คุณสามารถอัปเดตขนาดและระยะขอบของหน้า หรือเปลี่ยนการวางแนวของหน้าให้เอกสารใน Google เอกสารได้
สําคัญ: ฟีเจอร์เหล่านี้ใช้งานไม่ได้กับเอกสารในรูปแบบที่ไม่แบ่งหน้า หากต้องการใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ โปรดตรวจสอบว่าเอกสารอยู่ในรูปแบบแบ่งหน้า
เปลี่ยนการตั้งค่าหน้าของเอกสารใน Google เอกสาร
- เปิดเอกสารใน Google เอกสารจากคอมพิวเตอร์
- คลิกไฟล์ การตั้งค่าหน้ากระดาษในแถบเครื่องมือ
- เลือกแบ่งหน้าที่ด้านบนของหน้าต่างกล่องโต้ตอบ
- ไปยังการตั้งค่าที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
- การวางแนว
- ขนาดกระดาษ
- ระยะขอบ
- สีของหน้า
- เคล็ดลับ: หากใช้รูปแบบที่ไม่มีการแบ่งหน้า คุณจะอัปเดตสีพื้นหลังได้
- ทำการเปลี่ยนแปลง
- คลิกตกลง
- เคล็ดลับ: คุณสามารถคลิกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นเพื่อใช้การตั้งค่าเหล่านี้กับเอกสารใหม่ที่คุณสร้าง
ใช้การวางแนวหน้ากระดาษทั้ง 2 แบบกับเอกสารใน Google เอกสารฉบับเดียว
เอกสาร 1 ฉบับจะใช้ทั้งเลย์เอาต์แนวตั้งและแนวนอนเพื่อปรับให้พอดีกับตาราง แผนภูมิ และกราฟิกที่กว้างขึ้นได้
เปลี่ยนการวางแนวของส่วนที่เลือก
- เปิดเอกสารใน Google เอกสารจากคอมพิวเตอร์
- ไฮไลต์ข้อความหรือรูปภาพที่คุณต้องการเปลี่ยนการวางแนว คลิกขวาที่ข้อความหรือรูปภาพ
- เลือกเปลี่ยนหน้ากระดาษเป็นแนวนอนหรือเปลี่ยนหน้ากระดาษเป็นแนวตั้ง
เปลี่ยนการวางแนวของส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วน
- เปิดเอกสารใน Google เอกสารจากคอมพิวเตอร์
- คลิกตำแหน่งที่ต้องการสร้างหัวข้อหลายรายการ
- ไปที่แทรก
การแบ่งตัวแบ่งส่วน
- หากต้องการเปลี่ยนการวางแนวของส่วน
ให้คลิกไฟล์การตั้งค่าหน้ากระดาษหรือ รูปแบบการวางแนวของหน้า
- ตั้งค่า "ใช้กับ" เป็น "ส่วนนี้" หากต้องการใช้การวางแนวของหน้ากับส่วนที่เลือกเท่านั้น โปรดใช้ "ส่วนนี้เป็นต้นไป" หากต้องการใช้การวางแนวของหน้ากับส่วนนี้และส่วนถัดไปทั้งหมด
- เลือกการวางแนวที่จะใช้
- คลิกตกลง
เคล็ดลับ:
- หากต้องการแสดงตัวแบ่งส่วนในเอกสาร ให้คลิกดู
แสดงตัวแบ่งส่วน
- หากต้องการแสดงโครงร่างหน้ากระดาษ ให้คลิกดู
แสดงเลย์เอาต์งานพิมพ์
- คุณยังเปลี่ยนการวางแนวสําหรับทั้งเอกสารได้อีกด้วย โดยคลิกไฟล์
การตั้งค่าหน้ากระดาษใช้กับ: ทั้งเอกสาร
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปลี่ยนการตั้งค่าหน้ากระดาษของเอกสาร: แบ่งหน้าหรือไม่แบ่งหน้า
- ดูวิธีพิมพ์เอกสาร สเปรดชีต หรืองานนําเสนอ
- เปลี่ยนการวางแนว ขนาดกระดาษ และขอบเมื่อพิมพ์สเปรดชีต
- เปลี่ยนขนาดของ Google สไลด์
1. ข้อใดคือคุณสมบัติที่สำคัญของโปรแกรม Microsoft Excel 2013 1. เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการพิมพ์งาน 2. เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการออกแบบรูปภาพต่างๆ 3. เป็นโปรแกรมที่จัดการข้อมูลในตารางและการคำนวณ 4. เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการตกแต่งภาพและตัวอักษรได้ดี 2. ส่วนประกอบใดต่อไปนี้ที่แตกต่างกันระหว่างโปรแกรม Microsoft Word และ Microsoft Excel 1. แถบคำสั่ง (Menu Bar) 2. แถบชื่อเรื่อง (Title Bar) 3. แถบเครื่องมือ (Tool Bar) 4. แถบสูตร (Formular Bar) 3. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ถูกต้อง 1. A : A หมายถึง เลือกทั้งคอลัมน์ A 2. A : IV หมายถึง เลือกแถวที่ 3 3. 1 : 3 หมายถึง เลือกทั้งแถวที่ 1 และ 3 4. A1:A20 หมายถึง เลือกจากเซลล์ A1 ถึง A20 4. ข้อใดกล่าวถึงแถบเครื่องมือโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ได้ถูกต้อง 1. แถบเครื่องมือด่วนไม่สามารถเพิ่มปุ่มคำสั่งได้ 2. คำสั่งตั้งค่าหน้ากระดาษอยู่ในแท็บหน้าแรก 3. มีแท็บงานปกติอยู่ 5 แท็บบนแถบเครื่องมือ Ribbon 4. แถบเครื่องมือ Ribbon สามารถซ่อนปุ่มคำสั่งต่าง ๆได้ 5. การสร้างสูตรในการคำนวณต้องเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายใด 1. : 2. ; 3. = 4. #
6. จากรูปภาพ ข้อใดกล่าวถึงเซลล์อ้างอิงในการคำนวณได้ถูกต้องที่สุด
19. ภาพต่อไปนี้มีชื่อว่าอะไร
1. กล่องชื่อ 2. กลุ่มเซลล์ที่กำลังทำงาน 3. ป้ายชื่อเวิร์กชีต 4. แถบแสดงสถานะ20. เมื่อนักเรียนต้องการบันทึกไฟล์งานจากโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ไฟล์จะมีนามสกุลใด
1. ppt หรือ pptx 2. doc หรือ docx 3. xls หรือ xlsx 4. ai หรือ aix 21. ถ้าต้องการบังคับให้โปรแกรม Microsoft Excel คำนวณตามลำดับเครื่องหมายคณิตศาสตร์ที่ผู้เรียนต้องการก่อน ควรใส่เครื่องหมายใดต่อไปนี้ 1. เครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ % 2. เครื่องหมายมากกว่า > 3. เครื่องหมายวงเล็บ ( ) 4. เครื่องหมายไม่เท่ากับ < > 22. ฟังก์ชัน IF ใช้สำหรับการคำนวณใด 1. ใช้สำหรับการคำนวณอัตโนมัติ 2. ใช้สำหรับการคำนวณที่มีการกำหนดเงื่อนไข 3. ใช้สำหรับการคำนวณกรณีที่กลุ่มเซลล์ที่โปรแกรมวิเคราะห์มาไม่ถูกต้อง 4. ใช้สำหรับการคำนวณตัวเลขหรือเซลล์อ้างอิง 23. ข้อใดกล่าวถึงแผนภูมิได้ถูกต้องที่สุด 1. การนำข้อมูลจากกระดาษมาทำการแสดงในรูปของกราฟหรือแผนภูมิ เพื่อสื่อความหมายของข้อมูลให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 2. การกรอกข้อมูลดิบลงในแผนภูมิที่เลือกมาแล้ว 3. การคำนวณข้อมูลที่มีอยู่ให้ตรงตามแผนภูมิที่เลือก 4. การใช้สูตรคำนวณเพื่อหาคำตอบของแผนภูมินั้นๆ 24. ข้อใดต่อไปนี้คือการแก้ไขข้อมูลในแผนภูมิ 1. ลบแผนภูมิจากนั้นแก้ไขข้อมูลแล้วจึงสร้างแผนภูมิใหม่ 2. ดับเบิ้ลคลิกที่ข้อความนั้นๆ ในแผนภูมิแล้วทำการแก้ไข 3. ให้ทำการแก้ไขข้อมูลใหม่ไปในตารางโดยที่ไม่ต้องลบหรือสร้างแผนภูมิใหม่ 4. สร้างชิ้นงานใหม่จากนั้นแทรกแผนภูมิแล้วป้อนข้อมูลดิบลงในแผนภูมิ 25. วัตถุประสงค์ของการแสดงค่ากำกับข้อมูลในแผนภูมิ คือข้อใด 1. เพื่อให้แก้ไขข้อมูลในเซลล์นั้นๆ ได้ง่ายขึ้น 2. ทำให้แผนภูมิมีสีสันสวยงาม เข้าใจง่าย 3. เป็นการแสดงข้อความในแผนภูมิเพื่อให้แก้ไขข้อมูลได้ง่ายขึ้น 4. เป็นการแสดงค่าตัวเลขบนแท่งกราฟในแผนภูมิ ซึ่งจะช่วยให้การวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลเป็นไปได้อย่างชัดเจน 26. ข้อใดต่อไปนี้คือการปรับแต่งแผนภูมิ 1. แทรกแผนภูมิ ---> แทรกรูปภาพ 2. แทรก Recommended Chart 3. คลิกที่แผนภูมิ ---> แท็บเครื่องมือแผนภูมิ 4. แทรกรูปภาพที่จะนำมาตกแต่งแผนภูมิ 27. จากรูปภาพ คือเครื่องมือใดในโปรแกรม Microsoft Excel 2013 1. การแทรกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ 2. การแทรกรูปภาพออนไลน์ 3. การเลือกรูปภาพเพื่อครอบตัด 4. การเลือกรูปภาพเพื่อพิมพ์ข้อความ 28. Smart Art หมายถึงข้อใดต่อไปนี้ 1. การนำรูปภาพที่เก็บไว้ใน Facebook มาแทรกลงเอกสาร 2. การเพิ่มเอฟเฟ็กต์แต่งภาพเองได้โดยเลือกคำสั่งย่อยของเอฟเฟ็กต์ 3. ใช้อ้างอิงหรือจะใช้อธิบายเนื้อหาในเซลล์ 4. การนำเสนอข้อมูลและความคิดออกเป็นแผนภาพกราฟิกที่มีลำดับหรือขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และสัมพันธ์กัน 29. ข้อใดคือการแทรกรูปภาพสำหรับ Smart Art 1. 2. 3. 4. 30. เมื่อต้องการเลือกชุดข้อมูล สลับข้อมูล หรือจัดลำดับชุดข้อมูลใหม่ ควรเลือกเครื่องมือใด 1. 2. 3. 4.