ความ สำคัญ ของการ ขับ ร้องเพลง

สวัสดีค่ะวันนี้คุณครูน้อยหน่าจะมาคุยกันถึงเรื่องของประโยชน์ของการร้องเพลงทุกวันนะคะ เชื่อว่าหลายๆท่าน ที่อ่านคอลัมน์นี้คงจะชื่นชอบการร้องเพลงกันอยู่แล้วนะคะ บางท่านอาจจะชอบร้องคนเดียวในขณะอาบน้ำ หรือบางท่านอาจจะชอบร้องคาราโอเกะกับเพื่อน บางท่านอาจจะชอบขึ้นเวทีตามงานต่างๆ หลายท่านคงยังไม่ทราบว่าจริงแล้วการร้องเพลงมีประโยชน์มากกว่าการผ่อนคลายความเครียดอีกนะคะ

ประโยชน์ของการร้องเพลงอย่างแรกเลย คือช่วยชะลอความแก่หรือความชราได้ค่ะ เนื่องจากการร้องเพลงเป็นการลดความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีที่ดีทำให้เกิดการต้านอนุมูลอิสระไปโดยปริยายค่ะ จะสังเกตุง่ายนะคะจากการที่เราเห็นนักร้องที่ร้องเพลงบ่อยๆ จะมีความหน้าเด็กกว่าอายุหลายปี บางท่านอายุเข้าเลขสี่แล้วก็ยังดูเหมือนอายุสามสิบต้นๆอยู่เลยค่ะ

ประโยชน์ของการร้องเพลงอย่างสม่ำเสมออย่างที่สองนะคะ คือการร้องเพลงจะทำให้เราหายใจได้ลึกค่ะ เมื่อหายใจได้ลึกแล้วทำให้ร่างกายมีออกซิเจนเข้ามาเลี้ยงเซลล์ต่างๆได้มากทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ร้องเพลงสม่ำเสมอมีผิวพรรณที่ดีและสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ 

ประโยชน์ข้อที่สามสำหรับผู้ที่ร้องเพลงเป็นประจำนะคะ คือการร้องเพลงช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าผ่อนคลายซึ่งทำชะลอหรือลดการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้เป็นอย่างอย่างดีค่ะ

ประโยชน์ข้อที่สี่ของการร้องเพลงทุกวันคือ การร้องเพลงจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อของลำคอและเพดานปากให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหยุดหรือลดอาการกรนได้ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือช่วยป้องกันโรคหยุดหายใจขณะหลับได้ (Sleep Apnea)ค่ะ

ประโยชน์ข้อที่ห้าของการร้องเพลงคือ การร้องเพลงจำเป็นต้องใช้สมาธิในการหายใจเป็นอย่างมากซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายได้ออกกำลังกายไปด้วยค่ะ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้นค่ะ

ประโยชน์ข้อที่หกของการร้องเพลงคือ การร้องเพลงช่วยให้ปอดและหลอดเลือดหัวใจแข็งแรง ซึ่งส่งผลให้มีการไหลเวียนของโลหิตที่ดี และสมองจะได้รับออกซิเจนที่มากค่ะ

ประโยชน์ข้อที่เจ็ดของการร้องเพลงเป็นประจำคือ การร้องเพลงเป็นการฝึกสมาธิ ซึ่งช่วยให้ผู้ร้องเพลงมีสุขภาพจิตที่ดีและความจำที่ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ ซึ่งก็ส่งผลต่อความอดทนและป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคสมองเสื่อมได้ค่ะ

ประโยชน์ข้อที่แปดของการร้องเพลงคือ การร้องเพลงช่วยให้ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมนแห่งความสุขและต่อต้านฮอร์โมนของความเครียด ทำให้สามารถลดความดันโลหิตและลดความเจ็บปวดทางใจได้ค่ะ และนอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้นได้ เพราะการร้องเพลงจะลดระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอล(คอร์ติซอลคือฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความเครียด)ได้นั่นเองค่ะ

ประโยชน์ข้อที่เก้าของการร้องเพลงคือ การร้องเพลงจะช่วยเพิ่มฮอร์โมนออกซิโตซินซึ่งช่วยลดอาการซึมเศร้าและความเหงาได้

ประโยชน์ข้อที่สิบของการร้องเพลง ข้อนี้บางท่านอ่านแล้วต้องร้องว้าวแน่ๆค่ะ เพราะว่าการร้องเพลงด้วยกันจะช่วยให้หัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกันได้ ถ้าแอบรักใครชอบใครลองชวนเค้าคนนั้นมาร้องเพลงด้วยกันดูสิคะ ไม่แน่ว่าความรักอาจจะสมหวังได้นะคะ อิอิ

