การหารายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ดูจะเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด โดยเฉพาะการ “ขายของออนไลน์” ที่บางครั้งเราไม่ต้องไปลงทุนเพิ่ม เพียงแค่เอาของที่เราไม่ใช้แล้ว อย่างรองเท้า เสื้อผ้า ของเล่น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสร้างรายได้ให้กับเราได้
www.ThaiSMEsCenter.com เชื่อว่าหลายคนก็พอจะรู้จักวิธีการขายของออนไลน์กันมาบ้าง เพราะทุกวันนี้แพลตฟอร์มหรือช่องทางง่ายๆ ให้เราขายของได้ทันทีหลากหลายเว็บไซต์ให้เราเลือก ลองมาดูว่ามีเว็บไซต์ไหนที่น่าจะเหมาะกับขายของมือสองแบบออนไลน์บ้าง
1. Facebook Marketplace
ภาพจาก //bit.ly/3itSNaL
โดยปกติ Facebook นอกจากเป็นสังคมออนไลน์ทั่วไปมีหลายคนที่ใช้เป็นช่องทางการตลาด จนกระทั่ง Facebook เองได้ออกฟีเจอร์ใหม่คือ Facebook Marketplace เพื่อเปิดพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาลงสินค้า พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากันได้อย่างอิสระ รวมถึงสามารถสร้างกลุ่มรวมคนที่มีความชอบแบบเดียวกันให้เข้าไปพูดคุย แลกเปลี่ยนเรื่องราว หรือลงขายสินค้าแบบเฉพาะได้ เช่นกลุ่มขายซื้อผ้ามือสอง กลุ่มขายหนังสือมือสอง กลุ่มขายรถมือสอง ของดีของการขายบน Facebook Marketplace คือผู้ซื้อได้ผู้คุยกับผู้ขายแบบตัวต่อตัว สามารถต่อรองราคากันได้ เพื่อให้ได้ราคาที่น่าพอใจที่สุด
2. Page 365 Store
ภาพจาก //bit.ly/3i70qDO
Page365 Store เป็นเว็บไซต์ร้านค้าสำเร็จรูป ที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์สามารถมีหน้าร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองได้สามารถขายได้ทั้งของมือสองและของมือหนึ่งแบบไม่ต้องเสียเวลาจ้างคนมาเขียนเว็บให้ โดย Page365 Store มีข้อดีที่นอกจากจะใช้ฟรีแล้ว ถ้าเรามีเพจขายของมือสองใน Facebook อยู่ก็ยังสามารถดึงสินค้าที่ขายบนเพจให้มาอยู่บนหน้าเว็บไซต์ได้อีกด้วย ลูกค้าก็สามารถกดสั่งซื้อแบบระบบตะกร้าได้เลย ถือเป็นอีกหนึ่งแพตลฟอร์มขายของมือสองยอดฮิตที่ติดสำรวจทุกครั้ง
3. Instagram
ภาพจาก //pixabay.com/
โดยปกติ Instagram เป็นช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่หลายคนมีบัญชี Instagram ไว้อัพเดทเรื่องราวต่างๆ ที่ประทับใจ แน่นอนว่าเราสามารถใช้ Instagram ในการทำตลาดขายของมือสองได้ด้วย เพราะจากที่เห็นส่วนมากจะโพสต์ขายสินค้าทั้ง เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ กล้องถ่ายรูป ฯลฯ จุดเด่นของ Instagram ก็คือสามารถติด Hashtag เพื่อจัดหมวดหมู่และกระจายรูปสินค้าไปยังลูกค้าที่สนใจได้ แถมยังสามารถติดต่อซื้อขายผ่านคอมเมนต์ได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแอคเคานต์ที่เป็นร้านค้า (Instagram Business) โดยเฉพาะไม่ต้องไปปะปนกับไอจีส่วนตัว หรือถ้ามี Facebook Page แล้วอยู่ก็สามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยไม่ต้องสร้างแอคเคานต์ใหม่ก็ได้
4. Kaidee
ภาพจาก //www.kaidee.com/
จุดเด่นของ Kaidee คือเป็นแหล่งขายของออนไลน์ที่สามารถเอาของมือสองประเภทมาปล่อยขายได้ ไม่ว่าจะเป็น ของใช้ เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทโฟน จนถึงกระทั่งบ้านและรถมือสอง ก็มีอยู่ในแพล็ตฟอร์มนี้เช่นกันวิธีการใช้งานไม่ยุ่งยากมีไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้ทันที
5. Pantip Marketplace
ภาพจาก //www.pantipmarket.com/
Pantip Marketplace อีกหนึ่งเว็บไซต์เครือพันทิปที่หลายคนคุ้นเคยกันดี จึงการันตีเรื่องความน่าเชื่อถือ แถมเป็นพื้นที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนอยากขายของมือสองได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถลงประกาศได้ฟรี มีสินค้าครอบคลุมครบทุกหมวดหมู่ แถมยังสามารถลงประกาศแบบใช้พื้นที่จังหวัดที่เราลงประกาศมาช่วยให้การขายง่ายขึ้นอีกด้วย
ซึ่งเราสามารถใช้งานโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก แต่การสมัครสมาชิกจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้นและทำให้เพิ่มโอกาสในการปิดการขายนอกจากนี้ยังสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ด้วย เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว ให้เลือกเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรี หรือจะเลือก ลงประกาศโฆษณาฟรีก็ได้ จากนั้นทำการกรอกข้อมูลสินค้าที่เราต้องการขายให้ครบถ้วน เท่านี้ก็สามารถประกาศขายของมือสองได้ทันที
6. Shopee
ภาพจาก //shopee.co.th/
ถือเป็นเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตที่ติดสำรวจทุกครั้ง แต่งานนี้ Shopee ก็ไม่ได้มีดีแค่ให้คนเข้ามาช็อปปิ้งเท่านั้น แต่ทำให้หลายคนสามารถเป็นพ่อค้าแม่ค้าใน Shopee ได้ด้วย บางคนที่มีของมือสองสภาพดีแต่ไม่รู้จะเอาขายที่ไหน หรือไม่อยากจะไปเปิดร้านขายของมือสองให้เสียค่าเช่าพื้นที่ ก็มาขายในแพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางเสริมที่ดีมาก ข้อดีของ Shopee คือระบบการโอนเงินที่ปลอดภัย มีระบบช่วยออกค่าจัดส่งให้ และมีเคมเปญช่วยดึงดูดขาช้อปให้เข้ามาใช้บริการ
7. Lazada
ภาพจาก //www.lazada.co.th/
อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับ Lazada เว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ หมวดหมู่สินค้าเปิดกว้างเรียกได้ว่ามีครบจบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้ามีหนึ่ง สินค้ามือสอง และการพัฒนาของ Lazada ที่มีแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือจึงช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น และเด่นที่สุดคือบรรดาโปรโมชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะส่วนลดประจำเดือน ส่วนลดจากคูปองพิเศษ เป็นอีกหนึ่งการตลาดที่ทำให้คนสนใจเข้าช็อปปิ้งอย่างมาก การขายสินค้ามือสองใน Lazada จึงมีโอกาสขายดีได้ไม่แพ้สินค้ามือหนึ่งทั้งหลาย
8. TARAD.com
ภาพจาก //www.tarad.com/
TARAD.com ใช้ระบบ U-Commerce หรือ Universal Commerce คือระบบที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายบนโลกออนไลน์ เชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มที่ธุรกิจต้องการเข้าด้วยกัน เช่น Shopee, Lazada และ JD. Central, Amazon, Ebay วิธีการขายของมือสอง เริ่มจากเข้าหน้าเว็บ TARAD.com จากนั้นคลิก เปิดร้านค้าออนไลน์ จากนั้นทำการกรอกข้อมูลร้าน ลงข้อมูลสินค้าให้เรียบร้อย เท่านี้ก็สามารถขายของมือสองได้แล้ว
9. WeLoveShopping
ภาพจาก //portal.weloveshopping.com/
เป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานมากกว่า 10 ปี มีหมวดหมู่สินค้าให้เลือกมากมายตั้งแต่ของใช้ในบ้าน ของใช้แม่และเด็ก เสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์ไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ข้อดีสำหรับการเปิดเว็บขายของมือสองฟรีบนแพลตฟอร์มนี้คือ เปิดง่าย แค่ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวก็เปิดร้านค้าออนไลน์ได้ ค้นหาเจอง่าย เพราะโครงสร้างเว็บไซต์รองรับการทำงานของระบบ Search Engine ทางร้านค้าได้รับเงินเร็ว
เมื่อลูกค้ายืนยันการรับสินค้าสำหรับบุคคลธรรมดา มีลูกค้าเยอะ และขายได้หลายช่องทาง ทั้งบนเว็บ และแอปพลิเคชั่นมือถือในระบบ iOS และ Android วิธีการขายของมือสอง ในแพลตฟอร์มนี้เพียงงเข้าไปที่เว็บไซต์ Weloveshopping แล้วคลิก เปิดร้านค้าฟรี จากนั้นก็กรอกข้อมูลตามขั้นตอนของทางเว็บไซต์เท่านี้ก็เปิดร้านได้แล้ว
10. Market.Kapook.com
ภาพจาก //market.kapook.com/
เว็บไซต์ kapook.com เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ได้นำสินค้ามาลงขายกันแบบฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้ามือหนึ่งหรือสินค้ามือ สองภายใต้คอนเซ็ปที่ว่า “ ซื้อง่าย ขายคล่อง ของเพียบ” ความโดดเด่นของเว็บไซต์ขายของมือสอง kapook.com คือมีแคตตาล็อกบนหน้าเว็บไซต์ที่สวยงาม โดดเด่นและมีข้อมูลสินค้าที่หาได้ง่ายมากๆ
11. www.ezymar.com
ภาพจาก //www.ezymar.com/
เป็นเว็บไซต์ / แอปพลิเคชั่น ศูนย์กลางแหล่งรวมการ ซื้อ-ขาย สินค้าออนไลน์ลงประกาศขายสินค้าออนไลน์ฟรี ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบาย และรวดเร็วให้แก่สมาชิกผู้ใช้งาน เพื่อให้ง่ายในการเลือกซื้อสินค้าหรือช้อปปิ้งออนไลน์ และสร้างรายได้ในการขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ประหยัดงบในการทำเว็บไซต์ของตัวเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนของมือสองให้กลายเป็นรายได้ ผู้ที่อยากประกาศขายสินค้าแบบไม่ต้องลงทุน
12. eBay
ภาพจาก //www.ebay.com/
เป็นอีกเว็บไซต์ที่พัฒนาจากแพลตฟอร์มประมูลสินค้า สู่การขาย ซึ่งสามารถขายได้ทั้งมือหนึ่งและมือสอง อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบหลังบ้านอย่างต่อเนื่องในการวิเคราะห์ตลาด เทรนด์ฮิตต่างๆ ช่วยออกแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคและกำหนดราคาขายได้อย่างเหมาะสมปลีก และยังมีระบบ AI ในการจัดการคลังสินค้า ทำให้ระบบสามารถรู้ใจผู้ซื้อ ทำโปรโมชันและเมนูสินค้าต่าง ๆ ได้ถูกจุด แต่ eBay แม้จะสมัครเป็นผู้ขายได้ฟรีแต่จะมีเก็บค่าธรรมเนียมด้วยถ้าสินค้าถูกขายออกไป ที่สำคัญจะต้องมีบัตรเครดิตด้วย เพื่อใช้ในการสมัคร ลงทะเบียนเป็นผู้ขาย
อย่างไรก็ดีแม้จะมีช่องทางขายของออนไลน์ให้เลือกมากมายแต่สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดเมื่อลงขายสินค้ามือ 2 ผ่าน เว็บขายของมือสอง ก็คือเรื่องของคุณภาพสินค้า ถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้ามือสองที่ผ่านการใช้งานมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่คุณภาพก็ควรอยู่ในราคาที่เหมาะสม
หรือมีคุณภาพที่สมเหตุสมผลกับราคา สินค้าต้องใช้งานได้จริง และควรมีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลสินค้านั้นให้ครบถ้วน เช่น สินค้าอยู่ในสภาพไหน มีตำหนิตรงจุดไหนบ้าง เพื่อให้ผู้ซื้อได้พิจารณา คิด วิเคราะห์ ไต่ตรองดูก่อนตัดสินใจซื้อ จะได้ไม่มีปัญหาหรือมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นกันภายหลัง
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ //bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ //soundcloud.com/thaifranchisecenter
ขอบคุณข้อมูล //bit.ly/39qZQMh , //bit.ly/3hXL9oK , //bit.ly/39ttBvP , //bit.ly/3hXq6md , //bit.ly/3ksZURW , //bit.ly/3kwRmK2 , //bit.ly/3kvCrQ9