����Է���Ҿ����觵�;�ѧ�ҹ
���Ҿ�ش���Ի���Է���Ҿ����觵�� ���͡�ö��·ʹ��ѧ�ҹ�ҧ��ǧ������âͧ����ժ��Ե ��ѧ�ҹ��§ 10 �����繵������������㹾ת�����Ǩж١��������¹����� ����Ҿ�ͧ�ѵǡԹ�ת ��ѧ�ҹ��ǹ�˭� ��ͻ���ҳ 90 �����繵� �١�����㹡�кǹ��� ��᷺��ԫ�� �٭�������ٻ�ͧ��ѧ�ҹ������ �����ٻ�ͧ�ҡ����� �ӹͧ���ǡѹ�ѵ����Թ��͡ѹ��ӴѺ��鹵�ҧ� �ͧ��ǧ������è����Ѻ��ѧ�ҹ�������١����¹�� ��Ū���Ҿ��§ 10 �����繵� �ѧ��鹾�ѧ�ҹ���١���·ʹ��Ŵŧ����ӴѺ���������Ǣͧ ��ǧ������� �ѧ�Ҿ
�Ҿ - �ʴ���ѧ�ҹ�ѡ����ٻ�ͧ��Ū���Ҿ����������������ͧ͢���������ӴѺ��ҧ �
��ö��·ʹ��ѧ�ҹ��ѡɳдѧ����ǹ�����¡��� � �� 10 �����繵� � (Ten percent law) ��㨤�����ػ��� ���ѧ�ҹ�ѡ����������ٻ��������ͧ͢�������������ӴѺ��鹨й��¡��� ��ѧ�ҹ�ѡ�����������������ͼ��������ӴѺ��鹵�ӡ��ҷ��Ѵ�ѹŧ�һ���ҳ 10 ��Ҕ
���Ҿ�����ҵԡ�ö��·ʹ��ѧ�ҹ���ǧ������������ӴѺ����Ҩ�����仵���� 10 �����繵� �ҧ�����Ҩ���¡��������ҡ���� �������Ѻ��Դ�ͧ����ժ��Ե���ǧ�����������Ըա���Ѵ ��ö��·ʹ��ѧ�ҹ����öԺ����ٻ�ͧἹ�Ҿ�ٻ�觫�� �ѹ ��������Ե���������дѺ����ش �������ժ��Ե����ӴѺ�ͧ������٧��鹨������٧���仵���ӴѺ��� �����������Դ �ѡ���¡��� �����Դ�����(Food pyramid) ���͡�� 3 Ẻ
1. �����Դ�ʴ��ӹǹ (Pyramid of number) �繻����Դ���͡�ӹǹ����ժ��Ե������ӴѺ�������� ��˹����� �����͵�� ���˹��¾�鹷�����ͻ���ҵ� �Ըչ���Ѵ������¡�ùѺ���բ�����·�袹Ҵ��ҧ��¢ͧ����ժ��Եᵡ��ҧ�ѹ�ҡ ���ͧ�Ѻ�� 1 ˹��������ѹ �֧������ٻ��ҧ�����Դ�ʴ��ӹǹ�ͧ�к�������Դ������Ҵ����ᵡ��ҧ�ѹ�ҡ���ҡ�������º��º�� �����������Ӥѭ�Ѻ����ժ��Ե��Ҵ����Թ�����繨�ԧ
2.
�����Դ���˹ѡ������Ţͧ����ժ��Ե (Pyramid of biomass) �繻����Դ�ʴ�����ҳ����ժ��Ե������ӴѺ�������� �˹�ǹ���˹ѡ���(Dry weight) �����˹ѡʴ�ͧ ����ժ��Ե����ѧ���ͺ���(Wet weight) ���ͨӹǹ�����(Calory value) ���˹��¾�鹷�����ͻ���ҵ�
���˹ѡ������Ū���Ҿ(Biomass) �繹��˹ѡ��������ͷ���ѧ���ժ��Ե���˹��¾�鹷�� ���ͻ���ҵ� �����Ҩ�������������ǹ��������� �� ��������§��Ӣͧ�ת ���ѧ����ö��˹�ҷ���Өع��������������ǹ����ժ��Ե�ѧ����˹�ҷ������ǡѺ��ô�ç���Ե��������
3. �����Դ�ʴ���ѧ�ҹ(Pyramid of Energy) �繻����Դ�ʴ�����ҳ����ժ��Ե��ѵ�Ңͧ��ö��·ʹ��ѧ�ҹ ���ͼż�Ե�ͧ�����ӴѺ�������� ����˹��¢ͧ���˹ѡ���;�ѧ�ҹ���˹��¾�鹷�� ���ͻ���ҵõ��˹������� �� ���������/ ���ҧ����/��
����ª��ͧ�����Դ�����
1. �ʴ�����Һ�֧�ç���ҧ�ͧ�ӴѺ����������к���������§�����ЪѴਹ
2. ��㹡�����º��º�ѡɳС�ö��·ʹ��ѧ�ҹ�ͧ�к�����ȵ�ҧ�
โซ่อาหารในทะเลสาบสวีเดนแห่งหนึ่ง เหยี่ยวออสเปรกินปลาไพก์เหนือ (northern pike) ปลาไพก์เหนือกินเพิร์ช (perch) เพิร์ชกินบลีก (bleak) บลีกกินกุ้งน้ำจืดตามลำดับ
ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงาน ของทุกระบบนิเวศบนโลก พลังงานแสงจะมีการเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานศักย์ ทำให้พืชเกิดกระบวนการสังเคราะห์แสงและมีการสะสมสารอาหารไว้ เพื่อที่จะถ่ายทอดไปยังผู้บริโภคลำดับต่อไป การถ่ายทอดพลังงานเป็นลำดับแบบเส้นตรงหรือวงกลมจะเรียกว่า โซ่อาหาร (Food chain) จะมีความสัมพันธ์กันแบบไม่ซับซ้อน และยังเป็นเส้นตรงส่วนหนึ่งในสายใยอาหาร การที่พลังงานถูกถ่ายทอดจากสิ่งมีชีวิตหนึ่งไปสู้อีกชีวิตหนึ่ง โดยเริ่มจากพืชได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ทำให้เกิดกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงและสะสมสารอาหารพืชถือเป็นผู้ผลิต (Producers) ในลำดับโซ่อาหาร หลังจากนั้นจะมีผู้บริโภคปฐมภูมิหรืออันดับแรก (Primary consumers) กินพืชเป็นอาหารโดยตรง ดังนั้นจะเรียกสัตว์พวกนี้ว่าสัตว์กินพืช (Herbivores) เช่น กวาง ม้า วัว และยีราฟ และต่อมาก็จะมีผู้บริโภคทุติยภูมิหรือสัตว์ที่กินผู้บริโภคอันดับแรกเป็นอาหาร (Secondary consumer) จะมีได้ทั้งสัตว์ที่กินเนื้ออย่างเดียว(Carnivores) และสัตว์ที่กินทั้งเนื้อและพืช (Omnivores) จะได้รับการถ่ายทอดพลังงานเป็นทอดๆอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เกิดเป็นโซ่อาหารในระบบนิเวศและการถ่ายทอดพลังงานในรูปของสารอาหารตามขั้นของผู้บริโภค [1]หน้า 71
ห่วงโซ่อาหาร เป็นการกินต่อกันเป็นทอดๆของสิ่งมีชีวิต พืชและสัตว์จำเป็นต้องได้รับพลังงานเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต โดยพืชจะได้รับพลังงานจากแสงของดวงอาทิตย์โดยใช้รงควัตถุสีเขียวที่เรียกว่า คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) เป็นตัวดูดกลืนพลังงานแสงเพื่อนำมาใช้ในการสร้างอาหาร เช่น กลูโคส แป้ง ไขมัน โปรตีน สำหรับสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ จำเป็นต้องได้รับพลังงานจากการบริโภคสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหารในกลุ่มสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ ห่วงโซ่อาหารไม่ได้ดำเนินไปอย่างอิสระแต่ละห่วงโซ่อาหาร อาจมีความสัมพันธ์กับห่วงโซ่อื่นอีก โดยเป็นความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อน เช่น สิ่งมีชีวิตหนึ่ง ในห่วงโซ่อาหารหนึ่ง อาจเป็นอาหารของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งในห่วงโซ่อาหารอื่นก็ได้ มีผลทำให้กลุ่มสิ่งมีชีวิตนั้นมีความมั่นคงในการดำรงชีวิตมากตามไปด้วย
