เทคนิคการสมัครงานที่ให้ได้งานมีอะไรบ้าง

การสมัครงานถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องใช้ศิลปะในหลายแขนงตั้งแต่การเขียนชื่ออีเมล ทำเรซูเม่ ไปจนถึงการพูดคุย ซึ่งทุกวิธีนั้นมีเคล็ดลับมากมายในการทำให้การสมัครงานของเราส่งผลดีที่สุด มีโอกาสได้งานมากที่สุด 

ซึ่งศิลปะในการสมัครงานอย่างไรให้ได้งานนั้นมีเทคนิคอะไรบ้าง เดี๋ยวแนะนำให้ไปลองทำดู เรามั่นใจว่าคุณก็ทำได้

เขียน Subject อีเมลให้ชัดเจน

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าการส่งอีเมลไปสมัครงานนั้นเป็นขั้นตอนที่เราไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยหรือแสดงตัวตน แสดงบุคลิกภาพให้คนที่สัมภาษณ์งานเราได้เห็นเลย ดังนั้นสิ่งแรกที่ทำให้เขาประทับใจ สนใจเรา หรือเลือกที่จะไม่สนใจตั้งแต่แรกเห็นเลยคือ ‘ชื่อหัวอีเมล’ ที่ส่งไปสมัครงาน  โดยการเขียนหัวข้ออีเมลที่น่าสนใจและไม่โดนกดลบเมลทิ้งนั้นควรจะมีดังนี้

  • บอกวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เช่น “สวัสดีครับผม…..ขอสมัครงานตำแหน่ง….ครับ” หรือจะแค่ “ขอสมัครงานตำแหน่ง….” ก็ได้ แค่นี้แหละครบถ้วนตั้งแต่ยังไม่เปิดอีเมลว่าต้องการอะไร
  • ประเภทเขียนหัวอีเมลแค่ “สมัครงาน” เฉยๆ แล้วจบเลยนั้นโอกาสจะโดนหมางเมินสูงมาก เพราะวันหนึ่งมีจดหมายสมัครงานมาเป็นสิบๆ ร้อยๆ มาไล่เปิดทีละเมลเพื่อดูว่าสมัครงานตำแหน่งอะไรนั้นไม่สนุกหรอกกดลบสนุกกว่า
  • หรือถ้าส่งเมลมาโดยที่ไม่ใส่หัวอีเมลใดๆ มาเลยเพื่อหวังจะเรียกร้องความสนใจให้ HR เปิดเมลอ่านนั่นก็เซอร์เกินไป อย่าทำ
  • แม้บริษัทนั้นจะเป็นบริษัทครีเอทีฟ หรือขี้เล่นแค่ไหนแต่เชื่อเถอะว่าการเขียนหัวอีเมลประหลาดๆ ไม่ได้ทำให้บริษัทอยากจะเปิดอีเมลคุณดูเลย แต่ทำให้เขากดลบได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เขียนมาธรรมดาๆ เถอะอย่าเล่นท่าเยอะ ยกเว้นบางบริษัทที่เขาบอกให้ทำเราถึงค่อยเล่นท่าไป
  • ก่อนส่งเมลดูให้ดีว่าเรียกชื่อบริษัทเขาถูกไหม ไม่ใช่สมัครงานที่ Mango Zero แต่เขียนเป็นเว็บอื่น
  • หรือประเภทส่งอีเมลเดียวแต่ส่งมันไปทุกบริษัทนี่ก็ไม่เอานะ จะขี้เกียจไปไหนฟร้ะ!

เขียนเนื้อหาอีเมลให้ชัดเจน

จากประสบการณ์ตรงเคยเจออีเมลสมัครงานหลายฉบับมากที่เปิดมาแล้วไม่เจออะไรเลยนอกจากไฟล์เรซูเม่หรือพอร์ตงานที่แนบมาก (เคยเจออีเมลหนึ่งฉบับถ้วนที่ไม่แนบอะไรมาเลย…โคตรเซอร์) นับว่าเป็นอีเมลสมัครงานที่มินิมอลเรียบๆ สไตล์วิถีเซ็น แต่…นั่นก็เรียบไป๊ ที่ถูกต้องและควรจะเป็น!

  • เนื้อหาของอีเมลแรกสุดเลยควรจะแนะนำตัวเองก่อนว่าคุณเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน เช่น “ข้าคือธอร์ บุตรแห่งโอดิน มาจากแอสการ์ด ข้าสนใจที่จะสมัครงานตำแหน่ง….” อะไรก็ว่าไป อย่าคิดว่าแนบเรซูเม่มาแล้วไง ก็อ่านเองดิวะ คือเนื้อหาในอีเมลอย่างน้อยก็ทำให้เรารู้จักกันเบื้องต้นก่อน ถ้าประทับใจตั้งแต่เนื้อหาอีเมลคะแนนจะบวกมากเชื่อเถอะ
  • เนื้อหาในอีเมลนั้นขึ้นอยู่กับว่าบริษัทที่รับคุณเข้าทำงานนั้นเน้นทางการ หรือว่าสนุกสนานได้ในระดับไหน เอาแต่พอดีอย่าเล่นท่าเยอะ บางคนคิดว่าถ้ามาในแนวกวนตีนนี่พี่เขาต้องประทับใจแน่นอน ซึ่งไม่เลยเชื่อเถอะว่ายังไม่สนิทกันอย่าเพิ่งกวนตีนตั้งแต่เนื้อหาในอีเมล ไม่มีใครประทับใจในอีเมลฉบับแรกที่คุณไปกวนตีนใส่เขาหรอก ถึงแม้จะเป็นมุกก็ตาม
  • เขียนเนื้อหาในอีเมลมาแต่พอดีอย่าน้อยไปหรือเยอะไปบางคนเขียนมาแค่สองบรรทัด แล้วจากไปเลย กับบางคนนี่เขียนมายาวกว่าเรซูเม่อี๊ก! ความพอดีคืออะไร!!!
  • อย่าพิมพ์ผิด!

แนบเรซูเม่และพอร์ตงานมาแต่พอดี

การแนบเรซูเม่และพอร์ตตัวอย่างงานที่เคยทำมาด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะยิ่งทำให้ตัดสินได้ง่ายขึ้นว่าผู้สมัครคนนี้มีความสามารถแค่ไหน ถ้าตรงใจก็เรียกมาสัมภาษณ์ ถ้ารู้สึกว่ายังไม่โอเคก็แยกย้ายทางใครทางมัน การแนบเรซูเม่หรือพอร์ตงานนั้นมีรายละเอียดที่ควรทำตามดังนี้

  • เรซูเม่แนะนำตัวเองควรกระชับเห็นแล้วเข้าใจง่าย และมีความสวยงามสักนิดนึง ประเภทพิมพ์ใส่กระดาษ A4 แล้วส่งมาเลยนี่อย่าทำ ดูไม่เห็นถึงความตั้งใจในการเล่าเรื่องราวของตัวเอง ปัจจุบันมีเว็บออกแบบเรซูเม่สวยๆ เยอะตัวอย่างเช่น Canva ไปลองทำดูได้
  • เรซูเม่ ควรใส่แต่สิ่งที่จำเป็นต่อการทำงานจริงๆ ความสามารถพิเศษประเภทรำไทย หรือรางวัลคัดลายมือดีเด่นตอน ม.ปลายไม่ต้องใส่มาเลยไม่มีผล
  • พอร์ตงานไม่ต้องส่งมาทุกอย่างที่มีเลือกมาเน้นๆประเภทไฟล์หลัก 16GB นี่อย่าส่งเลยไม่โหลดแน่นอน
  • ถ้าเป็นไฟล์วิดีโอควรอัปลงยูทูบหรือเว็บฝากไฟล์วิดีโอแล้วส่งลิงค์มา ไม่ต้องส่งไฟล์มาให้โหลด
  • พอร์ตเยอะไม่ได้แปลว่าเขาจะสนใจคุณท่องไว้ว่าเอาแต่พอดีน่ารักๆ คัดมาเน้นๆ
  • ย้ำอีกทีคัดงานที่เด่นๆ มานะ เยอะไปไม่อ่าน

เตรียมตัววันสัมภาษณ์ให้พร้อม

หลังจากผ่านด่านแรกคืออีเมลสมัครงานไปแล้วก็มาถึงการดูตัว ซึ่งการที่เขาเรียกเราไปสัมภาษณ์นั้นก็มีหลายเหตุผลแต่หลักๆ มีสองข้อคือถูกใจแล้วแต่อยากรู้ว่าคุยกันรู้เรื่องไหม กับเกือบจะถูกใจแล้วล่ะขอคุยอีกสักรอบนึงเพื่อตัดสินใจ

ดังนั้นการจะทำให้มาถึงจุดนี้ได้ถือว่าคุณเกือบได้ทำงานที่นี่ไปครึ่งตัวแล้ว แต่หลังจากนี้แหละว่าคุณพร้อมแค่ไหน และสิ่งที่ควรเตรียมตัวมาให้ดีได้แก่

  • ถ้าเอาพอร์ตงานที่อยู่ในเว็บมาโชว์ควรโหลดใส่คอมพ์มาเลยตั้งแต่แรก มาถึงก็เปิดให้ดูได้เลย อย่ามาขอยืมไวไฟที่ออฟฟิศเพื่อเปิดงานในยูทูบให้ดู มันดูไม่โปรและไม่เตรียมพร้อมเลย
  • แต่งตัวไปให้สุภาพที่สุด ต่อให้บริษัทนั้นเป็นโคตรบริษัทครีเอทีฟที่ชิลขนาดไหนก็ตาม แต่วันแรกที่เจอหน้ากันแล้วควรจะสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ใช่มาแนวเซอร์ เสื้อกล้ามหลวมๆ เสื้อยีนเก่าๆ กางเกงยีนขาสั้น รองเท้าแตะ เพราะคิดว่าที่นี่ชิลขนาดนี้กูก็ชิลบ้างสิพี่ๆ เขาโอเค ซึ่งบอกเลยว่าพี่คนไหนก็ไม่โอเคหรอก
  • อย่ามาเตรียมอะไรตรงหน้างานเช่นยืมปากกา ยืมที่ถ่ายเอกสาร ยืมกรรไกรตัดรูปสมัครงาน ยืมยางลบ ยืมคอม (อย่าคิดว่ามุกนะเรื่องจริง) ยืมเงิน (อันนี้มุก) แบบนี้แสดงให้เห็นว่าไม่โปร ไม่เตรียมตัว ไม่พร้อม
  • ไปให้ทันเวลา อันนี้สำคัญมากมาไม่ทันเวลาโอกาสที่จะไม่ได้งานนี่โคตรสูง

สัมภาษณ์งานอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการสัมภาษณ์งานซึ่งนี่คือช่วงเวลาที่คุณจะได้ปลดปล่อยสกิลอัลติเมทที่เก็บสะสมมาตลอดหลายวัน งัดมาใช้ให้ถูกจังหวะวันนี้นี่แหละ จะได้งานหรือไม่ได้งานก็หลังจากนี้เลย

  • วางตัวสบายๆ อย่าเกร็ง ถ้าเกร็งจะยิ่งตื่นสนามคราวนี้คุยไม่รู้เรื่องหนักกว่าเดิมอีก
  • อย่าตอบคำถามโดยที่เราเองก็ทำไม่ได้ เช่นเขาถามว่าสามารถทำกราฟิกได้ไหม เราทำไม่ได้นิดหน่อยแต่ตอบไปว่าโห้ว! ผมนี่โคตรเซียน เพราะหวังว่าจะให้เขารับเข้าทำงานไปก่อนเดี๋ยวไปวัดกันทีหลังแล้วนี่ไม่เอานะ
  • พูดความจริง ชอบอะไร สนใจอะไร ทำอะไรได้ก็ตอบไปตามเนื้อผ้า อย่าตอบคำถามเพื่อเอาใจ
  • คิดก่อนจะตอบคำถาม อย่าตอบคำถามออกไปโดยไม่คิด ถ้าไม่ชัวร์นิ่งคิดสักนิดนึงก่อนได้
  • รักษาบุคลิกภาพของตัวเองให้ดี บางคนพอร์ตงานดีมาก แต่บุคลิกไม่ดี กลิ่นตัวแรงเหมือนแบกมะนาวมาทั้งสวน ดูแล้วทำงานด้วยยากเขาก็สามารถตัดคุณออกไปได้ง่ายๆ เลย
  • ทำการบ้านมาก่อนจะดีมากว่าบริษัทที่คุณสมัครงานไปนั้นเกี่ยวกับอะไร ถ้าคุณไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยก็ทำการบ้านให้พร้อม เช่นมาสัมภาษณ์งานที่ Mango Zero แต่ไม่รู้ว่า Mango Zero คือเว็บอะไร (ไม่มุกนี่เรื่องจริง) ความนิยมตกตั้งแต่ตอนนั้นเลยเถอะ
  • อย่าลืมความมั่นใจ เก่งอะไรโชว์ออกไปเลยจะได้ไม่เสียดายทีหลังแบบ “กูไม่น่าเล้ยยยย ทำไมไม่…วะ” โอกาสบางทีก็มาแค่ครั้งเดียว

และตอนนี้ Mango Zero เปิดรับสมัครงานอยู่พอดี บังเอิญมากๆ ใครที่สนใจอยากจะสมัครงานในตำแหน่งดังนี้…

1.Content Creator (3 ตำแหน่ง)
2. Graphic & Video Editor (2 ตำแหน่ง)

ถ้าอยากมาร่วมงานกับเรา อยากทำงานที่สนุก และมีความสุขกับการทำงาน ส่ง Resume, ผลงานที่เคยทำ, แนะนำตัวเองมาเล็กน้อย (ไม่ต้องยาวนะ คิดซะว่าอัพสเตตัสเฟซบุ๊คก็พอ ไม่ต้องเขียนยาวมาแบบเรื่องสั้น)

แล้วส่งมาที่ mangozero2016@gmail.com ตำแหน่ง Content Creator เขียนชื่อหัวอีเมลว่า ‘เรามาช่วยคุณแล้วโรเจอร์ งานที่กองอยู่นั้นฉันจัดการเอง’ ตำแหน่ง Graphic & Video Editor เขียนชื่อหัวอีเมลว่า ‘โทนี่นายจะตายไม่ได้ถ้ายังไม่ได้ดูวิดีโอที่ชั้นตัด’

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้