ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ

การดูแลชีวิตคนตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ผ่านการ "ฝากท้อง" และคลอดบุตรที่มีคุณภาพ เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้เกิดการตรวจพบ การป้องกันและการรักษาความผิดปกติต่างๆ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิต

นับเป็นเรื่องดีที่ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทั้ง 3 ระบบหลัก คือ ข้าราชการ ประกันสังคมและบัตรทอง ให้การดูแลค่าใช้จ่ายกรณีฝากท้องและคลอดบุตร จนคนไทยเกือบทั้งหมดมีสิทธิรับบริการขั้นพื้นฐานได้ฟรี เรียกได้ว่า “คนไทยฝากท้องคลอดลูกฟรี” เป็นเป้าหมายที่ใกล้สู่ความเป็นจริงมากแล้ว
    สิทธิเบื้องต้น คนไทย “ทุกคน” มีสิทธิเลือกฝากท้องฟรี 5 ครั้งที่สถานพยาบาลของรัฐ ตามโครงการ “ฝากครรภ์ทุกที่ฟรีทุกสิทธิ” ของ สปสช. ขณะที่ในส่วนของการคลอดบุตร หากเป็น “ข้าราชการ” หรือเป็นผู้มีสิทธิ “บัตรทอง” สามารถคลอดบุตรได้ฟรีที่สถานพยาบาลของรัฐ เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ฯ (รวมถึงเอกชนบางแห่งที่มีข้อตกลงกับหน่วยงานที่บริหารเงินทุนของระบบสวัสดิการข้าราชการและบัตรทอง

ขณะที่ผู้ประกันตน “กองทุนประกันสังคม” จะต้องสำรองจ่ายค่าคลอดไปก่อน แต่สามารถนำหลักฐานมาเบิกเงินค่าบริการทางการแพทย์กรณีคลอดบุตรจากประกันสังคมได้ 15,000 บาท (เหมาจ่าย) และเบิกค่าฝากท้องเพิ่มได้อีก 1,500 บาท ยังไม่รวมเงินชดเชยการหยุดงานและเงินสงเคราะห์บุตร ซึ่งทั้ง 2 ก้อนหลังเป็นเงินที่คนในระบบบัตรทองและข้าราชการไม่ได้รับ
    แน่นอนว่าการให้สิทธิคลอดบุตรของระบบข้าราชการและระบบบัตรทองไม่ได้ฟรีในทุกกรณี เพราะมีเงื่อนไขสำคัญ คือ การจำกัดสถานพยาบาลรับบริการที่เกือบทั้งหมดเป็นของรัฐ แต่อย่างน้อยหญิงมีครรภ์ใน 2 ระบบก็มีสิทธิเลือกรับ “บริการขั้นพื้นฐาน” ได้ฟรี โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

คือ สามารถคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติได้ จะผ่าคลอดได้ในกรณีมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ ได้พักฟื้นในห้องปกติได้อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังคลอด รับยาบำรุงขั้นพื้นฐาน และรับการช่วยเหลือกรณีมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ขณะคลอด แต่หากต้องการรับบริการที่มากกว่ากำหนด ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจเลือกที่จะจ่ายค่าบริการด้วยตนเอง เช่น ต้องการรับบริการที่สถานพยาบาลเอกชน การพักฟื้นในห้องพิเศษ รวมถึงการเลือกที่จะคลอดด้วยวิธีการผ่าท้องโดยไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจำเป็น 

ในกรณีของผู้ประกันตนประกันสังคม ที่แม้จะต้องสำรองจ่ายไปก่อน แต่สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตรที่เบิกได้ก็มีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าเฉลี่ยของบริการขั้นพื้นฐาน

ผลการสำรวจในการวิจัยพบว่า ผู้ประกันตนฯ พอใจกับการเบิกเงินค่าคลอดแบบเหมาจ่าย มากกว่าให้กองทุนประกันสังคมจ่ายตรงให้สถานพยาบาล  โดยการจ่ายให้ผู้ประกันตนนี้ ทำให้ผู้ประกันตนมีสิทธิเลือกสถานพยาบาลได้อย่างเสรี ไม่ถูกจำกัดสถานพยาบาลที่เข้ารับบริการว่าจะต้องเป็นสถานพยาบาลของรัฐเท่านั้น จึงเป็นการสร้างความสะดวกเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ประกันตนที่ทำงานในสถานประกอบการเอกชน ซึ่งมักจะไม่สะดวกเข้าฝากท้องในเวลาราชการ
    แต่การต้องสำรองจ่ายค่าบริการก่อน แล้วจึงนำหลักฐานมาเบิก ทำให้สิทธิส่วนนี้ที่แม้เหมือนจะฟรีแต่ก็ยังไม่ฟรีจริง อีกทั้งจำนวนเงินเหมาจ่าย 15,000 บาทที่ได้รับนั้น ผลสำรวจพบว่าอาจจะไม่เพียงพอสำหรับกรณีผ่าคลอด ยังไม่รวมถึงโรคและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะก่อปัญหากับผู้ประกันตนฯ ที่ตั้งครรภ์โดยไม่มีรายได้หรือเงินเก็บมากพอ
    เพื่อให้ผู้ประกันตนฯ สามารถมีสิทธิคลอดบุตรได้ฟรี และยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ที่มีมูลค่าสูงกว่าบริการขั้นพื้นฐาน และยังคงสามารถเลือกสถานพยาบาลได้อย่างเสรี จึงขอเสนอแนวทางการดำเนินการ 3 ประการ คือ 
1.ยกเลิกระบบสำรองจ่าย และหันมาใช้ระบบจ่ายออนไลน์แทน ซึ่งประกันสังคมประสบความสำเร็จแล้วในกรณีการจ่ายค่าทันตกรรมผ่านระบบ SSO Connect โดยสามารถกำหนดวงเงินให้แก่ผู้ประกันตนฯ ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 28 ของการตั้งครรภ์ แม้เกิดการแท้งบุตร หลังสัปดาห์ที่ 28 สิทธิประโยชน์ส่วนนี้ก็เป็นสิทธิที่ประกันสังคมกำหนดให้เบิกได้อยู่แล้ว
2.ทำให้สิทธิการรักษาโรคขณะตั้งครรภ์ และการรักษาภาวะแทรกซ้อน เป็นสิทธิรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลคู่สัญญาต้องดูแลผู้ประกันตนฯ หากสามารถทำได้ ด้วยระบบการย้ายสถานพยาบาลในปัจจุบัน ผู้ประกันตนฯ จะมีทางเลือกที่จะรับบริการในสถานพยาบาลที่ตนไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้


3.เพิ่มวงเงินให้เพียงพอในกรณีที่ผู้ประกันตนฯ ต้องผ่าคลอดเนื่องจาก “มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์” ซึ่งผลการวิเคราะห์ทางการเงินพบว่าอยู่ในขอบข่ายที่น่าจะสามารถทำได้ ทั้งนี้ อาจต้องพิจารณาปัจจัยการเงินอื่น ๆ ประกอบ โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่ประกันสังคมประกาศปรับลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนจนส่งผลต่อรายได้กองทุนเป็นอย่างมาก
    โดยภาพรวม แม้การคุ้มครองกรณีฝากท้องและคลอดบุตรของระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทั้ง 3 ระบบหลักจะยังมีข้อจำกัดต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป แต่ก็เป็นที่น่าชื่นชมว่าทั้ง 3 ระบบได้มีการพัฒนาประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายขอบเขตสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ไปพร้อมกับการพัฒนาระบบเบิกจ่ายต่าง ๆ จะเป็นการพัฒนาอีกก้าวสำคัญและหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จ ก็จะทำให้เป้าหมาย “คนไทยฝากท้องคลอดลูกฟรี” กลายเป็นจริงได้เสียที. 

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้