บทที่4
ผลการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการตักสินใจใช้คอนแทคเลนส์ของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม จำนวน 50 คน ผลการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างซึ่งประกอบด้วยไปด้วย เพศ อายุ แผนการเรียน ระดับชั้นปีที่กำลังศึกษา รายได้ของครอบครัวต่อเดือน อาชีพผู้ปกครอง อาชีพผู้ปกครอง และระดับการศึกษาของผู้ปกครอง
ส่วนที่ 2 ข้อมูลพฤติกรรมใช้คอนแทคเลนส์ของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม ซึ่งประกอบไปด้วย สาเหตุที่ใช้คอนแทคเลนส์ ความถี่ในการใช้คอนเทคเลนส์ ประเภทของคอนแทคเลนส์ที่ใช้ ค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนแทคเลนส์ ระยะเวลาของคอนแทคเลนส์ และความคาดหวังจากการใช้คอนแทคเลนส์
ส่วนที่ 3 ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้คอนแทคเลนส์ของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม
ส่วนที่ 4 ข้อมูลปัญหาเกี่ยวกับการใช้คอนแทคเลนส์และข้อเสนอแนะต่างๆ
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง
เพศ
ตารางที่ 4.1 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามเพศ
เพศ
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
ชาย
10
20
หญิง
40
80
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่าง ผู้ตอบแบบสอบถามเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่าเป็นเพศหญิงร้อยละ 80 และเพศชาย ร้อยละ 20(ตารางที่ 4.1)
อายุ
ตารางที่4.2 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบสอบถามจำแนกตามอายุ
อายุ
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
16ปี
12
24
17ปี
36
72
18ปี
2
4
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 72 มีอาบุ 17 ปี รองลงมามีอายุ 16 ปี และอายุ 18 ปี คือคิดเป็นร้อยละ 24 และ 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ตามลำดับ
แผนการเรียน
คารางที่4.3 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามตามแผนการเรียน
แผนการเรียน
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
แผนการเรียนศิลป์-สังคม5
10
แผนการเรียนศิลป์-จีน5
10
แผนการเรียนศิลป์-ญี่ปุ่น5
10
แผนการเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส5
10
แผนการเรียนศิลป์-คณิต10
20
แผนการเรียนวิทย์-คณิต20
40
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.3 พบว่าผู้ตอบสอบถามส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 40 คือแผนการเรียนวิทย์-คณิต ซึ่งเป็นแผนการเรียนที่มีสัดส่วนมากที่สุด รองลงมามีการศึกษาในแผนการเรียนศิลป์-คณิต ร้อยละ 20 แผนการเรียนศิลป์-สังคม แผนการเรียนศิลป์-จีน แผนการเรียนศิลป์-ญี่ปุ่นและ แผนการเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส ร้อยละ10 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
อาชีพของผู้ปกครอง
ตารางที่ 4.5 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามอาชีพของผู้ปกครอง
แผนการเรียน
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
รับราชการ
10
20
ประกอบธุรกิจส่วนตัว
20
40
พนักงานรัฐวิสาหกิจ
5
10
เกษตรกร
5
10
พนักงานบริษัทเอกชน
8
16
อื่นๆ
2
4
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่4.5 พบว่าผู้ตอบสอบถามส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 40 มีผู้ปกครองประกอบธุรกิจส่วนตัว รองลงมา คือ รับราชการ และพนักงานบริษัทเอกชน คือคิดเป็นร้อยละ 20 และร้อยละ 16 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ ซึ่งจะเห็นว่ากลุ่มผู้ใช้คอนแทคเลนส์ส่วนมากจะเป็นกลุ่มนักเรียนที่ผู้ปกครองประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ซึ่งมีรายได้อยู่ในสัดส่วนที่สูง สอดคล้องกันกับข้อมูลที่ได้จากการเก็บตัวอย่างเมื่อจำแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัว
ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง
ตารางที่4.6 แสดงความจำนวนและร้อยละของผู้ตอบสอบถามจำแนกตามระดับการศึกษาของผู้ปกครอง
ระดับการศึกษา
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
ประถมศึกษา
5
10
มัธยมศึกษา
10
20
ปริญญาตรี
25
50
ปริญญาโท
3
6
ปริญญาเอก
2
4
อื่นๆ
5
10