องค์ประกอบภายในโซ่อาหาร[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ภายในโซ่อาหาร ประกอบด้วย
Producer[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ผู้ผลิต เป็นส่วนแรกของการถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศหรือห่วงโซ่อาหารต่างๆ ซึ่งเกิดจากแสงอาทิตย์จะมีการเปลี่ยนเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานศักย์ ทำให้เกิดการสังเคราะห์แสงของพืช และพืชเหล่านี้สร้างอาหารได้จากพลังแสงอาทิตย์และอนินทรีสารต่างๆ เช่น ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ออกซิเจน คาร์บอน เกลือแร่จากดิน และน้ำ นำไปสร้างอาหารทำให้เกิดเนื้อเยื่อต่างๆ นอกจากพืชแล้วยังมีพวกแพลงค์ตอนพืช และ แบคทีเรียบางชนิด ยังสามารถสร้างอาหารจากแสงอาทิตย์ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าพืชเป็นผู้ผลิตอาหารของโลก[2]
Consumer[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ผู้บริโภค คือ สิ่งมีชีวิตที่สร้างอาหารเองไม่ได้ แต่มีการได้รับพลังงานมาจากการกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ผู้บริโภคอาจมีทั้งผู้บริโภคลำดับหนึ่ง และผู้บริโภคลำดับสอง ซึ่งสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ
- Herbivore เป็นสิ่งมีชีวิตที่กินพืชเป็นอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามาถนำเนื้อเยื่อของพืชมาสร้างเป็นเนื้อเยื่อของตัวเองได้ เช่น วัว ควาย ตั๊กแตน เต่า เป็นต้น รวมถึงปลาเล็กๆที่กินพืชเป็นอาหาร
- Carnivore เป็นสิ่งมีชีวิตที่กินสัตว์เป็นอาหาร ซึ้งสิ่งมีชีวิตพวกนี้จะมีระบบประสาท มีกล้ามเนื้อ และมีรูปร่างใหญ่ และแข็งแรงกว่าสัตว์กินพืช เช่น เหนี่ยว งู สุนัขจิ้งจอก ปลากินเนื้อบางชนิด เป็นต้น
- Omnivore เป็นสิ่งมีชีวิตที่กินทั้งพืชและสัตว์ เช่น หนู ไก่ และนอกจากนี้ยังได้แก่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ไม่ถูกกินโดยสัตว์อื่นๆต่อไป เป็นสัตว์ที่อยู่ในอันดับสุดท้ายของการถูกกินเป็นอาหาร เช่น มนุษย์ เป็นต้น
Decomposer[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ผู้ย่อยสลาย หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สร้างอาหารเองไม่ได้ ดำรงชีวิตโดยการปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยอินทรีย์สารที่อยู่ในซากพืชซากสัตว์ให้เป็นอนินทรีย์สารแล้วดูดซึมส่วนที่เป็นอนินทรีย์สารเข้าไปใช้ เป็นอาหาร บางส่วนจะเหลือไว้ให้ผู้ผลิตนำไปใช้ เช่น เห็ด รา แบคทีเรีย เป็นต้น ซึ่งถ้าในห่วงโซ่อาหารไม่มีผู้ย่อยสลายอินทรียสาร ซากพืชซากสัตว์จะไม่เน่าเปื่อยและกองทับถมกันจนล้นโลก[3]
ประเภทของโซ่อาหาร[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
โซ่อาหารมี 2 ประเภท ได้แก่
- Grazing food chain
หมายถึง โซ่อาหารชนิดที่มีการกินอาหารโดยตรง เป็นโซ่อาหารที่เริ่มต้นมาจากพืชเล็กๆ ที่ยังมีชีวิต โดยที่จะมีสัตว์ทั้งขนาดเล็กและใหญ่มากินพืชนั้น และมีสัตว์กินเนื้อมากินสัตว์นั้นต่อไปตามลำดับ จะเป็นผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นโซ่อาหารที่มีการกินอาหารโดยตรง เช่น หญ้าเป็นผู้ผลิต แกะมากินหญ้า และเสือมากินแกะต่ออีกครั้งหนึ่ง
- Detritus food chain หรือ Saprophytic food chain
หมายถึง โซ่อาหารแบบเศษอินทรีย์ หรือการสลายอินทรียวัตถุ โดยเริ่มต้นมาจากซากอินทรีย์ถูกจุลินทรีย์ย่อยแล้วจึงถูกสัตว์อื่นกิน และสัตว์นี้ก็จะเป็นอาหารของสัตว์อื่นต่อไป ส่วนมากโซ่อาหารชนิดนี้จะเกิดขึ้นในแหล่งน้ำ[4][5]
ชนิดของโซ่อาหาร[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ลักษณะการกินต่อกันของสิ่งมีชีวิตนั้น สามารถจำแนกได้ ดังนี้
- Parasitism food chain
ห่วงโซ่อาหารแบบปรสิต เป็นห่วงโซ่อาหารที่เริ่มจากผู้ถูกอาศัยไปยังผู้อาศัยอันดับหนึ่ง แล้วไปยังผู้อาศัยลำดับต่อๆ ไปเรื่อยๆ หรือห่วงโซ่อาหารที่อยู่ในสิ่งมีชีวิตแต่ละตัว หรือขนาดผู้บริโภคระดับสูงขึ้นไปของโซ่อาหารจะเล็กลงไป เช่น
หนอนในต้นพืช → แบคทีเรียในหนอน → ไวรัสในแบคทีเรีย- Predation food chain
ห่วงโซ่อาหารแบบผู้ล่า เป็นลักษณะของลูกโซ่อาหารที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กโดยตรง เริ่มจากผู้ผลิตคือพืช ตามด้วยผู้บริโภคอันดับต่างๆ การถ่ายทอดพลังงานจึงประกอบด้วย ผู้ล่า (Predator) และเหยื่อ (Prey) โดยการกินกันของสัตว์ผู้ล่า[6] (สัตว์กินพืช สัตว์กินเนื้อ) อาจเป็นพวกขูดกิน (Grazing food chain) ซึ่งห่วงโซ่เริ่มต้นที่สัตว์พวกขูดกินอาหาร เช่น หอยทาก และสัตว์กินพืชอื่นๆ เช่น
สาหร่าย → ลูกปลา → ปลาใหญ่ → แมว- Decomposition food chain
ห่วงโซ่อาหารแบบย่อยสลาย เป็นห่วงโซ่อาหารที่เริ่มต้นจากซากอินทรีย์ถูกย่อยสลายโดยพวกจุลินทรีย์ ได้แก่ เห็ดรา แบคทีเรีย และ Detritivorous animals เป็นระบบนิเวศที่มีห่วงโซ่อาหารอาหารของผู้ย่อยสลายมากกว่าผู้ผลิตและผู้บริโภค แล้วจึงถูกกินต่อไปโดยสัตว์ที่กินเศษอินทรีย์ และผู้ล่าต่อไป ตามลำดับเช่น
ซากพืชซากสัตว์ → ไส้เดือนดิน→ นก→ งูกระบวนการที่จะย่อยสลายซากพืชและสัตว์ให้กลับคืนสู่สภาพที่ผู้ผลิตจะใช้ได้เกิดได้จากทั้งจาก abiotic (เช่น ไฟป่า) และ biotic เช่น แบคทีเรียและราต่างๆ ขันตอนของการย่อยสลายมี 3 ขั้นตอนคือ
- การย่อยสลายเพื่อให้เกิดสารอินทรีย์เดไตรตัส (formation of particulate detritus)
- การย่อยสลายเพื่อให้เกิดฮิวมัส (formation of humus)
- การย่อยสลายฮิวมัสเป็นแร่ธาตุ (mineralization of humus)
- Mix food chain
ห่วงโซ่อาหารแบบผสม เป็นห่วงโซ่อาหารที่มีการถ่ายทอด พลังงานระหว่างสิ่งมีชีวิตหลายๆ ประเภท ซึ่งในแต่ละห่วงโซ่อาหาร อาจมีทั้งผู้ล่า และแบบปรสิต เช่น เริ่มต้นจากผู้ผลิตจะถ่ายทอด พลังงานไปยังผู้บริโภคพืช ผู้บริโภค พืชถ่ายทอดพลังงานไปยังปรสิต เช่น
สาหร่าย → ปลา → พยาธิใบไม้หญ้า → กระต่าย → ยุงก้นปล่อง → เชื้อมาเลเรียอ้างอิง[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
ดูเพิ่ม[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]
- หมวดหมู่:วิทยาศาสตร์สุขภาพ
- ↑ //kanchanapisek.or.th/kp6/Ebook/BOOK17/book17_3/Default.html
- ↑ //www.enchantedlearning.com/subjects/foodchain/glossary.shtml
- ↑ //www.scimath.org/socialnetwork/groups/viewbulletin/1181-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8+(ecosystem)?groupid=248
- ↑ //www.il.mahidol.ac.th/e-media/ap-biology2/chapter5/eco4.htm
- ↑ //www.majordifferences.com/2013/02/difference-between-grazing-and-detritus.html#.VryJTliLTIU
- ↑ //www.livescience.com/4171-top-predators-key-ecosystem-survival-study-shows.html