ประโยชน์ข้อที่สิบเอ็ดของการร้องเพลง การร้องเพลงช่วยให้เกิดความมั่นใจในตัวเองและเพิ่มความหวังในชีวิตซึ่งถ้าใครต้องการจะลดความเครียดและมีความสุขมากยิ่งขึ้นและยายุยืนยาวมากยิ่งขึ้นให้เริ่มร้องเพลงกันนะคะ ^^

เป็นอย่างไรบ้างคะกับประโยชน์ของการร้องเพลงมีมากมายมหาศาลเลยนะคะ คุณครูอยากจะให้เพื่อนๆที่ได้อ่านคอลัมน์นี้ได้ร้องเพลงกันอย่างสม่ำเสมอยิ่งบ่อยยิ่งดีนะคะแล้วมาแชร์ประสบการณ์กันค่ะว่าร้องเพลงเป็นประจำแล้วได้ผลอย่างไรนะคะ วันนี้ขอให้ทุกท่านนอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ

หลักการขับร้องเพลง
     การขับร้องเป็นการสร้างสรรค์ทางดนตรีวิธีหนึ่ง ซึ่งใช้วิธีเปล่งเสียงออกมาให้เป็นเพลงต่าง ๆ โดยอาศัยองค์ประกอบทางดนตรี เพื่อทำให้เพลงที่ร้องมีความไพเราะขึ้น
     1.  ประเภทของการขับร้อง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
          1.  การขับร้องอิสระ คือ การขับร้องทั่วไป โดยไม่มีดนตรีประกอบผู้ขับร้องสามารถขับร้องตามที่ตนเองถนัดหรือต้องการ โดยไม่คำนึงถึงระดับเสียงของเครื่องดนตรี
          2.  การขับร้องประกอบดนตรี คือ การขับร้องให้เข้ากับการบรรเลงเครื่องดนตรี โดยคำนึงถึงทำนอง จังหวะ และรูปแบบของเพลง
          3.  การขับร้องประกอบการแสดง คือ การขับร้องเพื่อบรรยายเนื้อเรื่องหรือเนื้อเพลงประกอบการแสดงต่าง ๆ
          4.  การขับร้องหมู่ คือ การขับร้องพร้อมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ การขับร้องทำนองเดียวกันและการร้องประสานเสียง
     2.  การขับร้องเพลงไทย การขับร้องเพลงไทย ควรเริ่มจากท่าทางการร้อง เนื่องจากเพลงไทยมีลักษณะเฉพาะ ผู้ขับร้องจะนั่งร้องเป็นส่วนใหญ่และมียืนร้องบ้างตามโอกาส ซึ่งผู้ขับร้องควรจะแสดงท่าทางให้เหมาะสม ดังนี้
          1.  ท่านั่ง ผู้ขับร้องส่วนใหญ่จะนั่งราบกับพื้นเวทีเช่นเดียวกับนักดนตรีซึ่งจะต้องนั่งพับเพียบให้เรียบร้อย สำรวมกิริยา นั่งตัวตรงไม่กระดุกกระดิก หรือเคลื่อนไหวมากเกินไป ขณะร้องให้หันหน้าไปทางผู้ชมเสมอ
          2.  ท่ายืน ในบางโอกาสผู้ขับร้องอาจจะได้ยืนร้อง ซึ่งผู้ขับร้องควรยืนร้อง ซึ่งผู้ขับร้องควรยืนอย่างสำรวมกิริยาท่าทาง และระวังการเคลื่อนไหวมือ เท้า และลำตัว
          การขับร้องเพลงไทย มีหลักการปฏิบัติ ดังนี้
          1.   ร้องให้มีระดับเสียงสอดคล้องกับเสียงดนตรี
          2.  หายใจเข้า-ออก ให้สอดคล้องกับช่วงจังหวะ ทำนอง และเนื้อเพลง
          3.  ออกเสียงพยัญชนนะ สระ คำควบกล้ำ ตามอักขรวิธี
          4.  ร้องให้ถูกต้องตามวรรคตอนของเนื้อเพลง เพราะหากร้องไม่ถูกวรรคตอน อาจทำให้ความหมายคลาดเคลื่อนได้
          5.  เนื่องจากเพลงไทยมีการเอื้อน ให้ระมัดระวังในเรื่องการออกเสียงควรเอื้อนให้มีน้ำเสียงสม่ำเสมอตามจังหวะและทำนองเพลง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้