer Developer 3PLs ดูแลและจัดการการขนส่งทั้งหมดของธุรกิจนั้น ๆ ทำหน้าที่เป็นแผนกจัดส่งสินค้าหรือแผนกโลจิสติกส์สำหรับร้านค้าหรือธุรกิจ

หน้าที่การทำงานหลักของบริษัท 3PL

3PL ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเร่งความเร็วและพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการทำ Fulfillment ในขณะที่ธุรกิจมีการขยายเติบโตด้วยยอดสั่งซื้อที่มากขึ้น บริษัทขนส่งแบบ 3PL มีกลยุทธ์ที่จะช่วยลดระยะเวลาการจัดส่ง พร้อมทั้งลดต้นทุนการจัดส่ง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลกระทบทางบวกต่อลูกค้า ดังนั้น การร่วมงานกับ 3PL หมายความว่า ธุรกิจของคุณจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีประสบการณ์ในการทำ Fulfillment สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

หากว่าคุณกำลังสงสัยว่าผู้ให้บริการ 3PL ทำหน้าที่อะไรบ้าง ด้านล่างนี้คือหน้าที่การทำงานหลักของบริษัทโลจิสติกส์ 3PL ซึ่งช่วยให้บริษัท ร้านค้าอีคอมเมิร์ซมีเวลามากขึ้น และสามารถโฟกัสธุรกิจในมุมอื่น ๆ

บริหารจัดการคลังสินค้า

ในการบริหารจัดการคลังสินค้าสำหรับ 3PL หมายถึง การที่คลังสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์รับสินค้าเข้ามาจากบริษัทหรือร้านค้าต่าง ๆ และจัดเก็บในที่ที่ปลอดภัย บริษัท 3PL จะเป็นผู้จัดการระบบขนส่ง นำสินค้าเข้ามายังคลังสินค้า และจัดการเรียงสินค้า โดยทำหน้าที่แทนเจ้าของธุรกิจ ทันทีที่ 3PL รับสินค้าเข้าสต๊อก พนักงานคลังสินค้าจะนำสินค้าไปวางแยกตามความเหมาะสม

ในแต่ละ SKU จะถูกเรียงจัดเก็บตามที่ที่จัดเตรียมไว้ ขึ้นอยู่กับตัวสินค้า เช่น เก็บที่ตู้คอนเทนเนอร์ วางตามชั้นวาง หรือจัดเรียงตามพาเลท ซึ่งพื้นที่ในการจัดเก็บกับบริษัท 3PL มีความแตกต่างกันไป และโดยส่วนใหญ่ของบริษัท 3PL สามารถจัดการกับสินค้าที่มีในปัจจุบัน และยังสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจและสินค้าได้อีกด้วย

จัดการสินค้า

นอกจากการให้บริการคลังสินค้า 3PL ส่วนใหญ่มักให้บริการดูแลจัดการสินค้าอีกด้วย เช่น การหยิบ การแพ็ค บริการตีแบรนด์ทำป้ายหรือกล่อง และบริการจัดส่งสินค้า เมื่อเจ้าของร้านค้าออนไลน์ได้รับคำสั่งซื้อ พนักงานในบริษัท 3PL จะทำหน้าที่หยิบสินค้าตามคำสั่งซื้อจากในคลังสินค้า

บริษัท 3PL บางแห่งอาจจะให้บริการที่นอกเหนือไปกว่านั้น คือ การให้บริการระบบที่รวบรวมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไว้พร้อมสามารถติดตามสถานะของสินค้า สถานะคำสั่งซื้อ ติดตามการจัดส่ง รวมไปถึงข้อมูลต่าง ๆ ของพัสดุนั้น โดยรวมไว้ในระบบเดียว ในทางตรงกันข้าม บางบริษัท 3PL อาจจะอัปเดตข้อมูลแบบแมนนวลที่กินเวลาและให้ข้อมูลของพัสดุที่จำเป็นเท่านั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่สินค้าทั้งหมดตามคำสั่งซื้อถูกหยิบมารวมกัน พนักงาน 3PL จะเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับขนาดและสินค้านั้น ๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยและการชำรุดต่อตัวสินค้าที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่ง

จัดส่ง

ทันทีที่สินค้าถูกแพ็คเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการนำสินค้าจัดส่งออก บริษัท 3PL จะมีการร่วมงานกันกับบริษัทขนส่งต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อนำสินค้าส่งไปยังมือลูกค้า ในบางบริษัท 3PL อาจจะร่วมงานกันกับขนส่งเพียงแค่เจ้าเดียว ในขณะที่บางที่อาจจะร่วมงานกันกับบริษัทขนส่งหลายเจ้า ปรับเปลี่ยนตามรูปแบบของสินค้า ราคา และความรวดเร็ว

วิธีและนโยบายการจัดส่งมุ่งเน้นไปที่การดูแลสินค้าระหว่างจัดส่งและความเร็ว หนึ่งในข้อดีของการร่วมงานกับ 3PL คือ หากสินค้ามีปริมาณมาก มาเป็นลังใหญ่ เจ้าของร้านค้าจะได้รับเรตค่าส่งที่ถูกลงและได้รับส่วนลดเพิ่มเติม นอกจากนี้ หลังจากที่สินค้าได้ถูกจัดส่งเป็นที่เรียบร้อย บริษัท 3PL จะทำการแจ้งให้เจ้าของร้านค้าทราบโดยการอัปเดตสถานะสินค้าอย่างเรียลไทม์ผ่านระบบและเทคโนโลยี

รับส่งคืนสินค้า

ในหลาย ๆ บริษัท 3PL ให้บริการการรับส่งคืนสินค้าจากลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นอีกแง่มุมสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการทำ Fulfillment ถ้าหากว่าลูกค้าได้ทำการคืนสินค้า บริษัท 3PL จะจัดการนำสินค้ามาคืนที่คลังหรืออาจจะกำจัดสินค้าชิ้นนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพและเงื่อนไขของสินค้า

โดยบริษัท 3PL ส่วนใหญ่จะมีบริการรับส่งคืนสินค้าเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ระหว่างผู้ประกอบการและลูกค้า การนำสินค้าคืนผ่านการให้บริการของ 3PL ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก เนื่องจากเจ้าของร้านค้าอาจจะไม่สะดวกจัดการทำด้วยตนเอง นอกจากนี้ การบริการเช่นนี้ยังมีความรวดเร็ว สะดวก สามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลาอีกด้วย

รวบรวมสินค้ารายย่อย จัดส่งในคาร์โก้เดียว

บริการรวบรวมสินค้ารายย่อย จัดส่งในคาร์โก้เดียว หรือเหมาบรรทุกสินค้า เป็นหนึ่งในการทำงานของ 3PL ในขณะที่การขนส่งสินค้าที่แตกต่างกันและขนาดเล็กยิบย่อยถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นสำหรับการค้าขายในรูปแบบอีคอมเมิร์ซ แต่สำหรับคาร์โก้หรือการขนส่งแบบบรรทุกสินค้าเป็นการรวบรวมสินค้าชิ้นเล็ก ๆ จัดลงบรรจุภัณฑ์และนำส่งไปยังที่เดียว ขั้นตอนการบริการประเภทนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลา ยังช่วยลดต้นทุนการจัดส่งสินค้าได้อย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย บริษัท 3PL ที่ให้บริการโดยนำบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กหลาย ๆ ชิ้นจัดวางใส่ในกล่องหรือคอนเทนเนอร์ที่มีขนาดใหญ่ เราอาจเรียกว่า การบริการจัดส่งแบบเหมา

3PL ให้บริการประเภทไหนบ้าง?

ด้านล่างนี้ เราได้ทำการขยายลงรายละเอียดประเภทหลัก ๆ ของบริการทางด้านโลจิสติกส์ที่ 3PL มีให้บริการในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การแบ่งประเภทตามบริการของบริษัท 3PL เท่านั้น และผู้ให้บริการ 3PL อาจให้บริการมากกว่าหนึ่งประเภท

3PL เน้นด้านการขนส่ง

3PL ด้านการขนส่งจะมุ่งความสนใจไปที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง พวกเขาอาจจะมีบริการด้านอื่นๆพ่วงไปด้วย

3PL เน้นด้านจัดส่งระหว่างประเทศ

3PL เน้นด้านจัดส่งระหว่างประเทศจะให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ

3PL เน้นด้านบริการจัดการคลังสินค้า

3PL เน้นด้านบริการจัดการคลังสินค้าบางทีให้บริการแบบครบวงจรในด้านคลังสินค้า เช่น บริการพื้นที่จัดเก็บ จัดการสินค้าคงคลัง ทำ Fulfillment ดูแลการหมุนเวียนของสินค้า และบริการการส่งคืนสินค้า

3PL เน้นด้านการจัดการระบบขนส่ง

3PL ประเภทนี้จะช่วยดูแลระบบขนส่งโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาร่วมด้วย เช่น บริการรวบรวมขนส่งระหว่างประเทศและระบบจัดการขนส่ง มีเครือข่ายและร่วมงานกับบริษัทขนส่ง วางแผนซัพพลายเชน และพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย

3PL เน้นด้านการให้ข้อมูล

3PL เน้นด้านการให้ข้อมูลเป็นการให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต และเน้นการทำงานแบบ B2B เป็นหลัก พวกเขาจะนำข้อมูลมาให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์

3PL เน้นด้านการจัดการการเงิน

3PL เน้นด้านการจัดการการเงินให้บริการการชำระเงินขนส่งระหว่างประเทศ ตรวจสอบบัญชี และคำนวณต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย พวกเขายังมีบริการเครื่องมือที่ใช้สำหรับสินค้าคงคลัง ติดตาม จอง และตรวจสอบต่าง ๆ อีกด้วย

ขั้นตอนการทำ Fulfillment โดย 3PL

หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาบริษัทตัวแทน 3PL ที่จะมาช่วยคุณจัดการทำ Fulfillment บทความนี้มีความเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้คุณเข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำ Fulfillment ผ่านบริษัทโลจิสติกส์ที่ทำหน้าที่แทนผู้ประกอบการ หรือ 3PL

ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดที่อธิบายขั้นตอนทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าไปยังการนำสินค้าจัดส่ง

รับสินค้าเข้าคลัง

3PL จะส่งสินค้าได้ก็ต่อเมื่อพวกเขามีสินค้าอยู่ในคลังของตนเอง ดังนั้น 3PL จะรับสินค้าเข้าคลัง และทำการจัดเก็บเรียงสต๊อกสินค้า ขั้นตอนการรับสินค้าและการจัดเก็บมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทนั้น ๆ

จัดการคลังสินค้า

เมื่อบริษัทโลจิสติกส์ตัวแทน หรือ 3PLได้รับสินค้าแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ พวกเขาจะนำสินค้าไปเก็บที่ศูนย์ Fulfillment ที่กระจายตัวอยู่ โดยปกติแล้ว 3PL จะมีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าหรือคลังสินค้าตามเมืองต่าง ๆ เพื่อช่วยลดเวลาการจัดส่งไปยังลูกค้า โดยในแต่ละ SKU จะถูกจัดเก็บแยกออกจากกัน อาจจะวางในคอนเทนเนอร์ ชั้นวาง หรือพาเลท เป็นต้น

หยิบสินค้า

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดจะเริ่มขึ้นทันทีที่ลูกค้าได้ทำการสั่งซื้อสินค้าผ่านแฟลตฟอร์ม ในขณะที่ในบางบริษัทอาจต้องการให้ตัวเจ้าของร้านอัปเดตข้อมูลคำสั่งซื้อแบบแมนนวล แต่บางบริษัทอาจจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ผ่านระบบ โดยทั่วไปแล้ว บริษัทตัวแทนนี้จะทำการเตือนส่งข้อมูลอัปเดตแจ้งถึงสถานะของสินค้าให้ลูกค้าทราบ เมื่อพนักงาน 3PL ได้รับคำสั่งซื้อหรือออเดอร์ พวกเขาจะทำการหยิบสินค้าตามรายการที่ระบุไว้

แพ็คสินค้า

เมื่อพนักงานทำการหยิบสินค้าทั้งหมดตามรายการสั่งซื้อ ขั้นตอนต่อไปคือการแพ็คสินค้า โดยปกติแล้ว วัสดุหรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบ ขนาดของสินค้า และความต้องการลูกค้า วัสดุและบรรจุภัณฑ์โดยทั่วไปอาจจะเป็นถุงพลาสติก ซองบับเบิ้ล พลาสติกกันกระแทก กล่องที่ไม่มีการตีแบรนด์ และอื่นๆ ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ 3PL จะเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสินค้านั้นให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการแตกหักหรือชำรุดที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการขนส่งได้ ซึ่งนำมายังค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

ส่งออกจากศูนย์กระจายสินค้า

ขั้นตอนต่อไปของ Fulfillment คือการส่งสินค้าออกจากคลัง การจัดส่งของ 3PL จะประกอบไปด้วย ขั้นตอนการชำระเงิน การพิมพ์สติกเกอร์ข้อมูลการจัดส่ง และการติดต่อกับบริษัทขนส่งที่เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกัน สำหรับบางบริษัท อาจจะมีการทำงานร่วมกับบริษัทขนส่งเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ในขณะที่บางบริษัทอาจจะร่วมงานกันกับขนส่งหลายที่เพื่อไว้เปรียบเทียบราคาขนส่งและความรวดเร็ว เมื่อสินค้าถูกส่งออกไป 3PL จะอัปเดตหน้าร้านสถานะการจัดส่งอัตโนมัติเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบ

รับส่งคืนสินค้า

การสร้างความพึงพอใจกับลูกค้าคือกุญแจสำคัญสำหรับการทำ Fulfillment ดังนั้น บริษัทตัวแทน 3PL เหล่านี้จึงมีการให้บริการรับส่งคืนสินค้า เมื่อลูกค้าต้องการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า สินค้าจะถูกตีกลับไปยัง 3PL โดยสินค้าอาจจะถูกนำไปรีสต๊อก หรืออาจจะถูกกำจัดทิ้ง ขึ้นอยู่กับนโยบายของร้านค้านั้น ๆ การให้บริษัท 3PL ดูแลด้านนี้ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถไปจัดการด้านอื่น ๆ ของธุรกิจได้ และแน่นอนว่าลูกค้ายังสามารถติดตามสถานะการคืนสินค้าได้ตลอดเวลาอีกด้วย

3PL ทำงานกันอย่างไร?

กล่าวโดยสรุป 3PL ทำหน้าที่ดูแลจัดการโลจิสติกส์และ Fulfillment ในเวลาเดียวกัน และคุณก็สามารถดำเนินธุรกิจพร้อมโฟกัสไปยังการขยายธุรกิจให้เติบโต หรือกล่าวอีกทางหนึ่ง 3PL เป็นเหมือนลิงก์ที่เชื่อมต่อซัพพลายเชนเข้ากับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยผ่านบริการคลังสินค้า กระจายสินค้า และกิจกรรมด้านอื่น ๆ ของการทำ Fulfillment

จากที่เราได้ทำการอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนบริการ Fulfillment เรามาทำความเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมด้วยตัวอย่างที่เข้าใจง่ายด้านล่างนี้

สมมุติว่ามีบริษัทสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ได้ทำการจ้างนักเขียน นักออกแบบกราฟิก และบรรณาธิการเพื่อที่จะเปิดตัวเริ่มกิจการ อย่างไรก็ตาม เจ้าของสำนักพิมพ์แห่งนี้ไม่ต้องการที่จะจัดการดูแลด้านการขายออนไลน์ และจัดส่งหนังสือด้วยตนเอง เจ้าของสำนักพิมพ์จึงตัดสินใจร่วมงานกันกับบริษัทโลจิสติกส์ตัวแทน หรือ 3PL ที่จะมาทำหน้าที่ด้าน Fulfillment และจัดส่งเมื่อมีการสั่งซื้อจากหน้าร้านออนไลน์

บริษัท 3PL จึงเริ่มขั้นตอนการทำ Fulfillment โดยเริ่มที่การนำหนังสือซึ่งเป็นสินค้าเข้ามายังคลังสินค้า และทำการจัดเก็บไว้ตามที่ที่กำหนด นอกจากนี้ ยังทำการหยิบสินค้า แพ็คของ และจัดส่งเมื่อมีออเดอร์เข้ามา บริษัท 3PL อาจทำการรับส่งคืนสินค้าหากลูกค้าต้องการส่งคืน เปรียบเสมือนว่า เจ้าของสำนักพิมพ์ให้ยื่นหน้าที่นี้ให้บริษัท 3PL ดูแล และไม่จำเป็นต้องกังวลใจในการจัดการคลังสินค้า หยิบ แพ็ค และส่งอีกต่อไป โดยเจ้าของสำนักพิมพ์สามารถโฟกัสไปยังธุรกิจของตนเองได้อย่างแท้จริง ในขณะที่ลูกค้าก็ได้รับการดูแล และพึงพอใจจากระบบ Fulfillment ผ่าน 3PL

3PL และ 4PL แตกต่างกันอย่างไร?

ในขณะที่เราได้พูดถึง 3PL ไปแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบบริการโลจิสติกส์อีกประเภทหนึ่ง นั่นก็คือ 4PL

ปัจจุบันนี้ 3PL แตกต่างจาก 4PL อย่างไร?

4PL ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ 3PL เมื่อไหร่ก็ตามที่ 3PL ต้องการบริษัทภายนอกมาช่วยงานเพิ่มเติม นั่นคือที่มาของ 4PL

จากตัวอย่างที่ระบุข้างต้นเกี่ยวกับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง หาก 3PL ได้ไปร่วมงานหาบริษัทย่อยที่จะมาช่วยดูแลจัดการด้านการห่อและออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ 3PL ก็จะพัฒนามาเป็น 4PLเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือในอีกทางหนึ่ง เมื่อเจ้าของธุรกิจได้ร่วมงานกับ 4PL หมายความว่า บริษัท 4PL จะเป็นผู้ดูแลแบบครบวงจรให้กับธุรกิจนั้นๆ การบริการแบบครบวงจรสามารถแบ่งได้ตั้งแต่การผลิต ไปยังการจัดการสินค้าและการทำ Fulfillment อีกด้วย 4PL ยังรู้จักในชื่อ Lead Logistics Provider ที่ทำหน้าที่ดูแลทุกด้านในระบบโลจิสติกส์ เช่น ตรวจสอบดูแลการทำงานของคลังสินค้า จัดการระบบการขนส่ง หรือกิจกรรมหน้าที่อื่น ๆ ที่ 3PL ทำ

สิ่งที่ควรมองหาจากบริการ 3PL

การจัดส่งสินค้าเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่บริษัท 3PL ให้บริการ ขึ้นอยู่กับบริษัท 3PL ที่คุณเลือก บริษัทเหล่านี้จะให้บริการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ โดยแบ่งออกเป็น 8 ข้อดังนี้

การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง

ด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและการขยายตัวที่สูงขึ้นตามมาของการใช้บริการจากภายนอก (Outsource) รวมไปถึงการเช่าพื้นที่คลังสินค้า การจัดการจำนวนสินค้าในคลังได้กลายมาเป็นจุดที่มีความสำคัญต่อธุรกิจร้านค้าออนไลน์หรือแม้แต่ร้านค้าทั่วไป การบริหารจัดการสินค้าคงคลังประกอบไปด้วย การสั่งสินค้าเพิ่ม การนำสินค้าเข้าคลัง การรีสต๊อก การคาดการจำนวนสินค้าในคลัง และการปรับจำนวนและความถี่ในการสั่งซื้อ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่บริษัท 3PL ได้นำมาใช้ให้บริการ คุณสามารถเชื่อมต่อและอัปเดตข้อมูลสินค้าที่อยู่ตามศูนย์กระจายสินค้าต่าง ๆ ได้ คุณยังสามารถป้องกันสินค้าขาดสต๊อกโดยการสั่งซื้อสินค้า และอัปเดตจำนวณแบบเรียลไทม์บนเว็บไซต์ร้านคุณได้อีกด้วย

การกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ

บริษัท 3PL ส่วนใหญ่มีคลังสินค้ากระจายตัวอยู่ในหลากหลายพื้นที่ ทำให้เจ้าของร้านค้าสามารถแบ่งกระจายสินค้าได้ตามคลังกระจายสินค้าต่าง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ร้านค้าหรือบริษัทเน้นการดำเนินกิจการตามภูมิศาสตร์ประชากร การมีสินค้ากระจายตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทำให้การส่งสินค้าภายใน 2 วันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม การกระจายสินค้าไปยังคลังสินค้าจะช่วยลดต้นทุนได้ดีเมื่อมีการฝากเก็บสินค้าที่มีจำนวนมากและมีต้องการให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าได้เร็วที่สุด นอกจากนี้ การกระจายสินค้าไปยังคลังสินค้ายังช่วยลดต้นทุนค่าจัดส่งทางอากาศ แต่ในทางกลับกัน เจ้าของร้านต้องมั่นใจก่อนว่าสินค้าต้องมีสต๊อกรองรับอยู่เสมอเพื่อพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

การจัดส่งภายใน 2 วัน

อีกหนึ่งบริการที่ต้องมองหาจาก​บริษัท 3PL คือการจัดส่งภายใน 2 วัน ในช่วงแรกเริ่มนั้นการจัดส่งที่รวดเร็วเช่นนี้ รวมไปถึงการจัดส่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มักมีให้บริการสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน มันถูกแพร่หลายในตลาดอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ร้านค้าเล็ก ๆ ก็ยังประสบปัญหาด้านนี้ เพื่อรองรับความคาดหวังจากตัวลูกค้า และถ้าหากทำไม่สำเร็จ ร้านค้าเล็กอาจจะพ่ายแพ้ต่อร้านค้าธุรกิจใหญ่ได้ บริษัท 3PL ล้วนแล้วแต่ทำสัญญาการขนส่งโดยตรงกับบริษัทขนส่งเพื่อให้ได้ราคาที่ดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถให้บริการการจัดส่งที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

การรวมสินค้าต่าง SKU เข้าภายในกล่องเดียวและปรับเปลี่ยนรูปแบบตามความต้องการของแบรนด์ (Kitting & Customization)

การรวมสินค้าต่าง SKU เข้าภายในกล่องเดียว (Kitting) หมายถึง การแพ็คสินค้าต่าง ๆ รวมกันและจัดส่งให้เป็นหนึ่งยูนิต ซึ่งการทำเช่นนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำคลังสินค้า ลดค่าใช้จ่ายแรงงาน เพิ่มยอดขาย และจัดส่งรวดเร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ เจ้าของร้านค้ายังสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของแบรนด์ Customization เพื่อสร้างประสบการณ์แกะกล่อง (Unboxing) ให้กับลูกค้าได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การใส่ข้อความบนกระดาษแสดงความขอบคุณ การใส่ของสมนาคุณ การทำแบรนด์ดิ้งบนกล่องพัสดุ และการทำสติกเกอร์ต่าง ๆ

การจัดการการคืนสินค้า

การจัดการการคืนสินค้าเป็นบริการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่คุณต้องมองหาจากบริษัท 3PL ที่คุณจะร่วมงานด้วย โดยทั่วไปแล้วบริษัท 3PL ไม่เพียงแต่จัดการการตีสินค้ากลับคืน แต่ยังให้บริการระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้การคืนสินค้าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายขึ้น บริษัท 3PL ที่จะเข้ามาช่วยดูแลด้านการคืนสินค้าจะต้องทำให้คุณสามารถมองเห็นสถานะของสินค้าได้อย่างโปร่งใสหากมีการคืนสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสินค้า การกักสินค้าไว้ หรือการนำสินค้ากลับเข้าคลัง

การให้บริการ Fulfillment สำหรับ DTC และ B2B

เมื่อเราพูดถึงอีคอมเมิร์ซ เรามักจะหมายถึงการทำ Fulfillmemt จัดส่งสำหรับ B2C แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังมองหากลยุทธ์ทำโลจิสติกส์ที่สามารถกระจายสินค้าได้หลากหลายช่องทาง พวกเขาสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นผ่านการร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ 3PL ที่ดูแลจัดการ Fulfillment สำหรับ B2B (Business-to-business) และ DTC (Direct-to-consumer) ดังนั้น ไม่ว่าร้านค้าของคุณจะเป็นการขายสินค้าในรูปแบบ Subscription มีหน้าร้านจริง หรือเป็นร้านค้าแบบออนไลน์ตามมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ บริษัทพาร์ทเนอร์ 3PL นี้จะสามารถช่วยดูแลการจัดส่งสินค้าได้ และรวบรวมระบบเพื่อตรวจสอบยอดสินค้าในคลังได้อย่างสะดวกสบาย

การแพ็คและจัดส่งไปยังต่างประเทศ

คุณกำลังสร้างแบรนด์ที่จะโตระดับโลกอยู่หรือเปล่า? การร่วมงานกับ 3PL ที่สามารถดูแลการขนส่งข้ามประเทศและมีสาขาอยู่ในหลายประเทศถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ การส่งสินค้าผ่านทางอากาศมีราคาและต้นทุนที่สูง แต่บริษัท 3PL ที่มีคลังสินค้ากระจายตัวอยู่ตามประเทศต่าง ๆ สามารถช่วยให้คุณขยายธุรกิจและตีตลาดต่างประเทศได้ บริษัท 3PL ที่ให้บริการครบวงจรเช่นนี้ สามารถดูแลธุรกิจของคุณได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นบริการคลังสินค้า มีระบบตรวจสอบสินค้าคงคลัง และให้บริการข้ามประเทศได้อีกด้วย

ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ก้าวหน้า

ในปัจจุบันนี้ ข้อมูลคือขุมทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมไหน และแน่นอนว่ารวมไปถึงโลจิสติกส์ซัพพลายเชน การมีข้อมูลเชิงลึกช่วยให้คุณเดินนำหน้าคู่แข่งได้ บริษัท 3PL หลายที่มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีส่วนช่วยในการรายงานผลและการตัดสินใจสำหรับธุรกิจของคุณ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลนี้ทำให้คุณเข้าถึงและมองเห็นประวัติสต๊อกสินค้า ประวัติระยะเวลาในการจัดส่ง ต้นทุนโดยเฉลี่ยในการจัดเก็บ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อดีในการทำงานร่วมกับ 3PL

การให้บริษัทภายนอกอย่าง 3PL มาช่วยดูแลระบบ Fulfillment มีข้อดีหลายอย่าง แม้ว่าประสิทธิภาพและความสามารถของแต่ละบริษัท 3PL จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่บริษัท 3PL ส่วนใหญ่มีบริการที่เป็นมาตรฐานทั่วไป เช่น บริการคลังสินค้า บริการจัดการสินค้าคงคลัง แพ็คสินค้า และจัดส่งสินค้า ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทำกำไรได้สูงสุด ช่วยเร่งให้การจัดส่งเร็วขึ้น และยังได้มีโอกาสร่วมงานกับพาร์ทเนอร์โลจิสติกส์ที่น่าเชื่อถืออีกด้วย

ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา

ด้วยการร่วมงานกันกับ 3PL เจ้าของธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจจะมาจากการเช่าหรือซื้อคลังสินค้า จ้างพนักงาน และลงทุนกับระบบเทคโนโลยีสำหรับทำ Fulfillment ภายในองค์กรตนเอง ยิ่งไปกว่านี้ การทำ Fulfillment ด้วยตนเองมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงและไม่สามารถควบคุมดูแลได้หากธุรกิจมีการเจริญเติบโตหรือยอดสั่งซื้อโตขึ้น การให้บริษัท 3PL ภายนอกมาช่วยดูแลช่วยให้คุณประหยัดเวลาที่มีค่าและลดค่าใช้จ่ายจากโครงสร้างพื้นฐานสำหรับคลังสินค้าไปได้มาก

รองรับการเติบโตได้

หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดที่ได้จากการร่วมงานกับ 3PL คือบริษัท 3PL สามารถขยายการให้บริการตามขนาดธุรกิจของคุณ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะมีขนาดเล็กและคาดว่าจะมีการขยายเติบโตหรือส่งสินค้าจำนวนมาก บริษัท 3PL ก็สามารถดูแลจัดการได้ เพราะมีพื้นที่คลังสินค้าที่ไม่จำกัด มีพนักงาน ระบบขนส่ง และทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถขยายได้ราบรื่น ไร้ความยุ่งยาก

มีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากที่เจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ที่สามารถจัดการการขนส่งได้อย่างดีเยี่ยม บริการผ่าน 3PL จึงได้กลายมาเป็นผู้ช่วยที่สำคัญกับธุรกิจ เพราะด้วยความรู้ที่ทันสมัย บวกกับความเชี่ยวชาญพร้อมข้อมูลล่าสุดในอุตสาหกรรม และทรัพยากรรองรับเพื่อยกระดับซัพพลายเชนและทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น 3PL มีเครือข่ายพาร์ทเนอร์สำหรับการทำ Fulfillment ในด้านต่าง ๆ เช่น พาร์ทเนอร์ที่ให้บริการจัดทำบรรจุภัณฑ์ พาร์ทเนอร์รถขนส่ง และพาร์ทเนอร์บริษัทรับทำการตลาด เป็นต้น

ขยายไปยังตลาดใหม่ได้

ด้วยบริการของ 3PL ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถขยายไปยังตลาดใหม่ได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้รวมไปถึงพาแบรนด์ไปยังต่างประเทศ บริการของ 3PL มาพร้อมกับคลังสินค้าที่เป็นเครือข่ายกระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ช่วยลดภาระค่าขนส่งและประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก ด้วยการร่วมงานกับ 3PL ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ได้ ดึงศักยภาพของซัพพลายเชน และช่วยให้มีเวลาในพัฒนาการบริการลูกค้าได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่สามารถทำได้หากเจ้าของธุรกิจเลือกที่จะทำ Fulfillment ภายในบริษัทตนเอง นอกจากนี้ บริษัท 3PL ยังมาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยของตัวสินค้า และได้รับการรับรองจากประเทศต่าง ๆ อีกด้วย จึงทำให้การขยายธุรกิจเป็นเรื่องที่ง่าย ไร้กังวล

ทำไมหลายบริษัทจึงเลือกที่จะทำงานร่วมกับ 3PL?

บริษัท 3PL ช่วยสร้างความคล่องตัวให้กับการขนส่งโลจิสติกส์และการทำ Fulfillment ซึ่งทำให้ร้านค้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซมั่นใจได้ว่าธุรกิจของพวกเขาถูกดำเนินการอย่างคล่องตัว ราบรื่น และลูกค้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี บริษัท 3PL เหล่านี้มีความรู้ในแวดวงและอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง ช่วยบรรเทาและแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้

ด้านล่างนี้คือเหตุผลที่สำคัญว่าทำไมหลายบริษัทจึงเลือกที่จะร่วมงานกับ 3PL

มีความรู้ในแวดวง

ค่าใช้จ่ายในจัดการ Fulfillment ภายในองค์กรประกอบไปด้วย ค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือซื้อคลังสินค้า ค่าขนส่ง และอื่น ๆ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความคาดหวังในบริการของลูกค้า ดังนั้น การทำงานร่วมกับ 3PL สามารถช่วยลดความกังวลต่าง ๆ ออกไปได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของคลังสินค้า และความรวดเร็วในการจัดส่ง เนื่องจากบริษัท 3PL ส่วนใหญ่มีเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าที่ตั้งอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ พวกเขายังได้ทำสัญญากับบริษัทขนส่ง การทำสัญญาในระยะยาวช่วยให้ 3PL ได้ราคาเรตค่าขนส่งที่ถูกกว่าซึ่งช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี

เข้าใจและมองอุตสาหกรรมนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง

3PL พัฒนาการทำงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนโดยการนำองค์ความรู้ในอุตสาหกรรมและความเชี่ยวชาญมาปรับประยุกต์ใช้เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พวกเขานำประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีมาให้บริการและช่วยเหลือผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีส่งต่อไปยังลูกค้า

ลดความล่าช้าและปัญหาที่มาจากซัพพลายเชน

3PL นำเทคโนโลยีที่แม่นยำมาให้บริการ เช่น ระบบจัดการคลังสินค้าที่ทำให้เจ้าของร้านค้าสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของสินค้าทั้งหมดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถและระบบที่ทันสมัยของซอฟต์แวร์สามารถช่วยจัดการระบบคลังสินค้าได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการจัดส่งและระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ การใช้งานซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องจะช่วยให้ระบบ Fulfillment ของคุณเป็นไปตามอัตโนมัติ ช่วยยกระดับบริการ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

3PL คิดค่าบริการอย่างไร?

