ตามรายงานของ John Gruber ระบุว่าการปรับขนาดของสาย Apple Watch แบบ Solo Loop นั้นสามารถจับคู่กับรูของสาย Sport Band ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราไปชมกันว่ามีการเทียบวัดอย่างไร
พบขนาดของสาย Apple Watch แบบ Solo Loop สามารถเทียบกับรูของสาย Sport Band ได้
สายแบบ Solo Loop และสาย Braided Solo Loop เป็นสาย Apple Watch แบบวงกลมไร้รอยต่อ ผู้ใช้สามารถสวมมือเข้าไปได้เลย John Gruber ได้แนะนำการวัดขนาดสาย Solo Loop ใหม่ โดยใช้สาย Sport Band ที่ส่วนใหญ่คงจะมีกันอยู่แล้วมาช่วยในการเทียบขนาดของสาย Solo Loop ได้
สายแบบ Sport Band ของ Apple สำหรับรุ่น 38 มม./40มม. ไซส์ S/M มีทั้งหมด 7 รู ซึ่งสอดคล้องกับขนาดของสาย Solo Loop ตั้งแต่เลข 1 – 7 และสายไซส์ M/L จะสอดคล้องกับเลข 4 – 10 ในเอกสารสำหรับวัดข้อมือ
ส่วนสายสำหรับรุ่น 42 มม./44 มม. ไซส์ S/M จะสอดคล้องกับเลข 3 – 9 ส่วนไซส์ M/L จะสอดคล้องกับเลข 6 – 12 ในแผ่นวัดสาย Solo Loop
แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราใส่สาย Sport Band รูที่ตรงกับเลขไหน แสดงว่าเราใส่สาย Solo Loop หรือสาย Braided Solo Loop ขนาดเท่ากับเลขที่ตรงกับรูนั้น อย่าลืมดูด้วยว่าเราใส่สาย Sport Band สำหรับรุ่นขนาดหน้าจอเท่าไหร่และไซส์ไหน (S/M หรือ M/L)
การวัดด้วยการเทียบรูจากสาย Sport Band นั้นอาจให้ความแม่นยำในระดับหนึ่ง แต่ผู้ใช้ต้องมั่นในได้ว่า รูที่สวมใส่กับสาย Sport Band นั้นจะต้องกระชับกับข้อมือพอดี ไม่หลวมหรือไม่รัดแน่นเกินไป
แต่ถ้าใครที่ใส่สาย Sport Band แล้วรู้สึกว่ารูที่ใส่นั้นยังไม่พอดีกับข้อมือเท่าที่ควรหรือไม่มีสาย Sport Band แนะนำว่าให้วัดด้วยวิธีที่ Apple แนะนำในหน้าจอการขายสาย Apple Watch แบบ Solo Loop หรือสาย Braided Solo Loop
ซึ่งมีวิธีการวัดขนาดข้อมือให้อยู่ 2 วิธีอยู่แล้ว วิธีแรกผู้ใช้ต้องพิมพ์เอกสารคู่มือมาตัดให้เป๊ะ และวัดกับข้อมือของตนเอง ส่วนอีกวิธีหนึ่งผู้ใช้จะต้องใช้สายวัดวัดขนาดข้อมือและระบุเป็น CM เพื่อหาขนาดของสายที่แท้จริง และพอดีกับข้อมือที่สุด
Apple เปิดขาย Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ในประเทศไทยแล้ว และหลายคนอาจจะอยากซื้อพร้อมสาย Solo Loop หรือสาย Braided Solo Loop ทีมงานมีวิธีการวัดข้อมือให้พอดีกับสายที่ต้องการสั่งซื้อออนไลน์มาแนะนำให้ชมกันค่ะ
วิธีวัดข้อมือสำหรับสาย Solo Loop เมื่อสั่งซื้อผ่าน Apple Store ออนไลน์
เมื่อเราเลือกตัวเรือน Apple Watch พร้อมรุ่น และเลือกสายแบบ Solo Loop หรือสาย Braided Solo Loop เมื่อเลื่อนลงมาด้านล่าง เราจะต้องเลือกขนาดของสายให้พอดีกับข้อมือ ให้เราคลิกเลือก “ใช้คู่มือ”
ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่ Apple แนะนำในการวัดข้อมือ เรามาชมกันว่า แต่ละวิธีต้องทำอย่างไรบ้าง
1. วัดด้วยเครื่องมือที่พิมพ์เองได้
หากเรามีเครื่องปริ้นให้เราเลือกใช้เอกสารที่ Apple แนะนำมาให้ โดยปริ้นเอกสาร สำหรับวัดข้อมือ โดยก่อนปริ้นเราจะต้องตั้งค่าให้เป็นกระดาษ A4 แล้วก็ทำการปริ้น
เมื่อเราได้เอกสารแล้ว แนะนำให้นำบัตรเครดิต/เดบิต มาวางทาบ เพื่อเช็คให้มั่นใจว่าแบบที่ปริ้นมาสามารถใช้งานได้พอดีและถูกต้อง หากบัตรตรงกับช่องด้านล่าง แสดงว่าเราสามารถนำเครื่องมือวัดนี้ไปใช้งานได้เลย
จากนั้นก็ตัดกระดาษให้เลือกในส่วนของตัววัดให้พอดี
แล้วนำไปพันกับข้อมือ ตรงส่วนที่เราใส่นาฬิกา แนะนำว่าให้พันพอดีกับการสวมใส่ของเรา
หากลูกศรชี้ไปตรงกับในส่วนของเลขไหน แสดงว่าไซส์ของสาย Solo Loop คือเลขนั้น ถ้าหากชี้ตรงกับเส้นพอดี ให้ใช้ไซส์ที่น้อยกว่า เช่น ตรงกับเส้นด้านล่างเลข 7 ก็แนะนำว่าให้ใช้สายไซส์ 7
2. วัดด้วยสายวัด
ถ้าหากเรามีสายวัด ก็สามารถนำสายวัดมาพันรอบข้อมือ บริเวณที่เราสวมใส่ Apple Watch โดยพันให้กระชับพอดีกับที่เราต้องการสวมใส่ แล้วอ่านค่าที่สายวัดว่า ตรงกับขนาดเท่าไหร่ (ให้นับหน่วย มม. ด้วย) ดังรูป วัดข้อมือได้ขนาด 16.9 ซม.
ในแถบ “อุปกรณ์ในบ้าน” คลิกเลือก “เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไป”
แล้วกรอกเลขที่เราวัดข้อมือได้จากสายวัด ตัวอย่าง กรอกเลข 16.9 ซม. แล้วคลิก “ดูขนาดสายของคุณ”
เราก็จะได้ขนาดที่คำนวณจากวัด ก็สามารถนำไปสั่งซื้อสายได้เลย
3. วัดด้วยกระดาษและไม้บรรทัด
สำหรับคนที่ไม่มีสายวัด แต่มีไม้บรรทัด แนะนำให้ใช้วิธีการวัดด้วยกระดาษ โดยตัดกระดาษให้เป็นแถบยาว ๆ 1 เส้น จากนั้นก็นำมาพันรอบข้อมือบริเวณที่สวมใส่ Apple Watch โดยพันให้พอดีกับการสวมใส่ จากนั้นก็นำปากกามาขีดตรงที่เราวัดได้
จากนั้นให้นำไม้บรรทัดหรืออุปกรณ์วัดอื่น ๆ ที่สามารถวัดความยาวได้มาวัดจากจุดเริ่มต้นจนถึงขีดที่เราทำเครื่องหมายไว้ แล้วอ่านค่า ตัวอย่างอ่านค่าได้ 16.9 ซม.
ในแถบ “อุปกรณ์ในบ้าน” คลิกเลือก “เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไป” เหมือนกับการใช้สายวัด
แล้วกรอกเลขที่เราวัดข้อมือได้จากสายวัด ตัวอย่าง กรอกเลข 16.9 ซม. แล้วคลิก “ดูขนาดสายของคุณ”
เราก็จะได้ขนาดที่คำนวณจากวัด ก็สามารถนำไปสั่งซื้อสายได้เลย
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการวัดข้อมือ สำหรับคนที่อยากจะสั่งซื้อสาย Solo Loop และสาย Braided Solo Loop หรือซื้อตัวเรือน Apple Watch พร้อมสายเหล่านี้ก็สามารถเลือกใช้วิธีวัดได้ตามสะดวก แต่สิ่งสำคัญก็คือระหว่างวัดแนะนำให้พันข้อมือให้พอดีหรือรู้สึกกระชับเมื่อสวมใส่นะคะ