รถ กับ บ้าน ควร มี อะไร ก่อน

ปัญหาโลกแตก รถหรือบ้าน ซื้ออะไรก่อนดี?

รถและบ้าน เป็นอีกความฝันของใครหลายๆ คน เพราะเมื่อเราเริ่มมีรายได้แล้ว ก็ย่อมอยากนำไปใช้จ่ายและสร้างไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับของตัวเอง แต่การซื้อรถหรือบ้านนั้นเป็นปัญหาโลกแตกไม่ใช่น้อย เนื่องจากเป็นของที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเงินเดือนและเงินเก็บที่มีอยู่ และแน่นอนว่าอาจไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสดที่มีอยู่ แต่ต้องใช้การกู้เงินและผ่อนชำระกับธนาคาร


เราจึงต้องสำรวจเป้าหมาย และความพร้อมของตัวเราให้ดีเสียก่อน เพราะการตัดสินใจซื้อรถหรือบ้านนั้น อาจส่งผลกับชีวิตเราได้ทั้งในแง่ลบและบวก แต่เราต้องดูอะไรบ้างนั้น วันนี้จะมาเคลียร์ให้ชัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น


1. สำรวจความพร้อมของตัวเองในการกู้เงิน

การประเมินความสามารถของตัวเองในการซื้อทรัพย์สินด้วยการผ่อนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เราจึงต้องรู้รายรับและรายจ่ายรายเดือนของเราให้ชัดเจนเสียก่อน และจากนั้นจึงมาคิดเทียบกับความสามารถในการชำระเงินของเรา โดยปกติแล้วการซื้อรถและซื้อบ้านจะต้องมีเงินอยู่ 2 ส่วน ได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายในการซื้อทรัพย์สิน : ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเงินดาวน์ เงินกู้ยืม และดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เราจะต้องนำมาคำนวณให้ดีว่าแต่ละแผนของการซื้อและการผ่อนชำระรายเดือนนั้นเหมาะสมกับความสามารถในการชำระเงินของเราหรือไม่ “ซึ่งการผ่อนชำระนั้น เงินกู้ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้” เช่น เรามีเงินเดือน 30,000 บาท เราจะมีความสามารถในการชำระเงินกู้ได้เดือนละ 12,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ความพร้อมของแต่ละคนขึ้นอยู่กับภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินอื่นๆ ที่มีอยู่ด้วย
  • ค่าใช้จ่ายในการบำรุงทรัพย์สิน : เมื่อเราซื้อบ้านหรือรถนั้นเราจะมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมาก เช่น ค่าบำรุงรักษา-ค่าส่วนกลางของที่อยู่อาศัย หรือ ค่าน้ำมัน ค่าประกันรถยนต์ ค่าที่จอดรถในการใช้งานรถยนต์ ก็ต้องนำมาคำนวณภาระในการใช้จ่ายต่อเดือนเช่นกัน


หากเราคำนวณดูแล้วว่า รายได้ของเรานั้นยังไม่พร้อมต่อการเป็นหนี้เพื่อซื้อทรัพย์สินที่อยากได้  เราอาจจะต้องหารายได้ให้มากขึ้น ลดภาระหนี้สินด้านอื่นๆ ของเรา หรือเปลี่ยนไปซื้อทรัพย์สินที่เหมาะสมกับฐานะและความสามารถในการผ่อนของเราแทน


2. สร้างเช็กลิสต์ความจำเป็น ซื้ออะไรก่อนดี?

เมื่อเราสำรวจความพร้อมด้านการเงินในการขอกู้กันไปเรียบร้อยแล้ว ก็มีถึงข้อสำคัญนั่นคือ การมองถึงความจำเป็นว่าจะต้องซื้ออะไรก่อน  ซึ่งเราควรทำเช็กลิสต์ขึ้นมาช่วยจัดลำดับความสำคัญและจำเป็น รวมถึงแง่มุมทางด้านการเงิน เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจในการเลือกซื้อ เช่น

