เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย หากผู้เอาประกันได้รับใบเคลมแล้ว แต่ต้องการเข้าซ่อมอู่นอกเครือบริษัทประกันภัย เราขอแนะนำให้ท่านคุมราคาค่าซ่อมก่อนนำรถเข้าซ่อม
ใบคุมราคา,ใบเสนอราคา หรือใบประเมินราคาค่าซ่อมรถจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมรถ โดยจะมีรายการค่าอะไหล่ และค่าแรง พร้อมแนบรูปถ่ายเบื้องต้นความเสียหายของรถ เพื่อประกอบการเสนอราคา พิจารณาก่อนการจัดซ่อม โดยทางศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถจะเป็นผู้ประเมินราคาให้ แล้วผู้เอาประกันนำใบเสนอราคาดังกล่าวไปยื่นขออนุมัติวงเงินในการจัดซ่อมกับบริษัทประกันภัย หากมีส่วนต่างเรื่องค่าแรงหรือค่าอะไหล่ ผู้เอาประกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนต่างนั้นเอง และต้องสำรองเงินจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน จากนั้นจึงรวบรวมเอกสาร พร้อมรูปถ่ายขณะซ่อม และรูปถ่ายรถภายหลังการซ่อมเสร็จแล้วนำมายื่นต่อบริษัทประกันภัยเพื่อตั้งเบิกเงินคืนค่าซ่อมรถในลำดับถัดไป
อย่างไรก็ตามหากลูกค้าไม่ต้องการคุมราคาก่อนการจัดซ่อม หรือไม่ต้องการให้เกิดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร เราขอแนะนำให้ลูกค้าซ่อมศูนย์หรืออู่ในเครือบริษัทประกันภัยดีที่สุดค่ะ
สำหรับประกันภัยชั้น 1 เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ต้องตกใจ เคลมประกันรถยนต์ง่ายๆ
การเคลมประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี(เคลมแห้ง)
เมื่อลูกค้าเกิดการเฉี่ยว ชน แล้วไม่มีคู่กรณี และกังวลว่าจะเคลมประกันได้หรือเปล่า หรือต้องเสียค่า Excess (ค่าเสียหายในส่วนแรก) หรือไม่ สำหรับลูกค้าที่ทำประกันชั้น 1 นั้นถ้าหากว่าเรามีคู่กรณี เราก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทประกันภัยได้เลย โดยไม่เสียค่า Excess แต่สำหรับกรณีไม่มีคู่กรณี หรือเคลมแห้ง คือไม่สามารถระบุได้ว่าความเสียหายของรถยนต์เกิดจากอะไร และเมื่อไหร่ หรือแม้กระทั่งเฉี่ยว ชน กับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์คันอื่นก็ตาม หากชนแล้วคู่กรณีหนีไปและจำทะเบียนไม่ได้ ก็จะกลายเป็นไม่มีคู่กรณีไป (แต่บางบริษัทอาจยอมให้เคลมโดยไม่เสียค่า Excess)
ถ้าเราไม่มีคู่กรณี ให้ปฏิบัติดังนี้
1. หากชนกับสิ่งของที่ไม่ใช่รถยนต์เช่น กระถางต้นไม้ รั้วบ้าน เสา เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นคู่กรณี แต่ต้องระบุได้ว่าเกิดเมื่อไหร่ ตรงไหน ถ้าปล่อยให้นานไปแล้วค่อยมาแจ้งเคลมอาจจะโดนค่า Excess ได้ 2. สำหรับประกันชั้น 1 สามารถโทรแจ้งบริษัทประกันภัยที่เราทำไว้ แล้วแจ้งเคลมได้เลย โดยต้องอธิบายเหตุการณ์ให้ครบถ้วนอย่างละเอียด จากนั้นบริษัทจะให้เรานำรถไปตรวจเช็ค หรือเราอาจให้เจ้าหน้าที่เคลมมาตรวจสอบตามสถานที่นัดหมาย 3. บริษัทประกันภัยจะให้ใบเคลมมา และต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี เพื่อใช้เป็นหลักฐานการแจ้งเคลมที่อู่ หรือศูนย์บริการรถยนต์ 4. ใบเคลมจะมีอายุ 1 - 2 ปีนับจากวันที่ออกใบ (แล้วแต่บริษัทประกัน) 5. ติดต่ออู่(หรือห้างหรือศูนย์บริการ) เอารถเข้าซ่อม 6. เตรียมสำเนาใบขับขี่ สำเนากรมธรรม์ สำเนาทะเบียนรถติดตัวไปด้วย 7. เมื่อซ่อมเสร็จก็เซ็นต์เอกสาร และรับรถได้เลย
การเคลมประกันภัยรถยนต์ แบบมีคู่กรณี(เคลมสด)
การเคลมประกันภัยรถยนต์ แบบมีคู่กรณีหรือรถชนรถ หรือเรียกอีกอย่างว่าการเคลมสด คือเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุชนกันกับรถคู่กรณี หรืออาจชนสิ่งอื่นๆ และต้องการให้พนักงงานเคลมไปที่เกิดเหตุเลย ในกรณีที่เสียหายแค่ทรัพย์สิน เช่นตัวรถยนต์ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ประกันของทั้งสองฝ่าย (ถ้ามี) จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยให้โดยจะต้องเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียด และเมื่อสามารถระบุได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือใครเป็นฝ่ายผิด เช่นถ้าเราเป็นฝ่ายถูกและทำประกันชั้น 1, หรือ 2+, หรือ 3+ ไว้ก็สามารถใช้ใบเคลมเอารถเข้าซ่อมได้เลย แต่ถ้าเป็นประเภทอื่นเจ้าของรถจะต้องไปเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีเอง
แต่กรณีที่เรื่องต้องไปจบกันที่สถานีตำรวจ คือ - ชนแล้วทำให้ทรัพย์สินของราชการเสียหาย เช่นเสาไฟฟ้า ตู้ไปรษณีย์ ฯลฯ การชนในลักษณะนี้ จะต้องไปบันทึกความเสียหายที่สถานีตำรวจ เพราะทางราชการจะต้องใช้หลักฐานนี้ในการเรียกเก็บค่าเสียหายจากบริษัทประกันในภายหลัง - กรณีรถชนกันแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือใครเป็นฝ่ายผิดและต้องไปเจรจากันที่สถานีตำรวจ ก็จะมีความยุ่งยากเกิดขึ้นถ้าไม่มีประกัน เพราะจะต้องเสียเวลาเป็นอย่างมากกว่าเรื่องจะจบ และเมื่อตกลงกันได้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายผิด ก็ต้องซ่อมรถให้อีกฝ่ายนึงแล้วยังต้องจ่ายค่าปรับที่สถานีตำรวจด้วย ดังนั้นถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูกจริงๆ ก็ไม่ควรไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ แต่ถ้ามีประกัน เจ้าหน้าที่ก็จะเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยให้ เราก็จะเสียเวลากับตรงนี้น้อยลง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถฝากชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ไว้ เจ้าหน้าที่ของโบรกเกอร์กล้วยๆจะติดต่อกลับโดย คลิ๊กที่นี่ หรือสามารถโทรมาที่ 02 268 8222 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 น.- 19.00 น.
เทียบราคาจากกว่า 20 บริษัทประกันชั้นนำ
ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับ
เพราะเรามีมาตรฐานในการเปรียบเทียบจากการค้นหาประกันภัยที่ดี เข้าใจง่าย และราคาประหยัด เราไม่มีการคัดลอกผลิตภัณฑ์จากที่อื่น ๆ ดังนั้นใบเสนอราคาจากเราจึงเป็นใบเสนอราคาที่มาจาก บริษัทประกันภัยโดยตรง ที่เหมาะสมกับคุณ
สิ่งที่สองรองจากการซื้อบ้าน, รถยนต์ คือ สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้คนมักจะซื้อกัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีวิธีการที่ดีที่สุดโดยการเปรียบเทียบ และทำสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกให้เราทราบข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับยานพาหนะและตัวของคุณในรูปแบบที่ง่าย อีกทั้งคุณยังสามารถเลือกช่วงเวลาสำหรับการเสนอราคาจากเราได้อีกด้วย ซึ่งมันคือความรวดเร็วและสะดวกสบายที่ทำได้จริงจริง!
อ่านต่อ
หากคุณไม่ได้มองหาประกันภัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการที่จะได้รับอีเมลแจ้งเตือนและให้รายละเอียดกับคุณด้วย เราจะส่งการแจ้งเตือนถึงคุณก่อนล่วงหน้าหนึ่งเดือน ก่อนที่กรมธรรม์ประกันภัยของคุณจะถึงเวลาที่ต้องต่ออายุ
เคลมประกันชั้น 1 ใช้เอกสารอะไรบ้าง
1. เตรียมใบขับขี่ บัตรประชาชน และหน้าตารางกรมธรรม์ 2. โทรแจ้งบริษัทประกันที่ทำไว้ พร้อมบอกรายละเอียดเรื่องการเคลม ระบุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น วันเวลา และสถานที่เกิดเหตุ 3. บริษัทอาจให้นำรถเข้าไปที่ศูนย์ หรืออู่เพื่อประเมินความเสียหายตามจริง หรืออาจส่งพนักงานเคลมมาตรวจสอบ และถ่ายรูปเป็นหลักฐาน
ใบเคลมอยู่ได้กี่ปี
ใบเคลมที่บริษัทประกันออกให้ มีอายุความ 2 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันภัยออกเอกสารให้ แต่ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก เราจะไปเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เช่น ค่าซ่อมรถ ค่าขาดผลประโยชน์ จากบริษัทประกันภัยคู่กรณีหรือเรียกร้องโดยตรงจากคู่กรณี เราต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ
เคลมประกันชั้น 1 มีค่าใช้จ่ายไหม
ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ คือ จำนวนเงินที่คุณต้องชำระเพิ่มเมื่อคุณเคลมประกันภัยชั้น 1 (ความคุ้มครองเต็มจำนวน) แต่ไม่มีคู่กรณี เช่น รถเกิดรอยขีดข่วนขึ้นและไม่สามารถระบุผู้กระทำได้ หรือเกิดเสียหายหรือชนเสาข้างทาง ค่า Excess ส่วนใหญ่เริ่มที่ประมาณ 1,000 บาท ตัวอย่างที่คุณอาจจะต้องจ่ายค่า Excess เอง เช่น ยางระเบิดเพราะ ...
เคลมประกันนานสุดกี่วัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ของการเคลมประกันสุขภาพคือ การได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนที่ล่าช้า หรือเกิน 15 วันทำการตามที่กล่าวข้างต้น ในบางกรณีผู้เอาประกันภัยอาจไม่ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเลย โดยสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้มีดังนี้ กรมธรรม์ประกันสุขภาพหมดอายุ บริษัทประกันภัยมีการขอเอกสารเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาการเคลมประกันสุขภาพ