ลำโพงหรือ speaker ต้องใช้คู่กับอุปกรณ์ใด

ระบบเสียง ใครว่าการศึกษาเป็นเรื่องยาก อ่านบทความนี้แล้ว คุณจะต้องร้องอ๋อในทันทีเลย ที่จริงระบบเสียงที่เราใช้กันอยู่ ก็มีอุปกรณ์ที่สำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง ที่เห็นว่ามันเยอะแยะหลายอย่าง ส่วนใหญ่เป็นแค่การเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์ที่ทำงานเหมือนกัน เพื่อรองรับอุปกรณ์ได้เยอะขึ้น ให้เสียงดังขึ้น รองรับเครื่องดนตรีได้เยอะขึ้น และ การทำงานที่ง่ายขึ้นนั่นเอง โดยระบบเสียงในยุคปัจจุบันตั้งแต่เล็ก ๆ ระดับร้องคาราโอเกะ ไปจนถึงคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ ระดับประเทศล้วนมีอุปกรณ์พื้นฐานเหล่านี้

สารบัญ

5 อุปกรณ์หลักของระบบเสียง

  1. ไมโครโฟน
  2. มิกเซอร์
  3. เครื่องปรุงแต่งเสียง
  4. พาวเวอร์แอมป์
  5. ลำโพง

1.ไมโครโฟน

แน่นอนว่าในระบบเสียง ต้องมีไว้เพื่อขยายเสียงอะไรซักอย่าง นั่นก็คือเสียง “พูด” ยังไงละ แรกเริ่มเดิมที เครื่องขยายเสียง มีไว้เพื่อเพิ่มความดังเสียงของผู้พูด ให้ผู้ฟังจำนวนมากได้ยิน หรือ กระจาย ระบบเสียง เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ให้คนที่อยู่ไกลได้รับรู้ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป อุปกรณ์พวกนี้ ถูกใช้เพื่อความบันเทิงมากขึ้น ทั้งงานคอนเสริต เปิดเพลง ร้องคาราโอเกะ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย คือ ไมโครโฟน

ไมโครโฟน ทำหน้าที่อะไร ? ไมโครโฟน ทำหน้าที่รับเสียง เพื่อป้อนเข้าสู่ระบบเพื่อขยายต่อไป ถ้าเปรียบเทียบไมค์โครโฟน กับอวัยวะของคนก็คือ “หู” นั่นเอง

ประเภทของไมโครโฟน การแบ่งประเภทของ ไมโครโฟน มีหลายแบบมาก ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เกณท์อะไรในการแบ่ง แต่ไมค์ 95% จะจัดอยู่ใน 2 ชนิดนี้เป็นหลัก ได้แก่

  1. ไดนามิก ไมโครโฟน การทำงาน คือ การรับสัญญาณคลื่นเสียง ที่กระทบกับแผ่นรับเสียง เรียกว่า ไดอะเฟรม (Diaphragm) เมื่อแผ่นรับเสียงเกิดการสั่นสะเทือน จะทำให้ขดลวดที่พันอยู่รอบ ๆ เคลื่อนที่ตัดสนามแม่เหล็ก เกิดเป็นแรงดันไฟฟ้าที่ขดลวด ส่งผ่านไปยัง เครื่องขยายเสียง ทำให้เกิดเสียงที่มีความดังขึ้นมาไมโครโฟนชนิดนี้ เป็นไมค์ที่ถูกใช้มาก มักพบเห็นได้บ่อย ๆ ในงาน ระบบเสียง ต่าง ๆ เป็นไมค์เอนกประสงค์ ใช้งานได้หลากหลายสถานการ ทั้ง เสียงพูด เสียงเครื่องดนตรีต่าง ๆ ข้อดีของไมค์ชนิดนี้คือ ใช้ง่าย ต่อเสียบแล้วใช้งานได้ทันที
  2. คอนเดนเซอร์ ไมโครโฟน ประกอบไปด้วย แผ่นรับเสียง ไดอะเฟรม (Diaphragm) ประกบกับแผ่นเพลท ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเก็บประจุ เมื่อเสียงทำให้ไดอะเฟรมสั่นสะเทือน ค่าความจุของตัวเก็บประจุก็จะเปลี่ยนแปลง เกิดเป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วส่งผ่านไปยังเครื่องขยายเสียงทำให้เกิดเสียงขึ้นไมโครโฟน ชนิดนี้จะตอบสนองความถี่สูงได้ดี การใช้งาน ไมค์ คอนเดนเซอร์จะต้องมีแหล่งจ่ายไฟเลี้ยง หรือมีแบตเตอรี่ถึงจะทำงานได้

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SENNHEISER XS1

฿2,240.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SHURE SM58-LC

฿4,390.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

NTS B.58

฿380.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SHURE SV100

฿1,090.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

LEWITT MTP 250 DM

฿2,290.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SHURE PGA48-LC

฿1,590.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

Superlux TM58

฿900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SENNHEISER e835s

฿3,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

behringer SL 84C

฿720.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SHURE SM58s

฿4,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

sE Electronics V7

฿3,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ไมโครโฟน ร้อง/พูด (ใช้สาย)

SENNHEISER e935

฿8,190.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

2.มิกเซอร์

มิกเซอร์ ทำหน้าที่อะไร ?

มิกเซอร์ แปลว่า ผสม หน้าที่หลักของ มิกเซอร์ในระบบเสียง คือ ผสมสัญญานเสียง จากหลาย ๆ ไมค์ แล้วส่งสัญญาณออกจากมิกเซอร์ไปสู่ระบบขยายต่อไป และมิกเซอร์ก็ยังมีหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับ ความแรงสัญญาณเสียงขาเข้า แต่งโทนเสียง EQ บาลานซ์เสียง หรือ การยกเอาพวกเอาท์บอร์ดเกียร์ หรือ เครื่องปรุงแต่งเสียง ใส่เข้าไปในมิกเซอร์ จนเป็น มิกเซอร์ดิจิตอล ในปัจจุบัน

มิกเซอร์ เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องมีผู้ควบคุม ปรับแต่ง อยู่ตลอดเวลา ที่เห็นได้ในคอนเสริตใหญ่ ๆ มีลำโพงนับร้อยใบ ถูกควบคุมผ่านคนเพียงคนเดียวคือ มือซาวด์ หรือ คนมิกซ์เสียงนั่นเอง

สรุปหน้าที่ของ มิกเซอร์ คือ

  1. รวมเสียงจากหลาย ๆ แหล่ง ทั้ง ไมโครโฟน เครื่องดนตรี คอมพิวเตอร์ มือถือ เป็นต้น
  2. ปรับความแรงของสัญญาณเสียงให้เหมาะสม (Gain)
  3. ปรับระดับความดังเสียง
  4. ปรับแต่งเสียงต่าง ๆ เช่น EQ คอมเพลสเซอร์ เอฟเฟค
  5. ควบคุมเสียงของลำโพงทั้งหมด

ประเภทของ มิกเซอร์

  1. มิกเซอร์ดิจิตอล เป็นที่นิยมในปัจจุบันมาก เพราะ มีขนาดเล็กกว่า ปรับแต่งเสียงได้มากกว่า ราคาถูกกว่า ถ้าเทียบกับอนาล็อกมิกเซอร์ที่มีแชนแนล และ ความสามารถในการมิกซ์เท่ากัน มิกเซอร์ดิจิตอล ใช้หลักการจำลองอุปกรณ์อนาล็อคให้อยู่ในรูปแบบชิพประมวลผลแบบดิจิตอล ทำให้มีขนาดเล็ก ต้นทุนต่ำ มิกเซอร์ดิจิตอล ก็จะมีแบ่งเป็น 2 แบบอีก คือ มิกเซอร์ดิจิตอลที่มีหน้าบอร์ด มิกเซอร์ดิจิตอลแบบแร็ค
  2. มิกเซอร์อนาล็อค ต้นฉบับดั้งเดิมของมิกเซอร์ โดยจะใช้วงจรไฟฟ้าในการปรับแต่งเสียงต่าง ๆ ข้อดีของมิกเซอร์อนาล็อคคือได้คาแรคเตอร์เสียงที่ดิจิตอลทำได้ยาก มีรายละเอียดเสียงที่ดีมาก ไม่ถูกลดทอนจากการแปลงสัญญานเหมือนพวกดิจิตอล แต่ก็มีขนาดใหญ่มาก ถ้าเทียบกับมิกเซอร์ดิจิตอล แต่ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์อนาล็อก

Alesis Multimix 8 USB FX

฿5,850.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์อนาล็อก

ALTO ZMX 122 FX

฿3,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าเลิกผลิต

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์ดิจิตอล

YAMAHA AG06

฿7,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์ดิจิตอล

Mackie DL16S

฿35,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์ดิจิตอล

Allen & Heath Avantis Series

฿622,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

มิกเซอร์ดิจิตอล

Allen & Heath SQ5

฿134,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

มิกเซอร์อนาล็อก

TADA Fancy 8

฿2,899.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์ดิจิตอล

behringer X AIR XR16

฿24,300.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

มิกเซอร์

YAMAHA AG03

฿5,700.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สเตจบ็อก

Allen & Heath DX-168

฿75,350.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

มิกเซอร์อนาล็อก

RCF F 10XR

฿14,820.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

สเตจบ็อก

behringer STAGE BOX SD16

฿27,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

3.เครื่องปรุงแต่งเสียง

เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิธิภาพให้ระบบเสียงได้ดีมาก เปลี่ยนลำโพงเสียงไม่ดี ให้เสียงดีได้เหมือนเปลี่ยนผีให้เป็นคนอะไรประมาณนั้นเลย โดยคนไทยให้ฉายาอุปกรณ์ประเภทนี้ว่า “เครื่องปรุงแต่งเสียง” นั่นเอง จะมีลักษณะเป็นแท่นบาง ๆ มีปุ่มปรับเยอะ ๆ มักอยู่ในแรคซ้อนกันเป็นตั้ง ๆ หลายคนหลงไหลในระบบเสียงเพราะสิ่งนี้แหละ

เครื่องปรุงแต่งเสียง ทำหน้าที่อะไร ? ก็ตามชื่อเลยครับ เอาไว้ปรับแต่งเสียง ไม่ว่าจะเป็น EQ คอมเพลสเซอร์ ครอสโอเวอร์ Gate Limiter ล้วนเป็นเครื่องปรุงแต่งเสียงทั้งสิ้น โดยหน้าที่ของแต่ละส่วนก็แตกต่างกันไป ในอดีตอุปกรณ์พวกนี้จะอยู่แยกกัน แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้รวมสิ่งเหล่านี้เข้ามาอยู่ในรูปแบบดิจิตอลหมดแล้ว โดยจำลองจากเครื่องปรุงแต่งเสียงแบบอนาล็อคตามนี้เลย

EQ หรือ Equalizer

  • EQ ย่อมาจาก Equalizer โดยรากศัพท์แล้วแปลว่า “ผู้ที่ทำให้เท่ากัน” ทำหน้าที่ปรับแต่งความถี่เสียงลำโพง ให้มีความเท่ากันกับเสียงที่เราต้องการ ที่เรียกกันติดปากว่าที่ปรับเสียง เบส กลาง แหลม นั่นแหละ แต่ EQ ใน เครื่องปรุงแต่งเสียง จะมีความละเอียดกว่ามาก โดยปรับได้เป็นหลักทศนิยม และ ยังเลือกความกว้างแคบ รูปแบบต่าง ๆ ได้ละเอียดกว่ามาก

คอมเพลสเซอร์ (Compressor)

  • คอมเพลสเซอร์ แปลว่าผู้บีบอัด ทำหน้าที่บีบอัดความดังของสัญญาน ให้ไม่แกว่งจนเกินไป อุปกรณ์ตัวนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะ ช่วยสร้างคาแร็คเตอร์ของเสียง ให้มีความหนา กลม กระชับ มากขึ้น จนปัจจุบัน แม้อุปกรณ์เครื่องปรุงแต่งเสียงจะค่อย ๆ เลือนหายไป แต่คอมเพลสเซอร์ก็ยังมีให้เห็นอยู่เป็นประจำ

ลิมิตเตอร์ (Limitter)

  • ลิมิตเตอร์ แปลว่า จำกัด ทำหน้าที่จำกัดสัญญานเสียง ไม่ให้ดังเกินกว่าที่เรากำหนดไว้ เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ในการป้องกันความเสียหายของดอกลำโพง จากการเปิดเสียงดังจนเกินไป ถ้าตั้งลิมิตเตอร์ได้ดี บอกเลยไม่ว่าจะอัดดังแค่ไหน ดอกก็ไม่ขาด ใช้ได้ยาว ๆ หมดห่วงเรื่องดอกพัง ในอดีตจะอยู่ในรูปแบบอนาล็อคแต่ปัจจุบันไปอยู่ในดิจิตอลเกือบทั้งหมดแล้ว

Gate

  • Gate เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยได้พบบ่อย และ ไม่ค่อยได้ใช้ในการปรับแต่งเสียงลำโพง ตัวนี้ทำหน้าที่ช่วยเปิดปิดสัญญานเสียงอัตโนมัติ โดยถ้าไม่มีสัญญานเสียงป้อนเข้ามา หรือ มีสัญญานเสียงอ่อน ๆ ตัว Gate จะปิดไม่ยอมให้สัญญานเสียงผ่านออกไปได้ แต่ถ้ามีสัญญานดังจนถึงจุดที่เรากำหนดไว้ ตัว Gate จะเปิดให้เสียงผ่านไปได้ ส่วนมากเอาไว้ลด Noise หรือเสียง ซ่า อ่อน ๆ ที่ออกจากลำโพง ถ้าใช้ Gate จะช่วยให้เสียง Noise ลดลง หรือ หายไปได้

ครอสโอเวอร์

  • ครอสโอเวอร์ อุปกรณ์ตัวสำคัญที่สุด ขาดไม่ได้ในระบบเสียงที่มีลำโพงเยอะ ๆ ทำหน้าที่เรียบง่าย แต่ทำให้ประสิทธิภาพของระบบเสียง โดยรวมสูงขึ้นแบบเยอะมาก ๆ หน้าที่แบ่งความถี่ให้ลำโพง แต่ละตัวทำงานที่ตัวเองถนัด ยกตัวอย่างเช่น ให้ลำโพงเสียงแหลมทำงานแค่ความถี่สูง ๆ เท่านั้น ให้ลำโพงดอกใหญ่ ๆ ทำงานที่ความถี่ต่ำเท่านั้น อย่างนี้เป็นต้น การแบ่งความถี่แบบนี้เรียกตามภาษาบ้าน ๆ ว่าการตัดครอสนั่นเอง

ครอสดิจิตอล หรือ ดิจิตอลโปรเซสเซอร์ ในยุคสมัยใหม่ ได้มีการรวมเอาอุปกรณ์ปรุงแต่งเสียงต่าง ๆ มารวมไว้ในรูปแบบดิจิตอลทั้งหมดแล้ว โดยที่คนไทย มักเรียกติดปากกันว่า ไดเวอร์แรค ครอสดิจิตอล นั่นเอง จะมีลักษณะเป็นแท่นขนาด 1U ด้านในใช้ชิพประมวลผลเพื่อเลียนแบบวงจรแบบอนาล็อก จึงมีฟังก์ชันครบครันในตัวเดียว สามารถบันทึกการตั้งค่าได้ในตัว ตู้ลำโพงส่วนมากจะแถมการตั้งค่าประจำตู้ สำหรับใช้กับโปรเซสเซอร์ที่เรียกกันว่า “พรีเซ็ต” เพื่อให้เสียงของตู้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

Marani DPA 260RTA

฿13,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

Marani DPA260P

฿10,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

Marani MIR260A

฿16,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

dB MARK DP26+

฿9,300.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

VL AUDIO V-DSP LM-26F

฿24,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

Equalizer

behringer FBQ-1502

฿5,040.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

Equalizer

behringer FBQ-6200

฿8,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

Marani MIR480A

฿21,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

Compressor เครื่องเสียง

behringer MDX-2600

฿6,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ครอสโอเวอร์ดิจิตอล

Marani DPA480P

฿19,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ครอสโอเวอร์อนาล็อก

dbx 234xs

฿9,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

Compressor เครื่องเสียง

behringer XR-4400 GATE

฿7,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

4.เพาเวอร์แอมป์

หนึ่งในหัวใจหลักของระบบเสียง เป็นอุปกรณ์ที่เปรียบเสมือนขุมพลัง ของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ กินไฟมากที่สุดในระบบเสียง ทำงานหนักที่สุด เป็นเครื่องยนต์ของระบบเสียงเลยก็ว่าได้ ในระบบเสียงแต่ละชุด จะใช้ปริมาณเพาเวอร์แอมป์ต่างกัน ทั้งจำนวน และ ขนาดในการใช้พาวเวอร์แอมป์ ก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้ลำโพงมากน้อยเท่าไร ถ้าลำโพงเยอะ พาวเวอร์แอมป์ก็จะยิ่งเยอะตามไปด้วย

เพาเวอร์แอมป์ มีหน้าที่อะไร ? หน้าที่ของเพาเวอร์แอมป์ คือ ขยายสัญญานให้มีกำลังมากพอ ที่จะทำให้ลำโพงมีเสียงได้ แน่นอนว่าสัญญานพูดที่เข้ามาที่ไมโครโฟนนั้นอ่อนมาก ถึงจะถูกขยายด้วยปรีไมค์ในมิกเซอร์ แล้วก็ยังมีกำลังไม่พอ ที่จะขยับดอกลำโพงใหญ่ ๆ ได้ ดังนั้นเพาเวอร์แอมป์จึงมารับช่วงต่อ กำลังของเพาเวอร์แอมป์นั้นบอกเป็น วัตต์ ยิ่งวัตต์สูงก็ยิ่งขับลำโพงได้ดังขึ้น หลายใบมากขึ้น แต่ก็มีขนาด และ น้ำหนักมากขึ้นเช่นเดียวกัน

ใช้ เพาเวอร์แอมป์ กี่วัตต์ดี ? แนะนำให้วัตต์ RMS ของเพาเวอร์แอมป์ เท่ากับ วัตต์โปรแกรมของลำโพง อย่างน้อยควรเลือกให้วัตต์ RMS ของลำโพง และ เพาวเวอร์แอมป์เท่ากันพอดี แต่ให้เลือกเผื่อไว้ก่อนได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าถ้าวัตต์ของเพาเวอร์แอมป์มากเกินไป จะทำให้ดอกลำโพงขาด เราสามารถกำหนดกำลังขยายของเพาเวอร์แอมป์ได้ในภายหลัง

  • อยากรู้ลึกเกี่ยวกับวัตต์ลำโพง อ่านบทความนี้ได้เลย: การดูกำลังวัตต์ของลำโพง

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

VOK V15

฿17,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

เพาเวอร์แอมป์ PA

MICRO TECH MT-4800

฿14,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

MICRO TECH MT4-1500D

฿18,600.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

VL AUDIO VL 14000

฿43,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

myNPE D-8004

฿14,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์มิกเซอร์

myNPE Power Mixer GT-850

฿7,990.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

Ce-anCe CA-2500

฿4,450.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

VOK V17.5

฿18,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

MICRO TECH MT-4400

฿9,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

เพาเวอร์แอมป์ PA

VL AUDIO VL 20000Q

฿47,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

Crown XTi-1002

฿29,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

เพาเวอร์แอมป์ PA

VOK V20

฿22,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

5.ลำโพง

ลำโพง อุปกรณ์ปลายสุดท้ายของระบบเสียง ลำโพงมีส่วนสำคัญมากที่จะบอกว่าระบบเสียงนั้นเสียง ดี และ ดัง มากแค่ไหน ในงานคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ มีการใช้ลำโพงหลายร้อยใบเพื่อให้เสียงมีความดังครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ลำโพงมักเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจำใช้เพาเวอร์แอมป์กี่แท่น ใช้โปรเซสเซอร์ตัวไหนถึงจะเหมาะ ดังนั้นแนะนำให้เลือกลำโพงก่อนเป็นอันดับแรกในการจัดชุดเครื่องเสียง

ลำโพง มีหน้าที่อะไร ? ลำโพงมีหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง โดยอุดมคติแล้วลำโพงควรผลิตเสียงให้มีความเหมือน หรือ ใกล้เคียงกับสัญญานที่ป้อนเข้ามาให้มากที่สุด แต่ยิ่งลำโพงมีคุณภาพดีเท่าไร ก็ยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น แต่ในเทคโนโลยีปัจจุบันมีการใช้ครอสดิจิตอลเข้ามาช่วยเพื่อปรับแต่งคุณภาพเสียงให้ลำโพงเสียงดีขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตามการเลือกลำโพงที่เสียงดีตั้งแต่แรกก็เป็นผลดีกว่าการแก้โดยใช้โปรเซสเซอร์

ประเภทของลำโพง PA ลำโพง PA ที่เราเห็นทั่วไปจะมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1.ตู้ลำโพงพอยซอร์ส (Point Souce Speaker) เป็นลำโพงรูปแบบดั้งเดิมที่สุด เกิดขึ้นในยุคแรก ๆ และ ยังเป็นที่นิยมมากอยู่ในปัจจุบัน ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากจุกจิก แค่เสียบสายก็ใช้งานได้ทันที ติดตั้งตรงระดับหูพอดี หรือ สูงกว่าระดับหูแล้วก้มตู้ลงเล็กน้อย แต่ลำโพงชนิดนี้จะเน้นใช้จำนวนน้อย ๆ เพราะ มีการกวนกันของตู้แต่ละใบมากถ้าใช้จำนวนมากกว่า 2 ใบต่อข้าง ทำให้โทนในแต่ละพื้นที่ในงานมีความแกว่งอ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่

  • 7 เคล็ดลับ ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อ DSP
  • ครบเครื่อง เรื่องลำโพง PA
  • การตัดครอสโอเวอร์ (เบื้องต้น)
  • การแขวนลำโพงไลน์อาเรย์ รูปแบบต่าง ๆ

2.ตู้ลําโพง ไลน์อาเรย์ (Line Array Speaker) หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า ตู้ลำโพงแขวน นั่นเอง เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เจ๋งมาก จุดเด่นของลำโพงชนิดนี้คือ ความดัง และ โทนเสียง ในแต่ละพื้นที่ในงานใกล้เคียงกันมาก แถมยังสามารถใช้ลำโพงหลาย ๆ ใบมาต่อกันได้โดยที่เสียงไม่เละเหมือนการใช้ตู้ลำโพงพอยซอร์ส และ ได้ความดังที่สูงมาก ๆ ด้วย แต่ลำโพงชนิดนี้ต้องมีความรู้ความเข้าใจพอสมควรในการคำนวนองศาแขวน การเพิ่มจำนวนใบก็มีผลต่อโทนเสียงด้วย

3.ตู้ลำโพง ซับวูฟเฟอร์ ระบบเสียงจะดังสะใจได้ต้องใช้ลำโพงซับวูฟเฟอร์เป็นตัวสำคัญเลย ซับวูฟเฟอร์ช่วยในเรื่องของเสียงเบสที่ แน่น ตึบ ทำให้รู้สึกสนุก และ กระหึ่มมากขึ้นนั่นเอง คนไทยชอบเสียงซับมาก จะสังเกตุได้จากสัดส่วนของตู้เสียงเบสจะมากกว่ากลางแหลมเสมอ

พาสซีพ (Passive) หรือ แอคทีพ (Active) ตู้ลำโพงก็จะแบ่งเป็น 2 แบบหลัก ๆ อีกเช่นกันคือ พาสซีพ (Passive) และ แอคทีพ (Active)

ตู้ลำโพงแอคทีพ (Active) ตู้ลำโพงแอคทีพ (Active) คือ ตู้ลำโพงที่เสียบปลั๊กแล้วพร้อมดังเลย จะมีเพาเวอร์แอมป์ในตัว ใช้งานง่าย ส่วนมากจะมีโปรเซสเซอร์ในตัวด้วยทำให้เสียงดีตั้งแต่แกะกล่องเลย และ มี Limiter ป้องกันดอกขาดมาให้ในตัว ทำให้ไม่ต้องซือเครื่องปรุงแต่งเสียงเพิ่มเลยตู้แอคทีพสังเกตุได้จากด้านหลังของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับเยอะกว่าตู้ปกติ และ ไม่ใช่แค่ตู้พอยซอร์สแบบเดียวที่มีแอมป์ในตัว ตู้ซับวูฟเฟอร์ ตู้ลำโพงไลน์อาเรย์ ก็มีแบบแอคทีพด้วยเช่นกัน

ข้อดี– อุปกรณ์น้อยชิ้น– เสียงดีเลย- ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องอุปกรณ์แยก

ข้อเสีย– ต้องมีปลั๊กไฟไปเลี้ยงลำโพง– โดนน้ำไม่ได้

ตู้ลำโพงพาสซีพ (Passive) ตู้ลำโพงพาสซีพ (Passive) เป็นลำโพงที่นิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยความใช้งานง่าย เสียบสายลำโพงก็สามารถใช้งานได้ทันที ในระบบเสียงปัจจุบันก็มีการใช้กันเยอะ ลำโพงชนิดนี้ต้องใช้เพาเวอร์แอมป์แยกด้วย ถ้าต้องการใช้ร่วมกับซับก็ต้องใช้ครอสโอเวอร์ หรือ พวกเครื่องปรุงแต่งเสียงเพิ่มด้วย

ข้อดี– ดูแลรักษาง่าย– พ่วงตู้ลำโพงง่าย- สามารถรวมเพาเวอร์แอมป์เป็นจุดเดียวได้

ข้อเสีย– เดินสายลำโพงยาวมากไม่ดี– ต้องใช้อุปกรณ์หลายชิ้นกว่า

ตู้เสียงกลาง Passive

Phantom PH115P

฿6,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้ลำโพง ไลน์อาเรย์ พาสซีฟ

Turbosound BERLIN TBV123

฿81,500.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive

VL AUDIO VD-S118

฿15,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

Phantom PH112P

฿5,450.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive

NEXO RS18

฿346,800.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

Turbosound TPX152

฿9,450.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

ลำโพงมอนิเตอร์ เวที Passive

River Acoustics Xmax M15

฿10,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

behringer EUROLIVE B215XL

฿14,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

behringer EUROLIVE VP1220

฿15,000.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

XXL B-210

฿2,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้เสียงกลาง Passive

PROPLUS PW-S15

฿4,200.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สินค้าสั่งจอง

สินค้าสั่งจองล่วงหน้า

ตู้ลำโพง ไลน์อาร์เรย์ Passive

JBL BRX308-LA

฿34,900.00 (รวม VAT 7% แล้ว)

สายสัญญาน และ สายลำโพง สายก็เป็นส่วนที่สำคัญมากในระบบเสียง เปรียบเหมือนเส้นประสาทที่คอยส่งสัญญานเสียงจากอุปกรณ์หนึ่งไปอุปกรณ์หนึ่ง หลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ต่อยังไง ใช้สายแบบไหน ที่สำคัญคือหัวเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลายแบบมาก แต่ที่ใช้หลัก ๆ มีอยู่ไม่กี่อย่างโดยสายจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ

สายสัญญานโดยทั่วไปจะใช้สายแบบ Balance มีตัวนำสัญญาน 2 เส้น คือสี น้ำเงิน แดง และมีอีกเส้น เป็นทองแดงที่ถักอยู่รอบ ๆ แกนสายเรียกว่า ชิล รวมทั้งหมดเป็น 3 เส้น จะมีการเข้าหัวอยู่หลายแบบ ส่วนใหญ่จะเข้าหัวแบบ XLR ด้านนึงเป็นตัวผู้ อีกด้านเป็นตัวเมีย

สายลำโพงมีอย่างน้อย 2 แกน เป็นขั้ว + และ – ของลำโพง มีหลายขนาด ตั้งแต่ 0.5, 1, 2.5 มิลิเมตร ยิ่งสายลำโพงยาวเท่าไรต้องใช้สายเบอร์ใหญ่เท่านั้น สายลำโพงจะมีการเข้าหัวสำหรับเสียบลำโพง และ เพาเวอร์แอมป์ที่เรียกว่า SpeakON เหมือนกันทั้ง 2 ด้าน

หัวการเชื่อมต่อเป็นอีกจุดที่ควรให้ความสำคัญ เพราะ มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา การที่ใช้หัวคุณภาพต่ำ ทำให้หลวม มีคราบสกปรกเข้าไปก็ทำให้สัญญานเดินได้ไม่ดีนัก เราสามารถดูหัวแจ็คก็รู้ได้เลยว่าอุปกรณ์ไหนสามารถใช้งานร่วมกันได้บ้าง ในระบบเสียงมาตรฐานจะมีอยู่ไม่กี่แบบตามนี้เลย

XLR ตัวผู้หลายคนสับสนระหว่างตัวผู้-ตัวเมียของหัวชนิดนี้ ตัวผู้นั้นจะมีเดือย 3 อัน ยื่นออกมา ในระบบเสียงตัวผู้จะถูกต่ออยู่กับ Input ของอุปกรณ์ที่นำไปเชื่อมต่อ พูดง่าย ๆ คือ สัญญานเสียงจะวิ่งจากตัวเมียไปตัวผู้ของสายสัญญานอยู่เสมอ

XLR ตัวเมียมีลักษณะเป็นรู 3 รู และ มีเดือยสำหรับล็อคด้วย ในระบบเสียง XLR ตัวเมียมักถูกเสียบอยู่กับขา Output ของุปกรณ์ที่นำไปเชื่อมต่ออยู่เสมอ สายที่ถูกใช้เยอะที่สุดคือสายที่มีหัว XLR นี่แหละ โดยด้านหนึ่งของสายจะเป็นตัวผู้อีกด้านจะเป็นตัวเมีย

สเปคคอน (SpeakON)หัวเชื่อมต่อสำหรับลำโพงโดยเฉพาะ ใช้งานง่าย ป้องกันการต่อสายกลับเฟสได้ดีมาก เพราะ ถ้าเข้าหัวถูกต้องแล้ว ผู้ใช้มีหน้าที่แค่เสียบก็สามารถใช้งานได้ทันที ความพิเศษอีกอย่างของหัวชนิดนี้คือจะสามารถใช้กับสายลำโพง 4-8 คอร์ได้ในหัวเดียว นั่นหมายความว่าเราสามารถต่อลำโพง 2 ทาง ที่ใช้แอมป์ 2 แชนแนลในการขับในสายลำโพงเส้นเดียวได้เลย

ลําโพงเป็นอุปกรณ์ประเภทใด

ลำโพง (อังกฤษ: loudspeaker, speaker) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชิงกลอย่างหนึ่ง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง มีด้วยกันหลายแบบ คำว่า ลำโพงมักจะเรียกรวมกัน ทั้งดอกลำโพง หรือตัวขับ (driver) และลำโพงทั้งตู้ (speaker system) ที่ประกอบด้วยลำโพงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับแบ่งย่านความถี่ (Crossover Network)

ลําโพงถือเป็นอุปกรณ์ในหน่วยใด

หน่วยแสดงเสียง ซึ่งประกอบขึ้นจาก ลำโพง (Speaker) และการ์ดเสียง (Sound card) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงในขณะทำงาน หรือให้เครื่องคอมพิวเตอร์รายงานเป็นเสียงให้ทราบเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ไม่มีกระดาษในเครื่องพิมพ์ เป็นต้น รวมทั้งสามารถเล่นเกมส์ที่มีเสียงประกอบได้อย่างสนุกสนาน โดยลำโพงจะมีหน้าที่ในการแปลงสัญญาณจาก ...

ลําโพง มีหน้าที่อะไร

ลำโพง (Loudspeaker) ทำหน้าที่ถ่ายทอดและขยายสัญญาณเสียงจากอุปกรณ์กำเนิดเสียงภายในคอมพิวเตอร์เช่น ซาวด์การ์ดและชิปเสียง

ลําโพง เรียกเป็นอะไร

loudspeaker [ speaker ] ลำโพงเสียง, อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นเสียง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] ... ลำโพง.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้