จากการเปิดตัวของ Apple Pencil 2 สำหรับ iPad Pro (2018) รุ่นใหม่ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา นอกจากจะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่แล้ว Apple Pencil 2 ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย ด้วยการแปะตัวปากกาติดกับ iPad Pro แทนการเสียบชาร์จเหมือนรุ่นแรก รวมถึงฟีเจอร์ Gesture ด้วยการแตะที่ตัวปากกา 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนพู่กัน และความหนาของเส้น เรียกได้ว่า Apple Pencil 2 นั้น ช่วยทำให้การทำงานสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
แต่สิ่งที่ผู้ใช้ต้องทราบ นั่นก็คือ Apple Pencil 2 รองรับการใช้งานเฉพาะ iPad Pro (2018) ทั้งหน้าจอ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้วเท่านั้น นั่นหมายความว่า ผู้ที่ใช้ iPad Pro รุ่นเก่า ทั้ง Gen 1 และ Gen 2 รวมถึง iPad (2018) ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2 ได้ และในทำนองเดียวกัน Apple Pencil รุ่นแรก ก็ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ iPad Pro (2018) เช่นกัน
ฉะนั้น ผู้ที่ใช้ iPad หรือ iPad Pro รุ่นเก่า และมี Apple Pencil อยู่แล้ว หากต้องการซื้อ iPad Pro (2018) รุ่นใหม่มาใช้งาน จะต้องเสียเงินซื้อ Apple Pencil 2 เพิ่มด้วย ซึ่งราคาของ Apple Pencil รุ่นที่สอง อยู่ที่ 4,490 บาท แพงกว่า Apple Pencil รุ่นแรกที่มีราคาอยู่ที่ 3,400 บาท
-------------------------------------
ที่มา : macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 31/10/2018
iPad Pro 2018 Apple Pencil 2
จำนวนคนดู : 4,553
รีวิว Apple Pencil 2 + วิธีใช้งานแบบละเอียด จนคล่อง
หลายคนคงสงสัยว่า Apple Pencil 2 ผมขอเรียกว่าปากกาแล้วกันนะครับ ว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง คุ้มค่าหรือเปล่ากับเงินที่เสียไปเกือบๆครึ่งหมื่น ซึ่งถือว่าแพงมากๆ สำหรับบางคน แต่ สำหรับบางคนมันก็ไม่ได้แพงอะไร และอีกสำหรับบางคน แพง แต่มีความสามารถในการใช้ปากกาให้คุ้ม(เอาไปทำงาน ด้านวาดรูป ออกแบบ เขียนงาน จดงาน) ก็ถือว่าคุ้มเอามากๆแล้วครับ ดังนั้นวันนี้ผมจะมารีวิวพร้อมสอนใช้ปากกา ตัวนี้ ตั้งแต่เริ่ม จนคล่องกันเลยทีเดียว
สวัสวดีครับ ผมชื่อ แบงก์นะครับวันนี้ผมจะมาสอนใช้งาน Apple Pencil 2 ให้ผู้อ่านทุกท่านได้ใช้งานจนคล่อง จนเซียนกันเลยทีเดียว ก่อนอื่นใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว แล้วไม่ชอบการอ่าน ก็สามารถเข้ามาดูได้ในนี้เลยนะครับ
กล่องและการประกัน การแนะนำการซื้อตาม Store
จริงๆผมอยากถ่ายรูปกล่องมาให้ดูมากๆเลย แต่ว่าลืมเอามาด้วยเอาเป็นว่าถ้าใครอยากดูสภาพกล่อง มาขอภาพผมได้ในแฟนเพจ ReallyChokie นะครับ หรือ ค้นหาได้ในกูเกิ้ลเลย ส่วนการประกันผมอยากจะแนะนำว่า ใครที่ซื้อตามร้าน Store ของ Apple เองหรือตาม ช็อปต่างๆเช่น True, Ais, Dtac, iStudio พวกนี้จะได้แบบสินค้าทันที หลังจากที่เราเปิดกล่องเอามาใช้งานกับตัวเครื่อง(เชื่อมต่อ) ก็ให้เรารอประกันทำงานประมาณ 1-3 วัน เพื่อให้มันคงที่ แต่ถ้าใครมีปัญหา ประกันขาดเยอะก็ให้ติดต่อ Apple Call Center