ในช่วงหน้าฝนอย่างช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนตุลาคม ที่มักจะมีฝนตกหนักหรือตกข้ามวันข้ามคืนจนเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความยากลำบากต่อการสัญจรไปมาโดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์
โดยวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีรับมือและตรวจเช็คสภาพเบื้องต้น เมื่อคุณจำเป็นต้องขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อทั้งคุณและรถมอเตอร์ไซค์กันครับ
ขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำท่วม ควรทำอย่างไร?
- ไม่ควรขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำที่ท่วมสูงเกินกว่า 1 ฟุตจากพื้นถนน หรือท่วมถึงคาบูเรเตอร์และช่องอัดอากาศเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้ โดยหากเป็นรุ่นหัวฉีดต้องระวังน้ำท่วมเข้าในเครื่องกรองอากาศซึ่งจะส่งผลทำให้ระบบเครื่องยนต์เสียหายและทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- สังเกตพื้นถนน หากคุณไม่ชำนาญเส้นทาง อาจทำให้เห็นหลุม บ่อ ท่อ ลูกระนาด หรือขอบทางเท้าได้ยาก เมื่อมีน้ำท่วมขัง เพราะอาจจะมีความขุ่นมัวจนไม่สามารถมองเห็นพื้นถนนได้ โดยควรดูจากสัญลักษณ์เตือนต่างๆ
- ไม่ควรขับขี่ด้วยความเร็วและมีสมาธิในการขับขี่อยู่เสมอ เพื่อช่วยในการทรงตัวของรถมอเตอร์ไซค์ตลอดเวลา เตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และทำให้สามารถสังเกตเห็นจุดที่ผิดปกติบนพื้นถนนได้ ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำสาดกระเซ็นใส่ผู้อื่นอีกด้วย
- ควรเบรกเป็นระยะสม่ำเสมอ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก ป้องกันเบรกลื่น ช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกทำได้อย่างเต็มที่ เพราะหากผ้าเบรกและจานเบรกทำงานได้ไม่เต็มที่ จะเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- หากเกิดกรณีรถดับกลางทาง อย่าเพิ่งรีบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด ให้นำรถมอเตอร์ไซค์ไปอยู่ในพื้นที่แห้ง ไม่มีน้ำท่วมขังเสียก่อน และทำการตรวจเช็คว่ามีน้ำขังในท่อไอเสียหรือไม่ หากมีต้องทำการระบายน้ำออกเร็วที่สุด หลังจากที่ระบายน้ำออกหมดแล้ว ให้สตาร์ทเครื่องยนต์และเร่งเครื่องทิ้งไว้ 3-5 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์พร้อมทำงาน
- เมื่อถึงที่หมายแล้วอย่าเพิ่งดับเครื่องยนต์ในทันที ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ก่อน เพื่อให้ความร้อนของเครื่องยนต์ช่วยทำให้น้ำที่อาจขังอยู่ในท่อไอเสียระเหยไปเสียก่อน ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ลดการเกิดสนิมในท่อไอเสีย และช่วยรักษาเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี
หลังลุยน้ำมา ต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง?
สิ่งที่ต้องทำหลังจากขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำมา คือต้องตรวจเช็คสภาพรถโดยทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
- โดยเริ่มจากการตรวจเช็คตัวกรองอากาศ ถอดหม้อกรองอากาศออกมาทำความสะอาด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่
- ตรวจเช็คหัวเทียน ไล่ความชื้นพร้อมตรวจสอบว่ามีน้ำขังอยู่หรือไม่
- ตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง โดยดูที่ช่องระดับหรือเปิดฝาจุกเติมน้ำมันเครื่องว่ามีสีขาวขุ่นหรือไม่ หากไม่ตรวจเช็คและปล่อยทิ้งไว้ อาจก่อให้เกิดสนิม และความชื้นซึ่งส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้
- ตรวจเช็คไฟหน้าและไฟท้าย นำน้ำออกให้หมด เช็ดที่ครอบไฟให้แห้ง
- ตรวจเช็คโซ่ เพราะน้ำอาจทำให้สารหล่อลื่นที่เคลือบโซ่หลุดลอก ควรทำการหยอดน้ำมันเพิ่มเติม
- ตรวจเช็คระบบเบรก ไล่น้ำออกจากผ้าเบรก ทำความสะอาด และเป่าให้แห้ง
- ตรวจเช็คว่ามีอาการสะดุดหรือดับ หลังการสตาร์ทรถหรือไม่ เพราะอาจมีน้ำหลุดเข้าไปในถังน้ำมันเชื้อเพลิงได้
การขับขี่มอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝนหรือน้ำท่วมขังนั้น ต้องรู้จักวิธีการรับมือและตรวจเช็คสภาพอย่างถูกต้อง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุให้มากที่สุด และทำให้มอเตอร์ไซค์ของคุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคุณต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง มีสมาธิ ไม่ประมาท ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไรก็ตาม
ฤดูกาลที่เปลี่ยนไปมีส่วนทำให้รถแสนรักเกิดอาการงอแงต่างกันไป แต่มีอยู่หนึ่งอาการที่เป็นได้ทั้งหน้าร้อน และหน้าฝน นั่นก็คืออาการน้ำเข้าเครื่องยนต์ อาการ และวิธีแก้เป็นอย่างไร มาดูกัน
สาเหตุ ของน้ำเข้าเครื่องยนต์มาจาก 2 สาเหตุหลัก นั่นก็คือ เกิดจากการรั่วภายใน และน้ำจากภายนอกเข้าไป
1. การรั่วภายใน
เกิดเวลาที่เครื่องยนต์ร้อนจัด ประกอบกับอากาศร้อน ทำให้เครื่องยนต์ยิ่งร้อนขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดสองอาการนี้ อาการแรกคือประเก็นฝาสูบที่ทำหน้าที่ปิดทางน้ำหล่อเย็นที่ไหลเวียนบนช่องท่อในเครื่องยนต์ ขาด หรือแตก เลยทำให้น้ำไหลเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ อาการที่สองคือ ฝาสูบเครื่องยนต์โก่ง ทำให้มีช่องว่างให้น้ำเข้าไปปนกับน้ำมันเครื่องยนต์ได้
วิธีเช็ก หมั่นตรวจเช็กดูปริมาณน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ หากลดลงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและต้องคอยเติมบ่อยๆ ให้ลองหาจุดรั่วภายนอกก่อน หากไม่เจอจุดรั่วภายนอก ลองเช็กจากแผ่นวัดน้ำมันเครื่อง โดยดึงแผ่นวัดน้ำมันเครื่องออกมาดู หากน้ำมันไม่ใส เป็นสีขุ่นๆ เหมือนกาแฟใส่นม ประกอบกับเครื่องยนต์มีอาการกำลังเครื่องตก เครื่องร้อน เดินเบาสั่น ให้สงสัยได้เลยว่าอาจมีน้ำเข้าเครื่องยนต์
2. น้ำเข้าจากภายนอก
เกิดจากเวลาขับรถลุยน้ำท่วม ไม่ว่าจะค่อยๆ ขับ หรือขับลุยน้ำไปอย่างเร็วก็ตาม น้ำจะเข้าผ่านท่อดูดอากาศไอดี เข้าห้องเผาไหม้ ซึ่งจะทำให้เครื่องดับ
วิธีเช็ก หากขับลุยน้ำอยู่แล้วเครื่องยนต์ดับ อย่าพยายามสตาร์ทรถใหม่ทันที แล้วลองเปิดฝากระโปรงเพื่อเช็กเสื้อกรองอากาศว่าเปียกหรือไม่ ถ้าเปียกแปลว่าน้ำเข้า
วิธีแก้ไข
ให้แก้ไขสาเหตุที่ทำให้น้ำเข้าเครื่องก่อน จากนั้นให้ถ่ายน้ำมันเครื่องออก แล้วเติมน้ำมันเครื่องใหม่เข้าไป ก็จะสามารถนำรถไปใช้ได้