www.avaccount.com > บอร์ดบัญชีและภาษี
(1/1)
ภัทรียา:
มีกรณีที่ว่า บริษัทของลูกค้าไม่ได้จดVat แต่จะออกใบเสร็จรับเงินที่มีรายการ Vat ให้ผู้ซื้อ เป็นภาษาอังกฤษ จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า จะต้องใช้คำกำกับใด ระหว่าง Tax Invoice หรือ Tax Reciept และความหมายของสองคำนี้แตกต่างกันอย่างไร
หมูจัง:
ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าชำระค่าสินค้าหรือบริการยังไงค่ะเพราะTax receipt คือการที่เราได้รับค่าสินค้าหรือบริการแล้วจึงออกใบเสร็จรับเงินให้ ค่ะ ส่วน Tax invoice เป็นใบกำกับภาษีที่ออกให้เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการเป็นเงินเชื่อจึงยังไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้ค่ะ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
ตอบ
ไปที่เวอร์ชันเต็มe-Tax Invoice and e-Receipt คืออะไร
e-Tax Invoice and e-Receipt คือ ใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเอกสารใบกำกับภาษีปัจจุบันทีมีการออกเป็นกระดาษ ใช้เพื่อแสดงรายละเอียดมูลค่าสินค้าหรือบริการ และจำนวนภาษีที่เกิดจากการทำธุรกรรม เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากรที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำใบรับ/ใบกำกับภาษีเพื่อเป็นหลักฐานในการขายสินค้าหรือการให้บริการทุกครั้ง เมื่อมีส่งมอบสินค้า หรือได้รับการชำระเงิน พร้อมทั้งต้องส่งมอบต้นฉบับใบรับ/ใบกำกับภาษีนั้น ในรูปแบบกระดาษให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการทุกครั้ง
เอกสารนี้ผู้ออกจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร (บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท / ปี ต้องจดทะเบียน VAT)
ซึ่งกระบวนการออกใบกำกับภาษีและนำส่งแบบเดิมนั้นถือเป็นภาระต้นทุนส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในยุคที่เทคโนโลยีมีการก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดนี้ แม้แต่ในเรื่องของระบบการจัดทำภาษีก็เป็นหนึ่งเรื่องที่มีการปรับเปลี่ยนไปเพื่อตอบรับให้ทันกับยุคสมัยเช่นกัน
e-Tax Invoice and e-Receipt จัดทำอย่างไร
1.จัดทำเอกสารที่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาษีให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเนื้อหาในไฟล์ข้อมูลจะเหมือนกับข้อมูลที่เคยอยู่บนกระดาษ โดยรูปแบบไฟล์ข้อมูลต้องเป็นไปตามข้างล่างนี้
1.1 Portable Document Format : .pdf, PDF A/3
1.2 Microsoft Word Document : .doc, .docx
1.3 Microsoft Excel : .xls, .xlsx
2. ขนาดแต่ละไฟล์ต้องไม่เกิน 3 mb
3. ข้อมูลในไฟล์ต้องไม่ใช่รูปภาพ
4. ต้องมีการลงลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) หรือ ประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ผ่านระบบ e-tax invoice by email
ผู้ประกอบการสามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามรูปแบบไฟล์ข้างต้นซึ่งมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)แล้ว ส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้าหรือให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
แต่การนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรต้องจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้อยู่ในรูปแบบ XML File ตามมาตรฐาน (ขมธอ.3-2560) เท่านั้น
ประโยชน์ของ e-Tax Invoice and e-Receipt
– ลดปัญหาการจัดการข้อมูลหรือเอกสารที่อยู่ในรูปของกระดาษ
– ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร
– ลดต้นทุนการจัดเก็บ / รักษาเอกสาร
– เอกสารไม่เสียหายหรือสูญหาย
– เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
– นำข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลในระบบสารสนเทศ เพื่อประโยชน์ขององค์กร
– มีความน่าเชื่อถือและผลผูกพันทางกฎหมายของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
ในยุคที่เข้าสู่การปรับเปลี่ยนขบวนการทำงาน (Digitalization) ทุกคนต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้า ถึงเวลาที่ระบบการจัดการภาษีที่หลายคนอาจจะให้ความสำคัญในส่วนนี้น้อยมาก แต่เมื่อพิจารณาถึงต้นทุน และเวลาที่ลดลง สามารถตอบโจทย์ต่อองค์กรที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วเช่นกัน
e-Tax Invoice and e-Receipt คืออะไร
e-Tax Invoice and e-Receipt คือ ใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเอกสารใบกำกับภาษีปัจจุบันที่มีการออกเป็นกระดาษใช้เพื่อแสดงรายละเอียดมูลค่าสินค้าหรือบริการ และจำนวนภาษีที่เกิดจากการทำธุรกรรมเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสรรพากรที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องจัดทำใบรับ/ใบกำกับภาษี เพื่อเป็นหลักฐานในการขายสินค้าหรือการให้บริการทุกครั้ง เมื่อมีส่งมอบสินค้า หรือได้รับการชำระเงิน พร้อมทั้งต้องส่งมอบต้นฉบับใบรับ/ใบกำกับภาษีนั้น ในรูปแบบกระดาษให้แก่ผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการทุกครั้ง
เอกสารนี้ผู้ออกจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร (บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท / ปี ต้องจดทะเบียน VAT) ซึ่งกระบวนการออกใบกำกับภาษี และนำส่งแบบเดิมถือเป็นภาระต้นทุนส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ ในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด การปรับระบบการจัดทำภาษีแบบเดิมสู่ ระบบการจัดทำภาษีอิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งที่องค์กรต้องให้ความสำคัญและปรับเพื่อตอบรับให้ทันกับยุคสมัยด้วยเช่นกัน
e-Tax Invoice and e-Receipt จัดทำอย่างไร
1.จัดทำเอกสารที่มีข้อมูลเกี่ยวกับภาษีให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเนื้อหาในไฟล์ข้อมูลจะเหมือนกับข้อมูลที่เคยอยู่บนกระดาษ โดยรูปแบบไฟล์ข้อมูลต้องเป็นไปตามข้างล่างนี้
1.1 Portable Document Format : .pdf, PDF A/3
1.2 Microsoft Word Document : .doc, .docx
1.3 Microsoft Excel : .xls, .xlsx
2. ขนาดแต่ละไฟล์ต้องไม่เกิน 3 mb
3. ข้อมูลในไฟล์ต้องไม่ใช่รูปภาพ
4. ต้องมีการลงลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) หรือ ประทับรับรองเวลา (Time Stamp) ผ่านระบบ e-tax invoice by email ผู้ประกอบการสามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามรูปแบบไฟล์ข้างต้น ซึ่งมีการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) แล้วส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อสินค้า หรือผู้รับบริการทุกครั้งที่มีการขายสินค้า หรือให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่การนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรต้องจัดทำข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้อยู่ในรูปแบบ XML File ตามมาตรฐาน (ขมธอ.3-2560) เท่านั้น
ในยุคที่เข้าสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน (Digitalization) ทุกองค์กรต้องปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้า เมื่อพิจารณาถึงต้นทุน และเวลาที่ลดลงระบบการจัดการภาษีอิเล็กทรอนิกส์สามารถตอบโจทย์ต่อองค์กรได้เป็นอย่างดี
Brainergy บริษัทในเครือเบญจจินดาได้รับการรับรองจากสพธอ. (ETDA) ให้เป็น Service Provider โดยเป็น 1 ใน 16 รายของประเทศไทย ให้เป็นผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แก่กรมสรรพากร (Service Provider Certification for e-Tax Invoice & e-Receipt) ได้ออกแบบบริการที่ใช้ชื่อเรียกว่า SmartTAX ระบบจัดทำและนำส่งข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ โดย Brainergy ผู้ที่ได้รับการรับรองให้เป็นผู้นำส่งข้อมูลภาษีอิเล็กทรอนิกส์ไปยังกรมสรรพากร ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรกำหนด ช่วยให้องค์กรของคุณจัดการเรื่องภาษีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ง่ายดาย แม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง (ดูรายละเอียด Smart Tax //brainergy.digital/smart-tax)