การเล อกกล มต วอย างแบบแบ งกล ม ความน าจะเป น

TalkBack คือฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษที่ช่วยให้ผู้ที่ตาบอดหรือมีสายตาเลือนรางสามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์ Android โดยใช้การสัมผัสและการอธิบายและอ่านออกเสียง

เมื่อ TalkBack เปิดอยู่ รายการบนหน้าจอจะมีกรอบโฟกัส และอุปกรณ์จะให้คิวเสียงเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ คุณสามารถไปยังส่วนต่างๆ ของอุปกรณ์ผ่านท่าทางสัมผัสของ TalkBack แทนการโต้ตอบการสัมผัสทั่วไปได้ ดูวิดีโอเพื่อเรียนรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ TalkBack

เคล็ดลับ: หากต้องการเปิด TalkBack ตัวเลือกจะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิตอุปกรณ์, เวอร์ชัน Android และเวอร์ชัน TalkBack ข้อมูลด้านล่างนี้ใช้ได้กับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ แต่คุณอาจพบว่ามีความแตกต่างบางประการ

เมื่อตั้งค่าโทรศัพท์

ในระหว่างการตั้งค่าโทรศัพท์ ให้กดปุ่มปรับระดับเสียงทั้ง 2 ปุ่มค้างไว้ 2-3 วินาทีเพื่อเปิด TalkBack เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว คุณจะใช้ปุ่มปรับระดับเสียงเป็นทางลัดเพื่อเปิดหรือปิด TalkBack ต่อไปก็ได้

เคล็ดลับ: หากต้องการปิดทางลัดปุ่มปรับระดับเสียงอย่างถาวรหลังจากตั้งค่าแล้ว ให้ไปที่การตั้งค่า

การช่วยเหลือพิเศษ
TalkBack เลือกทางลัด TalkBack และปิดเพื่อปิดใช้ ดูวิธีเปลี่ยนทางลัดสำหรับ TalkBack

หลังจากตั้งค่าโทรศัพท์แล้ว

ตัวเลือกที่ 1: ใช้การตั้งค่าอุปกรณ์

  1. เปิดการตั้งค่า
    ในอุปกรณ์
  2. แตะการช่วยเหลือพิเศษ
    TalkBack
  3. เลือกใช้ TalkBack

หลังจากเปิด TalkBack แล้ว ให้ควบคุมอุปกรณ์ด้วยท่าทางสัมผัสของ TalkBack

ตัวเลือกที่ 2: ใช้ทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ

เมื่อทางลัดสำหรับการช่วยเหลือพิเศษเปิดอยู่ คุณจะใช้ทางลัดดังกล่าวเพื่อเปิดหรือปิด TalkBack ด้วยปุ่มบนหน้าจอหรือแป้นจริงได้

  1. เปิดการตั้งค่า
    ในอุปกรณ์
  2. แตะการช่วยเหลือพิเศษ
    TalkBack
    ทางลัด TalkBack
  3. เปิดทางลัด TalkBack
  4. ทำตามวิธีการบนหน้าจอเพื่อตั้งค่ากำหนดทางลัดสำหรับรุ่นอุปกรณ์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังได้ด้วย

ตัวเลือกที่ 3: ใช้ Google Assistant

  1. หากคุณตั้งค่า Google Assistant แล้ว ให้พูดว่า "Ok Google"
  2. พูดว่า "เปิด TalkBack" หรือ "ปิด TalkBack"

ไปยังส่วนต่างๆ เมื่อเปิด TalkBack

  • หากต้องการเลือกรายการ ให้ตั้งโฟกัสที่รายการนั้นโดยแตะที่รายการนั้นด้วยนิ้วเดียว จากนั้นแตะสองครั้งด้วยนิ้วเดียวเพื่อเปิดใช้งานรายการนั้น
  • หากต้องการเลื่อนขึ้นหรือลงบนหน้าจอ ให้วาง 2 นิ้วบนหน้าจอแล้วลากขึ้นหรือลง
  • เมื่อตั้งค่า "การนำทางของระบบ" เป็น "การนำทางด้วยท่าทางสัมผัส" สำหรับท่าทางสัมผัสอย่างเช่นหน้าแรก กลับ หรือแอปล่าสุด ให้ใช้ 2 นิ้วแทนนิ้วเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่าทางสัมผัสของ TalkBack

เคล็ดลับ: โดยค่าเริ่มต้น TalkBack จะอ่านออกเสียงอักขระของรหัสผ่านให้คุณ เพื่อไม่ให้โทรศัพท์พูดอักขระในช่องที่ปลอดภัย

ในบางครั้งการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดย อาศัยความน่าจะเป็น โดยวิธีการสุ่มอาจจะไม่สามารถทำได้หรือทำได้ยาก การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยไม่อาศัยความน่าจะเป็นจึงถูกนำมาใช้ซึ่งการเลือก กลุ่มตัวอย่างแบบนี้จะมีลักษณะเป็นอัตวิสัย (subjective) ซึ่งมักจะทำให้การประมาณค่าพารามิเตอร์ขาดความแม่นยำ ดังนั้นในการเลือกกลลุ่มตัวอย่างแบบนี้มักจะใช้เมื่อไม่ต้องการอ้างอิงถึง ลักษณะประชากร ส่วนใหญ่จะใช้กับงานวิจัยสำรวจข้อเท็จจริง (Exploration research) กับกลุ่มที่มีลักษณะเฉพาะและไม่ต้องการเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลทางด้านค่าใช้จ่ายและเวลา เพราะการเลือกตัวอย่างโดยไม่อาศัยความน่าเป็นจะมีค่าใช้จ่ายและเวลาน้อยกว่า อาศัยความน่าจะเป็น

  1. การสุ่มโดยบังเอิญ (Accidental sampling)

เป็นการสุ่มจากสมาชิกของประชากรเป้าหมายที่เป็นใครก็ได้ที่สามารถให้ข้อมูลได้ครบถ้วน การสุ่มโดยวิธีนี้ไม่สามารถรับประกันความแม่นยำได้ ซึ่งการเลือกวิธีนี้เป็นวิธีที่ด้อยที่สุด เพราะเป็นการเลือกตัวอย่างที่มีลักษณะสอดคล้องกับนิยามของประชากรที่สามารถ พบได้และใช้เป็นอย่างได้ทันที

  1. การสุ่มแบบโควตา (Quota sampling)

เป็นการสุมตัวอย่างโดยจำแนกประชากรออกเป็นส่วนๆก่อน (strata)โดยมีหลักจำแนกว่าตัวแปรที่ใช้ในการจำแนกนั้นควรจะมีความสัมพันธ์ กับตัวแปรที่จะรวบรวม หรือตัวแปรที่สนใจ และสมาชิกที่อยู่แต่ละส่วนมีความเป็นเอกพันธ์ ในการสุ่มแบบโควตา นี้มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้

  • พิจารณาตัวแปรที่สัมพันธ์กับลักษณะของประชากรที่คำถามการวิจัยต้องการที่จะ ศึกษา เช่น เพศ ระดับการศึกษา
  • พิจารณาขนาดของแต่ละส่วน(segment)ของประชากรตามตามตัวแปร
  • คำนวณค่าอัตราส่วนของแต่ละส่วนของประชากร กำหนดเป็นโควตาของตัวอย่างแต่ละกลุ่มที่จะเลือก
  • เลือกตัวอย่างในแต่ละส่วนของประชากรให้ได้จำนวนตามโควตา
  • การสุ่มตัวอย่างเฉพาะเจาะจง (purposive sampling)

หรือบางครั้งเรียกว่าการสุ่มแบบพิจารณา (judgment sampling) เป็นการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ดุลพินิจของผู้วิจัยในการกำหนดสมาชิกของประชากร ที่จะมาเป็นสมาชิกในกลุ่มตัวอย่าง ว่ามีลักษณะสอดคล้องหรือเป็นตัวแทนที่จะศึกษาหรือไม่ ข้อจำกัดของการสุ่มตัวอย่างแบบนี้คือไม่สามารถระบุได้ว่าตัวอย่างที่เลือก จะยังคงลักษณะดังกล่าวหรือไม่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป

  1. การสุมกลุ่มตัวอย่างตามสะดวก (convenience sampling)

การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยถือเอาความสะดวกหรือความง่ายต่อการรวบรวมข้อมูล ข้อจำกัดของการสุ่มแบบนี้จะมีลักษณะเหมือนกับการสุ่มโดยบังเอิญ

  1. การสุมตัวอย่างแบบสโนว์บอลล์ (snowball sampling)

เป็นการเลือกตัวอย่างในลักษณะการสร้างเครือข่ายข้อมูล เรียกว่า snowball sampling โดยเลือกจากหน่วยตัวอย่างกลุ่มแรก และตัวอย่างกลุ่มนี้เสนอบุคคลอื่นที่มีลักษณะใกล้เคียงต่อๆไป

การสุ่มตัวอย่างโดยอาศัย ทฤษฏีความน่าจะเป็น (Probability Sampling)

  1. การสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) สมาชิกทั้งหมดของประชากรเป็นอิสระซึ่งกันและกัน แล้วสุ่มหน่วยของการสุ่ม (Sampling unit) จนกว่าจะได้จำนวนตามที่ต้องการ โดยแต่ครั้งที่สุ่ม สมาชิกแต่ละหน่วยของประชากรมีโอกาสถูกเลือกเท่าเทียมกัน ซึ่งก่อนที่จะทำการสุ่มนั้น จะต้องนิยามประชากรให้ชัดเจน ทำรายการสมาชิกทั้งหมดของประชากร สุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีที่ทำให้โอกาสในการของสมาชิกแต่ละหน่วยในการถูกเลือก มีค่าเท่ากัน ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การจับฉลากและการใช้ตารางเลขสุ่ม (table of random number) ซึ่งตัวเลขในตารางได้มาจากการอาศัยคอมพิวเตอร์กำหนดค่า หรือบางครั้งสามารถใช้วิธีการดึงตัวอย่างโดยอาศัยโปรแกรมสำเร็จรูป ในการสุ่มอย่างง่าย มีข้อจำกัดคือ ประชากรต้องนับได้ครบถ้วน (Finite population) ซึ่งบางครั้งอาจสร้างปัญหาให้กับนักวิจัย
  2. การสุ่มแบบเป็นระบบ (systematic sampling)

ใช้ในกรณีที่ประชากรมีการจัดเรียงอย่างไม่ลำเอียง 1. ประชากรหารด้วยจำนวนกลุ่มตัวอย่าง (K = N/n) 2. สุ่มหมายเลข 1 ถึง K (กำหนดสุ่มได้หมายเลข r ) 3. r จะเป็นหมายเลขเริ่มต้น ลำดับต่อไป r + K, r +2K, r + 3K, การสุ่มแบบเป็นระบบ โอกาสถูกเลือกของตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกัน เพราะเมื่อตัวอย่างแรกถูกสุ่มแล้ว ตัวอย่างหน่วยอื่นก็จะถูกกำหนดให้เลือกตามมาโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีการสุ่ม

  1. การสุ่มแบบแบ่งชั้น (stratified random sampling)

เป็นการสุ่มกลุ่มตัวอย่างที่แบ่งกลุ่มประชากรออกเป็นกลุ่มย่อย (subgroup or strata) เสียก่อนบน พื้นฐานของตัวแปรที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตัวแปรตาม โดยมีหลักในการจัดแบ่งกลุ่มแต่ละกลุ่มมีความเป็นเอกพันธ์ (Homogeneous) หรือกล่าวได้ว่า ในกลุ่มเดียวกันจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันตามกลุ่มย่อยของตัวแปร แต่จะมีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม จำนวนสมาชิกในกลุ่มย่อยจะถูกกำหนดให้เป็นสัดส่วน (proportion) ตามสัดส่วนที่ปรากฏในประชากร ซึ่งเรียกว่า การสุ่มแบบแบ่งชัดโดยใช้สัดสัด (proportion stratified sampling) การสุ่มแบบแบ่งชั้นจะมีความเหมาะสมกับงานวิจัยที่สนใจความแตกต่างของลักษณะ ประชากรในระหว่างกลุ่มย่อย

  1. การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (cluster sampling)

ในกรณีที่ประชากรมีขนาดใหญ่ การสุ่มกลุ่มตัวอย่างโดยจัดกระทำกับรายการสมาชิกทุกๆหน่วยของประชากรอาจทำ ได้ยากหรือทำไม่ได้เลย ดังนั้นแทนที่จะใช้วิธีการสุมจากทุกหน่วย นักวิจัยสามารถสุ่มจากกลุ่มที่ถูกจัดแบ่งไว้อยู่แล้ว ซึ่งวิธีการแบบนี้เรียกว่าการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster sampling) สิ่งที่ควรคำนึงถึงการสุ่มแบบกลุ่ม มีดังนี้

  • ความแตกต่างของลักษณะที่จะศึกษาระหว่างกลุ่ม (cluster) มีไม่มาก หรือเรียกว่ามีความเป็นเอกพันธ์ (homogeneous)
  • ขนาดของแต่ละกลุ่ม เท่ากันหรือแตกต่างกันไม่มากนัก เพราะเมื่อเลือกกลุ่มมาเป็นตัวอย่างแล้ว การประมาณค่าพารามิเตอร์ จะมีลักษณะไม่อคติ (unbias estimation) มากกว่า กรณีที่กลุ่มตัวอย่างในแต่กลุ่มมีขนาดแตกต่างกันมาก
  • ขนาดของกลุ่ม (cluster) ไม่มีคำตอบแน่นอนวาจำนวนหน่วยตัวอย่างที่ศึกษาในแต่ละกลุ่ม จะเป็นเท่าใด ขึ้นอยู่กับคำถามการวิจัยและความยากง่ายในการเก็บข้อมูล
  • การใช้วิธีการสุ่มแบบ multistage cluster sampling แท่นการใช้ single – stage
  • ขนาดขอกลุ่มตัวอย่างหรือจำนวนกลุ่ม (cluster) ที่ต้องการในการเทียบเคียงจากการเลือกแบบการสุ่มอย่างง่าน (simple random sampling) ในการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้จำนวนทั้งหมดของกลุ่ม ที่จัดแบ่งเป็นประชาการที่นำมาใช้ในการคำนวณ
  • การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi – stage Random Sampling)

มีวิธีการสุ่ม 4 แบบที่อธิบายไว้แล้ว คือ การสุ่มอย่างง่าย การสุ่มอย่างมีระบบ การสุ่มแบบแบ่งชั้น และการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม ในการทำวิจัยจริง ๆ เราอาจจะใช้วิธีการสุ่มที่ซับซ้อนมากกว่านี้ โดยหลักแล้วจะต้องพิจารณาวิธีการสุ่มทั้ง 4 แบบนี้มาใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดเพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยต้องการอย่างแท้จริง เรียกว่าการสุ่มแบบหลายขั้นตอน

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้