ผมคิดว่าอาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากตัว ROM หรือไม่ก็เกิดจากความผิดพลาดของ application กล้องถ่ายรูปอะครับ
mooser
Participant
December 9, 2012 at 3:30 am
1.มีแอปกล้องตัวอื่นใช้ได้ไหม ถ้าใช้ได้ปัญหาฮาร์ทแวร์ก็ตัดไป
2. ตั้งค่า> แอป> ทั้งหมด> กล้อง(ถ้าไม่เจอกล้องก็น่าจะเป็นแกลอรี่)> ล้างข้อมูล แล้วลองเข้าแอปใหม่ดู
Nitta999
Participant
December 9, 2012 at 5:27 pm
อัพเดทรอม/ factory reset ถ้าไม่หายส่งเข้าศูนย์
thongma
Participant
December 9, 2012 at 7:05 pm
App ตัวอื่นที่เกี่ยวกับกล้องใช้ไม่ได้ทั้งหมดค่ะ ตั้งค่า> แอป> ทั้งหมด> กล้อง)> ล้างข้อมูล แล้วลอง เข้าใหม่ ไม่หายค่ะ
mooser
Participant
December 9, 2012 at 7:38 pm
ความคิดผมว่าเป็นที่เครื่องแล้วนะ แต่ก็ลองตามคุณ nitta999 ดูครับ factory reset (อย่าลืมแบ็กอัพข้อมูลด้วยครับ) ถ้าไม่ได้อีกจะลองลงรอมใหม่ดูก็ได้ //droidsans.com/node/105686 นอกเหนือจากนี้ส่งศูนย์ครับ
thongma
Participant
December 10, 2012 at 2:29 am
ขอบคุณมากค่ะ คงต้องส่งศูนย์จริงๆ แหละ นิ่งเลย แต่เรื่องอื่น ok 1ทุกอย่างเลยค่ะเล่นเกมดูหนังได้ปกติค่ะ
thip
Participant
June 10, 2014 at 8:03 pm
ลองเปลี่ยนเป็นโหมดวิดีโอ ลองถ่ายวิดีโอ เเล้วค่อยกลับมาถ่ายรุป เค้าลองเเล้วน่ะ ปล.ตอบไว้เผื่อคนอื่นต้องการด้วย ^^
อีกหนึ่งปัญหาที่มีผู้ใช้งาน Samsung Galaxy S7 และ Galaxy S7 edge บางคนพบเจอเกี่ยวกับแอพกล้องถ่ายรูปคือ กล้องหยุดทำงาน และขึ้นแจ้งเตือนข้อความว่า Warning : Camera Failed ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของระบบ ส่วนใหญ่จะเจอเมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้า มาดูกันว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
วิธีแรก ล้างข้อมูลแอพกล้องถ่ายรูป
เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับแอพกล้องถ่ายรูป ดังนั้นให้ลองทำการรีเซ็ตการทำงานของแอพกล้อง โดยการล้างแคชและล้างข้อมูลของตัวแอพ เพื่อล้างค้างที่อาจทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว วิธีนี้รูปภาพไม่หาย
1. เข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings) > แอพพลิเคชั่น (Applications) > การจัดการแอพพลิเคชั่น (Application Manager)
2. แตะเลือกที่แอพกล้องถ่ายรูป (Camera) >> เลือกไปที่เมนู ที่จัดเก็บ (Storage)
3. จากนั้นให้เลือกที่เมนู จัดการข้อมูล (Clear Dara) และลบแคช (Clear Cache)
วิธีที่ 2 ปิดฟีเจอร์พักหน้าจออัจฉริยะ
ปัญหา Warning : Camera Failed ส่วนใหญ่จะเจอเมื่อเปิดใช้งานกล้องหน้า ซึ่งฟีเจอร์พักหน้าจออัจฉริยะ (Smart Stay) เป็นการตรวจจับใบหน้าด้วยกล้องหน้าเพื่อให้จอแสดงผลเปิดใช้งานตลอดเวลานั่นเอง และพบว่าเมื่อปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้
1. เข้าไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings) > จอภาพ (Display)
2. เลือกไปที่เมนูพักหน้าจออัจฉริยะ (Smart Stay) แล้วปิดการทำงาน
วิธีที่ 3 Wipe Cache
หากทั้ง 2 วิธีด้านบนยังแก้ปัญหาไม่ได้ โดยวิธีนี้เป็นการการเข้าโหมด Recovery เพื่อทำการล้างแคชระบบ ข้อมูลตัวเครื่องไม่หาย
1. ปิดเครื่องโทรศัพท์ รอเครื่องดับสนิท
2. กดปุ่มเพิ่มเสียง+ปุ่มโฮม+ปุ่ม Power ค้างไว้พร้อมกัน เพื่อเข้าสู่โหมด Recovery
3. จากนั้นใช้ปุ่มลดเสียงกดเลื่อนลงมาที่เมนู Wipe cache partition แล้วกดปุ่ม Power เพื่อเลือก
4. เลือก Yes
5. จากนั้นเลือก Reboot system now เพื่อรีบูตเครื่องใหม่
เพียงเท่านี้ปัญหาดังกล่าวก็จะถูกแก้ไข และใช้งานกล้องได้ตามปกติแล้วครับ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก : iPhoneDroid
