บทบาทของบิ๊กดาต้าที่ใช้ในงานต่างๆ มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง

ใครมุ่งเน้นในเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่?

ข้อมูลขนาดใหญ่มีความสำคัญสำหรับหลายอุตสาหกรรม การมาถึงของ IoT และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออื่นๆ ทำให้การเก็บรวบรวม การจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลขององค์กรมีปริมาณเพิ่มขึ้นมหาศาล ข้อมูลขนาดใหญ่มาพร้อมกับศักยภาพในการปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกในข้อมูลขนาดใหญ่ – สำหรับทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่ขนาดใหญ่ไปจนถึงขนาดเล็ก

  • เลือกอุตสาหกรรม
  • ธุรกิจค้าปลีก
  • ภาคอุตสาหกรรมการผลิต
  • ภาคการธนาคาร
  • ภาคการแพทย์และบริการด้านสุขภาพ
  • การศึกษา
  • ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
  • ภาครัฐ
  • ภาคการประกันภัย

ธุรกิจค้าปลีก

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกและวิธีที่ดีที่สุดในการบริหารก็คือการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องรู้วิธีที่ดีที่สุดในการทำตลาดกับลูกค้า วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการธุรกรรม และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูธุรกิจที่ซบเซา ข้อมูลขนาดใหญ่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเรื่องเหล่านี้

ภาคอุตสาหกรรมการผลิต

การมีความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่สามารถช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มคุณภาพและผลผลิตได้ในขณะที่ลดของเสียลง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นหัวใจสำคัญในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน มีผู้ผลิตจำนวนมากขึ้นกำลังทำงานในวัฒนธรรมที่ยึดตามการวิเคราะห์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นและตัดสินใจทางธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ภาคการธนาคาร

ด้วยการสตรีมข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งที่มาที่นับไม่ถ้วน ธนาคารต้องเผชิญกับการค้นหาวิธีการใหม่ๆ และเป็นนวัตกรรมในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ในขณะที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าและเพิ่มความพึงพอใจของพวกเขา สิ่งที่มีความสำคัญเท่ากันก็คือการลดความเสี่ยงและการทุจริตในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อมูลขนาดใหญ่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่ใหญ่ยิ่ง แต่สถาบันการเงินก็ยังต้องยืนอยู่ข้างหน้าการแข่งขันหนึ่งก้าวด้วยการวิเคราะห์ขั้นสูง

ภาคการแพทย์และบริการด้านสุขภาพ

ระเบียนผู้ป่วย แผนการรักษา ข้อมูลการจ่ายยา เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพ ทุกอย่างจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และในบางกรณีต้องมีความโปร่งใสมากพอเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เข้มงวดของอุตสาหกรรม หากมีการขัดการข้อมูลขนาดใหญ่อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพจะสามารถค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ได้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น

การศึกษา

นักวิชาการที่มีข้อมูลเชิงลึกสามารถสร้างผลกระทบต่อระบบโรงเรียน นักเรียน และหลักสูตรได้อย่างอย่างมีนัยสำคัญ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยให้สามารถทราบเกี่ยวกับนักเรียนที่มีความเสี่ยง ทำให้มั่นใจได้ว่านักเรียนมีความคืบหน้าที่ดีพอ และสามารถใช้ระบบที่ดีขึ้นในการประเมินผลและการสนับสนุนครูอาจารย์และผู้อำนวยการ

ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก

เนื่องจากมีความง่ายมากขึ้นในการเก็บรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่และยังตัวมีเลือกมากขึ้นที่มีราคาถูกลงในการจัดการ การจัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล SMB จึงมีโอกาสที่ดีขึ้นในการแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่กว่า SMB สามารถใช้ข้อมูลขนาดใหญ่พร้อมการวิเคราะห์เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงและการฉ้อโกงลง

ภาครัฐ

หากหน่วยงานของรัฐสามารถควบคุมและนำการวิเคราะห์ไปใช้กับข้อมูลขนาดใหญ่ หน่วยงานเหล่านี้จะได้รับข้อมูลที่สำคัญในเรื่องการจัดการระบบสาธารณูปโภค การบริหารหน่วยงาน การรับมือกับปัญหาการจราจรติดขัดหรือป้องกันอาชญากรรม แต่ในขณะที่ข้อมูลขนาดใหญ่มีข้อดีมากมาย รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวควบคู่ไปด้วย

ภาคการประกันภัย

Telematics, ข้อมูลเซ็นเซอร์, ข้อมูลสภาพอากาศ, โดรน และข้อมูลภาพทางอากาศ – ผู้รับประกันได้รับการไหลเข้าจนเอ่อล้นของข้อมูลขนาดใหญ่ การรวมข้อมูลขนาดใหญ่เข้ากับการวิเคราะห์เป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ที่สามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลได้ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยให้บริษัทประกันภัยประเมินความเสี่ยง ได้ดียิ่งขึ้นกำหนดราคากรมธรรม์ใหม่ ทำข้อเสนอที่เป็นส่วนตัวสูงได้ดียิ่งขึ้น และมีความกระตือรือร้นมากขึ้นในการป้องกันการสูญเสีย

Big Data เป็นคำที่ถูกเรียกใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังมีความก้าวหน้าถึงขีดสุดในปัจจุบัน ข้อมูลสำคัญต่างๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างมหาศาล รอการนำไปต่อยอดเพื่อโอกาสทางธุรกิจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

มาทำความรู้จักกับ Big Data แหล่งข้อมูลเหล่านี้สำคัญอย่างไร และนำไปพัฒนาต่อยอดในธุรกิจอย่างไรได้บ้าง สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้

Big Data คืออะไร?

Big Data หมายถึงชุดข้อมูลใดๆ ก็ตามที่มีขนาดใหญ่และถูกเก็บบันทึกไว้ผ่านวิธีการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นฐานข้อมูลภายในองค์กรของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการทำ transaction ต่างๆ หรือข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า

ปัจจุบันโลกกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ชุดข้อมูล (Data) จำนวนมากถูกสร้างขึ้นใหม่ทุกวัน และสามารถทำการเก็บรวบรวมได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต การรับชมสื่อออนไลน์ หรือธุรกรรมสำคัญต่างๆ

บริษัท International Data Corporation (IDC) คาดการณ์ว่าปริมาณข้อมูล (Data) ที่เกิดขึ้นบน Digital Platform ภายในปี 2020 จะมีจำนวนมากถึง 40 Zettabyte หรือเทียบเท่ากับ 40 ล้านล้าน Gigabyte เลยทีเดียว

ชุดข้อมูลมหาศาลเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำ Customer Insight โดยเป็นส่วนสำคัญสำหรับนำไปพัฒนาระบบ AI เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตัวอย่างเช่น Chatbot บนแพลตฟอร์ม Facebook เพื่อนำเสนอคำตอบที่ตรงใจ และชักจูงให้ลูกค้าสนใจสินค้าหรือบริการมากที่สุด

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่แต่ละองค์กรควรจะเริ่มทำการเก็บข้อมูลและนำมาใช้ต่อยอดธุรกิจ การมีข้อมูลที่มากกว่าจะทำให้คุณทำความเข้าใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งกว่าคู่แข่ง ทำให้คุณสามารถแข่งขันและขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของการทำธุกิจได้ หรืออาจกล่าวได้ว่า ข้อมูลยิ่งมีมากเท่าใดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จขององค์กรก็มีมากเท่านั้น

โดย Big Data นั้นสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามโครงสร้างของชุดข้อมูลได้ดังนี้

ข้อมูลที่มีโครงสร้างชัดเจน (Structured Data)

หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีการจัดเรียงโครงสร้างอย่างเป็นระเบียบ มีความชัดเจน หรือระบุได้ด้วยตัวเลข พร้อมใช้งานได้ทันที เช่น จำนวนการซื้อขายกับลูกค้า เปอร์เซ็นต์ความเคลื่อนไหวภายในตลาดหุ้น ฯลฯ

ข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data)

หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถระบุความแน่นอนของข้อมูลนั้นๆ ได้ ยังไม่สามารถประมวลผลเพื่อนำไปใช้ได้ทันที อย่างเช่น บทสนทนาโต้ตอบกับลูกค้าทาง Social Media

ข้อมูลกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-Structured Data)

หมายถึง ชุดข้อมูลที่มีโครงสร้างระดับหนึ่งแต่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น สเตตัสใน Social Media เป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง แต่ในกรณีที่มี Hashtag (#) เข้ามาช่วยในการจัดหมวดหมู่ จะทำให้ข้อมูลมีความเป็นระเบียบขึ้นมาเล็กน้อย

คุณลักษณะสำคัญของ Big Data

คุณสมบัติของ Big Data นั้น จะมีลักษณะโดยรวมอยู่ 6 ประการด้วยกัน หรือที่มีการพูดถึงในชื่อ “5Vs 1C” โดยคุณลักษณะทั้ง 6 ของ Big Data นั้น มีดังนี้

1. ข้อมูลที่มีปริมาณมาก (Volume)

หมายถึง มีปริมาณข้อมูลอยู่มาก มีขนาดใหญ่ สามารถนับรวมได้ทั้งข้อมูลแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ โดยข้อมูลต้องมีขนาดใหญ่เกินกว่า Terabyte

ยกตัวอย่างเช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งแต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้งานข้อมูลที่หลากหลาย ทำให้ปริมาณของข้อมูลที่เกิดขึ้นมีจำนวนมหาศาล

2. ข้อมูลที่มีความหลากหลาย (Variety)

หมายถึง ข้อมูลแต่ละชนิดนั้นมีความหลากหลาย รวมกันทั้งรูปแบบมีโครงสร้าง ไม่มีโครงสร้าง และกึ่งโครงสร้าง

ยกตัวอย่างผ่านพฤติกรรมของ Social Media User ที่ในแต่ละวันสามารถสร้างชุดข้อมูลได้หลากหลาย เช่น การคอมเมนต์ลงในโพสต์ทาง Facebook จัดเป็นข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง เพราะไม่สามารถคาดเดาคำตอบและโพสต์ที่เขาสนใจจากคอมเมนต์ได้

หรือการโพสต์ลงบน Twitter ที่สามารถจัด Category ของแต่ละโพสต์ผ่าน Hashtag ได้ แต่ก็ไม่สามารถระบุโครงสร้างหรือความหมายของ Hashtag นั้นได้อย่างชัดเจน นี่จึงจัดเป็นข้อมูลกึ่งโครงสร้าง

ส่วนข้อมูลที่ได้จากการตอบแบบสอบถามผ่าน Google Form ที่มีคำถามและคำตอบให้เลือกอย่างชัดเจน และข้อมูลนั้นสามารถนำไปใช้ต่อได้เลยทันที จะจัดว่าเป็นชุดข้อมูลแบบมีโครงสร้าง

เนื่องจากการใช้งานของ Social Media User นั้นไม่ได้เป็นระเบียบแบบแผนตายตัว ทำให้นอกจากมีปริมาณข้อมูลเกิดขึ้นอย่างมหาศาลแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นยังเต็มไปด้วยความหลากหลายและซับซ้อนอีกด้วย

3. ข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Velocity)

หมายถึง ข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นและเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดข้อมูลแบบ Real-time มากมาย อย่างเช่นข้อมูลการจราจร ซึ่ง Google Map ก็ได้ใช้ประโยชน์จากการเข้าถึง GPS ของผู้ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอเส้นทางที่การจราจรคล่องตัวที่สุดให้กับผู้ใช้งาน

4. ข้อมูลที่สร้างประโยชน์นำไปใช้ในทางธุรกิจได้ (Value)

หมายถึง ข้อมูลที่มีคุณค่าต่อการนำไปใช้งาน สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลผ่าน Google ที่ทำให้สามารถทราบถึงความสนใจของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ ได้

5. ข้อมูลต้องมีความถูกต้องชัดเจน (Veracity)

เนื่องจาก Big Data นั้นรวบรวมข้อมูลไว้เป็นจำนวนมหาศาล เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความถูกต้องชัดเจนของข้อมูล ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อการใช้งานต่อในอนาคตได้

6. ข้อมูลต้องมีความเชื่อมโยงกัน (Complexity)

การจะใช้ประโยชน์จาก Big Data ได้นั้น มีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญนั่นก็คือความเชื่อมโยงกันของข้อมูล หากสิ่งที่รวบรวมมานั้นไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงกันได้ ข้อมูลเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์ การเก็บ Data ที่มีประสิทธิภาพนั้นจึงต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กันของข้อมูลด้วย

Big Data มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง?

จากคุณสมบัติของ Big Data ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น มาดูกันว่าสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถสรุปออกมาได้ทั้งหมด 3 ประการ ดังนี้

1. สร้างธุรกิจใหม่จาก insight ผู้บริโภคอย่างแท้จริง

Big Data ส่งผลเป็นอย่างมากต่อการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยชุดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ทำให้มองเห็น pain point ของธุรกิจที่กำลังจะเริ่มเข้าไปได้ง่ายขึ้น และสามารถสร้างธุรกิจที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

ยกตัวอย่างเช่นธุรกิจ Local Food Delivery ที่ให้บริการในเขตต่างจังหวัด ได้นำเอาตัวอย่างโมเดลธุรกิจและ Data จาก Food Delivery รายใหญ่ๆ อย่าง Grab หรือ Food Panda มาใช้ในการทำธุรกิจ ทำให้ Local Food Delivery สามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้อย่างรวดเร็วและเติบโตได้ไม่ยาก ตอบโจทย์ต่อผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย

2. เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น

บ่อยครั้งที่ในการทำ transaction ซื้อของออนไลน์ แล้วผู้บริโภคอยู่ระหว่างขั้นตอนการตัดสินใจเลือกซื้อหรือไม่สะดวกทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นในเวลานั้นๆ ระบบซื้อขายออนไลน์ดังกล่าวจะมีการช่วยแจ้งเตือนจ่ายเพื่อให้ตัดสินใจซื้อและชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ พร้อมทั้งยังแนะนำสินค้าหรือบริการอื่นๆ ที่ลูกค้ากำลังให้ความสนใจได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

สิ่งเหล่านี้เกิดจากการที่ AI ได้รวบรวม Data พฤติกรรมการค้นหา และเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคไว้อย่างละเอียด ทำให้สามารถคาดเดาพฤติกรรมในอนาคตของผู้บริโภคได้ว่า กำลังสนใจอะไร และสินค้าประเภทใดบ้างที่มีโอกาสจะซื้อ

การทำความเข้าใจในตัวลูกค้า (Customer Insight) จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง Netflix ที่ใช้ประโยชน์จากการรู้ถึงความชื่นชอบของผู้ใช้งาน แล้วจึงนำเสนอคอนเทนท์ใหม่ๆ ตามความสนใจที่แตกต่างกันให้กับลูกค้าอยู่เสมอ

จึงอาจกล่าวได้ว่า ธุรกิจในปัจจุบันใช้ประโยชน์จาก Big Data ในแง่ของการทำให้เกิด Data-Driven หรือการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ที่องค์กรหรือแบรนด์ต่างๆ นำมาใช้วิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

3. พัฒนาศักยภาพธุกิจ และก้าวนำหน้าคู่แข่ง

Big Data ทำให้แต่ละธุรกิจมีข้อมูลจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ ธุรกิจใดที่สามารถจับความเชื่องโยงภายในกลุ่มข้อมูลเหล่านั้นออกมาได้ จะสามารถสร้างกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง และใช้มันเพื่อเข้าถึงตัวลูกค้าได้ก่อนใคร

การมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างคุ้มค่า จะเป็นกำลังสำคัญให้กับธุรกิจในอนาคต เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด จนสามารถแข่งขันกับคู่แข่งอื่นได้

Summary

ในยุคที่ Data สำคัญพอๆ กับทองคำ ความเป็นไปของโลกจะเป็นอย่างไรนั้น สามารถคาดการณ์ทิศทางได้จากข้อมูลที่คุณมีอยู่

Big Data เปรียบเสมือนการลงทุนในระยะยาว ที่คุณอาจยังไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมันมากนักในช่วงแรก แต่ในอนาคต ข้อมูลมหาศาลที่มีคุณค่าที่คุณถือครองอยู่นั้น จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างมาก

บทบาทของการนำ Big Data ที่ใช้ในองค์กรภาครัฐ มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง

การใช้ประโยชน์จาก “บิ๊กดาต้า (Big Data)” ของภาครัฐคือการนำมาพัฒนาการบริการภาครัฐให้ตรงต่อความ ต้องการของประชาชนให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และใช้งบประมาณน้อยลง เช่น นำมาวิเคราะห์ (Analytical Use) ข้อมูลสภาพอากาศ ที่มีปริมาณมหาศาล เพื่อให้เห็นความรู้ที่ซ่อนอยู่ลึกจากเครื่องตรวจวัดจำนวนมาก บนโลก ทั้งดาวเทียม เรดาร์ บอลลูน ...

Big Data สามารถนำมาใช้ภาคธุรกิจอย่างไร จงอธิบายและยกตัวอย่าง

บริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทมีการนำ Big Data ไปใช้งานแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Amazon, EBay, Netflix, Google, Twitter และ Airbnb เป็นต้น ส่วนใหญ่ก็ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและนำข้อมูลมาปรับ Strategy ของบริษัทนั่นเอง

จงยกตัวอย่างการนำ Big Data ไปใช้ มีอะไรบ้าง

การประยุกต์ใช้งาน Big Data ในภาครัฐ.
การใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาในการพยากรณ์อากาศ.
การใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการจราจร.
การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดปัญหาและป้องกันการเกิดอาชญากรรม.
การวิเคราะห์ข้อมูลด้านสาธารณสุข เช่น แนวโน้มของผู้ป่วย การรักษาพยาบาล หรือการเกิดโรคระบาด.

ประเทศไทยนำบิ๊กดาต้า(Big Data) มาใช้ในงานประเภทใดบ้าง

งานสัมมนาครั้งนี้นำเสนอการนำ Big Data ไปประยุกต์ใช้ในหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งการวิเคราะห์สเตตัสเฟซบุ๊ วางแผนการจราจร ใช้ทำแอปพลิเคชันค้นหาร้านอาหาร ใช้ประโยชน์ด้านโทรคมนาคม ใช้ประโยชน์ในสาขาการแพทย์ชีวภาพ การนำ Big Data มาวิเคราะห์ข่าวลือทางการเมือง และการเก็บข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยกับ Big Data.

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้