ที่ทำจากหินแกรนิต ผสมกับลาวา จากภูเขาไฟ และในเส้นทาง ที่ต้องผ่านอุปสรรคกีดขวาง ก็จะเจาะอุโมงค์ ทะลุภูเขา สร้างสะพานข้ามทางน้ำ ถนนที่สร้าง ตั้งแต่ยุคโรมันบางส่วน
ใช้อิฐที่ทำจากหินแกรนิต ผสมกับลาวา จากภูเขาไฟ สร้างสะพานข้ามทางน้ำ
ยังเป็นเส้นทาง ที่ใช้งานได้ จบจนถึงปัจจุบันนี้ อารยธรรมโรมัน การปกครอง และยังเป็นต้นแบบ การสร้างถนน ในหลายประเทศ ในยุโรปอีกด้วย
ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม กรุงโรมเป็นศูนย์กลางของ อารยธรรมโรมัน จึงมีการสร้าง ถนนที่เป็นเครือข่าย เชื่อมต่อถึงกัน รวม 372 สาย อารยธรรมโรมัน การแพทย์ เชื่อมต่อไปยัง 113 เมืองทั่วอาณาจักร รวมเป็นเส้นทาง ยาวกว่า 4 แสนกิโลเมตร
เพื่อประโยชน์ด้านการปกครอง การลบการเดินทาง ติดต่อและการค้าขาย โดยเทคนิควิศวกรรมที่ล้ำยุค ถนนของชาวโรมัน จึงทนต่อสภาพน้ำท่วม ออกแบบให้ปลอดภัย จากสภาพแวดล้อม ที่เสี่ยงอันตราย มีการใช้อิฐ
วิศวกรรมที่ล้ำยุค ถนนของชาวโรมัน จึงทนต่อสภาพน้ำท่วม ออกแบบให้ปลอดภัย จากสภาพแวดล้อม ที่เสี่ยงอันตราย
ที่ทำจากหินแกรนิต ผสมกับลาวา จากภูเขาไฟ และในเส้นทาง ที่ต้องผ่านอุปสรรคกีดขวาง ก็จะเจาะอุโมงค์ ทะลุภูเขา สร้างสะพานข้ามทางน้ำ อารยธรรมโรมัน ppt ถนนที่สร้าง ตั้งแต่ยุคโรมันบางส่วน ยังเป็นเส้นทาง ที่ใช้งานได้
จบจนถึงปัจจุบันนี้ และยังเป็นต้นแบบ การสร้างถนน ในหลายประเทศ ในยุโรปอีกด้วย ของอาคารที่ต้อง ใช้ช่างแกะสลัก อารยธรรม โรมัน สะพาน หรือช่างสกัดหิน ที่มีฝีมือ และอาจใช้เวลานานกว่า คอนกรีตแบบโรมัน
นำไปใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ ทั้งถนนงานประปา สะพานอุโมงค์ อาคารซึ่งยังคงหลงเหลือ ความแข็งแกร่งผ่านกาลเวลา อารยธรรมโรมัน อาหาร หลายพันปีจวบจน ถึงในปัจจุบัน ซุ้มโค้งพื้นฐานงาน โครงสร้างขนาดใหญ่ โรมันไม่ใช่ชาติแรก
ที่ให้กำเนิด แต่เทคนิคการสร้าง ของวิศวกรโรมันโบราณ ทำให้ซุ้มโค้งของโรมันกลายเป็นตำนาน ด้วยการคำนวณที่แม่นยำ รายการใช้หลักสมมาตร ในการก่อสร้างซุ้มโค้ง จะนำกรอบไม้ มาทำลูกคล้ายเกือกม้า
ขึ้นเป็นถาดในช่วงแรก แล้วจึงนำงานหิน มาใส่กรอบด้านบน โดยหัวใจหลัก คือหินคีสโตน ที่อยู่ตรงกลาง เป็นชิ้นสุดท้าย และจะทำให้น้ำหนัก ถ่ายเทไปยังลิ่ม หินก้อนอื่นๆ ถ่วงดุลยึดเกาะ กัน ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่ต้องอาศัย
แหล่งอารยธรรมโรมัน ส่วนประกอบสำคัญ ในงานก่อสร้าง มรดกชิ้นสำคัญ ด้านสถาปัตยกรรม
กรอบไม้เป็นฐานอีก ซุ้มโค้งนี้ยังถือเป็น ส่วนประกอบสำคัญ ในงานก่อสร้าง สามารถรองรับ น้ำหนักงานโครงสร้างขนาดใหญ่ ไม่ให้พังถล่มลงมา โดยที่ยังคงความ สวยงามเอาไว้ และถือเป็นมรดกชิ้นสำคัญ ด้านสถาปัตยกรรม
ของโรมันที่หลงเหลือ มาจนถึงในปัจจุบัน ทั้งในรูปแบบ ของอาคารเก่าแก่ และถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่ทรงอิทธิพล ไปทั่วทวีปยุโรป ในยุคต่อมา ซึ่งมีการนำ ระบบซุ้มโค้ง ไปปรับใช้ในการ สร้างอาคารต่างๆ
สิ่งก่อสร้างที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นที่สุดแห่งซุ้มโค้ง ของโรมันก็คือ โคลัสเซียม สนามต่อสู้ทรงกลมขนาดใหญ่ จุได้กว่า 50,000 คน ที่ที่เหล่าานักสู้ กราดิเอเตอร์ ได้ลงสนามประชันฝีมือ ต่อสู้กับทั้งคนและสัตว์
และยังเป็นหนึ่ง ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก รวมไปถึงประตูชัย คอนสแตนติน ที่อยู่ใกล้ๆกัน ก็มีซุ้มโค้งขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ แห่งการเฉลิมฉลอง ชัยชนะหลังศึกสงคราม โดยชาวโรมัน
นิยมสร้างซุ้มประตูชัย คร่อมบนถนนสายสำคัญ ที่ผู้คนผ่านไปมา เป็นจำนวนมาก อารยธรรมโรมัน ภาษาอังกฤษ เพื่อแสดงให้เห็น ถึงความยิ่งใหญ่
นวัตกรรมจากสนามรบ ชาวโรมันเคยชิน กับการศึกสงคราม เพื่อขยายอาณาจักร ไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ มีอาวุธหลายอย่าง ที่ถือได้ว่า ชาวโรมันเป็นต้นแบบ ในการคิดค้น ทำให้ได้เปรียบ
และมีชัยเหนือศัตรู เช่นเครื่องยิงปืนใหญ่ แบบพกพาเคลื่อนที่ ไปในสนามรบ โล่ที่ใช้เป็นเกราะป้องกันตัวของทหาร พี่คล้ายกับกระดองเต่า สะพานที่ใช้ พาดไปยังเรือรบ ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ทหารโรมัน
บุกเข้าไปพิชิต คู่ต่อสู้ได้ เหนือสิ่งอื่นใด นวัตกรรมที่ถือว่า ก้าวหน้าที่สุด ในกองทัพโรมัน ก็คือการแพทย์ มีการกล่าวกันว่า ทหารโรมันที่ออกรบ มีอายุยืน กว่าชาวบ้านธรรมดา นั่นเป็นเพราะแพทย์สนาม มีความเชี่ยวชาญ
ในการผ่าตัด เทคนิคการผ่าตัด ช่วยชีวิตทหารบาดเจ็บ ได้รับการพัฒนา จากประสบการณ์ตรง ในภาคสนาม อย่างการรู้จัก ใช้คีมหนีบหลอดเลือดใหญ่ เพื่อยับยั้งการสูญเสียเลือด จากบาดแผลฉกรรจ์
จากการต่อสู้กับศัตรู รวมไปถึงเทคนิค ของการห้ามเลือด ก็เกิดขึ้นในกองทัพโรมันเช่นกัน วิธีการเหล่านี้ ได้ส่งผ่านมายัง แพทย์แผนตะวันตก ในเวลาต่อมา นอกจากงานด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม
มรดกภูมิปัญญา วัฒนธรรมที่ส่งผ่าน มาจนถึงปัจจุบัน กฎหมาย 12 โต๊ะ
อาวุธยุทโธปกรณ์ เกี่ยวกับการแพทย์ ชาวโรมันยังมี มรดกภูมิปัญญา วัฒนธรรมที่ส่งผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ในด้านต่างๆ รวมไปถึงหลักฐาน กฎหมายสมัยใหม่ ที่เรียกกันว่า กฎหมาย 12 โต๊ะ ที่เป็นต้นแบบพื้นฐาน
ระบบกฎหมายโลก รวมไปถึงวรรณกรรม ส่วนใหญ่ที่เขียนเป็น ภาษาละติน ทั้งเรียงความบันทึก ประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งบทละคร ที่ล้วนมีอิทธิพล กับการเขียนหนังสือ ในยุคต่อมา ตลอดจนการเผยแพร่ข่าวสาร