บทที่ 1
บทนำ
1.1. ความเป็นมา และความสำคัญของปัญหา
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นสมควรต้องมีการศึกษาปัญหาพิเศษเรื่องนี้ โดยพยายามกำหนดปัญหาให้ชัดเจนทั้งในด้านการเกิดความรุนแรง การกระจายตัวของปัญหา หรือด้านอื่น ๆ ให้เข้าถึงข้อเท็จจริงของปัญหาอย่างแท้จริง ด้วยการทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสถิติ สอบถามความเห็นจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง และแสวงหาเหตุผลที่น่าเป็นไปได้ จากทฤษฎีและสาขาที่เกี่ยวข้อง โดย
- ย่อหน้าแรก จะต้องอภิปรายถึงความเป็นมา ปัญหา ข้อดี ข้อเสีย หรือข้อโต้แย้งของการทดลองที่ได้ทำการก่อนหน้า
- ย่อหน้าที่สอง จะต้องอภิปรายถึงความสำคัญ ข้อดีของปัญหา รวมถึงแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องที่เราสนใจจะดำเนินการทำ ควรมีเอกสารหรือที่มาของปัญหาที่ที่อ้างอิงเพื่อสนับสนุนหรือโต้แย้งสิ่งที่เราจะทำการทดลองนั้น
- ย่อหน้าสุดท้าย ต้องอภิปรายสรุปเป้าหมายของการทดลองที่เราจะทำการทดลองโดยใช้ข้อมูลข้างต้นเพื่อแก้ปัญหาที่งานทดลองที่เราจะทำ และต้องทิ้งท้ายด้วยรูปแบบดังนี้ คือ
ดังนั้นปัญหาพิเศษวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขา…………....................…ฉบับนี้ จึงมุ่งศึกษา.............................
………………………….............................……….…เพื่อมุ่งตอบคำถามสำคัญ……..ประการ คือ
1.1.1. ..........................................................................................................
1.1.2. ..........................................................................................................
1.1.3. ..........................................................................................................
หมายเหตุ :
- แต่ละย่อหน้าจะเริ่มพิมพ์ที่ 0.5 นิ้ว
- จะต้องพิมพ์ให้แต่ละย่อหน้าห่างกันด้วยการใช้ "Ctrl + จ"
การเขียนที่มาและความสำคัญ คือ การอธิบายให้กระจ่างชัดว่าทำไม ต้องทำ ทำแล้วได้อะไร หากไม่ทำจะเกิดผลเสียอย่างไร ซึ่งมีหลักการเขียนคล้ายการเขียนเรียงความ ทั่ว ๆ ไป คือ มีคำนำ เนื้อเรื่อง และสรุป
แนวการเขียนแบบที่ 1
ส่วนที่ 1 คำนำ : เป็นการบรรยายถึงนโยบาย เกณฑ์ สภาพทั่ว ๆ ไป หรือปัญหาที่มีส่วนสนับสนุนให้ริเริ่มทำ
ส่วนที่ 2 เนื้อเรื่อง : อธิบายถึงรายละเอียดเชื่อมโยงให้เห็นประโยชน์ของการทำ โดยมี หลักการ ทฤษฎีสนับสนุนเรื่องที่ศึกษา หรือการบรรยายผลกระทบ ถ้าไม่ทำเรื่องนี้
ส่วนที่ 3 สรุป : สรุปถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามส่วนที่ 2 เพื่อแก้ไขปัญหา ค้นข้อความรู้ใหม่ ค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ให้เป็นไปตามเหตุผลส่วนที่ 1
ที่มา : //pioneer.netserv.chula.ac.th/~cpornth2/Web_SciProject/a11.htm
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แนวการเขียนแบบที่ 2
ที่มาและความสำคัญของปัญหา
(สภาพปัจจุบัน เป็นการบรรยายสภาพทั่วไปของสิ่งที่สนใจจะศึกษา)
(ปัญหา เป็นการบรรยายปัญหาของของสิ่งที่สนใจจะศึกษา)
(สาเหตุของปัญหา เป็นการบรรยายถึงสาเหตุที่นำมาซึ่งปัญหาของของสิ่งที่สนใจจะศึกษา )
(แนวทางแก้ไขปัญหา เป็นการบรรยายถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของของสิ่งที่สนใจจะศึกษา)
(การสรุปที่มาและความสำคัญของปัญหา โดยอาจสรุปได้ว่า”คณะผู้จัดทำจึงมีความประสงค์ที่จะจัดสร้างโครงงาน
)
ที่มา : //ipattapong.wordpress.com/2012/01/23/108/
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
ปัจจุบันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ ระบบเศรษฐกิจโลก และเป็นที่ยอมรับกันเกือบทุกประเทศ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เจริญเติบโต จนกลายมาเป็นอุตสาหกรรมหลักในระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว ในหลา ย ประเทศอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอยู่ในอันดับที่ 1-3ของประเทศ นั้น ๆ ข้อเทจ็จริงดังกลา่ วนี้สอดคลอ้งกับความเจริญเติบโตของอตุ สาหกรรม ทอ่ งเที่ยวไทยซงึ่ ใน รอบหลายทศวรรษที่ผา่ นมารายได้จากอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยวของประเ ทศไทยในรอบหลาย ทศวรรษที่ผา่ นมารายได้จากอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยวอ ยู่ในลำดับ แรกเมอื่ เปรียบเทยีบ กับรายได้ จากการสง่ เสริมสนิค้าออกอนื่ ๆ เป็นที่ตระหนักดีว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ เป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่แสดงบทบาทเด่นชัดตลอดสามถึงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ความสำเร็จโดยรวมมาจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้ เคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และแสดงบทบาทนำในการเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพ การกระจายรายได้ และการลงทุนใน ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากมายหลายร้อยสาขา เป็นการสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน และ ประเทศชาติอย่างมากมาย และนำไปสู่ความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ชาวไทย (ฉันทัช วรรณถนอม,2552: 100)
ในยุคปัจจุบัน การแข่งขันของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในตลาดโลกได้ให้ความสำคัญ กับวัฒนธรรมมากโดยนำมาเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพื่อสร้างความแตกต่างจาก คู่แข่ง ซึ่งสอดคล้องกับกระแสเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ( Creative Economy) โดยมีคำถามว่า การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมคืออะไรการท่องเที่ยวแบบไหนที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม และประเทศ ต่าง ๆ มีนโยบายอย่างไรกับรูปแบบการท่องเที่ยวดังกล่าว การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนับเป็น อุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้นำเอาวัฒนธรรมมาเป็นจุดขาย เพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวใน ประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ให้ความสนใจที่จะเรียนรู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และสัมผัสวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเฉพาะประเทศในแถบ เอเชียการท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวเรียกว่า การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ประเทศต่าง ๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สามารถสร้าง รายได้ให้กับประเทศของตนอย่างมหาศาล จึงนำวัฒนธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของ ประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานอิสระที่สนับสนุนภาคเอกชนในการ ส่งออกวัฒนธรรม ซึ่งเราจะเห็นการโฆษณาการท่องเที่ยวของเกาหลีที่เน้นการสัมผัสวัฒนธรรม และเทคโนโลยี รวมถึงการโฆษณาแฝงในภาพยนตร์หรือละครต่าง ๆ ของเกาหลี ในขณะที่ ประเทศสิงคโปร์ก็พยายามใช้ความหลากหลายของเชื้อชาติเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวเช่นกัน ภายใต้แนวคิดที่ว่า Uniquely Singapore ซึ่งประเทศสิงคโปร์ได้มีการฟื้นฟูแหล่งวัฒนธรรมดั้งเดิม ของคนสิงคโปร์เชื้อชาติจีน อินเดีย และมลายูภายในประเทศให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนใน ประเทศมาเลเซียการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจะเน้นความเป็นมุสลิมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่อยาก สัมผัสมิติต่าง ๆ ของมุสลิม นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่มีการจัดการ การท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมอย่างเป็นระบบ เช่น จีน และประเทศในยุโรป ในขณะที่บางประเทศมีศักยภาพใน การจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังมีปัญหาในด้านการเมืองภายในประเทศ หรือยังไม่มี นโยบายที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว เช่น พม่า เวียดนาม ประเทศในแถบแอฟริกา และตะวันออก กลาง เป็นต้น (ไกรฤกษ์ ปิ่นแก้ว, มปป: online)
การท่องเที่ยวจึงเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่งในเชิงพาณิชย์ การท่องเที่ยวนับเป็น อุตสาหกรรมประเภทหนึ่ง ที่มุ่งเน้นความสนุกสนาน ความเพลิดเพลินที่ได้รับความพอใจจาก ความสวยงามของภูมิทัศน์ที่มนุษย์สร้างขึ้น แหล่งท่องเที่ยวเป็นส่วนประกอบสำคัญทางการค้าใน ลักษณะของตลาดผู้ค้า และสรรพสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งมีหลากหลาย รูปแบบ ด้วยท้องถิ่นเป็นบ่อเกิดทางวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ค่านิยม และวิถีประชา ของผู้คนในถิ่นนั้น ๆ (ศรัญญา วรากุลวิทย์, 2546: 2) ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ บริการเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นจุดขายที่นำรายได้มาสู่ประเทศการท่องเที่ยวจึง ได้รับการพัฒนา และส่งเสริมให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมาก แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทาง ธรรมชาติได้รับการพัฒนาเพื่อสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว แต่เป็นที่น่าเสียดายเนื่องจาก สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในประเทศภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือภาคใต้ จะสนองความ ต้องการของนักท่องเที่ยวได้บางช่วงฤดูกาลเท่านั้น การท่องเที่ยวสถานที่ประเทศไทยจึงให้ ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวด้านศิลปะและวัฒนธรรม ที่จะเป็นจุดขายที่สำคัญในการท่องเที่ยว เพื่อศึกษาหาความรู้ เรื่องราวทางด้านประวัติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ศิลป์ จึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างยิ่ง แหล่งสำคัญของโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ วัดวาอารามต่าง ๆ ตลอดจน พระราชวัง ดังนั้น วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนในท้องถิ่นจึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการศึกษา ความรู้จากสถานที่ท่องเที่ยว ภูมิปัญญาของท้องถิ่น และต้องการใช้ชีวิตในสิ่งที่แปลกใหม่หรือใช้ 3 ชีวิตให้สอดคล้องกับบรรยากาศ และสภาพของท้องถิ่นซึ่งมีความเรียบง่าย เพื่อเปลี่ยนแปลงการ ดำเนินชีวิตที่วุ่นวายในเมือง สู่ความเรียบง่ายและความสงบสุข (สุวรรณี สันต์ธนะวาณิช, 2548: 8-9) ความสำคัญของการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมนั้นยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคมอย่างมาก โดยในแง่เศรษฐกิจนั้น การท่องเที่ยวก่อให้เกิดรายได้ใน รูปเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยในการปรับดุลการชำระเงินของประเทศ สร้างความเข้มแข็งทาง เศรษฐกิจ นอกจากนี้การส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นก่อให้เกิดการกระจายตัวของ นักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งนำมาสู่การจ้างงานและการสร้างอาชีพทั้งในภาคการท่องเที่ยว โดยตรง และการจ้างงานในภาคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน และท้องถิ่น ซึ่งในภาพรวมแล้วจะนำไปสู่การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมีเสถียรภาพทาง เศรษฐกิจของประเทศ สำหรับในด้านสังคมนั้น การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิดการ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะทำให้เกิดการพัฒนาสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ใน แหล่งท่องเที่ยวยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นนั้น ๆ ให้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยปลูก จิตสำนึกให้ประชาชนมีความรู้สึกรักและหวงแหนทรัพยากรการท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตน นอกจากนี้การเดินทางท่องเที่ยวยังเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้นำความรู้ และ ประสบการณ์จากการเดินทางมาปรับใช้ในการพัฒนาชีวิตและสังคมให้ดีขึ้น (ฉันทัช วรรณถนอม, 2552: 101)
สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ ทางด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ โดยในแต่ละจังหวัดของประเทศไทยต่างมีศิลปวัฒนธรรม ท้องถิ่นเป็นของตนเองที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์สังคม วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ของตนไว้อย่าง ชัดเจน หากจะกล่าวถึงกลุ่มจังหวัดปริมณฑลที่มีอาณาเขตติดกับกรุงเทพฯ นั้นมีอยู่ด้วยกันหลาย จังหวัด และหนึ่งในนั้นคือ จังหวัด “นนทบุรี” ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวง เพราะ เป็นเขตเมืองที่มีประชากรอยู่หนาแน่นรอง จากกรุงเทพฯ (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, 2556: online) ทั้งยังมีอาณาเขตที่ติดกับกรุงเทพฯ อยู่หลายเขตมีระยะทางการเดินทางที่ไม่ไกล การเดินทาง สะดวก สามารถเลือกเดินทางได้หลายช่องทาง กรอปกับเป็นจังหวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่ ยาวนาน และมีศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
จากความเป็นมาและความสำคัญของ ปัญหาข้างต้น จะเห็นได้ถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ผู้วิจัยจึงได้เลือก สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมใน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เนื่องจาก เป็นอำเภอหนึ่ง ที่มีความสำคัญในจังหวัดนนทบุรี มีแหล่งท่องเที่ยว เชิงศิลปวัฒนธรรมอยู่หลายแห่งที่สะท้อนถึง สถาปัตยกรรม โบราณศิลป์ที่มีประวัติอันยาวนาน สามารถสะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบ 4 ไทย การเดินทางสะดวก และสามารถที่จะกำหนดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวได้ในหนึ่งวัน แต่เนื่องจาก สถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวทั้ง 7 สถานที่ตามหนังสือ “ท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรี” จัดทำโดย จังหวัด นนทบุรี ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี ( 2554: 69-76) ยังไม่เป็นที่รู้จัก แพร่หลายของนักท่องเที่ยวทั่วไป ผู้วิจัยจึงให้ความสำคัญเพื่อศึกษา “ เส้นทางการท่องเที่ยวเชิง ศิลปวัฒนธรรม อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี” เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการประชาสัมพันธ์การ ท่องเที่ยว และศึกษาค่าใช้จ่าย ระยะเวลาเฉลี่ยในการท่องเที่ยว เพื่อนำมา บริหารจัดการการ ท่องเที่ยวแบบส่วนตัว หรือเป็นกรุ๊ปทัวร์ และเสนอต่อ หน่วยงานราชการระดับ ท้องถิ่นสามารถนำไปศึกษาหรือพัฒนาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สามารถจัดเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิง ศิลปวัฒนธรรมให้กับ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
คำถามการวิจัย
1. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอบางกรวย จังหวัด นนทบุรี ของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างไร
2. การกำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดควรเป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอ บางกรวย จังหวัดนนทบุรี
2. เพื่อศึกษาถึงค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว และระยะเวลาที่ใช้ในการท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อคน
3. เพื่อศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
ประโยชน์ของงานวิจัย
1. สามารถทราบถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอ บางกรวย จังหวัดนนทบุรีเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว
2. สามารถทราบถึงเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เพื่อใช้สำหรับการวางแผน การท่องเที่ยวได้
3. สามารถนำค่าใช้จ่าย และระยะเวลาเฉลี่ยในการท่องเที่ยวมาคำนวณเพื่อการบริหาร จัดการการท่องเที่ยวแบบส่วนตัว หรือเป็นกรุ๊ปทัวร์ได้
4. เป็นแนวทางในการกำหนดตัวแบบสมการโครงสร้างไว้สำหรับการศึกษาเชิงปริมาณ ในอนาคตได้
5. หน่วยงาน ราชการระดับ ท้องถิ่นสามารถนำไปศึกษาหรือพัฒนาเพื่อก่อให้เกิด ประโยชน์สามารถจัดเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมให้กับ อำเภอบางกรวย จังหวัด นนทบุรี
ขอบเขตการวิจัย
ขอบเขตด้านเนื้อหา การวิจัยเรื่อง “การเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม อำเภอ บางกรวย จังหวัดนนทบุรี” เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ( Qualitative Research)แบบเชิงสำรวจ (Survey Research)โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก(In-Depth Interview-IDI)โดยเบื้องต้นทางการศึกษา และค้นคว้าจากเอกสาร ( Documentary Research)ด้านการวิเคราะห์ต้นทุน การพัฒนาการ ท่องเที่ยว และการจัดการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม จากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หนังสือ ตำรา บทความ เอกสาร วารสาร รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางในการ จัดทำแบบสอบถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์นักท่องเที่ยว ตามกรอบแนวคิดการวิจัยที่กำหนดไว้ ขอบเขตด้านประชากร ข้อมูลที่ใช้การศึกษาเป็นข้อมูลปฐมภูมิที่ได้จากการสัมภาษณ์ นักท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 7 สถานที่ (ตามขอบเขตสถานที่) โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบไม่เกี่ยวข้องกับ โอกาสทางสถิติ ( Non-Probability Sampling)คือ ใช้แนวทางการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) เบื้องต้นผู้ศึกษาวิจัยได้ทำการสำรวจข้อมูลการสังเกตแบบไม่เข้าไปมีส่วน ร่วม (Non-participant Observation)โดยการสังเกตจำนวนนักท่องเที่ยว สอบถามจากชุมชน ผู้ดูแล สถานที่ ผู้ประกอบการ เป็นต้น โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ตัวแทนกลุ่มรวมทั้งสิ้น 35 คน
ขอบเขตด้านสถานที่ ได้แก่ ( 1)วัดเพลง ( 2) วัดโพธิ์บางโอ(3)วัดชะลอ (4)วัดบางขนุน (5)วัดบางไกรใน (6)วัดบางอ้อยช้าง (7)ถนนสายไม้ ดอกไม้ประดับบางกรวย (ถนนบางกรวย-จงถนอม)
ขอบเขตด้านระยะเวลา เวลา 12 เดือน
หมายเหตุ ครูปรับเนื้อหาบางส่วนเพื่อประยุกต์ใช้กับรายวิชาการศึกษาและสร้างองค์ความรู้
ที่มา : //www.rpu.ac.th/Library_web/doc/RC_RR/2555_Account_Chumpon.pdf
ตัวอย่างงานวิจัยแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช : วัดพระมหาธาตุมหาวิหาร วัดธาตุน้อย และโบราณสถานวัดโมคลาน