เริ่มจากพระเจ้าไชยศิริ อพยพชาวโยนก เชียงแสนไชยปราการ ลงมาทางใต้ แยกกันอยู่ เป็นกลุ่มกระจัดกระจาย ไม่มีอำนาจทางการสู้รบ ไม่มีผู้นำสำคัญ จึงตกอยู่ใต้อิทธิพลของขอมไปโดยปริยาย
ต่อมาผู้นำชื่อ พ่อขุนศรีนาวนัมถม เชื้อสายพระเจ้าพรหมมหาราช เชียงราย ได้รวบรวมไพร่พลสร้างเมืองสุโขทัย พ่อขุนศรีนาวนัมถม มีโอรสสองพระองค์ พ่อขุนผาเมือง และพระคำแหงพระราม มี ธิดา 1องค์คือนางเสือง (พระมารดาพ่อขุนรามคำแหง)
พ่อขุนผาเมืองมีสติปัญญาและมีความสามารถ เริ่มฝึกอาวุธคนไทยสร้างกองทัพให้เข้มแข็ง มีเป้าหมายจะขับไล่ขอมออกจากดินแดนไทย แผนแรก พ่อขุน-ผาเมืองมุ่งหน้าไปตีนครเดิด (ปัจจุบันคือเมืองหล่มสัก) เมืองสำคัญของขอม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ทางทิศตะวันออกของกรุงสุโขทัย
ใช้เวลาไม่นาน พ่อขุนผาเมืองก็รุกไล่ขอมออกจากนครเดิด ยึดนครเดิดได้ แต่เนื่องจากกำแพงนครเดิดอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก บางปีน้ำมากน้ำก็ทะลุกำแพงเมืองเข้ามาท่วมบ้านเรือน พ่อขุนผาเมืองจึงย้ายเมือง เลือก เอาที่ดินลาดสูงน้ำไม่ท่วม (ปัจจุบัน อยู่ในบริเวณบ้านห้วยโป่ง อ.หล่มสัก) ตั้งเมืองใหม่ มีชื่อว่า เมืองลาด
ต่อมาเชื่อนี้ก็ถูกเรียกเพี้ยนไป กลายเป็น เมืองราด คุณดิเรก เขียนว่า ข่าวพ่อขุนผาเมือง มีกำลังกล้าแข็งยึดนครเดิดได้ ทราบถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ขอมผู้ทรงอำนาจ แทนที่จะส่งกองทัพขอมมาตีเอาเมืองคืน พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กลับส่งพระธิดา พระนางสิงขรมหาเทวี มาให้เป็นชายา
พร้อมกันนั้นก็ยังพระราชทาน พระขรรค์ไชยศรี(ดาบอาญาสิทธิ์ มีอำนาจดุจกษัตริย์ขอม) และพระพุทธรูป พระนามพระพุทธมหาธรรม-ราชา มาให้เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง
พ่อขุนผาเมือง มีพระญาติที่คบกันสนิทเยี่ยงสหาย ชื่อพ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง (นครไทย) มีความเก่งกล้าสามารถไม่น้อยกว่ากัน มีไพร่พลมากพอๆกัน สองพระองค์มีความมุ่งมั่นเดียวกัน คือต่อต้านอำนาจขอม
พ.ศ.1778 พ่อขุนศรีนาวนัมถม เจ้าเมือง สุโขทัยสิ้นพระชนม์ ขอมสบาดโขลนลำพง ได้โอกาส ยกกองทัพมายึดได้ทั้งเมืองสุโขทัยและเมืองศรีสัชนาลัย ศูนย์อำนาจของไทยต้องตกอยู่ในอำนาจขอมอีกครั้งหนึ่ง
พ่อขุนผาเมือง ยกทัพออกจากเมืองราดพ่อขุนบางกลางท่าวยกทัพจากเมืองบางยาง สมทบเป็นทัพเดียวกัน บุกเข้าชิงเมืองศรีสัชนาลัย สองพ่อขุนแสร้งทรงช้างเชือกเดียวกัน เลียบหน้าเมือง ขอมตายใจคิดว่าทำศึกเดียว
ตกค่ำ ทัพพ่อขุนผาเมืองก็แยกไปซุ่มทัพกลางป่า และใช้เวลาที่ขอมโจมตีศรีสัชนาลัย นำทัพไปยึดเมืองสุโขทัยไว้ได้โดยง่าย จากนั้นก็นำทัพย้อนกลับมาขนาบหลังขอมสบาดโขลน-ลำพง โจมตีทัพขอมแตกยับเยิน
