luanglek |
ขอใส่ใจนิดนึง คงไม่เป็นการรบกวนนะขอรับ เพราะว่าเป็นภาษาไทย ประไหมสุหรี = มเหสีเอก = พระบรมราชินี มะเดหวี = มเหสีองค์ที่สอง รองจากประไหมสุหรี มะโต = มเหสีองค์ที่สาม ลิกู = มเหสีองค์ที่สี่ เหมาลาหงี = มเหสีองค์ที่สี่ (ในเรื่องอิเหนา ไม่มีตำแหน่งนี้ ในเรื่องอิเหนา เหมาหลาหงี ไม่มีบทบาท
ท่านจึงไม่กล่าวไว้ เมืองอื่นมีได้แต่อัครชายาที่ตำแหน่ง ประไหมสุหรี เท่านั้น ประไหมสุหรี คำนี้น่าจะกลายมาจากคำภาษาสันสกฤตว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระราชินีนาถ เมื่อเสด็จฯ ไปภาคใต้ ส่วนมะเดหวี คงกลายมาจาก มหาเทวี ส่วนมะโต ลิกู และเหมาหลาหงี น่าจะเป็นคำชวามลายูแท้ | ||
|
เพ็ญชมพู |
รอยอินท่านอธิบายคำว่า เพรียง ไว้อีกเยอะ เพรียง ๑ [เพฺรียง] น. ส่วนร่างกายที่นูนอยู่หลังหู, มักใช้ว่า เพรียงหู; เรียก เพรียง ๒ [เพฺรียง] น. ชื่อสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลังประเภทสัตว์ขาปล้อง เพรียง ๓ [เพฺรียง] น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ในวงศ์ Teredinidae ลําตัวยาวอ่อนนุ่ม คำคำหนึ่งมีความหมายได้หลายสิ่ง
| ||
|
luanglek |
ลองนึกถึงเพรียงที่เกาะตามท้องเรือซิครับ หรือไม่ เพรียงตามโขดหิน คงจะเละเทะแบบนั้นหรือ ขอดูรูปด้วยดิ ว่าปากเปล่า เด็กไม่เข้าใจ บางคนไม่เคยไปทะเล | ||
|
เพ็ญชมพู |
^ | ||
|
luanglek |
ตำแหน่งอัครชายาทั้ง ๕ ในเรื่องอิเหนา ในกฎมณเฑียรบาล มีตำแหน่งพระภรรยาเจ้า ๓ ตำแหน่ง ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีตำแหน่งพระภรรยาเจ้าและพระสนมหลายชั้น มี ๑
สมเด็จพระบรมราชินี/สมเด็จพระบรมราชินีนาถ การแบ่งชั้นลำดับยศพระภรรยาเจ้าและพระสนมเช่นนี้ | ||
|
luanglek |
เพรียงที่คุณเพ็ญชมพูเอารูปมาแสดงนั้น ยังไม่ตะปุ่มตะป่ำขรุขระเท่าที่ควรครับ | ||
|
siamese หนุมาน หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง |
ลองนึกถึงเพรียงที่เกาะตามท้องเรือซิครับ หรือไม่ เพรียงตามโขดหิน คงจะเละเทะแบบนั้นหรือ ขอดูรูปด้วยดิ ว่าปากเปล่า เด็กไม่เข้าใจ บางคนไม่เคยไปทะเล | ||
|
luanglek |
คำบรรยายรูปของจรกา ปรากฏอีกครั้งตอนจรกาเข้าเฝ้าท้าวดาหา "
บัดนั้น ฝุงสนมนารีศรีใส อ่านแล้วรู้ทันทีว่า จรกามีรูปร่างอย่างไร มีท้ายกลอนวรรคหนึ่ง ลงด้วยคำว่า อัปลักษณ์ เหมือนกับกลอนตอนหนึ่ง ในบทลครเรื่องเวนิชวาณิช "อันชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก ก็ต้องอ่านว่าอับ-ปะ-หลัก เช่นกัน ในกลอนวรรณคดีเก่าๆ หลายเรื่องก็มีอย่างนี้ ถ้าไม่เข้าใจวิธีอ่าน | ||
|
Wandee |
อิเหนาฉบับใครเป็นใคร ประสันตา พี่เลี้ยงอันดับสี่ของราชกุมารเมืองกุเรปัน พระพี่เลี้ยงตำแหน่งอื่นๆมี ยะรุเดะ ปูนตา กะระตาหลา ระเด่นดาหยัน ไม่ค่อยเกี่ยวหรือมีบทบาทอะไร นำมาลงดักหน้าการออกข้อสอบแบบดาวกระจาย พระนมนี่ในวรรณคดีบางเรื่องได้ดีเพราะเจ้าชายมีกตัญญู เรื่องจริงในรัตนโกสินทร์ก็มีจ้ะ ลูกพระนมได้รับราชการเป็นเจ้าพระยา | ||
|
art47 |
พระนมนี่ในวรรณคดีบางเรื่องได้ดีเพราะเจ้าชายมีกตัญญู เรื่องจริงในรัตนโกสินทร์ก็มีจ้ะ ลูกพระนมได้รับราชการเป็นเจ้าพระยา คุณวันดีต้องบอกให้ครบ พี่สาวเป็นคุณท้าว | ||
|
siamese หนุมาน หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง |
พระนมนี่ในวรรณคดีบางเรื่องได้ดีเพราะเจ้าชายมีกตัญญู เรื่องจริงในรัตนโกสินทร์ก็มีจ้ะ ลูกพระนมได้รับราชการเป็นเจ้าพระยา คุณวันดีต้องบอกให้ครบ พี่สาวเป็นคุณท้าว บอกให้หมดไปเลยซิ พ่อนมปักษา....ปลูกบ้านอยู่กลางเมือง ฟูเฟื่องโกธิคผสมนา แก่เฒ่าชายชรา ขายบ้านให้รัฐบาลไป เอย.. | ||
|
Wandee |
อิเหนาฉบับใครเป็นใคร และอะไรเป็นอะไร(สงสัยจะยาวแฮะเรื่องนี้) สังคามาระตา น้องชายนางสการะวาตี ลูกท้าวปักมาหงัน เล่าที่มาที่ไปไว้ก่อน เพลงทวน ตำราเพลงทวนเมืองไทยหายไปแล้ว
เห็นชื่อเพลงทวนสามสี่ท่าเมื่ออิเหนารบกับระตูบุศสิหนา ผ่าหมาก เพลงทวนจ้ะ ไม่ใช่แม่ไม้มวยไทย นาคเกี้ยว สงสัยจะม้วนสะบัดปลายทวนแทงกัน ปลอกช้าง หงส์สองคอ ประวัติเมืองหมันหยา เรื่องประวัติศาสตร์นั้น เมื่อนำมาเล่าแล้ว ท่านผู้อ่านโปรดอ่านแล้วเก็บไว้ให้ได้ ประไหมสุหรีทั้งสององค์นี้เล่าผิดไปว่า หมันหยามีธิดาสี่องค์ ท่านผู้อ่านนึกเถิดว่าข้าพเจ้าต้องพลิกหาคำตอบขนาดไหน เทวดาสี่องค์พี่น้องก็ลงมาช่วยถอนพระขรรค์และธงออก รับพระธิดาไปสององค์ องค์เล็กพระมารดาไม่ให้ คุณหลวงเล็กที่นับถือ ออกคำสั่งผู้บริหาร ว่า ให้ยืดไปสี่ห้ากระทู้
กระทู้ละประมาณ ๕๐ ข้อ | ||
|
Wandee |
คุณอาร์ท47 และคุณหนุ่มสยาม aka (as known as) ดอนราชประสงค์ ข้าพเจ้ามีหนังสืออนุสรณ์คุณท้าวด้วย เดินทองระยับ เก็บไว้ไหนก็ลืมไปแล้ว เห็นคนเดินผ่านตู้หนังสือร้องอุทานเบาๆ(อาจจะดังก็ได้แต่ข้าพเจ้า hard of hearing) เลยเก็บออกจากสายตาซะ | ||
|
siamese หนุมาน หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง |
คุณอาร์ท47 และคุณหนุ่มสยาม aka (as known as) ดอนราชประสงค์ ข้าพเจ้ามีหนังสืออนุสรณ์คุณท้าวด้วย เดินทองระยับ เก็บไว้ไหนก็ลืมไปแล้ว เห็นคนเดินผ่านตู้หนังสือร้องอุทานเบาๆ(อาจจะดังก็ได้แต่ข้าพเจ้า hard of hearing) เลยเก็บออกจากสายตาซะ รีบค้นหาให้เจอไว ๆ นะขอครับ นำข้อมูลเนื้อเรื่องอย่างย่อกระชับที่สุดจากเวปวิชาการมาให้อ่านกัน จะได้ปูบันไดทอดยาว อ่านแล้วจะได้ทำความเข้าใจที่มาที่ไปได้ว่า อิเหนา เป็นใคร, ทำไมเกิดศึกกะหมังกุหนิง ในชวาสมัยโบราณ มีกษัตริย์ปกครองเมืองใหญ่เมืองน้อย กษัตริย์วงศ์เทวาซึ่งถือว่าเป็นชาติตระกูลสูงสุด ด้วยสืบเชื้อสายมาจากเทวดา ใช้คำนำหน้าพระนามว่า ระเด่น ส่วนกษัตริย์นอกวงศ์นั้น ใช้คำว่า ระตู เริ่มต้นบทละครเรื่องนี้ กล่าวถึงกษัตริย์วงศ์ 4 องค์ ต่างเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา ทรงพระนามว่าท้าวกุเรปัน ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง ท้าวสิงหัดส่าหรี ครองเมือง 4 เมือง ซึ่งมีชื่อเช่นเดียวกับพระนามกษัตริย์ ทุกพระองค์ต่างก็มีมเหสี 5 องค์ ตามประเพณี เรียงลำดับศักดิ์ คือ ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู และเหมาหลาหงี ประไหมสุหรีของท้าวกุเรปันและท้าวดาหานั้น เป็นธิดาของกษัตริย์หมันหยาเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่ง จึงทำให้เมืองหมันหยามีความเกี่ยวดองกับกษัตริย์วงศ์เทวามากขึ้น ท้าวกุเรปันมีโอรสกับลิกูองค์หนึ่งทรงพระนามว่า กระหรัดตะปาตี ซึ่งได้หมั้นไว้กับบุษบารากา ธิดาของท้าวกาหลังซึ่งเกิดจากลิกู ต่อมาพระองค์ปรารถนาจะให้ประไหมสุหรีมีโอรสบ้าง จึงได้ทำพิธีบวงสรวง
ก่อนประไหมสุหรีทรงครรภ์ก็ได้สุบินว่าพระอาทิตย์ทรงกลดลอยมาตกตรงหน้า และนางรับไว้ได้ เมือประสูติก็เกิดอัศจรรย์ต่าง ๆ เป็นนิมิตดี องค์ปะตาระกาหลาซึ่งเป็นเทวดาต้นวงศ์บนสวรรค์ เหาะนำกริชมาประทานให้ พร้อมทั้งจารึกนามโอรสด้วยว่า อิเหนา ต่อมาประไหมสุหรีได้ธิดาอีกหนึ่งองค์ พระนามว่า วิยะดา ฝ่ายท้าวดาหา ประไหมสุหรีก็ประสูติธิดา ได้พระนามว่า บุษบา ขณะประสูติก็เกิดอัศจรรย์ก็มี กลิ่นหอมตลบทั่วเมือง หลังจากประสูติบุษบาแล้ว ประไหมสุหรีก็ประสูติโอรสอีก พระนามสียะตรา กษัตริย์ในวงศ์เทวาจึงได้จัดให้มีการตุนาหงันกันขึ้น ระหว่างโอรสและธิดาในวงศ์เดียวกันโดยให้ อิเหนาหมั้นไว้กับบุษบา กระหรัดตะปาตีกับบุษบารากา สียะตรากับวิยะดา สุหรานากงกับสะการะหนึ่งหรัด แต่ก่อนจะมีการแต่งงาน ความยุ่งยากก็เกิดขึ้น จุดเริ่มต้นที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคที่ทำให้ตัวละครประกอบความยุ่งยาก และเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายอันเป็นการดำเนินเรื่อง พอถึงกำหนดการอภิเษก ท้าวดาหาก็มีสารถึงท้าวกุเรปันให้เตรียมพิธีอภิเษก แต่อิเหนาบอกปัด ทำให้ท้าวดาหาโกรธมาก จึงประกาศจะยกบุษบาให้กับใครก็ได้ที่มาขอ เพราะฉะนั้นเมื่อระตูจรกา
กษัตริย์รูปชั่วตัวดำ ให้พี่ชายคือระตูล่าสำไปสู่ขอบุษบาให้ตน ท้าวดาหาก็ยอมยกให้ ต่อมา ท้าวกระหมังกุหนิง ส่งทูตมาสู่ขอบุษบาให้วิหยาสะกำซึ่งเป็นโอรส แต่ท้าวดาหาปฏิเสธเพราะได้ยกให้ระตูจรกาไปแล้ว เป็นเหตุให้ท้าวกะหมังกุหนิงโกรธและยกกองทัพมาล้อมเมืองดาหา ท้าว ดาหาจึงขอกำลังจากพระเชษฐาและพระอนุชา ท้าวกุเรปันมีคำสั่งให้อิเหนาไปช่วยรบ อิเหนาจึงจำใจต้องจากนางจินตะหราและยกกองทัพไปช่วยรบ การศึกครั้งนี้ อิเหนามีชัยชนะ ท้าวกะหมังกุหนิงถูกอิเหนาฆ่าตายและโอรสคือวิหยาสะกำถูกสังคามาระตาฆ่าตาย
กองทัพที่ล้อมเมืองดาหาก็แตกพ่ายไป เมื่อชนะศึกแล้ว อิเหนาก็ได้เข้าเฝ้าท้าวดาหาและได้พบกับบุษบา อิเหนาได้เห็นความงามของบุษบาก็หลงรักและเสียดาย พยายามหาอุบายอยู่ในเมืองดาหาต่อไป และพยายามหาโอกาสใกล้ชิดบุษบา โดยอาศัยสียะตราเป็นสื่อรัก อิเหนาพยายามหาวิธีการทุกทางเพื่อจะได้บุษบาเป็นของตน เช่นตอนที่ท้าว | ||
|
luanglek |
ก่อนที่จะพากันพายเรือออกไปปัตตาเวีย ขอกลับมาจับเรื่องที่จรกาต่อไปว่า ตำมะหงง เมืองจรกา ทูลระตูจรกาว่า ที่รับสั่งถามว่า ยังมีธิดาเมืองใดที่ลอดหูลอดตาไป ฟากระเด่นบุษบา
ทราบมาว่าได้พระราชบิดาทำตุนาหงัน จรกาได้ฟังก็ยินเห็นช่องทางเหมาะ ก็ว่า จิตรกรทั้งสองได้รับคำสั่งก็มายืนเกี่ยงกันอยู่ที่หน้าวังว่า | ||
|