  • ดูความจำเป็นในการซื้อจากสิ่งที่มีอยู่ : ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น บางคนอาศัยอยู่กับครอบครัว ไม่มีแผนจะแต่งงาน และยังไม่มีรถเพื่อใช้งานก็อาจจะพิจารณาซื้อรถก่อน บางคนอาจจะได้รับรถส่งต่อมาจากพ่อแม่ แต่มีแผนว่าจะแต่งงานและขยับขยายพื้นที่ให้ครอบครัว ก็อาจจะพิจารณาซื้อบ้านก่อน
  • ดูประโยชน์ที่จะได้จากการใช้ชีวิตประจำวัน : กรณีที่ยังไม่มีทั้งบ้านและรถ หากเราต้องทำงานที่ต้องขับรถและเดินทางตลอดเวลา ก็อาจจะพิจารณาซื้อรถเพื่อประโยชน์ในการเดินทางก่อน ในกรณีกลับกัน หากเรามองว่ารถไม่มีความจำเป็นต่อชีวิตในแต่ละวัน เพราะทำเลบ้านหรือคอนโดของเราสามารถเดินทางไปทำงานด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย ก็อาจจะพิจารณาซื้อบ้านก่อน แต่อย่าลืมว่าในอนาคตเราอาจเปลี่ยนงานก็ได้ ดังนั้นอาจต้องวางแผนและตัดสินใจให้ดีเสียก่อน
  • ดูประโยชน์ที่ได้รับจากแง่มุมทางการเงิน : หลายคนอาจจะต้องใช้ชีวิตคนเดียว และต้องเลือกว่าจะเช่าบ้านและซื้อรถเพื่อใช้เดินทาง หรือ ซื้อบ้านและใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทน ทั้งนี้เราจะคำนวณเปรียบเทียบความคุ้มค่าในทั้ง 2 ทางเลือกก่อน เช่น บางคนอาจมองว่าการซื้อรถก่อนจะเอื้อประโยชน์ต่อการทำมาหาเลี้ยงชีพมากกว่าการไม่มีรถ และในอนาคตสามารถนำเงินจากการประกอบอาชีพมาซื้อบ้านได้อย่างรวดเร็ว ก็ควรจะซื้อรถก่อน แต่ถ้าหากการซื้อรถนั้นไม่ได้ประโยชน์อะไรในการเพิ่มรายได้ หรือลดภาระทางการเงิน จะมีก็แต่ค่าเสื่อมสภาพเกิดขึ้นเรื่อยๆ การซื้อบ้านก่อนก็ย่อมมีผลดีกว่า เนื่องจากในแต่ละปีที่ผ่านไปมูลค่าของบ้านมักจะแพงขึ้นเรื่อยๆ การซื้อบ้านยิ่งเร็วก็ยิ่งได้ประโยชน์


โดยสรุปแล้ว การตัดสินใจในการซื้อรถหรือบ้านนั้น จะต้องเริ่มจากการสำรวจสถานะทางการเงินของตัวเองเป็นอันดับแรกว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระแค่ไหน ซึ่งหากพบว่าเรามีความพร้อมในการชำระเงินกู้ในระยะยาวแล้ว ก็ต้องลองพิจารณาดูความจำเป็นในการเลือกซื้อรถหรือบ้าน โดยตั้งคำถามว่าสิ่งใดที่เรายังไม่มี และมีความจำเป็นต้องใช้มากกว่า สิ่งใดที่ซื้อแล้วจะได้ประโยชน์ในการใช้สอยหรือได้ประโยชน์ทางการเงินมากกว่า ก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรถหรือบ้านก่อนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่งสำหรับทุกคนที่เริ่มต้นทำงานมาได้สักระยะ พอเราเริ่มมีเงินเก็บสักก้อน เรามักจะต้องเกิดคำถามในใจขึ้นมากันอย่างแน่นอนว่าระหว่างเอาเงินไปวางดาวน์ซื้อบ้าน กับ วางดาวน์ซื้อรถยนต์ แบบไหนจะดีกว่ากัน ?

จะให้ซื้อพร้อมกัน 2 อย่างเลยก็ไม่น่าจะไหว เพราะต้องใช้เงินไม่น้อย พอมาลองคิดว่าซื้อบ้านหรือคอนโดก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียเงินเช่าคนอื่นอยู่ แถมก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเอะใจขึ้นมาว่าราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ แถมยังเป็นภาระหนี้กันยาว ๆ 20-30 ปีเลยทีเดียว หรือจะไปซื้อรถยนต์ช่วยให้เราเดินทางไปทำงานสะดวกสบายมากขึ้น ก็คิดต่อไปอีกว่า ราคาของรถยนต์มีแต่ลดลงจริง ๆ เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเสื่อมไม่น้อยเลยทีเดียว

ก่อนอื่นต้องบอกตรงนี้ก่อนเลยว่า เรื่องแบบนี้เขาเรียกว่าปัญหาเรื่องการเงินส่วนบุคคลว่าจะบริหารจัดสรรเงินอย่างไรดี เพราะมันมีคำว่า “ส่วนบุคคล” นั่นหมายความว่า ปัญหาเรื่องนี้ไม่มีทางออกที่ถูกต้องที่สุด แต่จะมีแค่คำตอบที่ “เหมาะสม” กับตัวบุคคลนั้น ๆ มากที่สุดเท่านั้นเอง ดังนั้น ถ้าจะหาคำตอบตรงนี้เราต้องรู้ก่อนว่าความต้องการหรือความจำเป็นของเราคืออะไรกันแน่ ? พอรู้ความต้องการของตัวเราเรียบร้อยแล้วก็มาดูต่อว่าทางเลือกนั้นมีเงื่อนไขและข้อจำกัดอะไรบ้าง

ทางเลือกที่ 1 เรามาดูสำหรับคนที่เหมาะสมกับการซื้อรถก่อน

การซื้อรถยนต์ก่อนเหมาะกับคนที่ ณ ปัจจุบันอาศัยอยู่กับครอบครัว แล้วบ้านเราห่างจากที่ทำงานค่อนข้างมาก ประกอบกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็ลำบาก ไม่สะดวก มีรถผ่านน้อย รอคิวนาน เป็นต้น ถ้าเป็นแบบนี้การพิจารณาซื้อรถยนต์ก่อนก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

แล้วสำหรับคนที่จะเลือกทางเลือกนี้มีสิ่งที่ต้องระวังอยู่เหมือนกันก็คือ เรื่องของ “ค่าใช้จ่าย” โดยปกติทั่วไปแล้วเวลาที่เราจะดูว่าเราจะซื้อรถยนต์คันหนึ่งต้องใช้เงินเท่าไหร่ เรามักจะดูค่าผ่อนรถต่อเดือนว่าเท่าไหร่ ถ้าเรามองไปที่ Eco Car คันไม่ใหญ่มาก ค่าผ่อนต่อเดือนก็จะอยู่ประมาณ 7,000 บาท อาจจะมีบวกลบบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับเงินดาวน์ที่วางตอนแรก อัตราดอกเบี้ยที่โดนไฟแนนซ์เก็บ รวมถึงระยะเวลาที่เลือกผ่อนชำระด้วย

แต่รู้กันหรือไม่ว่า.. การซื้อรถสักคันหนึ่งนั้นมี “ค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ” อยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ค่าพ.ร.บ. ฯลฯ รวม ๆ แล้วตกอย่างน้อยก็เดือนละ 12,000-13,000 บาทแน่ ๆ ดังนั้น ห้ามดูแค่ค่าผ่อนรถในแต่ละเดือนเด็ดขาด เพราะถ้าคิดแบบนั้นแล้วบอกว่าตัวเองไหว สุดท้ายอาจจะซื้อรถมาจอดทิ้งไว้เฉย ๆ ก็เป็นได้

ทางเลือกที่ 2 สำหรับคนที่เหมาะสมกับการซื้อบ้านก่อน

ทางเลือกนี้เหมาะกับคนที่ ณ ปัจจุบันอาจจะไม่ได้อาศัยกับทางครอบครัวหรือกำลังที่จะต้องการมีครอบครัวเป็นของตัวเองหรือเรียกกันว่า “แต่งออก” การที่มีแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองก็เรื่องที่สำคัญอย่างมาก รวมถึงคนที่ ณ ปัจจุบันที่อยู่อาศัยเดิมเดินทางลำบาก ก็อาจจะพิจารณาซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงานมากขึ้น หรือใกล้ระบบรางสาธารณะอย่าง BTS MRT ก็เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะบางทีเอาค่าเดินทางในแต่ละวันมารวม ๆ กันก็สามารถช่วยค่าผ่อนชำระในแต่ละเดือนของบ้านเราได้เลย

ข้อควรระวังสำหรับคนที่จะเลือกซื้อบ้าน คือ บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำมากและมีค่าใช้จ่ายในการขายสูง อย่างที่เรารู้กันว่าบ้านหลังหนึ่งนั้นกว่าจะขายได้ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะราคาไม่ใช่ต่ำ ๆ แล้วเวลาที่เราจะขายสักครั้งก็มีค่าใช้จ่ายในการโอนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ดังนั้นเวลาที่เราซื้อบ้านสักหลังต้องคิดให้ดีก่อนว่า แนวโน้มเราจะอาศัยอยู่ที่นี่ในระยะยาว หรือถ้าใครซื้อใกล้ที่ทำงานก็ต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่า เราจะทำงานที่นี่หรือบริเวณนี้ไปอีกสักระยะ ถ้าเราไม่แน่ใจการพิจารณา “เช่าอยู่” ก่อนอาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า เพราะต้นทุนในการย้ายไปไหนมาไหนต่ำกว่าการซื้อบ้านเองอย่างมาก

แต่ถ้าเราลองดูทั้ง 2 ทางเลือกแล้วไม่เข้าเงื่อนไขหรือยังไม่เหมาะสมที่จะซื้อทั้งบ้านและรถยนต์ อาจจะไม่ต้องซื้อก็ได้ หลาย ๆ คนไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อเลย แต่ต้องซื้อเพราะเหตุผลอื่น ๆ มากกว่าความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเห็นคนอื่นซื้อเลยต้องซื้อบ้าน ซื้อเพราะเหตุผลทางบ้านบ้างก็มี ถ้าเราดูที่ความจำเป็นจริง ๆ อาจจะไม่จำเป็นเลยก็เป็นได้ เพราะสุดท้ายมันจะกลับมาเป็นภาระทางการเงินของเรานั่นเอง เพราะต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่สินทรัพย์ที่มีราคาสูงลักษณะนี้ก็จะใช้บริการเงินกู้จากทางสถาบันการเงินด้วยกันทั้งสิ้น ทำให้มีภาระเรื่องดอกเบี้ยเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ดังนั้นต้องสำรวจตัวเองทุกครั้งว่าจำเป็นจริง ๆ มากกว่าแค่อยากได้เท่านั้น

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้