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.6 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 50 ระดับการศึกษาในระดับการศึกษาในระดับปริญญาตรี รองลงมาคือมัธยมศึกษา คือ คิดเป็นร้อยละ20 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ ระบบการศึกษาของผู้ปกครองแสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาที่สูง จะมีความรู้ความเช้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติ และประโยชน์ของตอนแทคเลนส์ตลอดจนยินยอมให้บึตรหลานสวมใส่คอนแทตเลนส์ได้ มากกว่าผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาที่ต่ำรองลงมา
ส่วนที่2 ข้อมูลพฤติกรรมการใช้คอนแทคเลนส์ของนักเรียนโรงเรียนพะเยาพิทยาคม
สาเหตุที่ใช้คอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.7 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบสอบถามจำแนกตามสาเหตุที่ใช้คอนแทคเลนส์
สาเหตุที่ใช้คอนแทคเลนส์
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
ตามเพื่อนหรือตามแฟชั่น
15
30
สายตาสั้น
25
50
สายตายาว
3
6
สายตาเอียง
7
14
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตัวอย่างที่ 4.7 พบว่าผู้ตอบสอบถามส่วนใหญ่ร้อยละ 50 มีสาเหตุที่ใช้คอนแทคเลนส์คือสายตาสั้น รองลงมาคือ ใช้ตามเพื่อนหรือตามแฟชั่น และสายตาเอียง คือ คิดเป็นร้อยละ 30 และร้อยละ14 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากในช่วงของการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนนั้นจำเป็นต้องมีการศึกษาและอ่านหนังสือเรียนอยู่เป็นประจำ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสายตาสั้นได้ในนักเรียนส่วนใหญ่และนักเรียนบางส่วนที่เคยสวมใส่แว่นตาอาจจะเปลี่ยนเป็นการสวมใส่คอนแทคเลนส์แทน ทั้งนี้เนื่องมาจากการตามเพื่อนหรือตามแฟชั่น
ความถี่ในการใช้คอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.8 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามความถี่ในการใช้คอนแทคเลนส์
ความถี่ในการใช้คอนแทคเลนส์จำนวน(ราย)
ร้อยละ
ทุกวัน
20
40
วันเว้นวัน
10
20
สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
18
36
อื่นๆ
2
4
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตัวอย่างดังตารางที่ 4.5 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ40 ใส่คอนแทคเลนส์ทุกวัน รองลงมาใส่คอนแทคเลนส์สัปดาห์ละ 2-3ครั้ง และใส่คอนแทคเลนส์แบบวันเว้นวัน คือ คิดเป็นร้อยละ 36 และร้อยละ 20 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ โดยความถี่ในการใช้คอนแทคเลนส์นั้นสะท้อนให้เห็นว่าคอนแทคเลนส์ด้านความสะดวกสบาย และความคล่องตัวในการใช้ชีวิตประจำวันที่มากกว่าประโยชน์ที่เกิดจากการสวมแว่นตา
ประเภทของคอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.9 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามประเภทของคอนแทคเลนส์ที่ใช้
ประเภทคอนแทคเลนส์จำนวน(ราย)
ร้อยละ
คอนแทคเลนส์สายตา
35
70
คอนแทคเลนส์แฟชั่น
15
30
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.9 พบว่ามีผู้ตอบสอบถามที่ใช้คอนแทคเลนส์สายตา คิดเป็นร้อยละ 70 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ในขณะที่มีผู้ใช้คอนแทคเลนส์แฟชั่นเพียงร้อยละ30 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเท่านั้น โดยสาเหตุที่มีผู้ตอบสอบถามสวมใส่คอนแทคเลนส์สายตามากกว่านั้นก็เนื่องมาจาก นักเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประสบกับปัญหาทางสายตา อาทิเช่น ปัญหาทางด้านสายตา อาทิเช่น ปัญหาสายตาสั้น เป็นต้น โดยข้อมูลที่ได้ถือว่ามีความสอดคล้องกันกับสาเหตุในการเลือดใช้คอนแทคเลนส์
ค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนแทคเลนส์ในแต่ละครั้ง
ตารางที่ 4.10 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนแทคเลนส์แต่ละครั้ง
ค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนแทคเลนส์(บาท/ครั้ง)จำนวน(ราย)
ร้อยละ
100-200บาท
2
4
201-300บาท
12
24
301-400บาท
18
36
มากกว่า 400 บาทขึ้นไป
8
16
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.10 พบว่าผู้ตอบแบบสอบที่ใช้คอนแทคเลนส์สายตา คิดเป็นร้อยละ36 มีค่าใช้จ่ายที่ประมาณ 301-400 บาท ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด รองลงมา มีค่าใช้จ่ายประมาณ 201-300บาท และมากกว่า 400 บาทขึ้นไป คือติดเป็นร้อยละ24 และร้อยละ16 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ เนื่องจากตอนแทคเลนส์นั้นเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ จึงมีระดับราคาโดยทั่วไปที่สูงพอสมควรในการซื้อ และผู้บิโภคจะซื้อตามแต่ความต้องการในการสวมใส่แต่ละครั้ง เพราะคอนแทคเลนส์แต่ละชนิด
ระยะเวลาของคอนแทคเลนส์ที่ใช้
