๑.ตัวละคร
-ประพันธ์ คือ ตัวแทนชายหนุ่มไทยที่ไปศึกษาที่ต่างประเทศและได้ประทับใจในวัฒนธรรมของต่างประเทศอีกทั้งยังเปรียบ “รักไทยเหมือนพ่อแม่ รักเมืองอังกฤษเหมือนรักเมีย”เมื่อพบอุไรสาวไทยผู้ทันสมัยมีแนวคิดและมีค่านิยมแบบตะวันตกเต็มที่ประพันธ์จึงดูจะมีความสุขมากขึ้น และทั้งสองได้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด จนอุไรตั้งครรภ์จึงต้องแต่งงานกันโดยเร็ว เวลาผ่านไปประพันธ์ได้รู้ว่าเข้าและอุไรไม่เหมาะสมกันและทั้งคู่ได้หย่ากัน ทำให้ประพันธ์ได้คิดว่า “ผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขานั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่คร่ำครึอย่างแม่กิมเน้ย หรือทันสมัยอย่างแม่อุไร แต่ควรเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างความเป็นไทยกับความเป็นตะวันตก นั้นก็คือ ศรีสมาน
-อุไร เป็นสาวทันสมัยใจตะวันตก และทำให้ประพันธ์ถูกใจและชื่นชมมาก จึงได้คบหาสมาคมสนิทสนมจนได้แต่งงานกัน หลังจากแต่งงานพฤติกรรมของอุไรก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง อุไรก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่แม่บ้านและข่มขู่สามีดูถูกคนอื่น แม้กระทั่งหลังจากแท้งลูกจนถึงกระทั่งไปข้างแรมบ้านชายอื่น ทำให้ประพันธ์ขอหย่าอุไรจึงไปอยู่กับพระยาตระเวนนคร ซึ่งได้เรียกว่าเป็นชายชู้ ต่อมาได้หวนกลับมาขอคืนดีกับประพันธ์อีกเพราะถูกพระยาตระเวนนครทอดทิ้ง แต่ประพันธ์ปฏิเสธ อุไรจึงกลับไปอยู่บ้านพ่อและแต่งงานกับหลวงพิเศษพานิชพ่อค้าผู้มั่งคั่ง
๒.ฉาก
ในเรื่องนี้เป็นสมัยที่คนไทยโดยเฉพาะคนชั้นสูงได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกใหม่ๆ สภาพบ้านเมืองเริ่มมีความเจริญแบบตะวันตก คือ มีถนนหนทาง มีรถยนต์ ห้างร้าน เกิดขึ้นมาก มีการใช้หนังสือพิมพ์ในการสื่อสาร ภาษาไทยที่มีคำทับศัพท์และมีสำนวนภาษาอังกฤษมาปะปนอยู่ เป็นต้น การอ่านเรื่องหัวใจชายหนุ่ม จึงเท่ากับการเข้าไปมีประสบการย้อนยุคร่วมกับคนในสมัยนั้นอีกด้วย
๓.กลวิธีการแต่ง
หัวใจชายหนุ่ม เป็นนวนิยายขนาดสั้นนำเสนอในรูปแบบจดหมาย นับเป็นการนำเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในวงวรรณกรรมไทย แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสมมุติ แต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้กลวิธีที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
๔.ทัศนกวี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแสดงพระราชดำริของพระองค์ผ่านทางตัวละครต่างๆ เช่น ทรงให้ประพันธ์แสดงทัศนะประเพณีคลุมถุงชน การแต่งงานกับผู้หญิงต่างชาติ การมีภรรยาหลายคนเป็นต้น แต่ทัศนะที่ทรงนำเสนอผ่านประพันธ์ ก็หาใช่พระราชดำริของพระองค์เสียทั้งหมด เช่น ทัศนะของประพันธ์ต่อการเต้นรำ เป็นทัศนะของชายหนุ่มที่ขาดประสบการณ์ ไม่สุขุม จึงมองสังคมและวัฒนธรรมอย่างฉาบฉวยและไม่ได้เข้าถึงวัฒนธรรมของต่างชาติอย่างแท้จริง
๕.แนวคิดในการแต่ง
ทรงมีพระราชดำริว่า “คนไทยควรจะภูมิใจในวัฒนธรรมไทยไม่ควรหลงนิยมวัฒนธรรมตะวันตกเกินไป จนละเลยความเป็นไทย ควรรู้จักเลือกสรรสิงที่เหมาะสมมาเสริมกับความเป็นไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น”
นวนิยายเรื่องนี้จึงแสดงให้เห็นว่า การแต่งงานของหนุ่มสาวที่มาจากการชอบพอกันแต่เปลือกนอก ขาดการรู้จักและเข้าใจกันอย่างแท้จริงย่อมไม่มีทางจีรังยั่งยืนและผู้หญิงที่ชิงสุกก่อนห่ามและใช้เสรีภาพในทางที่ผิดต้องประสบชะตาชีวิตอย่างไร ทั้งสองประการนี้เป็นแนวคิดที่ผู้ทรงพระราชนิพนธ์ต้องการเสนอ
๖.คุณค่าด้านปัญญาและความคิด
-รอยต่อวัฒนธรรม ในช่วงที่ประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบสมัยใหม่ว่า เราควร
เลือกรับแต่สิ่งที่ดีและรู้จักปรับใช้ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม เพื่อให้สังคมเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง
-ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน การแต่งงานต้องตามใจหนุ่มสาว บิดามารดามีหน้าที่ให้คำแนะนำ สั่งสอน อบรม ให้ลูกสาวและลูกชายเป็นคนดี ส่วนเรื่องความรักเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเอง ถ้ามีพื้นฐานดี ความคิดดีแล้ว การตัดสินใจน่าจะมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
-การศึกษาดี ช่วยให้คิดดี ประพันธ์ผู้ที่ได้รับการศึกษาจากชาติตะวันตกแล้วมองสังคมไทยในสิ่งที่ไม่เป็นสากล คือ ไม่ชอบเข้าทำงานโดยใช้เส้นสายอยากทำงานโดยใช้ความรู้ความสามารถของตนเอง
เรื่องหัวใจชายหนุ่ม
สาระที่ ๕ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ตัวชี้วัด : สิ่งที่นักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้
๑. วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น
๒. วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต
๓. วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
๔. สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
สาระการเรียนรู้
๑. การวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีเรื่องหัวใจชายหนุ่มตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น
๒. การวิจารณ์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเรื่องหัวใจชายหนุ่มเชื่อมโยงกับการเรียนทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต
๓. การวิเคราะห์และประเมินค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีเรื่องหัวใจชายหนุ่มในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
๔. การสังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีเรื่องหัวใจชายหนุ่มเพื่อไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
การวิเคราะห์และประเมินคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่องหัวใจชายหนุ่ม
สาระสำคัญ
หัวใจชายหนุ่มเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้นามปากกาว่า "รามจิตติ" เพื่อพระราชทานตีพิมพ์ในหนังสือดุสิตสมิตเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ ลักษณะการพระราชนิพนธ์เป็นนวนิยายร้อยแก้วในรูปแบบจดหมาย ทรงสร้างตัวละครเป็นชายหนุ่ม(นักเรียนนอก) เป็นผู้ถ่ายทอดแนวคิดที่เห็นว่าสังคมไทยยังล้าหลังตะวันตกในหลายๆ เรื่อง เช่น ประเพณีการคลุมถุงชน การแต่งกาย การประพฤติปฏิบัติตัวของหนุ่มสาว จนได้รับบทเรียนจากการดำเนินชีวิตจึงได้ปรับเปลี่ยนความคิด
แก่นของเรื่อง
การรู้จักอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของไทยและรู้จักเลือกวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้ให้เหมาะสม
คุณค่าของเรื่อง
๑. ด้านเนื้อเรื่อง หัวใจชายหนุ่มเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถในงานพระราชนิพนธ์ มีแก่นเรื่องชัดเจน น่าอ่าน น่าติดตาม สนุกด้วยลีลาและโวหารอันเฉียบคม แฝงพระอารมณ์ขัน เช่น การแต่งกายของกิมเน้ยที่แต่งตัวดีแต่มีเครื่องเพชรมากเกินไป
๒. ด้านความคิด เรื่องหัวใจชายหนุ่มมุ่งเสนอให้ผู้อ่านเห็นว่า นักเรียนนอกในสมัยนั้นเป็นผู้นำ "แฟแช่น" อย่างสุดโต่ง เมื่อปฏิบัติไปแล้วผิดพลาดก็ค้นพบตัวเองว่าต้องหาทางเลือกใหม่ที่เหมาะสม ทำให้ได้คิดว่า เราควรรับและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย
๓. ด้านความรู้ เรื่องหัวใจชายหนุ่มแสดงให้เห็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่เริ่มไว้ผมยาว ค่อยๆ เลิกนุ่งโจงกระเบน หันมานุ่งผ้าซิ่น การแสดงละครที่ใช้ชายจริงหญิงแท้ การใช้คำทับศัพท์และสำนวนต่างประเทศเพื่อแสดงความเป็นนักเรียนนอกของคนในสมัยนั้น
แนวคิด
หัวใจชายหนุ่มมีเนื้อหาแสดงให้เห็นการรับวัฒนธรรมตะวันตกในสังคมไทย โดยนำเสนอผ่านชีวิตของหนุ่มนักเรียนอกที่เพิ่งจบการศึกษาจากประเทศอังกฤษ มีการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับเนื้อเรื่องเพื่อถ่ายทอดความคิดเห็นและสภาพสังคมไทยในขณะนั้น
หัวใจชายหนุ่ม หมายถึง ความรู้สึก ความคิด ทัศนะและอารมณ์ของคนวัยหนุ่ม เมื่อ ผ่านพ้นวัยนี้ไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
สิ่งที่ควรปฏิบัติและศึกษาเพิ่มเติม
๑. การสรุปเรื่องหัวใจชายหนุ่มจากจดหมายทั้ง ๑๘ ฉบับ
๒. สังเกตรูปแบบการเขียนจดหมาย การใช้คำขึ้นต้น,คำลงท้ายของจดหมายและรวบรวมนวนิยายที่เขียนในรูปแบบจดหมาย
๓. เมืองดุสิตธานีและหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต
๔. การวิเคราะห์ทัศนคติของนายประพันธ์ที่มีต่อสังคมไทยในด้านการประกอบอาชีพ การแต่งกาย สถาบันครอบครัว และการประพฤติปฏิบัติตัวของหนุ่มสาว
๕. รวบรวมคำทับศัพท์และสำนวนต่างประเทศๆ จากเรื่องหัวใจชายหนุ่ม
๖. ศึกษาเปรียบเทียบการรับวัฒนธรรมต่างชาติของหนุ่มสาวจากเรื่องหัวใจชายหนุ่มกับหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน
๗. เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม และตั้งชื่อบทความให้น่าสนใจ เช่น เอกลักษณ์ไทยคือหัวใจของชาติ
๘. เขียนจดหมายส่วนตัวถึงเพื่อน เล่าประสบการณ์การเรียน, การทำงานร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียนและแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์
แบบทดสอบ
คำสั่ง นักเรียนเลือกตอบข้อที่คิดว่าถูกต้องมากที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. เรื่องหัวใจชายหนุ่มเป็นงานเขียนประเภทใด
ก. จดหมายเหตุ
ข. นวนิยาย
ค. เรื่องสั้น
ง. เรื่องเล่า
๒. เรื่องหัวใจชายหนุ่มพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์เล่มใด
ก. ลักวิทยา
ข. ดุสิตสมิต
ค. วิทยาจารย์
ง. บางกอกรีคอเดอร์
๓. ผู้ใดประพันธ์เรื่องหัวใจชายหนุ่ม
ก. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ข. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ค. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ง. พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
๔. “ชายหนุ่ม” ในจินตนาการของผู้ประพันธ์ มีลักษณะเด่นอย่างไร
ก. หนุ่มนักเรียนนอกที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมตะวันตก
ข. หนุ่มนักเรียนนอกที่มียึดมั่นในความคิดเป็นตัวเองสูง
ค. หนุ่มนักเรียนนอกที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมตะวันตกและคบคนที่เปลือกนอก
ง. หนุ่มนักเรียนนอกที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมตะวันตกจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง
๕. ข้อใดใช้คำว่า “ศิวิไลซ์” ได้ถูกต้อง
ก. น้องฉันชอบทำตัวศิวิไลซ์ อะไรก็ไม่ทำ
ข. วิภาปฏิเสธความศิวิไลซ์โดยสิ้นเชิง
ค. วิธานเขาแต่งตัวได้ศิวิไลซ์มาก
ง. บ้านนี้ตกแต่งได้ศิวิไลซ์จริง ๆ
๖. การแต่งงานโดยที่หนุ่มสาวไม่เต็มใจหรือไม่ยินยอม ตรงกับสำนวนไทยว่าอย่างไร
ก. คลุมถุงชน
ข. ขมิ้นกับปูน
ค. กิ่งทองใบหยก
ง. บุพเพสันนิวาส
๗. “ในส่วนที่หล่อนกับฉันจะกลับดีกันใหม่นั้น ไม่แลเห็นหนทางที่จะเป็นไปได้ และผลที่จะได้ก็จะมีแต่ความร้อนใจไร้สุขด้วยกันทั้งคู่”
จากข้อความนี้ ผู้พูดมีความคิดเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเขาเป็นอย่างไร
ก. เขาสองคนไม่สามารถคืนดีกันได้
ข. เขาสองคนเป็นคู่สามีภรรยาที่ไม่เหมาะสม
ค. เขาสองคนอยู่ร่วมกันไม่ได้เพราะทั้งสองเป็นคนใจร้อน
ง. เขาสองคน ถ้าต้องอยู่ด้วยกันแล้วต้องทะเลาะกันตลอดเวลา
๘. “การที่แม่อุไรได้ผัวใหม่เป็นเนื้อเป็นตัวเสียแล้วเช่นนี้ ทำให้ฉันเองรู้สึกสิ้นความตะขิดตะขวงห่วงใย” ข้อความนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้พูดมีความรู้สึกอย่างไร
ก. เข้าใจ
ข. หมดห่วง
ค. ไม่อับอายแล้ว
ง. หมดความกังวลใจ
๙. ข้อใดคือสาระสำคัญของเรื่อง
ก. เรื่องราวเกี่ยวกับความรักของหนุ่มนักเรียนนอก
ข. เรื่องราวการศึกษาในต่างประเทศของหนุ่มนักเรียนนอก
ค. เรื่องราวในชีวิตประจำวันที่น่าสนใจของหนุ่มนักเรียนนอก
ง. เรื่องราวชีวิตและประสบการณ์ต่างๆ ของหนุ่มนักเรียนนอก
๑๐. ข้อใดคือข้อคิดสำคัญจากเรื่องหัวใจชายหนุ่ม
ก. ความรู้สึกที่ทันสมัยของตัวละครเด่น
ข. ความคิดแก้ปัญหาระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่
ค. ความคิดที่ขัดแย้งระหว่างค่านิยมเก่ากับค่านิยมใหม่
ง. สภาพสังคมและค่านิยมที่มีความแตกต่างของคนในสังคม