Mac เป็น ซอฟต์แวร์ประเภทใด

หัวใจสำคัญของ Mac ทุกเครื่องก็คือ macOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ทั้งทรงพลัง สวยงาม และใช้ง่าย ทั้งยังออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ Apple Silicon เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่มากความสามารถที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา และยังทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของเราด้วย

อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้น ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งควรเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปแบบของการทำงานด้วย เพื่อให้การใช้งานนั้นคุ้มค่า และสร้างผลลัพธ์ที่ดี และเหมาะสมที่สุด

ซึ่งระบบภายในของอุปกรณ์ไอที อย่าง PC หรือ MAC คือระบบปฏิบัติการ โดยมีหลักๆ 2 ระบบ นั่นก็คือ ระบบ macOS และ ระบบ Window ซึ่งแบ่งแยกรูปแบบของคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจน หากระบบภายในดี จะส่งผลให้อุปกรณ์นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วเคยสงสัยไหมคะ ว่าจริงๆแล้ว ระบบปฏิบัติการทั้ง 2 นี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วอะไรที่ดี และคุ้มค่ากว่ากันแน่ ?

ระบบปฏิบัติการ macOS

ระบบ macOS คือ ระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Apple สำหรับใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตระกูล MAC เช่น iMac, MacBook ระบบปฏิบัติการนี้ มีพื้นฐานมาจากระบบ UNIX จึงได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องของความเสถียรและความมั่นคงปลอดภัย 

ระบบปฏิบัติการ Windows

ระบบ Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) ที่นำรูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ใช้หลักการแบ่งงานเป็นส่วน เรียกว่า หน้าต่างงาน (windows)

ความเหมือน และแตกต่าง ระหว่าง ระบบ macOS และ ระบบ Windows

  1. ประสิทธิภาพในการใช้งาน

ระบบ macOS: จะมีความเสถียรในเรื่องคุณภาพการทำงานที่ดี ภาพคมชัด เสียงสมจริง

ระบบ Windows: โดดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย โปรแกรมสนับสนุนเยอะกว่า 

  1. การใช้งานของโปรแกรม

ระบบ macOS: หากเป็นโปรแกรมพิมพ์งานเอกสาร ระบบ macOS จะใช้โปรแกรม iWork ที่จะมีทั้ง Page ใช้พิมพ์เอกสาร, Number สำหรับใส่แผนภูมิและตาราง หรือ Keynote เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงาน

ระบบ Windows: หากเป็นโปรแกรมพิมพ์งานเอกสาร จะใช้โปรแกรม Microsoft Word, นำเสนองานโดย Microsoft Powerpoint และนำข้อมูลใส่ตารางโดย Microsoft Excel

*ซึ่งทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ จะมีโปรแกรมที่ใช้งานได้เหมือนกัน แต่วิธีการและชื่อโปรแกรมจะแตกต่างกัน

  1. ความปลอดภัย 

ระบบ macOS: มีความปลอดภัยสูง ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ล้ำสมัยอยู่เสมอ จึงทำให้ความเสี่ยงที่จะโดนไวรัสนั้นมีน้อยกว่า Windows

ระบบ Windows: มีระบบความปลอดภัย ที่ทั้งนี้จะน้อยกว่าระบบ macOS 

แล้วควรเลือกใช้ ระบบ macOS หรือ ระบบ Windows ดีนะ ?

จริงๆแล้วคำว่า ‘คุ้มค่า’ นั้น ไม่ได้ตัดสินเพียงแค่ราคาเท่านั้น ควรมองถึงความเหมาะสมกับรูปแบบงาน เช่น หากการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเรา ไม่ได้เน้นภาพสวย เสียงชัด และการเรนเดอร์งานที่หนัก การใช้ PC ในระบบปฏิบัติการ Windows ถือเป็นการใช้งานที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่าที่สุด เพราะถือว่าเราได้ใช้ฟังก์ชันในเครื่องอย่างครบครันนั่นเอง

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกอุปกรณ์ในระบบ macOS หรือระบบ Windows สิ่งสำคัญควรพิจารณาถึงหลากหลายปัจจัยรวมกัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ที่ได้มาพร้อมงานที่มีคุณภาพ หรือหากใคร และองค์กรไหน ต้องการที่ปรึกษา หรือจัดหา-จัดซื้ออุปกรณ์ไอที TechSpace มีบริการ IT Support ที่พร้อมดูแลระบบไอทีแบบครบวงจรอยู่นะคะ 

Mac OS X คือระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Apple Inc. สำหรับใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac (Macintosh) เช่น iMac, MacBook ตัวระบบปฏิบัติการมีพื้นฐานมาจากระบบ UNIX จึงได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องของความเสถียรและความมั่นคงปลอดภัย ปัจจุบัน Mac OS X นั้นพัฒนามาถึงเวอร์ชั่น 10.7 โดยใช้ชื่อว่า OS X Lion [1]

ในอดีต จุดเด่นข้อหนึ่งที่ Apple Inc. ใช้ในการโฆษณา Mac OS X ไม่ว่าจะเป็นข้อความโฆษณาในเว็บไซต์ของ Apple เอง [2] หรือโฆษณาทางโทรทัศน์ก็ตาม [3] คือการบอกว่า Mac นั้นปลอดภัยและปราศจากไวรัส เนื่องจากตัวระบบปฏิบัติการมีพื้นฐานมาจากระบบ UNIX ทำให้มัลแวร์บน Windows ไม่สามารถทำงานบน Mac OS X ได้อยู่แล้ว แต่สาเหตุที่แท้จริงคือจำนวนผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Mac OS X นั้นยังมีไม่ถึง 10% จากจำนวนผู้ใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทั้งหมด [4] ทำให้ไม่เป็นที่สนใจสำหรับแฮ็กเกอร์ในการที่จะพัฒนามัลแวร์ขึ้นมาเพื่อโจมตี ผู้ใช้งาน Mac OS X โดยเฉพาะ แต่ในปัจจุบัน หลังจากที่จำนวนผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Mac OS X มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น [5] ทำให้ผู้พัฒนามัลแวร์หลายรายมีแนวโน้มที่จะหันมาพัฒนามัลแวร์ลง Mac OS X

มัลแวร์ใน Mac OS X
จากข้อมูลของ F-Secure ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความมั่นคงปลอดภัย พบว่า มัลแวร์ที่มีเป้าหมายเพื่อโจมตีผู้ใช้งาน Mac โดยตรงนั้นเริ่มปรากฏตัวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2007 โดย F-Secure เรียกโทรจันนี้ว่า Trojan:OSX/DNSChanger ซึ่งจะล่อลวงให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรมที่หลอกว่าเป็นปลั๊กอิน QuickTime เพื่อใช้สำหรับดูวิดีโอบนเว็บไซต์ จากนั้นจะแก้หมายเลข DNS Server ในเครื่องผู้ใช้ให้ชี้ไปที่ที่ผู้สร้างมัลแวร์ต้องการ [6] และหลังจากนั้นก็ได้มีการค้นพบมัลแวร์บน Mac มากขึ้นเรื่อยๆ มัลแวร์โดยส่วนใหญ่จะเป็นโทรจัน ซึ่งแพร่กระจายผ่านวิธี Social Engineer เช่น ในเดือนมกราคม ปี 2009 มีการค้นพบโทรจัน Trojan.iServices.A ที่มาพร้อมกับโปรแกรม iWork ‘09 แบบละเมิดลิขสิทธิ์ที่แจกจ่ายผ่านระบบ Torrent [7] และต่อมาไม่นาน ก็มีการค้นพบโทรจัน Trojan.iServices.B ที่มาพร้อมกับโปรแกรม Adobe Photoshop CS4 แบบละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกัน [8] จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก Symantec และ McAfee จึงได้ออกมาประกาศแจ้งเตือนให้กับผู้ใช้ Mac OS X ว่าได้ตกเป็นเป้าหมายของผู้พัฒนามัลแวร์แล้ว [9]

