เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปร่าง ใช้ในการระบุความตรงของชิ้นงาน ใช้เพื่อระบุส่วนที่ยื่นออกมามากที่สุดและส่วนที่เว้าเข้าไปมากที่สุด ใช้ในการระบุว่าชิ้นงานควรจะใกล้เคียงกับวงกลมที่สมบูรณ์แบบมากเพียงใด ใช้ในการระบุว่าชิ้นงานควรจะมีความตรงมากเพียงใดและควรจะใกล้เคียงกับวงกลมที่สมบูรณ์แบบมากเพียงใด ใช้ในการระบุว่าชิ้นงานควรจะมีความโค้ง (ของส่วนตัดขวาง) มากเพียงใดเมื่อเทียบกับแบบร่าง ใช้ในการระบุว่าชิ้นงานควรจะมีความโค้ง (ของส่วนตัดขวาง) มากเพียงใดเมื่อเทียบกับแบบร่าง เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของทิศทางการวาง ใช้เพื่อระบุว่าเส้น 2 เส้นหรือระนาบ 2 ระนาบจะมีความขนานที่แม่นยำเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum ใช้เพื่อระบุว่าชิ้นงานจะมีความตั้งฉากที่แม่นยำเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum ใช้เพื่อระบุว่าชิ้นงานจะมีความเป็นมุมที่แม่นยำเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของตำแหน่ง ใช้เพื่อระบุว่าชิ้นงานมีตำแหน่งที่แม่นยำเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum ใช้ในการระบุว่าแกนของทรงกระบอก 2 ชิ้นมีความร่วมแกน (ไม่มีความเบี่ยงเบนจากแกนกลาง) มากเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum ความร่วมศูนย์ ใช้ในการระบุว่าแกนของทรงกระบอก 2 ชิ้นมีความร่วมศูนย์ (ไม่มีความเบี่ยงเบนจากจุดศูนย์กลาง) มากเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum ใช้เพื่อระบุว่าชิ้นงานจะมีความสมมาตรที่แม่นยำเพียงใดเมื่อเทียบกับ Datum เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของการหนีจากจุดอ้างอิง ใช้ในการระบุการหนีจากจุดอ้างอิงที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของเส้นรอบวงเมื่อชิ้นงานหมุน ใช้เพื่อระบุการหนีจากจุดอ้างอิงของพื้นผิวทั้งหมดเมื่อชิ้นงานหมุน “E” จะหมายถึง “Envelope” สัญลักษณ์นี้จะระบุถึงความสัมพันธ์ของเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของขนาดและเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปทรงเรขาคณิต โดยจะระบุ Envelope ของรูปร่างสมบูรณ์ “F” หมายถึง “สภาวะอิสระ” สัญลักษณ์นี้ระบุถึงการเปลี่ยนรูปที่เกินกว่าเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของขนาดหรือเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปทรงเรขาคณิตภายใต้สภาวะอิสระ “L” หมายถึง “ส่วนที่มีปริมาณเนื้อวัสดุเหลือน้อยที่สุด” สัญลักษณ์นี้จะระบุถึงการใช้ปริมาณของวัสดุน้อยที่สุด “M” หมายถึง “ส่วนที่มีปริมาณเนื้อวัสดุเหลือมากที่สุด” สัญลักษณ์นี้จะระบุถึงส่วนที่มีปริมาณเนื้อวัสดุเหลือมากที่สุด “P” หมายถึง“ขอบเขตความคลาดเคลื่อนที่ประมาณการณ์” สัญลักษณ์นี้จะระบุเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนที่ใช้กับส่วนที่ยื่นออกมาของ Feature สัญลักษณ์ที่ใช้โดยมาตรฐาน ANSI ซึ่งหมายถึง “โดยไม่คำนึงถึงขนาดของ Feature (RFS)” สัญลักษณ์นี้ได้ถูกยกเลิกไปในมาตรฐาน ASME Y14.5-2009
“T” หมายถึง “ระนาบสัมผัส” การทำมุมของระนาบที่สัมผัสกับพื้นผิวเมื่อเทียบกับระนาบ Datum ภายในระยะของพื้นผิวที่กำหนดจะระบุโดยใช้ความขนาน โดยระนาบสัมผัสจะระบุถึงความนูนของพื้นผิว ไม่ใช่ความเว้า ซึ่งแตกต่างจากความขนาน
“U” หมายถึง “โปรไฟล์ที่ถูกนำออกไม่เท่ากัน” ซึ่งจะระบุช่วงของปริมาณค่าชดเชยที่เกินมาจากขอบเขตความคลาดเคลื่อน (ขีดจำกัดขอบเขตความคลาดเคลื่อน) ในแง่ของความคลาดเคลื่อนที่โปรไฟล์ของระนาบ หากเป็นมาตรฐาน ISO จะใช้ “UZ” กำกับแทน
การระบุของสัญลักษณ์ เกณฑ์ความคลาดเคลื่อน เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปทรงเรขาคณิตแบบต่างๆ ตำแหน่ง และข้อกำหนดอื่นๆ ตำแหน่งของ Datum จุด เส้น หรือพื้นที่ที่ใช้กำหนด Datum มิติแท้จริงทางทฤษฎี (TED) “CZ” หมายถึงพื้นที่ร่วม สัญลักษณ์นี้จะระบุเพื่อให้ถือว่า Feature หลาย Feature ที่แยกกันนั้นเป็นพื้นที่ความคลาดเคลื่อนเดียวกัน หมายถึงการใช้เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปทรงเรขาคณิตกับเส้นรอบรูปของ Feature ที่ระบุโดยใช้ลูกศร หมายถึงการใช้เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของรูปทรงเรขาคณิตกับ Feature ทั้งหมดที่ระบุโดยใช้ลูกศร เป้าหมายของ Datum ที่กำหนดและชิ้นงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้ ตัวอย่างเช่น แม้จะมีการติดชิ้นส่วนเข้ากับชิ้นงานหรือการเปลี่ยนรูปร่างของชิ้นงาน แต่เป้าหมายของ Datum และตัว Datum เองก็ยังสามารถเคลื่อนที่ได้
การเกลาผิวที่จะคว้านรูที่มีแกนกลางร่วมกันอีกรูหนึ่งให้ใหญ่ขึ้น ข้อมูลจำเพาะที่จะกำหนดเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนให้กับชิ้นส่วนที่ประกอบกันแล้วโดยอิงจากสถิติ เมื่อใช้เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนทางสถิติ เกณฑ์ความคลาดเคลื่อนของส่วนประกอบแต่ละชิ้นอาจเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะลดช่องห่างระหว่างส่วนประกอบและชิ้นส่วนที่นำมาประกอบกัน ถึงแม้ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและ/หรือลดต้นทุนการผลิตได้ แต่การใช้งานเกณฑ์ความคลาดเคลื่อนนี้ก็ยังต้องอาศัยกระบวนการจัดการทางสถิติที่เหมาะสมก่อน “CF” หมายถึง “Feature ต่อเนื่อง” ข้อกำหนดนี้จะระบุเมื่อต้องปฏิบัติกับ Feature ทั้งหลายให้เป็น Feature เดี่ยวทางเรขาคณิต
ดัชนี