ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีหลักเกณฑ์ในการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกบุคคล มาปฏิบัติงาน โดยวิธีการสอบแข่งขัน ซึ่งผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกกับธนาคารจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งที่รับสมัคร
2. การบรรจุและแต่งตั้งบุคลากร
ธนาคารอาคารสงเคราะห์มีหลักเกณฑ์การบรรจุและแต่งตั้งบุคลากร ดังนี้
1. ผู้ที่จะเข้าทำงานเป็นผู้ปฏิบัติงานต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญด้วยความบริสุทธิ์ใจ
(4) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคเรื้อน วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏ อาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคยาเสพติดให้โทษ หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง
(5) ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี
(6) ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
(7) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษถึงต้องออกจากราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
(8) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือพ้นโทษแล้วเกินห้าปี
2. ผู้ที่จะเข้าทํางานเป็นผู้ปฏิบัติงานต้องยื่นใบสมัครตามแบบที่กรรมการผู้จัดการกําหนดพร้อมด้วยหนังสือรับรองของแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่ง สาขาเวชกรรม ตามความในข้อ 1 (4) และ รับรองด้วยว่าผู้ที่จะเข้าทํางานเป็นผู้มีพลานามัยสมบูรณ์ สมควรที่จะเข้าทํางานเป็นผู้ปฏิบัติงานได้
3. การบรรจุบุคคลตามลำดับที่ของผู้สอบได้
4. หลังจากธนาคารดำเนินการออกคำสั่งบรรจุบุคคลเพื่อให้ทดลองปฏิบัติงานแล้ว หากผ่านการทดลองปฏิบัติงาน 90 วัน และมีคุณสมบัติครบถ้วน ธนาคารจะแต่งตั้งเป็นพนักงานภายใน 120 วัน
3. การประเมินผลการปฏิบัติงานและการให้รางวัล
คณะกรรมการทรัพยากรบุคคล (HR Committee) ได้ทบทวนแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางยุทธศาสตร์ของธนาคาร ตั้งแต่กระบวนการคณะกรรมการทบทวนและจัดทำแผนฯ จะทำการประชุมหารือ เพื่อกำหนดตัวชี้วัดระดับองค์กร ที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร จากนั้นจะถ่ายทอดตัวชี้วัดในระดับองค์กรลงไปตามลำดับชั้นจนถึงตัววัดระดับบุคคลตามลำดับ ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ขั้นตอน
1 ) คณะกรรมการวัดผลการดำเนินงานฯ กำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานและตัวชี้วัดระดับฝ่าย/สำนัก (IPA) และผู้อำนวยการฝ่าย/สำนักถ่ายทอดแผนงานพร้อมตัววัดที่สำคัญลงไประดับส่วน
2) หัวหน้าส่วน/งาน จะประชุมเพื่อสื่อสาร วางแผน พร้อมกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดรายบุคคล ร่วมกันกับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายบุคคล (One on One) และบันทึกลงในระบบ ERP-HR ซึ่งจะกำหนดเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน/ผลสำเร็จของงาน หรือ KPIs (ซึ่งจะประกอบด้วย ตัววัดตามบันทึกข้อตกลงฯ ตัววัดจากงานตามนโยบาย ตัววัดที่เป็นงานประจำ) และสมรรถนะหลัก(Core Competency) เป็นต้น ซึ่งจะมีสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะงาน และระดับตำแหน่ง
3) ผู้บังคับบัญชาจะติดตามผลการดำเนินงานใน 2 ด้าน คือ การพัฒนาตาม IDP การประเมินพฤติกรรมตาม Core Competency และการบรรลุผลการปฏิบัติงานตาม KPIs ทุกไตรมาสผ่าน Smart Radar หากไม่เป็นไปตามเป้าหมายหัวหน้างานจะทำ Coaching/Mentoring และให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปรับแผนการดำเนินงาน
4) เพื่อสนับสนุนให้เกิดผลการดำเนินงานที่ดี และสร้างความผูกพันของบุคลากรในขั้นตอนที่ 4) จะเชื่อมโยงการประเมินผลปฏิบัติงานกับระบบบริหารทรัพยากรบุคคล และการจ่ายผลตอบแทน เช่น ผู้ได้รับการประเมินผล A+ และ A เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับการคัดเลือกในการพัฒนาผู้มีศักยภาพ (Talent) และการได้รับคัดเลือกเพื่อศึกษาดูงานภายในและต่างประเทศ เป็นต้น
ในการพิจารณา การให้ค่าตอบแทน การให้รางวัล การยกย่องชมเชย และการให้แรงจูงใจจะเชื่อมโยงผลประเมินการปฏิบัติงาน (A+, A, S, N, D) กับอัตราการขึ้นเงินเดือนประจำปี
ทั้งนี้ ระดับการประเมินผล แบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้
หลักเกณฑ์โครงการพัฒนาบุคลากรภายในธนาคารเพื่อยกระดับความรู้และความเชี่ยวชาญในภาคธุรกิจด้านต่างๆของธนาคาร
1. เป็นพนักงานที่มีค่างานระหว่าง 5 – 10
2. ปฏิบัติงานในสำนักงานใหญ่และสาขากทม.และปริมณฑลปฏิบัติงานในสาขาภูมิภาค
3. มีผลการปฏิบัติงาน 1 ปีย้อนหลังเป็น A+
4. ระดับการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
5. มีประสบการณ์ทำงานที่ ธอส. อยู่ระหว่าง 3-5 ปี
6. สามารถเข้าเรียนตามหลักสูตร ในวันทำงานและวันหยุด
โทษทางวินัย
ธนาคารฯได้กำหนดโทษผิดทางวินัยไว้ในข้อบังคับธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ฉบับที่ 17 เรื่อง ระเบียบวิธีปฏิบัติของพนักงานธนาคาร ว่าด้วยวินัย การสอบสวน การลงโทษพนักงานและลูกจ้าง การอุทธรณ์การ ถูกลงโทษของพนักงานและลูกจ้าง พ.ศ. 2520 โดยกำหนดไว้ใน ข้อ.6 มีโทษทางวินัย 5 สถาน โดยเรียงจากโทษหนักไปหาโทษเบา ได้แก่
(1) ไล่ออก
(2) ให้ออก
(3) ลดขั้นเงินเดือน
(4) ตัดเงินเดือน
(5) ภาคทัณฑ์
กรณีที่พนักงานและลูกจ้างกระทำผิดวินัยเล็กน้อยและเป็นความผิดครั้งแรก ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่ามีเหตุอันควรงดโทษ จะว่ากล่าวตักเตือน หรือให้ทำทัณฑ์บนเป็นหนังสือไว้ก่อนก็ได้
หนุ่มแบงค์ สาวแบงค์ อาจเป็นคำเรียกสั้น ๆ ของพนักงานธนาคาร ที่บางคนฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีความเท่และน่าสนใจ แสดงถึงการมีความมั่นคงในหน้าที่การงานและผลตอบแทนสูง จนทำให้ใครหลาย ๆ คนอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคำเรียกนี้ แต่การที่จะประกอบอาชีพนี้นั้นจะต้องทำยังไงล่ะ ? มาเริ่มจากทำความรู้จักอาชีพนี้และเตรียมตัวไปพร้อม ๆ กันเลย
งานธนาคารอาชีพยอดนิยมมั่นคงสูง?
งานธนาคาร ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพยอดนิยมที่มีความมั่นคงสูง เป็นที่สนใจของนักศึกษาจบใหม่และผู้ที่กำลังหางานเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีการเปิดรับผ่านทางเว็บไซต์สมัครงานหรือตามธนาคารต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เคยสงสัยไหมว่าการทำงานงานธนาคารนั้น ทำอะไรบ้าง? ไม่ใช่แค่เพียงบริการลูกค้าหรือทำหน้าที่รับฝาก ถอนหรือเปิดบัญชีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการบริการด้านการจัดทำรายการประจำวันเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน การให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน ประกันชีวิต ประกันภัย ควบคุมและติดตามงานบัญชีลูกค้า ติดต่อประสานงานและให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลรายรับรายจ่ายของคู่ค้า รวมไปถึงการวางแผนและวิเคราะห์ด้านการเงินและบริหารจัดการ และอีกหลาย ๆ ส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องของการเงิน เช่น การส่งเสริมให้มีการออมเพื่อความยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย
ตำแหน่งงานที่เปิดรับในสายงานธนาคารและการเงิน
ธนาคารส่วนใหญ่แล้วจะมีการให้บริการอยู่หลายด้าน ตำแหน่งงานจึงแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามลักษณะการให้บริการ เช่น งานบริการรับฝากเงิน งานบริการสินเชื่อ งานบริการด้านการบริหารสินทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็มีหน้าที่รับผิดชอบที่แตกต่างกันไป
- งานวิเคราะห์การลงทุน – กองทุน
มีหน้าที่วิเคราะห์และประเมินว่าเงินที่ลูกค้ามอบหมายมาให้ดูแลนั้น ควรจะบริหารอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนที่ลูกค้าคาดหวัง รวมไปถึงความเสี่ยงที่เกินกว่าลูกค้าจะรับได้
ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจ ตลาดการเงิน การลงทุน และภาวะอุตสาหกรรมในอนาคตจะเป็นอย่างไร และภายใต้สถานการณ์ที่คาดไว้ อุตสาหกรรมไหนจะได้ประโยชน์ โดยจะต้องตัดสินใจว่า ในพอร์ตของลูกค้า ควรจะมีหุ้นหรือหลักทรัพย์ใดบ้าง เป็นสัดส่วนเท่าใด และควรจะซื้อหรือขายหุ้นตัวไหนในราคาเท่าไหร่โดยการตัดสินใจลงทุนจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ลูกค้ากำหนด และเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัทอีกด้วย