ในปี 2011 แฮ็กเกอร์ได้หันมาสนใจโจมตีผู้ใช้ Mac อย่างเต็มตัว โดยได้มีการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้สำหรับ “สร้าง” มัลแวร์ เพื่อโจมตีระบบปฏิบัติการ Mac OS X โดยเฉพาะ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก CSIS Security Group ได้ค้นพบว่ามีซอฟต์แวร์ชื่อ Weyland-Yutani BOT ขายอยู่ในเว็บไซต์ใต้ดิน ซึ่งผู้ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถสร้างมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลผู้ใช้ด้วยการ แทรก Web form เข้ามาในเบราว์เซอร์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Mac OS X ได้ [10] หน้าจอของซอฟต์แวร์ดังกล่าวเป็นดังรูปที่ 1

รูปที่ 1 หน้าจอโปรแกรม Weyland-Yutani BOT [10]


หลังจากที่ผู้ใช้ Mac เริ่มถูกคุกคามจากมัลแวร์ จึงมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รักษาความมั่นคงปลอดภัยบน Mac ออกมาหลายราย แฮ็กเกอร์จึงฉวยโอกาสนี้พัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อ Mac Defender ซึ่งหลอกผู้ใช้ว่าเป็นโปรแกรมรักษาความมั่นคงปลอดภัย แต่ที่จริงแล้วเป็นโทรจันที่ขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต [11] ตัวอย่างหน้าตาของโปรแกรม Mac Defender เป็นดังรูปที่ 2
 

รูปที่ 2 ตัวอย่างหน้าตาของโปรแกรม Mac Defender [11]


มัลแวร์ดังกล่าวนี้ถูกติดตั้งลงบนเครื่องของผู้ใช้ได้โดยง่าย ผ่านความสามารถของเบราว์เซอร์ Safari บน Mac OS X ที่จะเปิดไฟล์ที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดสำเร็จให้โดยอัตโนมัติ ถึงแม้ก่อนการติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าว ระบบปฏิบัติการจะแสดงหน้าจอแจ้งเตือนว่าการกระทำนี้อาจเป็นอันตรายต่อระบบ และให้ผู้ใช้ป้อนรหัสผ่านเพื่อยืนยัน แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่สนใจและยอมใส่รหัสผ่านเพื่อให้โปรแกรมได้ติดตั้งต่อ [12] จากปัญหาดังกล่าว Apple Inc. จึงได้ออกแพทช์มาเพื่อเพิ่มระบบตรวจสอบไฟล์ที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดก่อนทำการเปิดไฟล์ โดยหากพบว่าไฟล์ที่ดาวน์โหลดมามีลักษณะที่น่าจะเป็นมัลแวร์ ระบบจะแนะนำให้ผู้ใช้ทำการลบไฟล์นั้นทันที [13] ดังรูปที่ 3
 

รูปที่ 3 ตัวอย่างการแจ้งเตือนไฟล์ที่ไม่ปลอดภัย [13]


อัตราการแพร่ระบาดของมัลแวร์บน Mac OS X นั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของ iAntivirus ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสบน Mac พบว่า ปัจจุบันมีมัลแวร์บน Mac มากกว่า 100 สายพันธุ์ ถึงแม้จะเป็นจำนวนที่น้อย แต่มัลแวร์ส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ในระดับความรุนแรงขั้นสูงสุดแทบทั้งสิ้น [14] หนึ่งในนั้นมีมัลแวร์ที่น่าสนใจคือโทรจันชื่อ Flashback

Flashback
มัลแวร์ Flashback ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2011 โดยหลอกว่าเป็นตัวติดตั้งปลั๊กอิน Adobe Flash Player ในตอนนั้นยังไม่มีการสร้างความเสียหายอะไรเป็นพิเศษ นอกจากส่งข้อมูล MAC Address ของเครื่องผู้ใช้ออกไปยังเครื่อง Server และเปิดช่องทางให้ผู้โจมตีสามารถทราบได้ว่า เครื่องดังกล่าวติดมัลแวร์แล้ว [15] ในเวลานั้น Flashback ถูกจัดให้เป็นมัลแวร์ที่มีความอันตรายต่ำ ทำให้ Apple Inc. ไม่ได้ปล่อยแพทช์เพื่อตรวจสอบและกำจัดมัลแวร์นี้โดยทันที [16]

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมัลแวร์ Flashback มีความสามารถในการติดต่อกับเครื่อง Server เพื่ออัพเดตเวอร์ชั่นของตัวเองได้ ทำให้ในเวอร์ชั่นต่อๆ มา มัลแวร์ Flashback ได้ถูกเพิ่มความสามารถใหม่ๆ เข้ามาด้วย เช่น จะไม่ทำงานถ้าพบว่าถูกรันอยู่ในระบบที่เป็น Virtual Machine (ความสามารถ Anti-forensics) [17] รวมถึงปิดการทำงานของระบบ XProtect ซึ่งเป็นระบบป้องกันมัลแวร์บน Mac OS X และเขียนทับโปรแกรม XProtectUpdater เพื่อไม่ให้สามารถดาวน์โหลดแพทช์มากำจัดมัลแวร์สายพันธุ์ใหม่ๆ ได้อีก [18] ซึ่งความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้ถูกพัฒนาเพิ่มเข้ามาในเวลาเพียง 1 เดือน และตอนนี้ Flashback มีเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว นั่นคือ การขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 สายพันธุ์ใหม่ของมัลแวร์ Flashback ก็ได้ปรากฏขึ้น โดยในครั้งนี้ได้โจมตีผ่านช่องโหว่ของ Java เวอร์ชั่นเก่า (CVE-2011-3544 และ CVE-2008-5353) เมื่อผู้ใช้เข้าไปยังเว็บไซต์ที่มี Javascript เรียกใช้ Java-applet ที่โจมตีผ่านช่องโหว่ดังกล่าว จะปรากฏหน้าจอ Certificate ปลอมของ Apple Inc. ดังรูปที่ 4 เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรม ซึ่งหากผู้ใช้ติดตั้ง Java เวอร์ชั่นเก่าไว้ในเครื่อง (เวอร์ชั่นก่อนเดือนพฤศจิกายน 2011) มัลแวร์จะสามารถติดตั้งตัวเองลงในเครื่องของผู้ใช้ได้โดยที่ผู้ใช้ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติเลย แต่หากเป็น Java เวอร์ชั่นใหม่ ระบบจะแจ้งเตือนว่า Certificate นั้นไม่น่าเชื่อถือ (Untrusted) แต่ผู้ใช้ก็ยังสามารถติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้ที่โดนโจมตีผ่านช่องโหว่นี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้ Mac OS X เวอร์ชั่น 10.6 ลงไป เนื่องจากใน Mac OS X เวอร์ชั่น 10.7 นั้น Apple Inc. ได้ถอดโปรแกรม Java ออกจากระบบปฏิบัติการแล้ว [19]
 

รูปที่ 4 หน้าจอ Certificate ปลอมของ Apple Inc. [19]


ในเดือนมีนาคม 2012 มัลแวร์ Flashback พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการรับคำสั่งในการทำงานจาก Twitter ซึ่งต่างจากมัลแวร์สมัยก่อนที่จะระบุหมายเลข IP ของเครื่องที่ส่งคำสั่งไว้ในโค้ดของโปรแกรม ทำให้เครื่องนั้นสามารถตรวจพบและถูกสั่งปิดได้ง่าย [20] บริษัท Intego ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส ได้ลองวิเคราะห์ข้อมูลของมัลแวร์ Flashback แล้วพบว่า มัลแวร์ตัวนี้น่าจะถูกสร้างโดยผู้พัฒนาเดียวกันกับ MacDefender [21]

ในวันที่ 2 เมษายน 2012 นักวิจัยจากบริษัท Dr.Web ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ได้รายงานการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ของมัลแวร์ Flashback ซึ่งจะโจมตีผ่านช่องโหว่ของ Java (CVE-2012-0507) [22] โดยทาง Dr.Web คาดว่า มีเครื่อง Mac ที่ติดมัลแวร์ดังกล่าวไปแล้วไม่ต่ำกว่า 600,000 เครื่อง [23] สายพันธุ์ใหม่ของ Flashback ได้รับการตั้งชื่อว่า OSX/Flashback.K ซึ่งจะติดเข้าสู่เครื่องของผู้ใช้ผ่านการเปิดเว็บไซต์ที่มีโค้ดอันตรายฝัง อยู่ ส่วนข้อมูลจากบริษัท F-Secure ระบุว่า ช่องโหว่ของ Java ที่มัลแวร์ใช้ในการโจมตีนั้น ถูกแก้ไขโดยบริษัท Oracle และได้เผยแพร่แพทช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวไปตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 2012 แล้ว โดยเผยแพร่ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows, Linux และ UNIX [24] [25] แต่บริษัท Apple Inc. กลับไม่ยอมปล่อยแพทช์ดังกล่าวผ่านระบบอัพเดต [26] จนกระทั่งวันที่ 4 เมษายน 2012 ถึงมีแพทช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวออกมาทางระบบ Software Update ของ Mac OS X [27] และเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2012 Software engineer จากบริษัท Garmin International ได้พัฒนาเครื่องมือ FlashbackChecker เพื่อใช้ในการตรวจสอบเครื่อง Mac ว่าติดมัลแวร์ Flashback หรือไม่ ซึ่งผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ //github.com/jils/FlashbackChecker

No system is safe.
ปัจจุบัน Apple Inc. ได้พัฒนาระบบ Gatekeeper ซึ่งเป็นการกำหนดให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เข้ามาลงทะเบียนกับ Apple เพื่อรับ Developer ID และส่งซอฟต์แวร์มาให้ Apple เป็นผู้ตรวจสอบและ Sign ซอฟต์แวร์นั้น ก่อนที่จะเผยแพร่ให้กับผู้ใช้ ซึ่งระบบ Gatekeeper นี้จะเริ่มใช้ใน Mac OS X เวอร์ชั่น 10.8 [28]

มัลแวร์บน Mac นั้นมีมานาน และมีแนวโน้มที่จะถูกพัฒนาต่อไปให้สามารถแพร่กระจายและสร้างความเสียหายได้ มากขึ้นเรื่อยๆ Flashback เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการโจมตีผ่านช่องโหว่ต่างๆ ของระบบ ผู้ใช้งาน Mac OS X ไม่ควรนิ่งนอนใจ และควรหมั่นติดตามข่าวสารเรื่องความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ เพราะในตอนนี้ การที่คำโฆษณาของ Apple Inc. เปลี่ยนจาก “Mac ไม่มีไวรัส” มาเป็น “Mac ไม่ติดไวรัสของ PC” [29] นั้นเป็นสัญญาณเตือนที่ดีว่า ผู้ใช้ Mac อาจถึงเวลาที่จะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสแล้วก็เป็นได้

แมคใช้ระบบปฏิบัติการอะไร

macOS เวอร์ชั่นใดที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด.

Mac OS กับ Windows ต่างกันอย่างไร

ความเหมือน และแตกต่าง ระหว่าง ระบบ macOS และ ระบบ Windows ระบบ macOS: จะมีความเสถียรในเรื่องคุณภาพการทำงานที่ดี ภาพคมชัด เสียงสมจริง ระบบ Windows: โดดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย โปรแกรมสนับสนุนเยอะกว่า การใช้งานของโปรแกรม

ข้อใดคือ OS

ระบบปฏิบัติการ (operating system) หรือ โอเอส (OS) คือ ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซอฟต์แวร์ระบบที่รู้จักกันดี คือ ระบบปฏิบัติการ (OS- Operating System) เช่น MS-DOS, UNIX, OS/2, Windows, Linux, Ubuntu เป็นต้น

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้