บริษัทโลจิสติกส์ทำหน้าที่จัดส่งแทนเจ้าของร้านค้า หรือ 3PL มีรูปแบบการตั้งราคาและคิดค่าบริการตามที่กำหนดไว้

ด้านล่างนี้คือรายการและปัจจัยในการคิดค่าบริการ เพื่อเป็นไอเดียแก่เจ้าของธุรกิจในการวางแผนเตรียมตัวสำหรับการร่วมงานกับ 3PL

รายการค่าบริการรายละเอียด

ค่ารับและจัดวางสินค้า

ค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าเข้าคลังและยกสินค้า นำสินค้าจัดวางในพื้นที่ที่กำหนด

ค่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า

บริษัท 3PL จะเรียกเก็บค่าบริการตามขนาดพื้นที่ที่เจ้าของร้านค้าต้องการวางสินค้า

ค่าหยิบและแพ็คสินค้า

ค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างหยิบและแพ็คสินค้า

ค่าประกอบรวมสินค้า

ค่าประกอบรวมสินค้าขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้าที่อยู่ในกล่องและความต้องการเฉพาะของเจ้าของร้าน

ค่าบรรจุภัณฑ์

3PL บางบริษัทอาจจะแยกค่าใช้จ่ายด้านบรรจุภัณฑ์ ในขณะที่ที่อื่น ๆ อาจจะรวมไว้กันกับค่าหยิบและแพ็คสินค้า

ค่าขนส่ง

ค่าบริการขนส่งจากศูนย์กระจายสินค้าไปยังบ้านลูกค้า

ค่าแรกเข้า

ค่าใช้จ่ายในการลงนามร่วมงานและรับบริการจากบริษัท 3PL โดยมักเป็นค่าดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในคลังสินค้า

ใครควรพิจารณาและใช้บริการ Fulfillment

ไม่ว่าจะด้วยอุตสาหกรรม หรือประเภทของสินค้า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไหนก็สามารถนำข้อดีของการใช้บริการจากบริษัท 3PL มาปรับใช้กับธุรกิจของตนเองได้

ด้านล่างนี้ คือสัญญาณที่เห็นได้ชัดว่าคุณควรมองหาบริษัทที่ให้บริการ Fulfillment มาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยธุรกิจของคุณให้เติบโต

พื้นที่จัดเก็บสินค้าไม่เพียงพอ

หากพื้นที่เก็บสินค้าของคุณเริ่มไม่เพียงพอ นี่คือเวลาอันเหมาะสมที่คุณควรมองหาบริษัทที่ให้บริการคลังสินค้าให้กับธุรกิจคุณ ธุรกิจร้านค้าที่จัดการทำ Fulfillment ด้วยตนเองมักพบปัญหาพื้นที่ที่มีอย่างจำกัด หากคุณตัดสินใจเลือกใช้บริการ Fulfillment จากบริษัท 3PL ธุรกิจของคุณจะถูกดูแลอย่างเป็นระบบ พร้อมยังสามารถขยายแตกไลน์สินค้าได้โดยไม่ต้องกังวลถึงพื้นที่ที่อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป

ยอดส่งสินค้าเพิ่มขึ้น

เมื่อยอดขนส่งเพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่การนำสินค้าส่งออกด้วยตนเองเป็นเรื่องที่เกินการควบคุม แสดงว่ามันถึงเวลาแล้วคุณจะต้องพิจารณาบริการ Fulfillment จากผู้ให้บริการ และหากธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ หมายความว่าคุณจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจัดการสินค้า ซึ่งทำให้ไม่มีเวลาโฟกัสในมิติอื่นสำหรับธุรกิจของคุณ บริษัท 3PL สามารถช่วยเหลือและดูแลสินค้าในคลังของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการแพ็ค หรือการจัดส่ง ทำให้คุณมีเวลาไปพัฒนาสินค้าของคุณ ออกแคมเปญการตลาด และหาลูกค้าใหม่

ขยายตลาด

สมมุติว่าคุณเป็นเจ้าของร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มีศูนย์กระจายสินค้าอยู่เพียงไม่กี่ที่ในประเทศ หมายความว่า คุณสามารถจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าที่อยู่ในเมืองได้ตามเวลาที่กำหนด แต่สำหรับลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือต่างจังหวัด พวกเขามักจะได้รับสินค้าล่าช้าหรืออาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการจัดส่ง วิธีเดียวที่จะทำให้ลูกค้าของคุณพึงพอใจในการจัดส่งและไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินจำนวนมากในระยะยาว คือการร่วมงานกับ 3PL พวกเขาไม่เพียงแต่สามารถกระจายสินค้าในประเทศได้ แต่พวกเขายังสามารถช่วยคุณขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 3PL

แม้ว่าข้อดีของการใช้บริการ Fulfillment จาก 3PL จะมีมากมายหลายข้อ แต่ก็ยังมีหลายองค์กร บริษัท หรือร้านค้าที่เลี่ยงที่จะร่วมงาน และให้บริษัท 3PL ช่วยดูแล เพราะว่าพวกเราได้ยินเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้พวกเขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 3PL

เรามาไขข้อสงสัยที่พบได้ทั่วไป 4 ข้อ เกี่ยวกับ 3PL มีดังนี้

การใช้บริการ Fulfillment จากบริษัท 3PL มีค่าใช่จ่ายในการลงทุนสูง

เมื่อร่วมงานกับ 3PL มักจะมีค่าใช้จ่ายพื้นฐานทั่วไปในการทำ Fulfillment แต่ถ้ามองในระยะยาว ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้คิดพิจารณาถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่บริษัท 3PL สามารถทำให้องค์กรคุณได้ คุณจะค้นพบว่าการร่วมงานกับ 3PL ถือว่าเป็นช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก

การทำ Fulfillment เป็นเรื่องง่าย

หลายธุรกิจร้านค้าเล็ก ๆ ที่เปิดใหม่มักเข้าใจว่าการทำ Fulfillment ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่จัดการได้ และการขายเท่านั้นที่เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงมันกับตรงกันข้าม การยกระดับพัฒนา Fulfillment เป็นเหมือนจุดเล็ก ๆ ที่คอยเชื่อมต่อกันจนทำให้ธุรกิจเติบโต การทำ Fulfillment เองเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เหนื่อยหน่าย และไม่มีประสิทธิภาพ

การจ้างบริษัทภายนอกมาช่วยดูแล หมายความว่า เราให้การควบคุมทั้งหมด

บริษัท 3PL มีหน้าที่ดูแลสต๊อกสินค้าในคลังตั้งแต่ต้นจนจบ รวมไปถึงการแพ็คและจัดส่งในขณะที่เจ้าของธุรกิจสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของสินค้าได้ทั้งหมดผ่านระบบ ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าเจ้าของธุรกิจให้อำนาจในการควบคุมทุกอย่างกับ 3PL แต่ 3PL เพียงแค่เข้ามาช่วยดูแลในด้านการบริหารเวลาการจัดส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำเวลาที่เหลือมาโฟกัสในมิติอื่น ๆ

การจ้างบริษัทภายนอกมาช่วยดูแลเป็นเรื่องของธุรกิจร้านค้าใหญ่ที่มียอดสั่งซื้อเยอะเท่านั้น

การจ้างบริษัทภายนอกมาช่วยดูแลเป็นประโยชน์กับทุกธุรกิจ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ โดยธุรกิจเล็กมักจะมีช่วงขาขึ้นตามฤดูกาลของร้าน และยอดสั่งซื้อมักจะมาเป็นจำนวนมากในช่วงนั้น ทำให้ไม่สามารถจัดการและนำส่งทันเวลาได้ การร่วมงานกับ 3PL เป็นการสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจของคุณพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์โดยไม่สูญเสียชื่อเสียงของร้าน และต้นทุนการจัดส่งยังคงราคาเดิม

การทำความเข้าใจความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ 3PL ช่วยให้หลายธุรกิจเดินทางไปสู่เป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการบริการ การรักษาและพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้า การประหยัดเวลาและต้นทุนค่าจัดส่ง เป็นต้น

การเจริญเติบโตของธุรกิจ 3PL

แม้ว่าผู้ให้บริการอย่าง 3PL จะอยู่กับเรามาอย่างยาวนาน และมักถูกเรียกสั้น ๆ ว่า “3PL” ซึ่งย่อมาจาก “Third-party-logistics” โดยเริ่มได้รับความนิยมในช่วงยุค 1970s และช่วง 1980s

โดย Apac third-party logistics market มีมูลค่าถึง 298.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 และยังถูกคาดการว่าจะมูลค่าสูงไปถึง 467.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในปี 2027 โดยมีอัตราเติบโตต่อปีอยู่ที่ 5.9% ในช่วงปี 2017-2018

การเจริญเติบโตของธุรกิจ 3PL มีความเกี่ยวข้องมาจากความคาดหวังและความต้องการของลูกค้า โลกาภิวัตน์ การเข้ามาของ Cloud adoption และการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ แต่อย่างไรก็ดี การเติบโตที่เห็นได้ชัดของอุตสาหกรรม 3PL ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขนส่งทั่วโลกที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในทุก ๆ วัน ความซับซ้อนเบื้องต้นนี้เกิดจากความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น ระบบการจัดการคลังสินค้า บริการจัดการต่าง ๆ และการวิเคราะห์อย่างมีระบบของซัพพลายเชน อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้บริการ 3PL ถูกคาดการว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต เช่นเดียวกันกับร้านค้าปลีกและโรงงานผลิตสินค้าที่ต้องการนำทรัพยากรทางด้านเวลาไปโฟกัสที่กิจกรรมอื่นที่พวกเขาถนัด

3PL และ Freight Forwarding

ทั้ง Freight forwarder และบริการจาก 3PL ต่างมีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจในการขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองผู้ให้บริการนี้มีการทำงานที่แตกต่างกัน

Freight forwarder ให้บริการช่วยประสานงานการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยใช้บริษัทขนส่งหนึ่งแห่งหรือมากกว่า Freight forwarder ไม่ได้ทำหน้าที่ย้ายสินค้า แต่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทขนส่ง โดยพวกเขาให้บริการทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ รวมไปถึงการนำเข้าและส่งออก แต่ในบางกรณี พวกเขายังให้บริการจัดเก็บสินค้าในระยะสั้น โดยเป็นการฝากสินค้าเพื่อนำจ่ายส่งต่อไปโดยทันที

ในทางตรงกันข้าม 3PL จะเน้นไปที่การให้บริการโลจิสติกส์ รวมไปถึงมิติอื่น ๆ ในด้านโลจิสติกส์ ตั้งแต่บริการคลังสินค้า ไปจนถึงการทำ Fulfillment

ความแตกต่างระหว่างสองบริการนี้ คือ บริการที่พวกเขาสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มธุรกิจ ในขณะที่ Freight forwarder เน้นไปที่การส่งสินค้า แต่ 3PL จะทำหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ 3PL ช่วยเตรียมจัดหาพื้นที่ในการจัดเก็บก่อนที่สินค้าจะมาถึง ราคาเอื้อมถึงได้ หยิบ แพ็ค และจัดส่งสินค้า ดังนั้นแล้ว 3PL จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการบริการที่ครอบคลุมกว่าเพื่อสร้างความประทับใจเมื่อสินค้าถูกจัดส่งไปยังมือลูกค้า

สิ่งที่ต้องมองหาเมื่อคุณต้องตัดสินใจเลือกบริษัท 3PL ที่ดีที่สุด

ด้วยจำนวน 3PL และบริการที่มีมากมายในตลาด มันเป็นเรื่องน่าท้าทายมากในการกำหนดและตัดสินใจเลือกบริษัท 3PL ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุ

บริการจาก 3PL มีความหลากหลายแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของธุรกิจและขนาด และแน่นอนว่าเราไม่สามารถตามหา 3PL ที่มีครบทุกอย่างตามความต้องการของธุรกิจได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยังคงมีบริการบางจุดที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องศึกษาดีก่อนที่จะร่วมงาน โดยมีดังนี้

มีความยืดหยุ่นและขยายตัวได้

If need be, the 3PL provider must be capable of making instant changes to the number of products a business ships. Besides managing current order volumes, the provider should be ready to scale its fulfillment infrastructure to keep up with business growth and expansion.

มีความโปร่งใสและมองเห็นความเคลื่อนไหวได้

3PL ควรให้บริการด้วยความโปร่งใส ทำให้ผู้ประกอบการมองเห็นการเคลื่อนไหวของสินค้าได้ทั้งหมด พร้อมแจกแจงเสนอราคาอย่างโปร่งใส รวมไปถึงนโยบายของบริษัท และในแง่อื่น ๆ ในการร่วมงานกัน

มีความสามารถในการบริหารงาน

ความผันผวนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจ เจ้าของร้านค้าอาจพบว่ายอดสั่งซื้อสูงในบางช่วง และในบางช่วงอาจมีความต้องการที่ต่ำมาก ๆ ไม่ว่ายอดสั่งซื้อจะสูงหรือต่ำ บริษัท 3PL ควรพร้อมรับมือในการจัดการสต๊อก แพ็ค จัดเก็บ และส่งสินค้า

มีเทคโนโลยีรองรับ

เลือกบริษัท 3PL ที่ให้บริการโดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการรายงานสถานะสินค้า ซึ่งยังสามารถช่วยให้คุณสามารถติดตามตรวจสอบขั้นตอน Fulfillment ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

มีชื่อเสียงที่ดีในวงการ

สุดท้ายนี้ บริษัท 3PL นั้นจะต้องมีชื่อเสียงโดยรวมที่ดีในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกตกลงร่วมงาน คุณต้องมั่นใจก่อนว่าพวกเขาดำเนินธุรกิจด้วยความถูกต้อง คุณสามารถตรวจสอบก่อนได้โดยการศึกษาการติชมผ่านการรีวิวจากลูกค้าของพวกเขา

นอกจากทั้งหมดที่ได้ระบุไว้ คุณต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัท 3PL เพราะพวกเขาจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ และพวกเขาต้องสร้างความเชื่อใจให้ได้เนื่องจากสินค้าของคุณถูกฝากเก็บไว้ในพื้นที่ของผู้ให้บริการ

วิธีใช้บริการจาก 3PL ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

เนื่องด้วยในแต่ละธุรกิจมีกลยุทธ์ในการทำซัพพลายเชนที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแล้ว บริษัท 3PL ก็ต่างมีความเชี่ยวชาญแตกต่างอันออกไปเช่นกัน

การทำงานร่วมกับ 3PL นั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักมีคำถามอยู่มากมายว่าจะใช้บริการจาก 3PL อย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ในขณะที่โดยปกติแล้วมันไม่สามารถเป็นไปได้จริงทั้งหมดตามที่ตกลงกันไว้ ด้านล่างนี้ คือคำแนะนำเบื้องต้นที่สามารถช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ให้บริการของคุณ และทำให้ธุรกิจของคุณผลิดอกออกผล เติบโตได้ในระยะยาว

  • ระบุและแจกแจงให้แน่ชัดถึงความต้องการของคุณ
  • ก่อนที่จะเลือกใช้บริการ คุณต้องมั่นใจก่อนว่าพวกเขาเชี่ยวชาญในด้านบริการที่คุณต้องการสำหรับธุรกิจของคุณ
  • แทนที่จะเลือกใช้บริการ พยายามเลือกและมองหาบริษัทที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร
  • แจ้งและระบุถึงความคาดหวังของคุณที่ได้จาก 3PL รวมไปถึงผลลัพธ์ที่คุณต้องการ
  • ต้องมีระบบรวบรวมข้อมูลสินค้าในคลังที่สามารถยกระดับการขนส่งได้ และต้องมาพร้อมกับประสิทธิภาพและความโปร่งใส
  • ต้องมีความต่อเนื่อง และมีการประเมินการทำงานของ 3PL อยู่ตลอดเวลา พร้อมมีช่องทางการติดต่อให้คุณได้ติดต่ออยู่เสมอ

สรุป

3PL เป็นส่วนประกอบชิ้นสำคัญที่มีส่วนช่วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซในด้านซัพพลายเชน โดยให้บริการคลังสินค้า ดูแลจัดการสินค้าคงคลัง กระจายสินค้า และจัดส่ง อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณกำลังตัดสินใจที่จะมองหา 3PL ให้มาช่วยดูแล Fulfillment ในธุรกิจคุณ สิ่งแรกที่คุณต้องรู้ไว้ คือไม่ใช่ทุกธุรกิจต้องการบริการจาก 3PL ที่เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่ควรมี คือ ความน่าเชื่อถือ และการรักษาความพึงพอใจของลูกค้า เป็นต้น คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไร และเลือกบริษัท 3PL ที่เหมาะสมที่สุดให้กับธุรกิจของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

3PL ย่อมาจาก Third-party-logistics มีขึ้นเพื่อดูแลการทำงานด้านโลจิสติกส์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

3PL fulfillment คือขั้นตอนการทำ Fulfillment ที่มีการดูแลโดยบริษัทภายนอก โดยทำหน้าที่จัดการด้านต่าง ๆ เช่น บริการคลังสินค้า จัดการสินค้าคงคลัง หยิบ แพ็ค และจัดส่งสินค้า ทำหน้าที่แทนเจ้าของกิจการ

บริษัทที่เลือกใช้บริการจาก 3PL เนื่องจาก 3PL มีประโยชน์และข้อดีต่าง ๆ ที่สามารถช่วยธุรกิจให้เติบโตได้ เช่น พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ มีความรู้ในตลาด ช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง และช่วยสร้างความพึงพอใจของลูกค้าได้

การให้บริษัทภายนอกอย่าง 3PL มาช่วยจัดการทำ Fulfillment มักมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในบริษัทที่ทำเกี่ยวกับวัตถุดิบตั้งต้น สินค้าที่เป็นลัง เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และของใช้ต่าง ๆ

ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่บริษัท 3PL นำมาใช้ บวกกับความยืดหยุ่น ทำให้พวกเขาดึงดูดลูกค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาตัวช่วยที่มีบริการ Fulfillment

ประเภทของ 3PL ประกอบไปด้วย 3PL เน้นด้านการขนส่ง, 3PL เน้นด้านจัดส่งระหว่างประเทศ, 3PL เน้นด้านบริการจัดการคลังสินค้า, 3PL เน้นด้านการจัดการระบบขนส่ง, 3PL เน้นด้านการให้ข้อมูล และ 3PL เน้นด้านการจัดการการเงิน

ในการบริหารจัดการคลังสินค้าสำหรับ 3PL หมายถึง การที่คลังสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์รับสินค้าเข้ามาจัดเก็บจากบริษัทหรือร้านค้าต่าง ๆ โดยจัดเก็บในที่ที่ปลอดภัย บริษัท 3PL จะเป็นผู้จัดการระบบขนส่ง นำสินค้าเข้ามายังคลังสินค้า และจัดการเรียงสินค้า โดยทำหน้าที่แทนเจ้าของธุรกิจ

การทำงานของ 3PL มีขั้นตอนดังนี้

  • รับสินค้าเข้าคลังสินค้า
  • จัดวางสินค้า
  • หยิบสินค้าเมื่อมีออเดอร์
  • แพ็คสินค้า
  • จัดส่งสินค้า
  • รับคืนเปลี่ยนสินค้าหากมีความจำเป็น

4PL ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ 3PL มีขึ้นเพื่อมาช่วยงาน 3PL ให้เกิดความคล่องตัว เมื่อไหร่ก็ตามที่ 3PL ต้องการบริษัทภายนอกมาช่วยงานเพิ่มเติม นั่นคือที่มาของ 4PL

การบริหารสินค้าคงคลัง เป็นระบบการจัดการคลังสินค้าที่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้า และจัดการกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับสินค้า เช่น การตรวจสอบสินค้า การหยิบสินค้า การแพ็ค การส่งคืน การส่งออก และการติดตามคำสั่งซื้อ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้