- งานการเงิน
เจ้าหน้าที่การเงินของทุกบริษัทเปรียบเสมือนกระเป๋าเงินขององค์กรธุรกิจ เพราะมีหน้าที่จัดหาเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการ และในขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ดูแลการใช้เงินและจ่ายเงิน เช่น การซื้อ วัตถุดิบ การควบคุมจำนวนสินค้าระหว่างผลิต การควบคุมลูกหนี้การค้าในกรณีที่ มีการให้เทอมเครดิตกับผู้ซื้อ และการจัดเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพด้วย
- งานสินเชื่อและวิเคราะห์สินเชื่อ
งานสินเชื่อและวิเคราะห์สินเชื่อ คือ การทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการประเมินความเสี่ยง เพื่อวัตถุประสงค์ ในการให้กู้ยืมเงิน และการประเมินความเสี่ยงในส่วนของผู้กู้ การกำหนดระดับความเสี่ยงและความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ซึ่งในการขอสินเชื่อผู้กู้ก็จะต้องผ่านหลายกระบวนการในการตรวจสอบ กระบวนการต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยความละเอียด รอบคอบอย่างนี้ทำให้เกิดตำแหน่งงานสินเชื่อและวิเคราะห์สินเชื่อเพื่อใช้เวลาและไม่พลาดไปกับการตรวจสอบ
นอกจากตำแหน่งงานที่เกริ่นไปในข้างต้นแล้วนั้น งานธนาคารจะสามารถแบ่งตำแหน่งได้อีก ดังนี้
-กรรมการผู้จัดการ / รองกรรมการผู้จัดการ / ผู้ช่วยผู้จัดการ
-ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการ
-ผู้จัดการเขต / รองผู้จัดการเขต
-ผู้จัดการสาขา / รองผู้จัดการสาขา
-ผู้จัดการอาวุโส / หัวหน้าส่วน / ผู้จัดการส่วน
-เจ้าหน้าที่อาวุโส
-เจ้าหน้าที่
-ลูกจ้างประจำ
-รปภ. / แม่บ้าน / แมสเซนเจอร์
ซึ่งแต่ละธนาคารอาจมีบางตำแหน่งที่แตกต่างกันไป หน้าที่ที่เพิ่มหรือลดก็ว่ากันไปตามความเหมาะสมและขนาดของแต่ละธนาคาร
วุฒิการศึกษาที่สอดคล้องกับงานธนาคาร
หากคุณสนใจงานธนาคารแล้วล่ะก็ บางตำแหน่งก็จะมีการระบุที่ต้องการวุฒิการศึกษาไว้ด้วย เช่น คณะบริหารธุรกิจ (สาขาการเงินและการธนาคาร สาขาการวางแผนการเงินและการลงทุน) คณะเศรษฐศาสตร์ (สาขาเศรษฐศาสตร์การเงิน) หรือคณะ/สาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการธนาคาร เช่นคณะวิทยาการจัดการ(สาขาการเงินและการธนาคาร) คณะวิศวกรรมศาสตร์ (สาขาวิศวกรรรมการเงิน) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (สาขาวิชาการประกันภัย) เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ลองศึกษาใบประกาศให้ดีหรือลองโทรไปสอบถามเพิ่มเติมก็ได้ เพื่อความแน่ใจและตรงคุณสมบัติมากขึ้นนั่นเอง
คุณสมบัติเก๋ ๆ ของพนักงานธนาคาร
สำหรับคนที่สนใจงานทางด้านงานธนาคารนั้น อาจจะต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อมและเช็คความมั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติ เหล่านี้หรือไม่
- มีความรู้ความสามารถตรงกับตำแหน่งงาน คล่องแคล่วและสามารถจัดการข้อมูล งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้
- มีความละเอียดรอบคอบในการจัดการข้อมูล มีใจรักในงานบริการ มีทักษะด้านการบริการที่ดี เนื่องจากงานธนาคารต้องพบเจอ ลูกค้าอยู่เสมอนั่นเอง
- ขยัน อดทน สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้ ทั้งจากองค์กรและลูกค้า
- มีความสามารถด้านการสื่อสาร การใช้ภาษาและที่สุภาพและชัดเจน
- บุคลิกภาพดีน่าเชื่อถือ
ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเหมาะสมกับงานธนาคาร
งานธนาคารถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานเกี่ยวกับด้านการเงิน การบริการ มีทักษะด้านการบริการเพื่อที่จะให้ลูกค้าสนใจที่จะลงทุนกับธนาคาร ทั้งด้านการเปิดบัญชี การฝากและถอนรวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ของทางธนาคาร เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการหางานธนาคารจะต้องศึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบต่าง ๆ ให้ละเอียดเพื่อที่จะทำให้เราได้รับงานในตำแหน่งที่ต้องการและสามารถทำงานออกได้ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด