เราเชื่อว่าก่อนที่คุณจะตัดสินใจฟอกสีฟัน คุณจะต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกสีฟันมาบ้าง และเปรียบเทียบถึงข้อดีและข้อเสียของการฟอกสีฟันแต่ละแบบ แต่สำหรับใครที่ยังไม่ทราบถึงข้อมูลและรายละเอียดของการฟอกสีฟัน เรามาดูกันไปพร้อม ๆ กันดีกว่า ว่าประเภทของการฟอกสีฟัน มีอะไรบ้าง
ประเภทของการฟอกสีฟัน มีอะไรบ้างการฟอกสีฟัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ โดยคุณสามารถเลือกฟอกสีฟันได้ตามที่คุณสะดวก โดยประเภทของการฟอกสีฟัน มีดังนี้
ประเภทการฟอกสีฟัน: ฟอกสีฟันที่บ้าน VS ฟอกสีฟันที่คลินิก
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันเองที่บ้านมอบความสะดวกสบายในการฟอกสีฟัน เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรับบริการที่คลินิกฟอกสีฟัน แต่คุณสามารถซื้ออุปกรณ์ฟอกสีฟันมาทำเองได้จากที่บ้าน โดยอุปกรณ์ฟอกสีฟันทำเองที่บ้านรูปแบบต่าง ๆ มีดังนี้
สำหรับชุดฟอกสีฟันรูปแบบนี้ถือเป็นชุดอุปกรณ์การฟอกสีฟันเองที่บ้านรูปแบบพื้นฐานที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ในร้านขายยาทั่ว ๆ ไป ในชุดจะประกอบไปด้วยเจลฟอกสีฟันและถาดครอบฟัน
ชุดฟอกสีฟันแบบปากกา เป็นการผลิตอุปกรณ์ฟอกสีฟันรูปแบบใหม่ที่มอบความสะดวกสบายในการฟอกสีฟันโดยที่ไม่ต้องครอบฟันเป็นเวลานาน ๆ อีกทั้งยังไม่กัดริมฝีปากหรือเหงือกให้เกิดอาการระคายเคืองขณะทำการฟอกสีฟัน วิธีการฟอกสีฟันด้วยปากกาฟอกสีฟันนั้นง่ายมาก เพียงแค่แต้มผลิตภัณฑ์ลงไปบนผิวฟัน สำหรับปากกาฟอกสีฟันบางรุ่นจะมาพร้อมกับที่ครอบฟัน ซึ่งสามารถใส่ครอบฟันทิ้งไว้ ใช้เวลาเพียงไม่นาน ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ก็ได้ฟันขาวสมใจแล้ว
ข้อดีของการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
- เสียวฟันน้อยกว่าการไปฟอกฟันที่คลินิก หรืออาจไม่มีอาการเสียวฟันเลย
- การฟอกฟันเองที่บ้านมอบผลลัพธ์ฟันขาวที่ยาวนานกว่า
- สามารถปรับสีฟันได้เองตามต้องการ เช่น หากฟันซี่ไหนมีสีคล้ำเหลืองกว่า ก็สามารถใช้เจลฟอกสีฟันเฉพาะจุดได้
- สะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังคลินิก
- ประหยัดเงินมากกว่า ราคาไม่แพงเท่าการไปฟอกสีฟันในคลินิก
ข้อเสียของการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
- ต้องทำการฟอกสีฟันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- ต้องฟอกสีฟันและทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด
- ระหว่างมีอุปกรณ์ฟอกสีฟันอยู่ในปาก อาจไม่สามารถพูดได้หรือทำให้รู้สึกอึดอัดขณะฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันที่คลินิก
การฟอกสีฟันที่คลินิก เป็นอีกหนึ่งประเภทของการฟอกสีฟันที่รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน และกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่คุณจำเป็นต้องเดินทางไปเข้ารับบริการที่คลินิกฟอกสีฟัน เพราะทางคลินิกจะมีทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฟอกสีฟันและมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน รวมถึงเครื่องฉายแสงที่ใช้ในการฟอกสีฟันเพื่อเร่งปฏิกิริยาการทำงานของผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันอีกด้วย
ข้อดีของการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
- ฟอกสีฟันได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลได้ชัดเจนทันทีหลังทำเสร็จโดยไม่ต้องลงมือทำเอง
- สารฟอกสีฟันในคลินิกมีความเข้มข้นมากกว่า
- ไม่ต้องใส่ถาดฟอกฟันเป็นเวลานาน ๆ
ข้อเสียของการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
- อาจมีอาการเสียวฟันหรือระคายเคืองขณะฟอกสีฟัน
- ค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าบริการและค่าเดินทางไปยังคลินิก
- ผลลัพธ์ฟันขาวอยู่ได้นานเพียง 6-12 เดือน จึงต้องกลับมาฟอกซ้ำ
แสงที่ใช้ในการฟอกสีฟันในคลินิก
หากใครที่เคยเข้ารับบริการฟอกสีฟันในคลินิก คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าในคลินิกนั้นจะมีการฉายแสงเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาดูกันดีกว่า ว่าแสงที่คลินิกฟอกสีฟันใช้ มีอะไรบ้าง
แสงเลเซอร์
ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน: ประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง
แสงเลเซอร์เป็นแสงที่ให้พลังงานประสิทธิภาพสูง แต่ให้ความร้อนในระดับต่ำ ช่วยเข้าไปกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีโดยการดึงเม็ดสีออกจากผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันออกมา การฟอกสีฟันโดยใช้แสงเลเซอร์นั้นมอบความปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรืออาการระคายเคืองใด ๆ ต่อช่องปากและฟัน
แสงเย็น (Cool Light)
ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน: ประมาณ 30 นาที
แสงเย็น หรือ Cool Light จะเป็นแสงที่มีอุณหภูมิต่ำ และจำเป็นต้องใช้คู่กับสูตรน้ำยาฟอกสีฟันที่ได้รับการพัฒนาพิเศษมาโดยเฉพาะกับแสงเย็นเท่านั้น แสงเย็นจะไปกระตุ้นการทำงานของผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว มีข้อดีอยู่ตรงที่จะไม่ไปทำลายสารเคลือบฟัน ไม่ทำให้ฟันเสียหายหรือสึกหรอ อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อเหงือกและฟัน
แสงยูวี (Blue Light)
ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน: ประมาณ 1 ชั่วโมง
การฉายแสงยูวีจะใช้พลังงานแสงความร้อนที่มีรัศมีกว้างเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาการทำงานของผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน แต่วิธีการนี้อาจมีผลข้างเคียง เช่น ระคายเคืองเหงือก เสียวฟัน เจ็บเหงือก แต่อาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากฟอกฟันเสร็จ
แสง Zoom
ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน: ประมาณ 1 ชั่วโมง
สำหรับการฟอกฟันขาวด้วยแสง Zoom นั้น ถือเป็นวิธีการที่ประหยัดเวลามากที่สุด แต่เจลฟอกสีฟันที่ใช้ต้องมีความเข้มข้นของสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อยู่ที่ 25% แสง Zoom ที่ฉายขณะฟอกสีฟันจะช่วยไปเร่งปฏิกิริยาทำให้ฟันขาวได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ฟันขาวได้ทันทีหลังฟอกสีฟันเสร็จ
ตารางเปรียบเทียบระยะเวลาการฟอกสีฟันกับการฉายแสงประเภทต่าง ๆ
ประเภทของแสง
ระยะเวลา
แสงเลเซอร์
45 นาที - 1 ชั่วโมง
แสงเย็น (Cool Light)
30 นาที
แสงยูวี (Blue Light)
1 ชั่วโมง
แสง Zoom
1 ชั่วโมง
สรุป ประเภทการฟอกสีฟัน และแสงที่ใช้ฉายในการฟอกสีฟันในคลินิก
การฟอกฟันนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ การฟอกสีฟันเองที่บ้านและการฟอกสีฟันในคลินิก แต่การฟอกสีฟันในคลินิกนั้นก็มีระบบแสงที่ใช้เพื่อฉายกระตุ้นปฏิกิริยาของผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน โดยสามารถแบ่งย่อย ๆ ได้เป็นอีก 4 ประเภท คือ แลวเลเซอร์ แสงเย็น (Cool Light) แสงยูวี (Blue Light) และแสง Zoom
การจะเลือกฟอกสีฟันประเภทไหน หรือเลือกใช้บริการฟอกฟันระบบแสงใด คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ฟอกฟันเอง แต่ทั้งนี้ต้องศึกษาข้อมูลของการฟอกสีฟันอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการตัดสินใจและเลือกใช้บริการให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด