We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data.
You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy.
Thank you!
View updated privacy policy
We've encountered a problem, please try again.
๑.ชนชั้นทางสังคมในสมัยสุโขทัย
สังคมสุโขทัยประกอบด้วยชนชั้นต่างๆ ดังต่อไปนี้
๑) ชนชั้นผู้ปกครอง ได้แก่
(๑) พระมหากษัตริย์จะมีหน้าที่ปกครองอาณาจักรให้มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น รวมไปถึงการดูแลราษฎรให้ทำมาหากินและดำรงชีวิติอย่างเป็นปกติสุข
(๒) เจ้านายหรือขุนนาง เป็นกลุ่มพระราชวงศ์ และเข้าราชการที่มีหน้าที่ช่วยเหลือพระมหากษัตริย์ในการปกครองบ้านเมือง
๒) ชนชั้นผู้ถูกปกครอง ได้แก่
(๑) ไพร่ ประชาชน เป็นชนชั้นกลุ่มใหญ่ของสังคม ในยามที่บ้านเมืองสงบสุข มีหน้าทีประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว และช่วยทำงานที่เป็นต่อประโยชน์ส่วนรวม แต่ในสยามมีศึกสงคราม ชายฉกรรจ์มีหน้าที่รับใช้บ้านเมือง
(๒) พระสงฆ์ เป็นกลุ่มนักบวช มีหน้าที่สั่งสอนหลักธรรมให้แก่ประชาชน และเป็นศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา
จากการศึกษาศิลาจารึกหลักที่ 1 ทำให้เราทราบว่า ในสมัยสุโขทัยมีการใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคม เช่น เกี่ยวกับการร้องทุกข์ฎีกาเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมมีข้อความกล่าวถึงว่า เมื่อราษฎรคนใดมีคดีความที่จะถวายฎีกาต่อองค์พระมหากษัตริย์ ก็ให้ไปสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้หน้าประตูพระราชวัง พระเจ้าแผ่นดินจะเสด็จมาสอบสวนคดีความและตัดสินด้วยความเป็นธรรม
เกี่ยวกับการพิจารณาคดีความ มีข้อความกล่าวว่า เมื่อมีคดีความเกิดขึ้น ให้ทำการสอบสวนว่าใครเป็นฝ่ายผิดใครเป็นฝ่ายถูก แล้วจึงตัดสินอย่างยุติธรรม ห้ามมิให้รับสินบนข้างใดข้างหนึ่ง ดังนั้นความในศิลาจารึกว่า
…ไพร่ฟ้าลูกเจ้าลูกขุน ผิแลผิดแผกแสกว้างกัน สวนดูแท้แล
จึ่งแล่งความแก่เขาด้วยซื่อ บ่เข้าผู้ลักทักผู้ซ้อน
เห็นข้าวท่านบ่ใคร่พินเห็นสินท่านบ่ใคร่เดือด...
(ข้อความที่แปล) …ประชาชน เจ้านาย ขุนนาง ที่ไม่ถูกกัน ก็ให้ไต่สวนด้วยความ ซื่อตรง อย่าเข้าข้างคนผิด อย่าเห็นแก่ทรัพย์สินที่มีคนนำมาติดสินบน…
๒. มรดกทางวัฒนธรรมของสุโขทัย
สังคมสุโขทัยยึดมั่นในพระพุทธศาสนา ประชาชนจึงได้รับการขัดเกลาจิตใจให้มีความละเอียดอ่อน ทั้งในแง่ของหลักธรรมและศิลปกรรมต่างๆ ทำให้สามารถสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมไว้มากมาย ดังต่อไปนี้
๑) ด้านศาสนา
พระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัยทรงมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาทรงนำราษฎรปฏิบัติธรรมและทำกิจกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะพระมาหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระองค์ทรงออกผนวกและทรงนิพนธ์งานทางศาสนา เช่น หนังสือไตรภูมิพระร่วง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีประเพณีการสร้างวัดขึ้นในเขตพระราชวัง เพื่อใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีทางศาสนาและพระราชพิธีอื่นๆ ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
๒) ด้านศิลปกรรม
(๑) สถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างสมัยสุโขทัยมีความงดงามและเป็นแบบอย่างของสุโขทัยโดยเฉพาะ ดังจะเห็นได้จากการก่อสร้างเจดีย์ในสมัยสุโขทัยตอนต้น ที่นิยมก่อสร้างเจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ต่อมาในสมัยสุโขทัยตอนปลายการก่อสร้างเจดีย์จะมีลักษณะสวยงามยิ่งขึ้น เป็นรูปแบบสุโขทัยแท้ คือเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือส่งดอกมะตูม
นอกจากนี้ สมัยสุโขทัยจะนิยมสร้างวิหารใหญ่กว่าโบสถ์มีกำแพงทึบ และเจาะเป็นช่องเล็กๆ คล้ายกับหน้าต่างเพื่อให้แสงลอดผ่านเข้าข้างในได้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการสร้างวิหารในสมัยนั้น จะนิยมสร้างไว้ด้านหน้าของเจดีย์ เช่นวิหารหลวงที่เมืองสุโขทัย วิหารหลวงที่วัดมหาธาตุ เป็นต้น
(๒) ประติมากรรม การก่อสร้างพระพุทธรูป สมัยสุโขทัยนิยมหล่อพระพุทธรูปจากโลหะสำริด ซึ่งเป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้
พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่สวยงามที่สุดของชาติไทย ได้แก่พระพุทธชินราช พระศรีศากยมุนี เป็นต้น
(๓) งานจิตรกรรมงาน จิตรกรรมสมัยสุโขทัยมีทั้งภาพลายเส้นและภาพสีฝุ่น เช่น จิตรกรรมงานเขียนลายเส้นเรื่องชาดกสลักบนหินชนวนที่ผนังอุโมงค์ในวัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ใช้สีแดง ดำ ขาว เป็นหลัก เช่น ภาพเขียนที่วัดเจดีย์เจ็ดแถวเป็นเมืองศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยเป็นต้
๓) ด้านภาษาและวรรณกรรม
มรดกทางวัฒนธรรมของสุโขทัยที่สำคัญ คือ ตัวอักษรไทยและวรรณกรรม ตัวอักษรไทย เรียกว่าลายสือไทย พ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1826 ตัวอักษรไทยที่พ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์ขึ้นนั้นได้ดัดแปลงมาจากอักษรขอมและอักษรมอญมีลักษณะการจัดวางรูปสระให้เรียงอยู่บนบรรทัดเดียวกันกับพยัญชนะการประดิษฐ์อักษรไทยทำให้เกิดวรรณกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หรือศิลาจารึกหลักที่ 1 นอกจากนี้ยังมีวรรณคดีที่สำคัญ ได้แก่ ไตรภูมิพระร่วง (เตภูมิกถา)
๔) ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี
ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในสังคมขนบธรรมเนียมและประเพณีในสมัยสุโขทัยจะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคนไทยในกรุงสุโขทัยนับถือพระพุทธศาสนากันอย่างกว้างขวาง ทำให้พระพุทธศาสนาเข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คนในสุโขทัยเป็นอย่างมาก เช่น ประเพณีการสร้างวัดในเขตพระราชวัง ประเพณีทำบุญเข้าพรรษาและออกพรรษา รักษาศีลฟังเทศน์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นต้น
ขนบธรรมเนียมประเพณีของสุโขทัย เป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การละเล่นพื้นรื่นเริง ประเพณีการเผาเทียนเล่นไฟ และพระราชพิธีต่างๆ เช่น พระราชพิธีลอยพระประทีป เป็นต้น