ที่มา://www.swu.ac.th/royal/book2/b2c1p4_1.html
นักชีววิทยาได้เห็นพ้องต้องกันว่า โลกกำลังสูญเสียสัตว์และพืชในป่าเขตร้อน อย่างน้อย 27,000 ชนิดต่อปี นอกจากในป่าเขตร้อนแล้ว ความหลากหลายทางชีวภาพ ในระบบนิเวศอื่นๆ กำลังลดลงเช่นกัน อาทิเช่น ในแนวปะการัง พื้นที่ชุ่ม บนเกาะ และบนภูเขา แม้ว่าจำนวนชนิดพันธุ์ที่สูญหายไปในระบบนิเวศนี้รวมกันแล้วยังเทียบไม่ได้กับจำนวนชนิดพันธุ์ที่สูญหายไปในป่าเขตร้อนก็ตาม แม้ว่าการสูญพันธุ์เป็นวัฏจักรของธรรมชาติ แต่การสูญพันธุ์ด้วยอัตราเร่งอย่างเป็นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นปรากฏการณ์นอกเหนือธรรมชาติ ซึ่งได้แสดงเห็นว่า โลกกำลังเผชิญหน้ากับความหายนะที่กำลังคืบคลานสู่ทุกชีวิตบนพื้นพิภพนี้ สำหรับมวลมนุษย์ชาติการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพมีความหมายมากกว่าการดำรงรักษาชนิดพันธุ์หนึ่งชนิดใดไว้มากกว่า การดำรงรักษาระบบนิเวศประเภทหนึ่งประเภทใด เพราะนอกเหนือไปจากนั้น มนุษย์ต้องการดำรงรักษาแหล่งอาหาร แหล่งยารักษาโรค แหล่งวัสดุใช้สอย ฯลฯ เพื่อความอยู่รอดของตนเองและอนาคตของชนรุ่นหลัง
สาเหตุของการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
การสูญเสียความหลากหลายทางธรรมชาติที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ในพื้นที่ที่กระทบต่อระบบนิเวศสามารถจำแนกได้ประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้ คือ
1). การลดพื้นที่ ( reduction)
2). การแบ่งแยกพื้นที่ ( fragmentation)
3) การแทนที่ ( substitution)
4) การทำให้สูญพันธุ์ ( extinction)
5) การทำให้ปนเปื้อน ( contamination)
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศน์ ซึ่งก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพขึ้นดังนั้นปัจจัยใดก็ตามที่มีผลกระทบทำให้สูญเสียระบบนิเวศน์ ย่อมส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศน์นั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพด้วย ตัวอย่างเช่น การสูญเสียพื้นที่ป่าไม้หรือการสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของทรัพยากรทางชีวภาพทั้งพืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ได้ถูกทำลายลงไปมากจนเหลือพื้นที่ป่าธรรมชาติประมาณร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ กระจัดกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ มีผลให้พืชและสัตว์หลายชนิดใกล้สูญพันธุ์และหลายชนิดได้สูญพันธุ์ไปแล้วเช่น ประชากรช้างป่าในปัจจุบันเหลืออยู่ในประเทศไทยประมาณ 1,975 - 2,300 เชือก ประชากรควายป่าเหลือประมาณ 50 – 70 ตัว ประชากรเสือโคร่งเหลือประมาณ 250 – 500 ตัว ขณะที่กูปรีและละมั่งไม่มีผู้พบเห็นในป่าธรรมชาติของประเทศไทยมานานหลายปี สำหรับพืชป่าหลายชนิดจัดอยู่ในสภาวะหายากและใกล้สูญพันธุ์เช่นกัน โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่าต่าง ๆ รองเท้านารีปีกแมลงปอ เป็นต้น
ปัจจุบันพบว่าโลกเราสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของสิ่งมีชีวิตมากกว่า 30,000 สปีชีส์หรือสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ประมาณ 3 – 4 สปีชีส์ต่อชั่วโมง
และในจำนวนสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์มาจากป่าเขตร้อนมากที่สุด
สาเหตุหลักที่แท้จริงของการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นผลมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ของคนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น เพื่อการผลิตและการบริโภคจากการเพิ่มจำนวนประชากรและความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจอีกทั้งตักตวงผลประโยชน์จากชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ซึ่งมีผลต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนซึ่งเป็นกำลังที่สำคัญในอนาคตจะต้องช่วยกันแก่ไขปัญหาและเร่งฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม เพื่อให้ความหลากหลายทางชีวภาพของคนไทยกลับคืนมาแม้ว่าการแก้ไขปัญหานั้นจะต้องใช้เวลานานแสนนานเท่าใดก็ตาม
+++++++++++++++++++++++++ขอบคุณข้อมูล //www.thaigoodview.com/library/contest2553/type2/science04/13/page/kingdom2.html +++++++++++++++++++++++
การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ที่เป็นผู้ดำเนินการ สามารถระบุสาเหตุสำคัญๆ ได้ดังนี้
1.การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตและบริโภค ที่ทำการเกษตรแบบมุ่งเน้นการค้า มีการผลิตสายพันธุ์เดียวโดยละทิ้งสายพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิม มีการใช้สารเคมีมากขึ้นในการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลงและยาปราบศัตรูพืช เกิดสารพิษตกค้างในดินและแหล่งน้ำ กระทบต่อสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในดิน และสัตว์น้ำ
2. การเติบโตของประชากรและการกระจายตัวของประชากร ทำให้เกิดการรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ซึ่งกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ
3. การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์นานาพันธุ์ เช่น การทำลายป่า การล่าสัตว์ การอพยพหนีภัยธรรมชาติของสัตว์
4. มีการนำมาทรัพยากรธรรมชาติไปใช้ประโยชน์มากเกินไป
5. การตักตวงผลประโยชน์จากชนิดพันธุ์ของพืชและสัตว์ป่า เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า โดยการค้าขายสัตว์และพืชป่าแบบผิดกฎหมาย
6. การนำเข้าชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำลายสายพันธุ์ท้องถิ่น
7. การสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางน้ำ มลพิษทางอากาศ และขยะ เป็นต้น
8. การเปลี่ยนแปลงภาวะเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของโลก เช่น อุณหภูมิโลกสูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของน้ำทะเล ภัยแล้งทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ การเกิดไฟป่า ในช่วงฤดูฝน เกิดปัญหาน้ำท่วม โคลนถล่ม เป็นต้น
9. การอ้างสิทธิบัตร เช่น ประเทศญี่ปุ่นได้จดสิทธิบัตรการผลิตสารแก้โรคกระเพาะจากต้นเปล้าน้อย ซึ่งเป็นพันธุ์พืชที่มีในประเทศไทย (สรุปข่าวสิ่งแวดล้อม ปี 2543)
10. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีชีวภาพ (biotechnology)ด้านการตัดต่อหน่วยพันธุกรรมหรือ จีเอ็มโอ (GMO; Genetically Modified Organisms) หรือพันธุวิศวกรรมศาสตร์ (genetic engineering)
//www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=212&pageid=7&read=true&count=true