เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไม่มีรถ pantip

เหนื่อยกันไหมกับชีวิตที่ต้องเร่งรีบ ?? เบื่อกันบ้างหรือเปล่ากับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ??? เอาเป็นว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้หากพอมีเวลาก็อย่าลืมพาตัวเองออกไปนอกเมืองพักผ่อนสบาย ๆ สูดอากาศอันบริสุทธิ์กันบ้างนะคะ เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวช่วยเติมพลังให้เราได้จริง ๆ นะ อ๊ะ ๆ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี หรืออยากไปเที่ยวในช่วงวันหยุดนะแต่ไม่มีรถส่วนตัวละก็ ตามบันทึกการเดินทางของ คุณ sabrina สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ กันไหม ฉีกข้อจำกัดของการไม่มีรถเป็นของตัวเองแต่ก็สามารถท่องเที่ยวได้สบาย ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ นั่นแน่ ! เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเที่ยวกันเลยค่ะ

+++++++++++++++++++++++

          ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นเหมือนเราบ้าง ทำงานเหนื่อย ๆ มาทั้งอาทิตย์ วันเสาร์-อาทิตย์อยากทำอะไรแปลกใหม่ อยากเดินเล่น แต่ไม่รู้จะไปไหนดี ? ทำอะไรดี ? ห๊ะ ! เดินห้างเหรอ ? ไปมาหลายปีจนเบื่อ ไปกี่ทีก็ไม่รู้จะทำอะไรนอกจากไปร้านหนังสือ กิน ๆ ดูหนัง วนลูปไปมา อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ชอบเดินห้างด้วยมั้ง ที่อื่น ๆ ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็ไปมาบ้างทั้งสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ วัดต่าง ๆ ท่าเรือต่าง ๆ ล่องแม่น้ำเจ้าพระยาก็แล้ว บางทีออกจากชีวิตในเมืองไปเที่ยวนอกเมืองบ้างก็ดีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก ภูเขา หรือขี่จักรยาน ได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ สำรวจสถานที่ใหม่ ๆ หรือเปิดมุมมองใหม่ ๆ กับสถานที่เดิม ๆ

        เราพยายามหาที่เที่ยวนอกกรุงเทพฯ ที่ไปเช้า-เย็นกลับได้ หรือค้างสักคืนก็ดี แต่เรามีข้อจำกัดที่ว่า...เราไม่มีรถจ้า ดังนั้นต้องพึ่งระบบขนส่งสาธารณะเท่านั้น ! อาจจะไปมายังไม่เยอะมาก แต่ก็อยากจะแชร์ว่ามีที่ไหนที่น่าลองไปมั่ง เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงไปสถานที่เหล่านี้มาแล้วแหละ ถ้าใครมีที่ไหนแนะนำก็เล่าสู่กันฟังบ้างนะ เราจะลอกทริปและตามรอย ฮ่า ๆ

       

ขอนำเสนอ 9 ที่เที่ยวตามนี้เลย :”)

       

1 บางกะเจ้า :- 280 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
2 กาญจนบุรี :- 1,270 บาท ค้าง 1 คืน
       
3 เกาะล้าน :- 504 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
4 อยุธยา :- 180 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
5 เกาะสีชัง :- 575 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
6 ปราณบุรี :- 2,500 บาท ค้าง 1 คืน
       
7 ตลาดร่มหุบ :- 250 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
8 เกาะเกร็ด :- 150 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ
       
9 นครนายก :- 300 บาท ไปเช้า-เย็นกลับ

        แวะมาทักทายกันได้ที่

        Facebook Page : www.facebook.com/travelmilesawaydotcom

        Blog : www.travelmilesaway.com

 #1 บางกะเจ้า ปั่นจักรยานชมวิว อารมณ์ชิล ๆ ใกล้กรุงเทพฯ

        เริ่มกันที่สมุทรปราการ ถ้าใครชอบปั่นจักรยาน ชอบสีเขียว ๆ แนะนำที่บางกะเจ้าเลย ที่นี่มีสวนสาธารณะ มีคาเฟ่ให้นั่งพักผ่อน มีตลาดน้ำให้เดินเล่น ผู้คนก็ใจดีด้วย ส่วนการเดินทางจากกรุงเทพฯ นั้นก็ไม่ยากเลย ง่ายแสนง่าย แนะนำให้มาวันเสาร์-อาทิตย์เพราะตลาดน้ำและพิพิธภัณฑ์เปิด

        การเดินทาง: เริ่มต้นที่รถไฟใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออกไปซอยไผ่สิงโต อยู่ตรงข้ามกับศูนย์การประชุมฯ ออกมาปุ๊บก็จะเจอแท็กซี่จอดเรียงรายอยู่ จริง ๆ จะไปจากรถไฟใต้ดิน MRT คลองเตยก็ได้นะ ขึ้นทางฝั่งโรงงานยาสูบ แต่ตรงนั้นอาจจะหาแท็กซี่ยากกว่า ขึ้นแท็กซี่บอกว่าไปลงท่าเรือคลองเตย ตรงวัดคลองเตยนอก ให้เขาส่งหน้าวัดโลด ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง ราคาประมาณ 45-50 บาท ข้าง ๆ ทางเข้าวัดคลองเตยนอก จะมีซอยเล็ก ๆ อยู่ เดินไปสุดซอยก็จะเจอท่าเรือเล็ก ๆ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เที่ยวละ 10 บาท เรือจะพาข้ามฝั่งไปบางกะเจ้า !

        พอถึงอีกฝั่งก็เจอร้านเช่าจักรยานเลยจ้า ชั่วโมงล่ะ 50 บาท หรือเหมาทั้งวัน 100 บาท เช่ากี่คันก็ได้แต่ต้องมัดจำด้วยเงิน 1,000 บาท หรือทิ้งบัตรประชาชนไว้ ที่ร้านมีแผนที่ให้ด้วยอย่าลืมหยิบไปล่ะ !


       

จะไปไหนก่อนดี ?


       

เริ่มออกเดินทางกัน ! ปั่นมาไม่กี่นาทีจากท่าเรือก็ถึงจุดหมายแรกคือ "สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์"


       

มาดูบรรยากาศรอบ ๆ กัน อากาศเย็นสบายต้นไม้ช่วยได้เยอะ


       

ไม่ต้องกลัวหลงนะ ที่นี่มีป้ายแผนที่บอกอยู่ตลอดทาง แถมมีที่ให้จอดจักรยานด้วย มีอยู่หลายจุดเลย


       

ปั่นมาเรื่อย ๆ จะเจอหอคอยเล็ก ๆ เดินขึ้นประมาณ 4 ชั้น ก็ถึงด้านบน เหมือนเขาสร้างเตี้ยไปหน่อยนะ ไม่ค่อยเห็นวิวอะไรเท่าไร แต่มองไปรอบ ๆ นี่...เห็นแต่สีเขียว สบายตาดีจัง


       

ทางปั่นส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ ๆ ปั่นได้อย่างสบาย ชิลมาก บางที่จะขรุขระหน่อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหา


       

ปั่นจนพอใจ สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดแล้วเปลี่ยนไปที่อื่นกันเถอะ ปั่นออกจากมาสวนก็จะเจอป้ายบอกทางไปสถานที่ต่าง ๆ เราตัดสินใจไปพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยก่อน


       

ใช้เวลาไม่นานเท่าไรก็มาถึงแล้ว ที่นี่เปิดบริการวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น เวลา 10.00-17.00 น.


       

มาดูน้อง ๆ ปลากัดกัน โดนจับใส่โหลแยกกัน แน่ล่ะสิ ! เดี๋ยวมันทะเลาะแล้วกัดกัน


       

มีที่ให้นั่งพักด้วย ดูปลากัดแบบใกล้ บรรยากาศดูร่มรื่นมาก เย็น สบาย จนทำให้รู้สึกง่วง


       

โอเค...ต่อไปจะปั่นจักรยานยาว ๆ เพื่อไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำ หลังปั่นมาประมาณ 2 กิโลเมตร รู้สึกหิวน้ำ ขอไปนั่งพักดื่มน้ำเย็น ๆ ก่อนละกัน เราไปคาเฟ่แห่งหนึ่งชื่อว่า "กาแฟในบ้าน" ร้านอยู่เลยซอยทางเข้าตลาดน้ำมาหน่อย จุดสังเกตง่าย ๆ คืออยู่ใกล้ ๆ กับเซเว่นฯ ฝั่งเดียวกัน หน้าร้านมีที่ให้จอดจักรยานด้วย


       

สั่งอะไรดีนะ


       

ตัดสินใจสั่งชาเขียวมะพร้าว คุณลุงและคุณป้าก็ช่วยกันใหญ่เลย น่ารักดี


       

มาดูบรรยากาศรอบร้านกัน ร้านตกแต่งออกมาแบบคลาสสิก ๆ เอาของเก่ามาตกแต่ง...ดูดีเลยทีเดียว !


       

ตอนแรกนึกว่าจะร้อนแต่ก็ไม่นะ มีที่นั่งที่ติดกับบ่อน้ำเล็ก ๆ ด้วย อากาศถ่ายเทดี


       

น้ำชาเขียวมะพร้าวมาแล้ว ! ตกใจกับขนาดมาก ดูเยอะและคุ้มราคา รสชาติก็ใช้ได้อยู่นะ


       

แผนที่และเบอร์ติดต่อ


       

พักจนหายเหนื่อยแล้วปั่นจักรยานย้อนทางเดิมไป "ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" กัน ปั่นไปมาทำไมไม่ถึงสักที สรุปไปโผล่ที่ท่าเรือซะอย่างนั้น ท่าเรือเล็ก ๆ ที่ไหนก็ไม่รู้ ถามพี่วินแถวนั้น "พี่คะ นี่คือที่ไหนในแผนที่ ? จะไปตลาดน้ำ ปั่นมาตามแผนที่แต่ไม่เจอซะงั้นอะ" พี่วินก็ช่วยบอกทาง ดูใจดีจริง ๆ สรุปคือแผนที่เขียนไม่ละเอียดจ้า เราปั่นย้อนกลับไป ไม่เป็นไร ถือว่าได้ออกกำลังกาย ฮ่า ๆ สรุปคือจากทางเข้าซอยปั่นมานิดหน่อยทางเข้าจะเป็นวัดอยู่ทางซ้ายมือจ้า ในที่สุดก็ถึงตลาดน้ำแล้ว มีสินค้าและอาหารมากมาย


       

เวลาผ่านไปไวเหลือเกิน...ต้องกลับแล้ว พอดีมาที่นี่ตอนบ่าย ๆ ด้วย (ทำไมไม่มาเช้า ๆ ล่ะ ?! ไม่ตื่นไงเธอ) ยังเที่ยวไม่ครบเลย จริง ๆ ยังมีอีกหลายสถานที่ เช่น บ้านธูปสมุนไพร เป็นแหล่งผลิตธูปหอม เราสามารถลองทำได้ด้วยนะ อยากทำต้องมาใหม่ ฮือ ๆ หรือจะไปหมู่บ้านมอญ ปั่นไปเที่ยวสวนป่าก็ได้ มีอีกเยอะ ! ขากลับก็มาที่ท่าเรือเดิม คืนจักรยานแล้วอย่าลืมบัตรหรือเงินมัดจำนะ ระหว่างรอเรือดูวิวแถว ๆ ท่าเรือคลองเตยก็ดีเหมือนกัน



       

สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - รถไฟใต้ดิน (ตามระยะทาง) ไป-กลับ 60 บาท
        - แท็กซี่ไปกลับคนละ 45 บาท
        - เรือข้ามฟากไปกลับคนละ 20 บาท
        - เช่าจักรยานแบบเหมา 100 บาท
        - น้ำชาเขียวมะพร้าว 55 บาท

        รวมทั้งหมด 280 บาท

#2 กาญจนบุรี กลับสู่อ้อมกอดขุนเขาและสายน้ำ

        ถ้าจะพูดถึงที่เที่ยวที่กาญจนบุรีอาจต้องใช้เวลาหน่อยเพราะมันเยอะมาก ! มีทั้งภูเขา น้ำตก สายน้ำ คือชอบธรรมชาติเลยชอบจังหวัดกาญจนบุรีสุด ๆ คราวนี้เลยขอค้างคืนที่นี่สักหนึ่งคืน เราพักที่แพริมแม่น้ำแควแห่งหนึ่งในตัวเมือง คืนละ 800 บาท อยู่ไม่ไกลมากจากสถานีรถบัส รถตู้ และรถไฟ

        การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ไปกาญจนบุรี มี 3 วิธี

                1. รถไฟ : รถไฟไปกาญจนบุรีเป็นสายสั้น ๆ ถ้าไปสุดสายใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง เหมือนวันเสาร์-อาทิตย์จะมีรถไฟขบวนพิเศษด้วย ราคา 120 บาท ส่วนข้อมูลด้านล่างเป็นแบบรถไฟธรรมดา

        ขาไป กรุงเทพฯ-น้ำตกไทรโยคน้อย

        ► จากกรุงเทพฯ ไปกาญจนบุรี มีรอบเช้า 07.45 น. (ขบวนที่ 257) และบ่าย 13.55 น. (ขบวนที่ 259)

        ► รถไฟมาสุดสายที่น้ำตกไทรโยคน้อย เวลา 12.35 น. (ขบวนที่ 257) และ 18.30 น. (ขบวนที่ 259)

        ขากลับ น้ำตกไทรโยคน้อย-กรุงเทพฯ

        ► ขากลับจากน้ำตกมากรุงเทพฯ รถไฟออก 12.50 น. (ขบวนที่ 258) และ 15.15 น. (ขบวนที่ 486)
        ► ถึงกรุงเทพฯ เวลา 17.35 น. (ขบวนที่ 258) ส่วนขบวน 486 ไม่ถึงกรุงเทพฯ จ้า สุดสายที่ชุมทางหนองปลาดุก

        2. รถทัวร์ : ขึ้นที่สายใต้ใหม่หรือหมอชิตก็ได้ ราคา 100-120 บาท (รถปอ.1) แต่ที่สายใต้ใหม่จะออกรถถี่กว่า ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง รถออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 05.00 น. ส่วนกลับกรุงเทพฯ จากกาญจน์รอบสุดท้าย 19.00 น.

        3. รถตู้ : ที่ตรงอนุสาวรีย์มีหลายเจ้าเลย ราคา 120-130 บาท ใช้เวลาพอ ๆ กับรถทัวร์ เราไปด้วยรถตู้เพราะเดินทางจากบ้านไปสะดวกกว่า นั่งรถไปลงที่ บขส. กาญจนบุรี รถทัวร์ก็มาจอดที่นี่เหมือนกัน บขส. อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก บริเวณ บขส. มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ ให้พี่เขาไปส่งที่พัก สถานที่ต่าง ๆ ในตัวเมือง หรือให้ไปส่งที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์แถว ๆ โค้งประปาก็ได้ เช่าแล้วจะได้ไปไหนมาไหนสะดวก แต่ช้าก่อน !  ร้านส่วนมากไม่ให้คนไทยเช่าซะอย่างนั้น เหอะ ๆ เขาบอกว่าคนไทยเช่าแล้วเอาไปขาย เลยให้ชาวต่างชาติเช่าวันละ 200 บาท ไม่รวมน้ำมัน

        ตึง ! ทำยังดีล่ะ ? หาแฟนฝรั่ง หาแฟนชาวญี่ปุ่น เกาหลีหรือยังไง ?! ยากไปไหมวิธีนี้ ? คงต้องหาร้านและต่อรองเอา แต่อาจจะยากหน่อย


       

เอาล่ะ ! ที่แรกไป “น้ำตกเอราวัณ” ขี่มอเตอร์ไซค์ไปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจะนั่งรถหวานเย็นก็ได้ ใช้เวลา 1.30-2 ชั่วโมง รถอยู่แถว ๆ บขส. ป้ายหน้ารถจะเขียนว่าไปน้ำตกเอราวัณ รถคันสีฟ้า ๆ ราคา 50 บาท รถออกทุก ๆ ชั่วโมง ส่วนขากลับจากน้ำตกมาตัวเมือง จะมีตารางเวลาบอก คันสุดท้ายตอน 16.00 น.

        เราถึงเมืองกาญจน์ประมาณ 11 โมง จากนั้นไปที่พัก เก็บของ พักผ่อนหน่อยแล้วไปน้ำตกเอราวัณ เท่านี้ก็หมดเวลาวันแรกแล้วจ้า ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ คนไทย 100 บาท ส่วนต่างชาติ 300 บาท



       

วันที่สองตอนเช้า ๆ ก็ไปสุสานทหารสัมพันธมิตร แล้วเที่ยวบริเวณรอบ ๆ การเดินทางภายใน...อย่างที่บอกคือเช่ามอเตอร์ไซค์ขับเอง ไปกับพี่วิน หรือนั่งรถหวานเย็นจากตัวเมืองก็ได้ ไปได้หลายที่อยู่ คร่าว ๆ ก็มี...

        ► น้ำตกเอราวัณ สาย 8170 ราคา 50 บาท

        ► น้ำตกไทรโยคน้อย สาย 8203 ราคา 37 บาท

        ► ช่องเขาขาด สาย 8203 ราคา 45 บาท

        ► สะพานข้ามแม่น้ำแคว รถสองแถว 10 บาท

        แต่เราอยากลองนั่งรถไฟสายมรณะ ไปโลดที่สถานีรถไฟอยู่ใกล้ ๆ กับสุสานทหาร รถไฟจากตัวเมืองกาญจน์ไปถ้ำกระแซมีรอบ 10.45 น. และ 16.19 น. เราไปรอบแรกเป็นรถไฟธรรมดาขับผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว นั่งไปเรื่อยจนเหงื่อแห้ง ใช้เวลาเกือบ ๆ 2.30-3 ชั่วโมง ก็ใกล้ถึงสถานีถ้ำกระแซ


       

นักท่องเที่ยวดูตื่นเต้นกับเส้นทางประวัติศาสตร์อันโหดร้ายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2


       

ระหว่างทางโค้งนั้นมีรีสอร์ทเรียงรายตามโค้งแม่น้ำ


       

เราลงที่สถานีถ้ำกระแซ ที่สถานีนี้มีของขายเยอะมาก จริง ๆ น่าจะมีพิพิธภัณฑ์ที่นี่นะ เหมือนเป็นสายรถไฟประวัติศาสตร์ แต่ดูไม่มีอะไรเท่าไร เลยตัดสินใจเดินบนทางรถไฟไปถ้ำกระแซกัน ข้างในถ้ำไม่มีอะไรมาก


       

เดินชมวิวไปตามเส้นทางรถไฟดีกว่า



       

ไม่อยากคิดเลยว่าเมื่อสมัยสงครามมีคนตายมากมายเพื่อสร้างทางรถไฟแห่งนี้


       

มาถึงอีกฝั่งก็นั่งรอรถไฟที่อยู่ใกล้ ๆ รีสอร์ทแห่งหนึ่ง จริง ๆ มันควรจะมาตั้งแต่ 13.15 น. แต่มีดีเลย์เลยต้องรอนานหน่อย ในที่สุดรถไฟก็มาแล้ว เย่ !


       

ขากลับเราลงที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เดินเล่นบนสะพานตอนเย็น ๆ นั่งริมแม่น้ำอีกหน่อย ก่อนให้พี่วินไปส่งที่ บขส. ราคาประมาณ 30 บาท แล้วนั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ


       

สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - รถตู้ไป-กลับ อนุสาวรีย์-บขส. กาญจนบุรี คนละ 240 บาท
        - ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ รวมน้ำมัน 24 ชั่วโมง คนละ 250 บาท
        - รถไฟไปถ้ำกระแซ 0 บาท
        - ค่าพี่วินไปร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ไป-กลับ บขส. คนละ 80 บาท
        - ค่าที่พักริมแม่น้ำ คนละ 400 บาท
        - ค่าเข้าน้ำตกเอราวัณ 100 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 200 บาท

        รวมทั้งหมด 1,270 บาท

#3 เกาะล้าน ขับมอเตอร์ไซค์ทั่วเกาะ หาที่เหมาะ ๆ พักผ่อนหย่อนใจ

        ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเกาะล้าน เชื่อว่าทุกคนไปเกาะล้านกันเกือบทุกคนแล้วเนอะ เป็นสถานที่ฮอตฮิตแห่งหนึ่งใกล้กรุงเทพฯ น้ำทะเลใส ไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ๆ แต่วันเสาร์-อาทิตย์คนเยอะหน่อย แต่ก็มีบางหาดที่ไม่ค่อยมีคนนะ ดูเป็นส่วนตัวมากเลย

        การเดินทาง: เริ่มต้นกันที่อนุสาวรีย์กันอีกเช่นเคย นั่งรถตู้ไปลงที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายพัทยา ราคาประมาณ 100 บาท ใช้เวลาประมาณ 2-2.30 ชั่วโมง พอมาถึงปุ๊บ เฮ้ยยยยยย !! เรือจะออกแล้ว รอด้วยค่า รีบตรงดิ่งไปขึ้นเรือ เที่ยวละ 30 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึงเกาะแล้ว

        ► จากท่าเรือไปเกาะล้านที่ท่าหน้าบ้าน มีรอบ 07.00 น., 10.00 น., 12.00 น., 14.00 น., 15.30 น., 17.00 น. และ 18.30 น.

        ► จากท่าหน้าบ้านที่เกาะล้านกลับฝั่งพัทยา มีรอบ 06.30 น., 07.30 น., 09.30 น., 12.00 น., 14.00 น., 17.00 น. และ 18.00 น.

        เราจะเดินทางภายในเกาะกันด้วยมอเตอร์ไซค์ค่ะ จากท่าเรือเดินตรงมาเรื่อย ๆ อย่าไปสนใจแถวท่าเรือ ราคามันแรง แต่เดินออกมาข้างนอกอีกหน่อย ร้านเช่าอยู่ติดเซเว่นฯ ราคา 200 บาท แถมน้ำมันเต็มถัง ถ้าหมดก็โทรเรียกให้เติมได้ ไม่รอช้าเอาเจ้านี้แหละ ! ขับไปเรื่อย ๆ มีป้ายบอกสถานที่แต่ละหาด เราไปแบบเรื่อย ๆ ไม่มีแผน อยากหยุดตรงไหนก็หยุด จนจำไม่ได้ว่าไปไหนมามั่ง ฮ่า ๆ ไปหาดตาแหวนกันที่แรก แต่คนเยอะเกินนนนนนนน มีแต่ทัวร์จีน


       

จากนั้นขับแวะตามหาดไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมาย แวะหาดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดเทียน หาดแสม หาดตายาย สับสนไปหมด หาดเยอะเกิน ! อยู่ดี ๆ โผล่ที่วัดแห่งหนึ่ง เดินขึ้นบันไดหลายชั้นเป็นจุดชมวิว


       

มีเรือเยอะแยะไปหมด



       

สุดท้ายมานั่งพักที่ริมหาดหนึ่ง จำชื่อก็ไม่ได้ แต่มันดูเงียบสงบและชิลดี




        เรากลับไปฝั่งพัทยารอบ 17.00 น. พอถึงอีกฝั่งก็เดินเล่นที่ Walking Street อีกหน่อย ก่อนไปขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯ จุดขึ้นรถมีแถว ๆ หน้าร้านทองธารทอง เยื้องหัวมุมถนน Walking Street หรือจะขึ้นแถว ๆ หน้าท่าเรือแหลมบาลีฮายก็ได้ ติดกับเซเว่นฯ รถหมดประมาณ 19.00-20.00 น. นะ

        สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - รถตู้ไป-กลับ อนุสาวรีย์-ท่าเรือแหลมบาลีฮาย คนละ 194 บาท
        - ค่านั่งเรือไปกลับ คนละ 60 บาท
        - ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ รวมน้ำมัน คนละ 100 บาท
        - ค่าเช่าที่นั่งตรงชายหาด คนละ 50 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 100 บาท

        รวมทั้งหมด 504 บาท

#4 อยุธยา ปั่นจักรยาน ณ เมืองเก่าประวัติศาสตร์

        เมืองหลวงเก่าอย่างอยุธยาเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่น่าไปมาก เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ชาติไทย แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย ตอนเด็ก ๆ พ่อแม่พาไปเที่ยวด้วยรถยนต์ แต่คราวนี้โตแล้วไปเที่ยวเอง การเดินทางก็ง่ายแสนง่ายอีกเช่นกัน

        การเดินทาง : การเดินทางที่สะดวก ๆ มี 2 วิธีด้วยกัน

        1. รถตู้ : ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ รถออกเรื่อย ๆ เลย ราคา 60 บาท (ไม่รู้ขึ้นราคายัง) ใช้เวลา 1-1.30 ชั่วโมง

        2. รถไฟ : ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง จะไปแบบฟรีหรือรถไฟชั้นด่วนก็ได้ค่ะ ราคา 20 บาท

        เราเดินทางด้วยรถไฟด่วน เริ่มต้นที่สถานีบางซื่อ 07.12 น. ถึงอยุธยา 08.25 น. รถไฟออกเรื่อย ๆ นะ ไปเช็กเวลาตามนี้เลย www.railway.co.th

        นั่งชิล ๆ นั่งหลับเรื่อย ๆ ก็ถึงแล้ว เดินออกจากสถานีรถไฟก็ข้ามถนนแล้วเดินตรงเข้าซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปอีกฝั่ง ราคาเที่ยวละ 5 บาท ข้ามมาก็เจอร้านเช่าจักรยานอยู่หลายร้าน เลือกเช่าได้ตามใจเลย ราคาอยู่ที่ 40-50 บาท ส่วนมอเตอร์ไซค์ 250 บาท เราอยากปั่นจักรยานมากกว่า แล้วอย่าลืมขอแผนที่ด้วยนะจ๊ะ


       

จักรยานพร้อม แผนที่พร้อม คนพร้อม ออกเดินทางกัน ! ปั่นจักรยานไปตามวัดต่าง ๆ ตามแบบฉบับค่ะ เราจำไม่ได้ว่าเราไปไหนมาบ้าง ชอบไปแบบไร้ทิศทาง ฮ่า ๆ เริ่มต้นที่ "วัดมหาธาตุ" และวัดอื่น ๆ มาดูรูปกันเลยดีกว่า






       

ขอโทษด้วยนะคะข้อมูลไม่แน่น จำไม่ได้แล้ว ความจำปลาทอง ฮือ ๆ ขากลับก็ข้ามมานั่งเรือข้ามไปอีกฝั่ง เดินกลับไปสถานีรถไฟแถมได้นั่งรถไฟฟรีด้วย อิอิ

        สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - ค่ารถไฟแบบด่วน 20 บาท ขากลับบังเอิญเจอรถไฟฟรีพอดี
        - ค่านั่งเรือข้ามฟากไป-กลับ คนละ 10 บาท
        - ค่าเช่าจักรยาน คนละ 50 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 100 บาท

        รวมทั้งหมด 180 บาท

#5 เกาะสีชัง เดินเล่นรับลมเย็น ๆ อาหารทะเลสด ๆ

        อีกหนึ่งเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก มีจุดให้แวะถ่ายรูปอยู่ โดยเฉพาะบริเวณสะพานอัษฎางค์เป็นจุดที่สวยอีกจุดหนึ่ง ที่เกาะสีชังคนไม่ค่อยเยอะเหมือนเกาะล้าน ถ้าใครต้องการหาที่เงียบสงบ หลบหนีจากความวุ่นวาย แนะนำมาเกาะสีชังเลยจ้า เป็นทริปสบาย ๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับได้เลย

        การเดินทาง : อีกแล้วครับท่าน ! จะไปที่ไหนไม่ได้นอกจากมาขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ เราเลือกไปกับเมืองท่ามหานคร อยู่ข้าง ๆ Suzuki ราคา 100 บาท เพราะคิวนี้จะไปส่งที่เกาะลอยเลย ไม่ต้องต่อรถอีก พอลงเกาะลอยแล้วก็ซื้อตั๋วที่ท่าเรือได้เลย ง่ายไหมล่ะ ค่าเรือเที่ยวละ 50 บาท ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

        ► จากท่าเรือเกาะลอยไปเกาะสีชัง มีรอบ 08.00 น., 10.00 น., 12.00 น., 14.00 น., 16.00 น., 18.00 น. และ 20.00 น.

        ► จากเกาะสีชังกลับท่าเรือเกาะลอย มีรอบ 06.00 น., 08.00 น., 11.00 น., 14.00 น., 16.00 น., 18.00 น. และ 19.00 น.

        การเดินทางภายในเกาะมี 3 วิธี

        1. เช่ารถมอเตอร์ไซค์ 250 บาท
        2. เช่ารถสกายแล็ป 250 บาท นั่งได้ประมาณ 4-6 คน
        3. เช่ารถสองแถว 500 บาท นั่งได้ประมาณ 10 คน

        ตามมาเที่ยวกัน…เริ่มต้นที่ท่าเรือเกาะลอย ระหว่างรอเรือเดินเล่นดูน้องเต่า


       

บรรยากาศในเรือ


       

เห็นเรือขนส่งสินค้าต่าง ๆ ลำใหญ่ ๆ มากมาย


       

ถึงท่าเรือแล้วจ้า เราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์เพราะไปไหนมาไหนเองสบาย หลงทางได้ตามสะดวก



       

ขับเที่ยวเล่นไปเรื่อย ๆ


       

หิวก็พักกินอาหารทะเลสด ๆ


       

น้ำทะเลที่นี่ใสดีนะ ชอบ ๆ


       

นั่งพักชิล ๆ ที่ชายหาด



       

ปิดท้ายด้วยบริเวณสะพานอัษฎางค์



       

สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - ค่ารถตู้ไป-กลับ คนละ 200 บาท
        - ค่านั่งเรือไป-กลับ คนละ 100 บาท
        - ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ รวมน้ำมัน คนละ 125 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 150 บาท

        รวมทั้งหมด 575 บาท

#6 ปราณบุรี เดินขึ้นถ้ำพระยานคร แวะเที่ยวเพลินวาน

        เลยหัวหินมาหน่อยก็ถึงหาดสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่นี่หาดเงียบสงบเหมือนเป็นหาดส่วนตัวเลย อาหารทะเลก็สดอร่อย แถมยังมีกิจกรรมเดินออกกำลังกายขึ้นเขาอีกด้วย ใครชอบเดินป่าเดินเขา ชอบทะเล อย่าพลาดมีครบหมดจ้า !

        การเดินทาง : นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปปราณบุรี ให้รถตู้ไปส่งที่พักได้เลยแต่ต้องเพิ่มเงินนะจ๊ะ เราพักที่รีสอร์ทใกล้ ๆ กับหาดสามร้อยยอด ไปถึงกันตอนเกือบเที่ยง ๆ แผนวันนี้คือไปถ้ำพระยานคร คุณลุงเจ้าของที่พักใจดีมากกกกก :") พาไปส่งที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ค่าเข้าคนละ 40 บาท จากนั้นไปที่หาดบางปูเป็นจุดที่สามารถเหมาเรือให้ไปส่งแถว ๆ หาดแหลมศาลา แหลมศาลาเป็นที่ตั้งของถ้ำพระยานคร ราคาไป-กลับ 300 บาท




       

ถ้าไม่อยากนั่งเรือก็ต้องเดินข้ามเขา 2 ลูก ไปถ้ำพระยานคร โดยเขาลูกแรกต้องเดินเท้าประมาณ 1 กิโลเมตร ถ้านั่งเรือจากหาดบางปูไปหาดแหลมศาลาก็ไม่ต้องข้ามเขาลูกแรก วัดความฟิตกันตรงนี้แหละ ! เราไปถึงตอนบ่าย ๆ ไม่อยากเสียเวลา (ข้ออ้างชัด ๆ แก่แล้วก็ยอมรับซะ) เลยไปเริ่มที่เขาลูกที่สองเลย เดินเพียง 430 เมตร เท่านั้นเอง (เหรอ ?!)



       

ได้เวลาเดินขึ้นเขากันแล้ว พร้อมไหม ?!


       

เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ มีทางลาด ทางชันบ้างสลับกันไป



       

ใกล้ ๆ ถึงถ้ำก็เห็นสะพานมรณะ ที่ชื่อนี้เพราะว่ามีสัตว์ตกลงมาตายเป็นจำนวนมาก เพราะข้ามจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งนั่นเอง


       

เดินไปยังไม่ทันเหนื่อยเลย (เหรอ ?!) ก็ถึงแล้ว พระที่นั่งฯ ตั้งเป็นเด่นสง่าอยู่ ถ้ามาตอนเช้า ๆ สักประมาณ 10-11 โมง ก็จะเห็นแสงแดดส่องพระที่นั่งฯ อย่างสวยงาม แต่เรามาถึงสายเกือบ ๆ บ่ายสามเลย อดเลย ฮือ ๆ




       

พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5


       

ขาลงนี่ไวมาก จากนั้นนั่งเรือกลับไปหาดปู พักเหนื่อยกินอาหารทะเลสด ๆ ซะหน่อย


       

จากนั้นคุณลุงที่พักก็มารับกลับที่พัก ตอนเย็น ๆ ก็ปั่นจักรยานของที่พักไปเล่นน้ำทะเลกัน หาดส่วนตัวมาก ๆ ไม่มีใครมาเล่นเลย เล่นจนพอใจก็กลับไปอาบน้ำแล้วออกมาหาข้าวเย็นกิน มีให้เลือกมากมายหลายร้าน อาหารทะเลสด ๆ ทั้งนั้น แถมตอนขากลับโดนน้องหมา 2 ตัว วิ่งไล่ด้วย รีบปั่นแทบตาย เหอ ๆ

        เช้าอีกวันก็ปั่นจักรยานรอบ ๆ ชายหาด ขากลับลุงเจ้าของที่พักใจดีอีกแล้ว พอดีคุณลุงจะเข้าเมืองไปซื้อของ เลยได้ติดรถไปด้วย อิอิ คุณลุงมาส่งที่ท่ารถตู้ตลาดโกแก้ว ขอบคุณมากเลยค่ะคุณลุง น่ารักและใจดีสุด ๆ


       

พอดีอยากแวะเที่ยวเพลินวานเลยขอแวะไปซะหน่อย บอกพี่คนขับรถได้ค่ะ


       

มีร้านขายของเยอะแยะ แต่เราเฉย ๆ อะ ไม่ใช่ขาช้อปปิ้ง สนของกินมากกว่า ฮ่า ๆ



       

ตอนกลับก็โบกเรียกรถตู้หน้าเพลินวานกลับกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจมาก ๆ

        สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 3 คน)

        - ค่ารถตู้ไป-กลับ คนละ 550-600 บาท
        - ค่านั่งเรือไป-กลับ คนละ 100 บาท
        - ค่าที่พัก คนละ 1,000 บาท
        - ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 700 บาท

        รวมทั้งหมดประมาณ 2,500 บาท

#7 ตลาดร่มหุบ โอ้ ! อะเมซิ่งไทยแลนด์ แวะเที่ยวอัมพวา

        พอดีเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติอยากไปเที่ยวตลาดร่มหุบ อยากดูของแปลกที่อำเภอแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม เลยแวะพาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาด้วยซะเลย เราก็ไม่เคยไปที่นี่นะ กะพาเพื่อนหลงไปตายเอาดาบหน้า ฮ่า ๆ คิดผิดแล้วแหละที่ให้เรานำทาง หุหุ

        การเดินทาง: นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปลงที่ตลาดแม่กลอง ราคาคนละ 70 บาท ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว รถตู้จะส่งที่ตลาดแม่กลอง พอถึงก็ถามแม่ค้าแถวนั้นว่าเดินไปแถว ๆ ตลาดร่มหุบยังไง เดินไปไม่นานเท่าไรก็ถึง ระหว่างทางเดินภายในตลาดมีผักสด เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อาหารทะเลสด ๆ หลากหลายชนิด และที่ขาดไม่ได้คือ...ปลาทู

        รถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม เป็นขบวนสั้น ๆ มีเพียง 2 โบกี้เท่านั้น ตอนนี้มีรถไฟแค่ 3 รอบ (ไป-กลับก็ 6 เที่ยว) ถ้าไปต้องกะเวลาดี ๆ นะ

        ► ขาออกจากสถานีแม่กลอง เวลา 06.20 น., 10.20 น. และ 14.30 น.
        ► ขาเข้ามายังสถานีแม่กลอง เวลา 09.45 น., 13.45 น. และ 18.25 น.

        เรามาถึงก่อนรอบ 14.30 น. หน่อย ก็รอ รอ รอ คุณรถไฟ…

       

นักท่องเที่ยวเริ่มมารวมตัวกัน จริง ๆ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันนะเนี่ย


       

อยู่ดี ๆ คุณเพื่อนทั้งหลายก็เอาเหรียญไปวางบนรางรถไฟ เราก็ถาม...ว่าวางไปทำไมอะ ?

        "คิดดูตอนรถไฟวิ่งทับแล้วเหรียญมันก็จะแบน ๆ มันเจ๋งขนาดไหนล่ะ ? เก็บเป็นที่ระลึกได้ด้วย"

        จากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ทำตาม อยู่ดี ๆ ได้ยินเสียงแม่ค้าตะโกนตามมาดัง ๆ

        "No coin ! No coin ! It\'s KING"

        เพื่อนเราก็ตกใจ รีบขอโทษใหญ่เลย จริง ๆ เรื่องนี้เราก็ลืมคิดไปเหมือนกันนะ แต่เพื่อนยังไม่ยอมแพ้ เอาเหรียญยูโรไปวาง "This is Euro" แม่ค้าก็หัวเราะกันไป


       

สักพักก็ได้ยินเสียงเตือนว่ารถไฟจะออกจากสถานีแม่กลองแล้ว แม่ค้าพ่อค้าก็เริ่มหุบร่ม พวกเราก็เตรียมกล้องกันพร้อมเหมือนกัน !


       

คุณเพื่อนก็ดูตื่นเต้นกันยกใหญ่ "OMG! This is super crazy !"


       

รถไฟผ่านไปแม่ค้าก็กางร่มเหมือนเดิม แล้วก็ขายของกันตามปกติ



        จากนั้นก็เดินกันรอบ ๆ ตลาด แถมเพื่อนเราก็ซื้อกบปิ้งมาด้วย ไม้หนึ่งมีสองตัว ยืนถ่ายรูปกบ ถ่ายรูปทำท่ากินกบกันสนุกใหญ่ แต่มีหนุ่มญี่ปุ่นและเม็กซิโกเท่านั้นที่กล้ากิน อีกสามคนที่เหลือมาจากเยอรมนีแเละฝรั่งเศสไม่กล้ากิน...จะว่าไปเราก็ไม่กล้า ! จุดหมายต่อไปคือไป "อัมพวา" แม่ค้าก็บอกทางไปขึ้นรถสองแถว ราคา 8 บาท ต่อคน ใช้เวลา 10 นาที จากตลาดแม่กลองก็มาถึงตลาดน้ำอัมพวาแล้ว ขากลับกรุงเทพฯ ก็ถามทางตามเคย แม่ค้าบอกทางไปขึ้นวินรถตู้กลับกรุงเทพฯ

        สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 6 คน)

        - ค่ารถตู้ไป-กลับ คนละ 140 บาท
        - ค่านั่งรถสองแถวไปอัมพวา คนละ 8 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ คนละ 100 บาท

        รวมทั้งหมดประมาณ 250 บาท

#8 เกาะเกร็ด เดินเล่นรอบเกาะ หาของกินอร่อย ๆ

        เกาะเกร็ดเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของชุมชนชาวมอญ มีเครื่องปั้นดินเผาต่าง ๆ มากมาย และที่ขาดไม่ได้คือ...ของกิน! ทั้งดอกไม้และผักทอดกรอบ ทอดมัน ขนมอีกเยอะแยะ เอกลักษณ์ของเกาะแห่งนี้คือเจดีย์เอียงที่วัดปรมัยยิกาวาส การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเกาะเกร็ดก็ไม่ยากเย็น

        การเดินทาง

        1. รถเมล์ : นั่งรถเมล์สาย 166 ที่อนุสาวรีย์
        2. รถตู้ : นั่งจากอนุสาวรีย์ ท่าน้ำนนท์ หรืองามวงศ์วาน
        3. เรือ : นั่งมาสุดสายที่ท่าน้ำนนท์แล้วนั่งรถตู้ไปต่อ หรือนั่งรถเมล์สาย 32 ไปต่อก็ได้

        ทั้ง 3 วิธีต้องไปลงที่ปากเกร็ด หน้าโลตัส หลังจากลงที่หน้าโลตัสแล้วก็ต่อพี่วินให้ไปส่งที่วัดสนามเหนือ แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปเกาะเกร็ดที่วัดปรมัยยิกาวาส ราคา 2 บาท ท้องร้องกันหรือยัง ? ของกินอร่อย ๆ รอท่านอยู่ !


       

เอกลักษณ์ของเกาะเกร็ด เจดีย์เอียงที่วัดปรมัยยิกาวาส


       

แหล่งเครื่องปั้นดินเผา




     

   ที่นี่เราไม่ทำอะไรมากนอกจากกิน กิน แล้วก็กิน !

        สรุปค่าเสียหาย (ไปคนเดียว)

        - นั่งรถเมล์ไป-กลับ 13 บาท
        - ค่ามอเตอร์ไซค์ไป-กลับ 20 บาท
        - ค่าเรือข้ามฟาก 4 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ 120 บาท

        รวมทั้งหมดประมาณ 150 บาท

#9 นครนายก เที่ยวเล่นน้ำตก ปีนป่ายสำรวจอุทยาน

        จริง ๆ แล้ว ที่จังหวัดนครนายกก็มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเยอะเหมือนกัน ภูเขาและน้ำตก มีทั้งน้ำตกนางรอง น้ำตกวังตะไคร้ และน้ำตกสาริกา นอกจากนี้ก็มีเขื่อนขุนด่านปราการชลและวัดต่าง ๆ

        การเดินทาง นั่งรถตู้จากอนุสาวรีย์หรือรังสิต ไปลงที่โรงพยาบาลนครนายก ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง การเดินทางในตัวเมืองนครนายกไม่มีรถอาจจะลำบากหน่อย ไม่เห็นมีรถประจำทางเลย มีแท็กซี่บ้างแต่มาไม่บ่อย ส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถตู้ที่วิ่งไปมา โบกเรียกใช้บริการได้

        ตรงข้ามโรงพยาบาลก็เป็นตลาด ขายของกินเยอะเลย เป้าหมายเราแค่อยากมาเล่นน้ำตก เลยเลือกไปที่น้ำตกนางรอง น้ำตกนางรองอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เสียค่าเข้าคนละ 10 บาท น้ำตกไม่ใหญ่และไม่สูงมาก ในช่วงหน้าฝนกระแสน้ำจะไหลเชี่ยวมากกกกกกกกก แต่ช่วงที่เราไปไม่ค่อยมีน้ำซะอย่างนั้น  น้ำน้อยมาก ๆ ฮือ ๆ จากทริปเล่นน้ำ...กลายเป็นทริปปีนป่ายก้อนหินยักษ์แทน ฮ่า ๆ ก็ไม่เป็นไรมาสำรวจอุทยาน ถ้ามาช่วงหน้าฝนคงจะสวยกว่านี้เนอะ


 


        ขากลับสามารถโทรให้รถตู้มารับที่หน้าทางเข้าน้ำตกได้เลย ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วย...ดีจริง ๆ

        สรุปค่าเสียหายต่อคน (ไป 2 คน)

        - นั่งรถตู้ไป-กลับจากอนุสาวรีย์ 160 บาท
        - ค่าต่อรถไปน้ำตกนางรอง 30 บาท
        - ค่าเข้าน้ำตกนางรอง 10 บาท
        - ค่าอาหาร ขนม น้ำ 100 บาท

        รวมทั้งหมดประมาณ 300 บาท

        หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ถ้าข้อมูลผิดหรือราคาไม่อัพเดทแล้วก็ขออภัยด้วยนะคะ ^^ บางทริปไปมาเป็นปีแล้ว ข้อมูลเริ่มเลือนราง ยิ่งเป็นคนความจำปลาทองอยู่ สงสัยอาจจะต้องไปย้ำความจำซะหน่อยแล้ว ถ้าใครมีที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ แนะนำมาได้นะคะ อยากหาที่เที่ยวเพิ่ม ขอบคุณทุก ๆ คนด้วยค่ะ

        ยังไงก็อย่าลืมออกเดินทางกันนะ :")

        แวะมาทักทายกันได้ที่

        Facebook Page : www.facebook.com/travelmilesawaydotcom

        Blog : www.travelmilesaway.com

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Sabrina สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก travelmilesawaydotcom

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้