จอง Agoda ผ่าน ShopBack คลิกที่นี่
วันที่ 3 : อินเทอร์ลาเคิน – ยอดเขาจุงเฟรา – อินเทอร์ลาเคิน
เราเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Lauterbrunnen, Bahnhof ใน Interlaken เพื่อขึ้น Jungfrau กันค่ะ โดยลงที่สถานี Jungfraujoch สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในโลก! แถมเส้นทางระหว่างการเดินทางสวยมากเกินบรรยายเลยค่ะ ซึ่งการขึ้นเที่ยวชมยอดเขาจรุงเฟราใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยทีเดียว
ในส่วนการขึ้น ภูเขาจรุงเฟรา ต้องเสียเพิ่มนะคะ swiss pass ไม่ครอบคลุม แต่ใครมี swiss pass จะได้ส่วนลด 25 % ค่ะ
วันที่ 4 : อินเทอร์ลาเคิน- เซอร์แมท – แมทเทอร์ฮอร์น – เซอร์แมท
เดินทางไปยัง สถานีรถไฟ Interlaken–West เพื่อเดินทางต่อไปยัง Zermatt โดยมีแวะเปลี่ยนสายที่ สถานี Visp และลงที่สถานีปลายทาง Zermatt ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นเลือกสถานีรถไฟเซอร์แมท Gronergrat Bahn the Matterhorn Railway ซึ่งอยู่สถานีเดียวกันกับสถานีรถไฟ Zermatt ที่เราลงค่ะ แต่อยู่คนละฝั่ง พาชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น หลายคนๆอาจจะคุ้นว่าเคยเห็นบนซองช็อคโกแลต Toblerone ใช่ไหมเอ่ย? ถูกต้องค่ะ! ยอดเขาที่เราเห็นบ่อยๆ บนซองขนมไม่ธรรมดาเลยนะคะ เพราะยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ถือเป็น ยอดเขาอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เลยนะคะ มาถึงแล้วต้องขึ้นให้ได้!
ในส่วนการขึ้น ภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น ต้องเสียเพิ่มนะคะ swiss pass ไม่ครอบคลุม แต่ใครมี swiss pass จะสามารถซื้อได้ครึ่งราคาค่ะ
วันที่ 5 : เซอร์แมท – มองเทรอซ์ – โลซาน
จากนั้นเดินทางไปยัง สถานีรถไฟ Zermatt เพื่อเดินทางต่อไปยัง Montreux โดยมีแวะเปลี่ยนสายที่ สถานี Visp และลงที่สถานีปลายทาง Montreux Gareใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
Destination 1 : ปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon) ปราสาทยุคกลางที่มีความเก่าแก่กว่าพันปี สร้างขึ้นมาในสมัยราชวงศ์ SAVOY เพื่อเป็นจุดควบคุมการเดินทาง และการขนถ่ายสินค้าในอดีต ปราสาทนี้แฟนพนธุ์แท้ดิสนีย์ต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันแน่ เพราะปราสาทนี้เป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าชายอีริค ในเรื่อง The little mermaid นั่นเอง!
การเดินทาง : ขึ้นรถประจำทาง จากสถานีรถไฟ Montreux Gare สาย 201 ลงป้าย Veytaux, château de Chillon
จากนั้นเดินทางไปยัง สานีรถไฟ Zermatt เพื่อเดินทางต่อไปยัง Lausanne ลงที่สถานีปลายทาง Lausanne Gare ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที
Destination 2 : ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Pavillon thaïlandais) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีและเป็นที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิสในปีพ.ศ. 2549 และที่เลือกสร้างเมืองนี้ อันเนื่องมาจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 พระองค์เคยทรงพำนัก ณ เมืองนี้ เมื่อครั้งทรงพระเยาว์นั่นเองค่ะ
การเดินทาง : ขึ้นรถประจำทาง สาย 8 ลงป้าย Pully, Tour Haldimand
Destination 3 : มหาวิหารโลซานน์ (Cathedral de Lausanne) ชมวิวเมืองโลซานน์จากมุมสูง ปิดท้ายเดินชมเมือง และชมทะเลสาบเจนีวาค่ะ
การเดินทาง : ขึ้นรถประจำทาง สาย 8 ลงป้าย Riponne-M. Béjart
วันที่ 6 : โลซาน – ซูริค – กรุงเทพฯ
เดินทางไปยัง สถานีรถไฟ Lausanne Gare เพื่อเดินทางกลับไป Zurich ลงที่สถานีปลายทาง Zurich Main Station ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Destination 1 : น้ำตกไรน์ (Rhein Fall)
การเดินทาง : ลงสถานีรถไฟ Neuhausen Rheinfall ใช้ระยะเวลาเดินทางจาก Zurich Main Station ประมาณ 1 ชั่วโมง
ช่วงบ่ายๆ เรามาเดินเก็บสถานที่ใน Zurich กันค่ะ
Destination 2 : ย่านเมืองเก่าใน Zurich (ถนน Altstadt) ย่านเมืองเก่าของ ซูริค ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนหลากสี
Destination 3 : ลินเดนฮอฟ (Lindenhof) จุดชมวิวเมืองซูริค อีกหนึ่งเที่ยวสวิส ที่สามารถชมเมืองซูริคจากมุมสูงได้ค่ะ
Destination 4 : เอาใจสายช้อปปิ้ง ด้วยที่เที่ยวสวิส ย่านการค้าที่หรูที่สุด ย่านบานโฮฟสตราเซอร์ (Bahnhofstrasse)
การเดินทาง : ลำดับที่ 2-4 นั้น ส่วนตัวสามารถเดินได้ค่ะ ประมาณ 1–2 กิโลเมตร ในแต่ละสถานที่ จากนั้นเดินทางไปยังสนามบิน Zurich Airport เพื่อเตรียมตัวบินกลับไทยในไฟลท์ดึกค่ะ
วันที่ 7 : เดินทางถึง กรุงเทพฯ ประเทศไทย
จบไปแล้วสำหรับแพลนเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ 7 วัน มีบางที่ยังไม่ได้แนะนำหรือบางเมืองไม่ได้ไป ด้วยเวลาที่มีจำกัด และเราอยากเที่ยวแบบสบายๆ ไม่หนักมากสไตล์ผู้หญิงเที่ยวได้ ผู้ชายก็ดี พกเด็กๆไปด้วยก็ได้ ใครเงินเก็บพร้อม เวลาพร้อม ลุยเลยค่ะ เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ สวยคุ้ม ไม่ผิดหวังแน่นอน
ใครเที่ยวสวิสแล้วติดใจ อยากเที่ยวยุโรปอีก แนะนำเที่ยวเมือง บูดาเปสต์ ฉายา “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูป” ที่ใครๆ ก็บอกว่า เที่ยวบูดาเปสต์ ฮังการี สวยที่สุดในยุโรปสมคำร่ำลือ