คุณดิเรก ถึงฝั่ง อ้างจารึกวัดศรีชุม หลักที่ 2 บรรยายความตอนนี้ว่า เมื่อพ่อขุนผาเมืองยึดสุโขทัยได้ ก็รอให้พ่อขุนบางกลางท่าวเสด็จเข้า สุโขทัย แต่พ่อขุนบางกลางท่าวต้องการให้พ่อขุน-ผาเมืองสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์สุโขทัย ไม่ยอมเข้าไป พ่อขุนผาเมืองจึงต้องยกกองทัพออกจากเมืองสุโขทัย รอจนพ่อขุนบางกลางท่าวเสด็จเข้าสุโขทัยแล้ว จึงสถาปนาพ่อขุนบางกลางท่าว เป็นปฐมกษัตริย์ ทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์และได้ยกนางเสือง พระขนิษฐาให้เป็นมเหสี
เมื่อพ่อขุนผาเมืองเสด็จกลับเมืองราด ก็พบว่าเมืองราดถูกไฟเผาไหม้เป็นจุณไปหมดแล้ว ด้วยฝีมือพระนางสิงขรมหาเทวี ที่น้อยพระทัยพระสวามีไปเข้าข้างฝ่ายไทยด้วยกัน ไม่สนใจยศศักดิ์อัครฐาน ที่พระราชบิดากษัตริย์ขอมประทานให้เผาเมืองราดแล้ว ตำนานว่าพระนาง สิงขรมหาเทวี ก็กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ขณะที่พ่อขุนผาเมืองก็เศร้าสลดพระทัย นำพระนางเนาวรงค์ทวี มเหสีฝ่ายไทย เสด็จออกจากเมืองราด หายไปทางภาคเหนือ และไม่มีใคร ได้ข่าวคราวพ่อขุนผาเมืองอีก.
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์พระร่วงกรุงสุโขทัย เสวยราชสมบัติตั้งแต่ พ.ศ. ๑๗๙๒ ถึงปีใดไม่ปรากฏ พระนามเดิมคือพ่อขุนบางกลางหาว มีมเหสีคือนางเสือง มีพระราชโอรส ๓ พระองค์ พระราชธิดา ๒ พระองค์ พระราชโอรสองค์ใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ส่วนพระราชโอรสองค์ที่ ๒ และ ๓ คือพ่อขุนบานเมืองและพ่อขุนรามคำแหงทรงครองราชย์ต่อมาตามลำดับ เดิมพ่อขุนบางกลางหาวทรงเป็นเจ้าเมืองอยู่ที่ใดไม่ปรากฏ แต่ข้อความในศิลาจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าอยู่ใต้เมืองบางยางลงไป มีผู้เสนอความเห็นว่าพ่อขุนบางกลางหาวน่าจะอยู่แถวกำแพงเพชร
ก่อนราชวงศ์พระร่วงอาณาจักรสุโขทัยมีราชวงศ์พ่อขุนศรีนาวนำถุมครองอยู่ ในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถุมซึ่งเริ่มประมาณ พ.ศ. ๑๗๖๒ อาณาจักรสุโขทัยครอบคลุมถึงเมืองฉอด (ใกล้แม่น้ำเมย) ลำพูน น่าน พิษณุโลก ต่อมาอาณาจักรสุโขทัยตกอยู่ใต้อำนาจขอมสบาดโขลญลำพง จนกระทั่งพ่อขุนผาเมืองโอรสของพ่อขุนศรีนาวนำถุมทรงร่วมมือกับพ่อขุนบางกลางหาวขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงไป พ่อขุนบางกลางหาวทรงยึดเมืองศรีสัชนาลัยได้และทรงเวนเมืองให้พ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์สุโขทัย พ่อขุนผาเมืองซึ่งเป็นพระชามาดา (ลูกเขย)ของกษัตริย์ขอมทรงยกพระนามศรีอินบดินทราทิตย์ซึ่งพระองค์ได้รับมาจากกษัตริย์ขอมมอบให้แก่พ่อขุนบางกลางหาว แต่พ่อขุนบางกลางหาวทรงใช้พระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ บางทีอาจจะทรงเห็นว่าพระนามเดิมมาจากคำ อินทรปัต + อินทร + อาทิตย์ แสดงว่าอยู่ใต้อินทรปัตซึ่งเป็นเมืองหลวงของขอม (ดังปรากฏในจารึกหลักที่ ๒) ก็เป็นได้
การที่พ่อขุนผาเมืองทรงยกสุโขทัยและอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวเป็นกษัตริย์ อาจจะทรงเห็นว่าสุโขทัยในขณะนั้นเป็นเมืองเล็กกว่าศรีสัชนาลัย หรืออาจจะเป็นเพราะว่านางเสือง พระมเหสีของพ่อขุนบางกลางหาวเป็นพระภคินี (พี่สาว) ของพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนบางกลางหาวจึงทรงมีสิทธิที่จะได้ครองเมืองก่อนพ่อขุนผาเมืองก็เป็นได้
พ่อขุนผาเมืองเป็นเจ้าเมืองราด มีพระอนุชาคือพระยาคำแหงพระรามครองเมืองสระหลวงสองแคว (พิษณุโลก) โอรสของพระยาคำแหงพระราม คือ มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี เมื่อเป็นฆราวาสมีฝีมือในการสู้รบ ได้ชนช้าชนะหลายครั้ง รู้ศิลปศาสตร์หลายประการ ขณะอายุ ๓๐ ปีมีบุตรแต่เสียชีวิต มหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีจึงออกบวช ได้ไปปลูกต้นโพธิ์ สร้างพิหาร อาวาส และซ่อมแซมพระศรีรัตนมหาธาตุทั้งในและนอกประเทศ เช่น พม่า อินเดีย และลังกา
อนึ่ง เมืองราดตั้งอยู่ที่ใดมีผู้สันนิษฐานไว้ต่างๆ กันสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าเมืองราดน่าจะอยู่ที่เพชรบูรณ์และเมืองลุมคือเมืองหล่มเก่าแต่ผู้เขียน(ประเสริฐ ณ นคร) วางตำแหน่งเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายไว้ที่ลุ่มแม่น้ำน่านด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
จากจารึกหลักที่ ๒ ทำให้ทราบว่าเมืองราดเมืองสะค้าและเมืองลุมบาจายเป็นกลุ่มเมืองที่อยู่ใกล้กันพ่อขุนผาเมืองอยู่เมืองราดและกษัตริย์น่านมีพระนามผานองผากองและผาสุมแต่กษัตริย์เมืองอื่นไม่ใช้"ผา"นำหน้าพระนามเลยพ่อขุนผาเมืองจึงน่าจะเป็นกษัตริย์น่าน(คือเมืองราดนั่นเอง)นอกจากนี้ยังมีพระราชโอรสของกษัตริย์น่านมีพระนามว่าบาจายอาจจะแสดงว่าน่านมีอำนาจเหนือบาจายแบบพระนามกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์แสดงว่ากรุงเทพฯมีอำนาจเหนือราชบุรีนั่นเอง
อีกประการหนึ่ง จารึกหลักที่ ๘ กล่าวถึงไพร่พลของพระเจ้าลิไทยว่ามีทั้งชาวสระหลวงสองแควพระบางฯลฯเริ่มตั้งแต่เมืองทางทิศตะวันออกของสุโขทัยแล้วกวาดไปทางใต้ทางทิศตะวันตกทางทิศเหนือจนกลับมาจบที่ทิตะวันออกตามเดิมจารึกหลักอื่นเช่นหลักที่ ๓๘ และจารึกวัด อโสการาม (หลักที่๙๓) ก็ใช้ระบบเดียวกันโดยถือตามพระพุทธศาสนาว่าตะวันออกเป็นทิศหน้าแล้ววนตามเข็มนาฬิกาเริ่มจากสระหลวงสองแควคือพิษณุโลกไปปากยม(พิจิตร)พระบางไปชากังราวสุพรรณภาวกำแพงเพชรรวม ๓ เมืองที่กำแพงเพชรบางพาน(อำเภอพานกระต่ายกำแพงเพชร)ต่อไปจะถึงราดสะค้า ลุมบาจายซึ่งจะอยู่ระหว่างทิศเหนือกวาดมาทางทิศตะวันออกของสุโขทัยและย่อมจะอยู่เหนือสระหลวงสองแควขึ้นไป จารึกหลักที่ ๑ วางลุมบาจายและสะค้าไว้ระหว่างพิษณุโลกกับเวียงจันทน์
อีกประการหนึ่ง ตอนพ่อขุนผาเมืองยกมาช่วยพ่อขุนบางกลางหาวรบกับขอมสบาดโขลญลำพงที่สุโขทัยถ้าหากพ่อขุนผาเมืองอยู่แถวเพชรบูรณ์คงจะมาช่วยไม่ทันสินชัยกระบวนแสงจากคณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากรพบใบลานที่วัดช้างค้ำเมืองน่านกล่าวถึงเหตุการณ์สมัยรัชกาลที่ ๒ ว่า เจ้าผู้ครองน่านขึ้นตามแม่น้ำน่านไปถึงอำเภอท่าปลา (ปัจจุบันคือจังหวัดอุตรดิตถ์) ใกล้ห้วยแม่จริม"เมืองราดเก่าหั้น"แสดงว่าสมัยต้นรัตนโกสินทร์ยังทราบกันดีว่าเมืองราดอยู่บนแม่น้ำน่านใกล้อำเภอท่าปลา