1 มีสมาธิในการฟัง การมีสมาธิเป็นสิ่งจำเป็นมากในการฟัง ผู้ฟังต้องตัดความวิตกหรือความกังวลใจต่าง ๆ ออกจากจิตใจให้หมด ฉะนั้นทุกครั้งที่ฟังเรื่องใดก็ตาม ผู้ฟังต้องหมั่นฝึกความมีสมาธิให้แก่ตนเองพยายามพุ่งความสนใจไปในเรื่องที่ตนกำลังฟังนั้น
2 ตั้งจุดมุ่งหมายในการฟัง ในการฟังแต่ละครั้งผู้ฟังควรตั้งจุดมุ่งหมายไว้ว่าจะฟังเพื่ออะไร เช่น ฟังเพื่อจับใจความสำคัญ ฟังเพื่อความเพลิดเพลิน เป็นต้น การฟังอย่างไร้จุดหมายย่อมเสียเวลาในการฟัง
3 วิเคราะห์เจตนาของผู้พูด คือ ต้องรู้จักวิเคราะห์เจตนาของผู้พูด ว่า ผู้พูดมีความประสงค์อย่างไร มีสิ่งใดแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในเรื่องที่พูดหรือไม่
4 สนใจและจับประเด็นสำคัญเรื่องที่ฟังให้ได้ คือขณะฟังต้องรู้จักใช้สติปัญญาวิเคราะห์ดูว่า ผู้พูดกำลังพูดเรื่องอะไร ให้สาระ ประโยชน์อะไรบ้าง เรื่องที่ฟังนั้นมีประเด็นสำคัญอย่างไร แล้วพยายามสรุปความคิดรวบยอดให้ได้
5 ต้องวางใจเป็นกลางไม่มีอคติใด ๆ ต่อผู้พูด การมีอคติและการจับผิดผู้พูดย่อมมีผลเสียมากกว่าได้ ควรหลีกเลี่ยงการจับผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การแต่งกาย การพูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ในบางคำ ฯลฯ เพราะจะทำให้ผู้ฟังเกิดรู้สึกว่าเรื่องที่กำลังฟังนั้นเป็นเรื่องที่น่าตำหนิ ควรสร้างเจตคติที่ดีต่อผู้พูดเสมอ การทำใจได้เช่นนี้ จะทำให้บรรยากาศการฟังเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจดี
6 ฟังด้วยความอดทนและตั้งใจฟัง ต้องอดทนและตั้งใจฟังตั้งแต่ต้นจนจบ การฟังอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ หรือฟังเพียงบางตอนย่อมทำให้ไม่สามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้สมบูรณ์
7 ฟังอย่างสำรวม ให้เกียรติผู้พูด และมีมารยาทอันดีงาม นับเป็นคุณสมบัติของผู้ฟังที่ดี การรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร เช่น การลุกเดินเข้าออก การทำเสียงเอะอะนับเป็นกิริยาที่ไม่เหมาะสม ถือว่าไม่ให้เกียรติ และเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง แสดงความคิดเห็นก็ควรทำภายหลัง
8 ใช้ศิลปะในการฟัง ผู้ฟังที่ดีไม่ควรฟังอย่างเดียว ควรใช้ไหวพริบในบางโอกาส เพื่อช่วยให้ผู้พูดสามารถถ่ายทอดความรู้ ความคิดของตนไปสู่จุดหมายปลายทาง ตามที่ผู้ฟังต้องการโดยการใช้คำถามที่ได้ จากการเชื่อถือผู้ฟังต้องการ
9 ขณะฟังควรบันทึกสิ่งสำคัญ หากสงสัย หากซัก ให้เหมาะสม
10 หลักการฟัง ผู้ฟังบันทึกว่า เรื่องราวต่าง ๆ ที่ฟังไปนั้นตรงกับข้อจริง และมีเหตุผลน่าเชื่อถือเพียงใด มีสิ่งใดจะนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้หรือไม่ และรู้จักนำความรู้หรือข้อคิดต่าง ๆ ที่ได้จากการฟังไปใช้ประโยชน์ ตามโอกาสอันสมควร
คยสังเกตหรือไม่ว่าหลายครั้งที่เรากำลังฟังคนอื่น เราตั้งใจฟังจริง ๆ หรือเปล่า หรือเราแค่เงียบเพื่อรอให้อีกฝั่งพูดจบ เพื่อเราจะได้พูดต่อ การฟังถือจึงเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีม และการฟังที่ดีนอกจากจะทำให้ผู้ฟังได้รับไอเดียใหม่ ๆ แล้ว ยังทำให้ผู้พูดกล้าแสดงไอเดีย ความคิดออกมา ทั้งนี้เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานดีดีให้กับองค์กร ถ้าอย่างนั้นผู้ฟังที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร?
//open.spotify.com/episode/6LyuMPQnpUNw5lFhpRLint
การฟังเป็นผู้ฟังที่ดี มันดีอย่างไร?
แน่นอนว่าการเป็นผู้ฟังเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เพราะคุณเป็นผู้รับ บางทีสิ่งที่ได้รับอาจเป็นสิ่งที่ดีหรือร้าย เช่น ไอเดียที่น้อง ๆ เสนอมาอาจเป็นไอเดียที่ดีหรือไม่ดีเลยก็ได้ ซึ่งอันนี้เราไม่มีทางรู้ ดังนั้นเราควรฟังอย่างเปิดใจ เพราะอาจจะมีไอเดียดี ๆ หลงเข้ามาบ้างก็ได้ ซึ่งไอเดียดี แหวกแนว และไม่คาดคิดแบบนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ อยู่ที่ว่าคุณเป็นผู้ฟังที่ดีหรือเปล่า
ผู้ฟังที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร
1. ผู้ฟังที่ดีต้องเปิดใจ
สมมติเวลาน้อง ๆ เสนอไอเดียมาแต่คุณไม่เปิดใจ มีอคติ รู้สึกว่าน้องคนนี้นำเสนอไอเดียมาแต่ละครั้ง ไม่ได้เรื่องทุกครั้งเลย ครั้งนี้ก็คงไม่ได้เรื่องอีกเหมือนเดิม แบบนี้แปลว่าคุณไม่เปิดใจ ดังนั้นไอเดียดี ๆ ที่ผ่านเข้ามามันก็อาจจะกลายเป็นไอเดียที่ไม่ดีในสายตาของคุณก็ได้
2. ผู้ฟังที่ดีต้องมี Interaction กับผู้พูด
การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่แค่นั่งเงียบ การตอบสนองต่อสิ่งที่คุณได้ยิน เช่น การพยักหน้า มองตา ยิ้มให้ หัวเราะให้ถูกจังหวะ หรือแม้แต่การเปล่งเสียง “อือ เอ้อ อ่อ เห็นด้วย” นั้นเป็นสิ่งที่ดี ทำให้คนพูดได้เห็นว่าคุณกำลังฟังเขาอย่างตั้งใจ การที่คุณนั่งนิ่ง ๆ เป็นตอไม้ในห้องประชุมอาจไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่
3. ผู้ฟังที่ดีต้องระงับสิ่งที่รบกวนการฟัง
เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ถ้าสิ่งที่เขากำลังพูดอยู่ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ให้ปิดมันลงไปซะ การที่คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นการไม่เคารพคนพูด และบางครั้งทำให้คนพูดเสียกำลังใจ และสงสัยว่าเขากำลังฟังเราอยู่หรือเปล่า หรือเขาไม่สนใจ หรือว่าเขาเบื่อ โดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งสูงหลายคนจะรู้สึกว่างานของฉันสำคัญ สายนี้ไม่รับไม่ได้ อีเมลนี้ไม่ตอบไม่ได้ คำถามคือมันสำคัญกว่าน้องที่กำลังยืนพูดอยู่ต่อหน้าต่อตาคุณตรงนั้นจริงหรือ บางเรื่องมันอาจไม่ได้สำคัญไปกว่าน้องที่กำลังพรีเซนต์สิ่งที่เขาทำมาตลอด 2 สัปดาห์ ก็ได้
4. ผู้ฟังที่ดีต้องแนะนำผู้พูด
เช่น วิธีนี้พี่เคยลองทำแล้วนะ ผลลัพธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีวิธีอื่นๆ อีกไหม? หรืออยากฟังมากเลยวิธีไหนที่แตกต่างไปจากเดิมไหม?
5. ต้องผลักดันให้ผู้พูดสามารถพูดได้ดี
ผู้ฟังที่ดีต้องคอยผลักดันให้ผู้พูดสามารถพูดได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่อผู้พูดเกิดพูดตะกุกตะกักเราสามารถช่วยเสริมเขาได้