ตารางที่ 4.11 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามเมื่อจำแนกตามระยะเวลาของคอนแทคเลนส์ที่ใช้
อายุของคอนแทคเลนส์ที่ใช้จำนวน(ราย)
ร้อยละ
คอนแทคเลนส์แบบรายวัน5
10
คอนแทคเลนส์แบบรายสองอาทิตย์7
14
คอนแทคเลนส์แบบรายหนึ่งเดือน30
60
คอนแทคเลนส์แบบรายปี8
16
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.11 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 60 ใช้คอนแทคเลนส์แบบรายหนึ่งเดือน ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด รองลงมา ใช้คอนแทคเลนส์รายปี และใช้คอนแทคเลนส์รายสองอาทิตย์ คือ คิดเป็นร้อยละ 16และร้อยละ 14 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ จะเห็นได้ว่าข้อมูลมีความสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนแทคเลนส์ในแต่ละครั้ง โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในการซื้ออยู่ในช่วง 301-400บาทต่อครั้ง ซึ่งเป็นราคาของคอนแทคเลนส์แบบรายหนึ่งเดือนที่กลุ่มตัวอย่างนิยมใช้มากที่สุด
ความคาดหวังจากการใช้คอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.12 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละเมื่อจำแนกตามความคาดหวังจากการใช้คอนแทคเลนส์
ความคาดหวังจากการใช้คอนแทคเลนส์
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
มีดวงตาที่งดงาม
8
16
ทำให้ตนเองทันสมัย
14
28
มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
28
56
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.12 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 56 มีความคาดหวังในการใช้เพื่อทำให้ตนเองดูทันสมัย และทำให้ตนเองดูทันสมัย และทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามลำดับ โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่เคยเป็นผู้ใช้ส่วนใหญ่เคยเป็นผู้ที่ใช้แว่นตามาก่อน แต่แว่นตาไม่มีความสะดวกสบายเท่ากับการวสวมใส่คอนแทคเลนส์ ทำให้คอนแทคเลนส์ นอกจากจะใช้เพื่อปรับปรุงปัญหาทางด้านสายตาแล้ว ยังมีการใส่คอนแทคเลนส์แบบแฟชั่นเพื่อความทันสมัย
ส่วนที่3 ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคามต้องการใช้คอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.13 แสดงค่าเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถามต่อปัจจับที่มีอิทธิพลต่อการเลือกใช้คอนแทคเลนส์
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคามต้องการใช้คอนแทคเลนส์
ระดับความสำคัญ
ค่าเฉลี่ย
แปลผลมากที่สุด
มากปานกลางน้อย
น้อยที่สุด
ความมีชื่อเสียง
ความน่าเชื่อถือของยี่ห้อ
9(16)
35(70)
6(12)
–
–
4.06
มาก
คุณภาพของผลิตภัณฑ์
30(60)
18(36)
2(4)
–
–
4.50
มากที่สุด
คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์
10(20)
22(44)
18(36)
–
–
3.51
มาก
การออกแบบของผลิตภัณฑ์
6(12)
24(48)
15(30)
2(4)
3(6)
3.57
มาก
ราคาเหมาะสมกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์
20(40)
25(50)
5(10)
–
–
4.31
มาก
รวม
3.99
มาก
ที่มา:จากการสำรวจ
จากการเก็บตัวอย่างดังตารางที่ 4.13 พบว่าผู้ตอบแบบสอบได้คำนึงถึงระดับความสำคัญโดยรวมที่มีต่อปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้คอนแทคเลนส์ มีค่าเฉลี่ย 3.91 ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับสำคัญมาก โดยได้ให้ระดับความสำคัญมากที่สุดในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ในส่วนของความมีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของยี่ห้อ คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ การออกแบบของผลิตภัณฑ์ และราคาเหมาะสมกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ผู้ตอบสอบถามได้ให้ความสำคัญต่อปัจจัยดังกล่าวในระดับมาก
ส่วนที่4 วิเคราะห์ข้อมูลปัญหา เกี่ยวกับการใช้คอนแทคเลนส์และข้อเสนอแนะต่างๆ ต่อการเลือกใช้หรือเลือกซื้อคอนแทคเลนส์
ตารางที่ 4.14 แสดงจำนวนและร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตามปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้คอนแทคเลนส์
ปัญหาจากการใช้คอนแทคเลนส์
จำนวน(ราย)
ร้อยละ
ไม่เคยประสบปัญหา
46
92
เคยประสบปัญหา
4
8
รวม
50
100
ที่มา:จากการสำรวจ
จากกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้ที่ตอบสอบถามส่วนมากไม่เคยประสบปัญหาจากการใส่คอนแทคเลนส์ สำหรับผู้ที่มีปัญหาจากการสวมใส่คอนแทคเลนส์นั้นมีสาเหตุหรือปัญหาที่พบ ได้แก่ ปัญหาการระคายเคืองดวงตา ปัญหาการสวมใส่ เป็นต้น