Wiด ผ ป วยท ม ภาวะต ดเช อในกระแสเล อด sepsis

การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเกิดขึ้นจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อมากกว่าปกติจนอวัยวะสําคัญ ๆ เริ่มทํางานผิดปกติ

ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอาจรุนแรงมากขึ้นจนเกิดภาวะช็อก ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็ว และนําไปสู่ภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ และเสียชีวิตในที่สุด การรักษาประกอบไปด้วยการค้นหาตำแหน่งอวัยวะที่มีการติดเชื้อ การให้ยาปฏิชีวนะแบบกว้าง ครอบคลุมการติดเชื้อเบื้องต้น การผ่าตัดในกรณีที่มีหนองหรือมีข้อบ่งชี้ การให้สารน้ำและ/หรือการให้ยาอื่น ๆ เพื่อประคับประคองความดัน รวมถึงการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล

การให้ยาปฏิชีวนะ สารน้ำ และยาประคับประคองความดัน ทางหลอดเลือดเป็นวิธีรักษาที่ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้

อาการ

สัญญาณและอาการของการติดเชื้อในกระแสเลือด

  • มีไข้ ซึมลง หรือสับสน หายใจเร็ว ร่วมกับความดันต่ำกว่า 90 หรือในผู้ป่วยที่มีโรคความดันสูง ความดันลดต่ำลงกว่าปกติมาก
  • อัตราการหายใจเท่ากับหรือเร็วกว่า 20 ครั้งต่อนาที

สัญญาณและอาการของภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ภาวะช็อกอาจเกิดขึ้นในกรณที่ความดันโลหิตต่ำลงมาก ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ระบบต่าง ๆ ลดลง เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ หากอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะนำไปสู่การเสียชีวิตได้

ควรไปพบแพทย์เมื่อใด

การติดเชื้อในกระแสเลือดมักจะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการติดเชื้อลุกลามมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที หรือเกิดขึ้นในผู้ป่วยสูงอายุ ภูมิต้านทานต่ำ โรคประจำตัวเช่นเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ เป็นต้น ถ้าผู้ป่วยมีอาการซึมลง สับสน รับประทานอาหารได้น้อย ความดันต่ำลง ปัสสาวะออกลดลง ควรไปพบแพทย์ทันที ในกรณีผู้สูงอายุ บางครั้งอาจจะไม่มีไข้ได้ โดยการที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส ถือว่ามีอาการรุนแรง

สาเหตุ

การติดเชื้อในกระแสเลือดส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนน้อยเกิดจากการติดเชื้อราได้ โดยเป็นผลแทรกซ้อนตามมาจากการที่ร่างกายมีการติดเชื้อในระบบต่าง ๆ เช่น

  • การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ
  • การติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กรวยไตอักเสบ
  • การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้อักเสบ
  • การติดเชื้อจากการใส่สายสวนหลอดเลือดดำ สายฟอกไต สายสวนปัสสาวะ เป็นต้น
  • แผลอักเสบติดเชื้อลุกลาม

ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะการติดเชื้อในกระเสเลือด

  • ทารกแรกเกิด ผู้สูงอายุ
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ได้รับยาสเตียรอยด์ขนาดสูงหรือยากดภูมิต้านทานสูง
  • ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยเม็ดเลือดขาวต่ำ
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังหรือตับแข็ง
  • ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ผู้ป่วยรักษาตัวในห้องไอซียู
  • ผู้ป่วยรักษาด้วยการใส่ท่อหายใจหรือสายสวนทางหลอดเลือดดํา

ภาวะแทรกซ้อน

การติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงนั้นส่งผลกระทบให้ความดันต่ำลง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ลดลง รวมถึงอาจมีภาวะลิ่มเลือดขนาดเล็กอุดตันในเส้นเลือดฝอย ทำให้เกิดอวัยวะล้มเหลวได้หลายระบบ เช่น ไตวายเฉียบพลัน การหายใจล้มเหลว ภาวะเลือดเป็นกรดที่รุนแรงจากกรดแลกติกในเลือดคั่ง คนไข้ส่วนใหญ่ที่ไม่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อนั้นส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นตัวได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการติดเชื้อ ในกรณีที่อาการรุนแรง รับการรักษาในไอซียู นั่นจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าที่จะฟื้นฟูอวัยวะที่ล้มเหลวให้กลับมาทำงานได้ปกติ

การวินิจฉัยการติดเชื้อในกระแสเลือด

แพทย์ผู้ดูแลรักษาประเมินจากประวัติและการตรวจร่างกาย เพื่อวินิจฉัยตำแหน่งการติดเชื้อ และจำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น

  • การตรวจเลือดทั่ว ๆ ไป เป็นการตรวจวินิจฉัยเพื่อหาการติดเชื้อ ตรวจค่าความสมบูรณ์เม็ดเลือด (CBC) ค่าการทำงานตับไต เกลือแร่ ค่าความสมดุลกรดด่างในเลือด ตรวจปัสสาวะ เป็นต้น
  • การตรวจเพาะเชื้อโดยตรงจากเลือด เสมหะ ปัสสาวะ บาดแผล หรือหนอง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์ และอาการของผู้ป่วย
  • การตรวจวินิจฉัยโดยรังสีวิทยา
  • เอ็กซเรย์ปอด
  • อัลตราซาวนด์ เป็นเทคโนโลยีคลื่นเสียงส่งภาพไปยังหน้าจอ เพื่อวินิจฉัยภาวะการติดเชื้อในช่องท้อง เช่น ตับ ทางเดินน้ำดี ไต หรือชั้นใต้ผิวหนัง เป็นต้น
  • การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ซึ่งถ่ายภาพเอ็กซเรย์จากหลาย ๆ มุม และแสดงโครงสร้างภายในแบบตัดขวางเพื่อใช้วินิจฉัยการติดเชื้อในอวัยวะช่องท้อง ลำไส้แตกรั่ว อุดตัน หนองในช่องท้องหรือกล้ามเนื้อ เป็นต้น
  • การตรวจด้วยเอ็กซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) แสดงภาพได้ละเอียดกว่าเอ็กซเรย์ ซึ่งช่วยในการวินิจฉัยการติดเชื้อของเนื้อเยื่อและกระดูก

การรักษา

การได้รับการวินิจฉัยและรักษาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างทันท่วงที การดูแลและการรักษาของหน่วยไอซียูอย่างใกล้ชิด นั้น จะทำให้ผลของการรักษาของผู้ป่วยดี ฟื้นตัวได้สูง

การรักษาด้วยยา

ประกอบไปด้วย

  • การให้ยาปฏิชีวนะแบบกว้างทางหลอดเลือดดำ ครอบคลุมชนิดและตำแหน่งของการติดเชื้อที่แพทย์สงสัย
  • การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
  • การให้ยาเพิ่มความดันโลหิตหากความดันโลหิตของผู้ป่วยต่ำแม้ว่าจะได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดแล้ว แพทย์อาจสั่งยาเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งช่วยกระตุ้นการบีบตัวของหลอดเลือด
  • ยาอื่น ๆ เช่น อินซูลิน ควบคุมน้ำตาลในเลือด ยากล่อมประสาทในกรณีใส่ท่อช่วยหายใจ เป็นต้น
  • การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ซักประวัติโรคเดิมหรืออาการที่ผิดปกติของผู้ป่วย

การรักษาด้วยการผ่าตัด

ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีการติดเชื้อบางตำแหน่ง เช่น ฝีหนองในช่องท้อง ลำไส้แตกรั่ว การติดเชื้อผิวหนังรุนแรง เนื้อเยื่อตายนั้น จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อกำจัดตำแหน่งที่ติดเชื้อ ระบายฝีหนองโดยการใส่สายระบาย การถอดสายสวนหลอดเลือดดำที่มีการติดเชื้อออกเป็นต้น เนื่องจากการติดเชื้อชนิดดังกล่าวนั้นลุกลามเกินกว่าจะรักษา ด้วยการให้ยาปฏิชีวนะแบบกว้างเพียงอย่างเดียวได้

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้