ไปเพื่อระบุวันซื้อที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนใครที่ซื้อมือหนึ่งข้างนอกร้าน(คนที่ซื้อมาดองแล้วขาย)ให้เรา เอาปากกาไปแปะเครื่องหรือเอาไปใช้งานก่อนประมาณ 2 อาทิตย์แล้วค่อยกลับมาดูประกันอีกครั้งมันจะกลับมาเป็นปกติ คืออย่างของผมตอนแรกผมไม่รู้เลยเผลอไปกดยืนยันวันซื้อ มันทำให้ประกันผมขาดไปประมาณ 2 เดือนเลย ก็เลยค่อนข้างเศร้า แบบจำขึ้นใจเลยทีเดียวล่ะ ดังนั้นการซื้อปากกานี้จากข้างนอกให้ใจเย็นๆนะครับ แรกๆประกันมันจะแปลกๆ แต่พอใช้ไปๆ มันจะกลับมาเอง เชื่อผม ผมโดนดุมาแล้ว และ โดนมากับตัว 555555 โดยราคาของ Apple Pencil 2 ราคาจะอยู่ที่ 4490 บาท
การใช้งานกับ iPad และการใช้งานกับ Application Notes
เมื่อเราแกะปากกาออกมาจากในกล่องแล้ว ก็ให้เอามาแปะกับตัวเครื่องเลย โดยที่มันจะขึ้นให้เรากดยืนยัน ก็ให้เราทำตามขั้นตอนไปไม่ยากประมาณ 10 วินาทีก็เสร็จแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า ปากกานี้มันทำมาสำหรับไอแพดอยู่แล้ว ดังนั้นการใช้งานที่เกิดขึ้นกับไอแพดก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดนั่นเอง ส่วนพวกเกสเจอร์ต่างๆ ฟังก์ชั่นต่างๆเช่นการแท็บสองครั้งที่ปากกา เดี๋ยวผมจะแยกย่อยให้อีกทีนะครับ
ส่วนการใช้งานกับ Application Notes ก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่มันก็ยังมี App ที่ใช้งานได้ดีกว่าเช่น Goodnotes 5 แต่เดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกทีนะครับ สำหรับการใช้งานกับ Notes ก็ไม่มีอะไรมากหลังๆคือสามารถเขียนลงไปในโน้ตได้เลย ปรับหัวปากกาได้ รับแรงกด และที่สำคัญรับคำสั่งการเขียนแบบพิมพ์ได้ด้วย สำหรับใครที่ไม่เข้าจะมันคือฟังก์ชัน ที่เราเขียนแล้วมันจะแปลงเป็นตัวพิมพ์ให้เราครับ ในแอปนี้สามารถปรับปากกาได้ด้วยน้าา คล้ายๆ Goodnotes เลย เพียงแต่ว่ามันใช้งานได้น้อยกว่า สำหรับใครที่ไม่ยากเสียตังค์เพิ่มก็สามารถใช้งานกับแอปนี้ได้แบบสบายๆ ฟรีอีกด้วย
การใช้งานร่วมกับ Application Goodnotes 5
หนึ่งใน Application ชื่อดังอย่าง Goodnotes 5 ที่เหล่านักศึกษาส่วนใหญ่นิยมใช้ จริงๆก็ไม่ใช่แค่นักศึกษาหรอกที่ชอบใช้กัน แต่วัยทำงานหลายๆท่าน ก็นิยมใช้ไม่ต่างกันเท่าไร เรามาดูกันดีกว่าว่าแอปนี้จะสามารถดึงประสิทธิภาพของ Apple Pencil 2 ออกมาได้ขนาดไหนกันเชียว ผมขอลิสต์ความสามารถออกมาเป็นข้อๆนะจะได้อ่านแล้วไม่งง
เลือกปากกาได้หลายแบบ Brush, Ball, Fountain
โดยตัวที่รีดประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุดก็คือ Brush ครับเพราะมันสามารถรับแรงกดได้ รู้ความลึก ตื้น หนา บาง
ตัวอย่างภาพหัวปากกาแบบ Brush
การแตะสองครั้งเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ (เราสามารถตั้งค่าเองได้ว่าจะเลือกอะไรใน Setting iPad)
Highlight
(Plam Rejection)ป้องกันไม่ให้มือเราเขียน
การใช้งานร่วมกับ Application Procreate
ต้องบอกไว้ก่อนว่านี่คือแอปที่ดึงประสิทธิภาพของ Apple Pencil ออกมาได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการวาดรูป และผลงานของเหล่าศิลปิน หลายๆท่านก็เกิดจาก แอปตัวนี้ ดังนั้นถ้าใครใช้เป็นก็ต้องบอกเลยว่าท่านรวยแน่ๆ จากการวาดรูปขาย การรับงานวาดรูปอะไรประมาณนี้ ผมขอพอก่อนเพราะจะเป็นการรีวิวแอปเสียแล้ว 55555 ปล. เหมือนเดิมครับผมจะลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านจะได้ไม่งงกัน
การแรเงาที่ยอดเยี่ยม
เปลี่ยนเครื่องมือได้ด้วยการแตะเพียง 2 ครั้ง
ปรับขนาดของหัวปากกาได้อย่างอิสระ
รองรับหลายฟังก์ชันได้ด้วยการใช้ปากกา ปล. เดี๋ยวจะมีแอดมินมาทิ้งลิงค์สอนไว้ให้ครับ
นำหนักการกด
ความคมจากหัวปากกา
อื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งการใช้งานกับแอปนี้ผมต้องขอบอกก่อนเลยว่าโคตรจะละมุน คือวาดยังไงก็สวย ล้อเล่นจริงๆมันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือด้วย อีกอย่างคือผมลองให้เพื่อนที่วาดรูปเก่งๆวาดดูมันดีมาก หมายถึงสวยมากกกก ก ไก่ ล้านตัว
การตั้งค่าและการดูรายละเอียดต่างๆของ Apple Pencil 2
อันดับแรกเรามาดูรายละเอียดต่างๆของปากกากันก่อนดีกว่า สำหรับการปรับความสามารถต่างๆ จริงๆที่ผมบอกว่าปรับได้ใน Goodnotes ไม่ใช่ในแอปนะ แต่เป็นในนี้แหละ
//ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ภาพค่อนข้างเบลอ ตัวเว็บมันชอบบีบให้ครับ ขออภัยจริงๆ //
อันดับแรกเราจะเห็นหลอดเปอร์เซนต์แบตเตอร์รี่ บริเวณบนสุด แล้วมีไฟบอกสถานะการแท็บอีกด้วยใน รูปปากกา โดยเราสามารถเลือกได้ ตามนี้เรียงตามบรรทัดเลยนะครับ รองลงมาจากปากกา
สลับระหว่างเครื่องมือปัจจุบันกับยางลบ(นิยมใช้)
สลับระหว่างเครื่องมือปัจจุบันกับเครื่องมือที่แล้ว
แสดงจานสี
ปิด
ส่วนด้านล่างลงมาก็จะเป็นในส่วนของการใช้ Apple Pencil ในการวาดเพียงอย่างเดียว และ Scribble ก็คือการเขียนแล้วแปลงเป็นตัวพิมพ์ โดยเราสามารถพิมพ์ได้ตามบราวเซอร์ หรือช่องค้นหาแทบทุก Applications เลยทีเดียว
ใครที่อยากดูข้อมูลเกี่ยวกับปากกา สามารถเข้าไปดูได้ที่ General>>About>>Apple Pencil ได้เลยนะครับ ก็จะขึ้นผู้ผลิต หมายเลขโมเดล รหัสประกัน รุ่นของเฟิร์มแวร์ แล้วก็ รุ่นของฮาร์ดแวร์นะครับ โดยเราสามารถนำ Serial Number เข้าไปดูรายละเอียดประกันได้ใน Browser เว็บไซต์ของ Apple หรือ Application ที่ชื่อว่า Support ก็ได้ โดยเราเข้าไปในแอปแล้วก็ค้นหาคำว่า Coverage แล้วนำ Serial Numberเข้าไปกรอก ก็จะขึ้นตามภาพนี้เลยครับ ปล. Serial Number ใน General สามารถคัดลอกได้นะครับ กดค้างแล้ว Copy ได้เลย
สรุปทั้งหมด
สำหรับผม ผมว่ามันคุ้มนะในคนที่เขามีทุนสูงหรือทุนต่ำแต่ต้องการใช้ในการวาดรูป เพราะแน่นอนการวาดรูปคือมันต้องใช้จินตนาการและทุกครั้งที่ออกมาจากปากกามันค่อนข้างที่จะต้องดีและชัดและง่ายและยืดยุ่น เพื่อให้การภาพที่ออกมาแบบสมบูรณ์และสวยงามนั่นเอง ส่วนท่านใดที่ซื้อมาเพื่อใช้ในการ เขียนจดงานอย่างเดียวผมแนะนำ ปากกา Stylus ทั่วไปครับเขียนดีเหมือนกันน้ำหนักเบากว่า แต่เขียนดีครับ ราคาประมาณ 500 ดูสิต่างกันเกือบ 9 เท่า 5555 ดังนั้นก็ แล้วแต่ท่านเลยนะ ใครอยากใช้งานดีๆไปเลยก็จัดไปเลยครับ ถือว่าสนับสนุน Apple ไปในตัว ผมแค่ชี้แนวเฉยๆน้าาา เอาเป็นว่าตอนนี้ก็จบแล้วเป็นไงกันบ้างถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์ Fanpage ReallyChokie กันด้วยนะค้าบ กดซับ Youtube ด้วยยิ่งดี ไว้เจอกันครับ บายจ่ะ ตะเอง 😊😊
ติดตามเราได้ที่
- Youtube
- Website
- Medium
- TrueBlog
- Line