หลังจากทำตามแต่ละขั้นตอน ให้เปิดกล้องถ่ายรูปแล้วตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้แล้วหรือไม่ หากยังแก้ไม่ได้ ให้ลองทำตามขั้นตอนถัดไป
สำคัญ: ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android 8.0 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดเลนส์และเลเซอร์ของกล้อง
ในการทำความสะอาดเลนส์กล้องและเซ็นเซอร์ของเลเซอร์ ให้เช็ดบริเวณดังกล่าวเบาๆ ด้วยผ้านุ่มสะอาด
- หากรูปภาพและวิดีโอไม่ชัดหรือกล้องไม่โฟกัส ให้ทำความสะอาดเลนส์กล้อง
- หากโทรศัพท์มีเซ็นเซอร์ของเลเซอร์ ให้ทำความสะอาดเซ็นเซอร์ด้วย สำหรับโทรศัพท์ Pixel หรืออุปกรณ์ Nexus ให้ดูว่าเลนส์และเซ็นเซอร์อยู่ที่ใด
เคล็ดลับ: กล้องอาจแจ้งให้ทราบหากตรวจพบว่าเลนส์สกปรก ดูวิธีปิดคําเตือนเลนส์สกปรก
ขั้นตอนที่ 2: รีสตาร์ทโทรศัพท์
- ปิดโทรศัพท์
- ใน Pixel 5a และรุ่นก่อนหน้า ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง" ในหน้าจอ
- ใน Pixel 6 และรุ่นที่ใหม่กว่า หากต้องการปิดโทรศัพท์ ให้กดปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มเพิ่มระดับเสียงค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง" ในหน้าจอ
- ใน Pixel 5a และรุ่นก่อนหน้า ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง"
- เมื่อปิดโทรศัพท์แล้ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนโทรศัพท์เปิดขึ้นอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 3: ล้างแคชของแอปกล้องถ่ายรูป
- เปิดแอปการตั้งค่าของโทรศัพท์
- แตะแอป ดูแอปทั้งหมดกล้องถ่ายรูป หากไม่เห็น "ดูแอปทั้งหมด" ให้แตะข้อมูลแอป
- แตะพื้นที่เก็บข้อมูลและแคช ล้างแคช
ขั้นตอนที่ 4: อัปเดตแอป
- เปิดแอป Google Play Store
- แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- แตะจัดการแอปและอุปกรณ์
- ในส่วน "มีอัปเดต" ให้เลือกอัปเดตแอปทั้งหมดหรือแอปที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบว่าแอปอื่นทำให้เกิดปัญหาหรือไม่
- ปิดโทรศัพท์
- ใน Pixel 5a และรุ่นก่อนหน้า ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง" ในหน้าจอ
- ใน Pixel 6 และรุ่นที่ใหม่กว่า หากต้องการปิดโทรศัพท์ ให้กดปุ่มเปิด/ปิดและปุ่มเพิ่มระดับเสียงค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง" ในหน้าจอ
- ใน Pixel 5a และรุ่นก่อนหน้า ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วแตะ "ปิดเครื่อง"
- เมื่อปิดโทรศัพท์แล้ว ให้กดปุ่มเปิด/ปิดค้างไว้จนโทรศัพท์เปิดขึ้นอีกครั้ง
- โทรศัพท์จะเริ่มต้นในโหมดปลอดภัย คำว่า "โหมดปลอดภัย" จะแสดงที่ด้านล่างของหน้าจอ
- เปิดกล้องถ่ายรูปและดูว่าใช้ได้หรือไม่
- หาก Google กล้องถ่ายรูปทำงานได้ในโหมดปลอดภัย แสดงว่าแอปอื่นอาจเป็นสาเหตุของปัญหา
- รีสตาร์ทโทรศัพท์เพื่อออกจากโหมดปลอดภัย
- ถอนการติดตั้งแอปที่ดาวน์โหลดมาล่าสุด
- เปิดกล้องถ่ายรูปแล้วตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้แล้วหรือไม่ หากยังแก้ไม่ได้ ให้ทำขั้นตอนก่อนหน้าซ้ำ
- หากแก้ปัญหาได้แล้ว ให้ติดตั้งแอปที่นำออกไปก่อนแอปล่าสุดอีกครั้ง
- หาก Google กล้องถ่ายรูปไม่ทำงานในโหมดปลอดภัย ให้ดูวิธีอื่นๆ ในการแก้ปัญหาแอป
- หาก Google กล้องถ่ายรูปทำงานได้ในโหมดปลอดภัย แสดงว่าแอปอื่นอาจเป็นสาเหตุของปัญหา
หากยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับกล้องในโทรศัพท์ Pixel
คุณสามารถโพสต์คำถามถึงชุมชน Pixel ในฟอรัมของเราเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ ที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการรีเซ็ตโทรศัพท์