เห้อออ สอบภาษาอังกฤษทีไรก็ได้คะแนนรั้งท้ายเพื่อนตลอด
งานนี้บอกได้คำเดียวว่า #วัยรุ่งเซ็ง (▰˘︹˘▰)
ไหนๆ มีใครที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษหรือสปีคอิงลิชได้แบบงูๆ ปลาๆ บ้างคะ แสดงตัวหน่อยเร็ว… อ๊ะๆ ไม่ต้องรู้สึกอายกันไปนะ เชื่อเถอะค่ะว่าไม่ได้มีแค่ซิสคนเดียวที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษแน่นอน ก็แหม สำหรับบางคนแล้วภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่สองหรือที่สามเลยทำให้อาจจะยังไม่คุ้นชิน แบบนี้เลยต้องค่อยๆ เรียนรู้และฝึกฝนกันไป
แต่!!! มีใครเป็นเหมือนกันบ้างรึเปล่า ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษกับคนแปลกหน้า จะให้ไปเข้าคอร์สลงเรียนภาษาก็ไม่มีเวลาซะที ถ้าสาว SistaCafe คนไหนที่กำลังรู้สึกแบบนี้ เราก็มี เทคนิค 'เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง' ให้เป๊ะเวอร์แบบง่ายๆ ไม่ต้องง้อติวเตอร์ มาฝากกัน รับรองได้เลยว่าคราวนี้ต้องเก่งอิ๊งขึ้นแน่ๆ เลยล่ะ
เคยได้ยินรึเปล่าคะที่เค้าชอบพูดกันว่า ‘กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว’... เราขอบอกเลยว่า สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกฝนภาษาอังกฤษ ก็ต้อง เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกับตัวเองว่าไม่มีใครเรียนแล้วจะเก่งได้ภายในวันเดียว หรอกนะคะแบบนี้เราเลยอยากให้สาวซิส เริ่มต้นเรียนรู้ไปแบบช้าๆ ทีละขั้นถึงแม้ว่าเพื่อนเค้าจะพูดภาษาอังกฤษได้แบบคล่องปรื๋อนำเราไปแล้ว ก็ อย่าเพิ่งกดดันตัวเองจนทำให้รู้สึกเกลียดหรือกลัวการเรียนภาษาอังกฤษไปซะก่อนล่ะ
เพราะฉะนั้น สำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ เราก็ขอแนะนำให้สาวๆ คิดว่าซะตัวเองเป็นเบบี๋ตัวน้อย แล้วเริ่มเรียนกันตั้งแต่ขั้นเบสิคไปเลย โดยอาจเริ่มจากการอ่านนิทานสำหรับเด็กหรือดูการ์ตูน เพื่อให้เราได้เรียนรู้คำศัพท์ง่ายๆ แล้วค่อยๆ พัฒนาต่อไปเรียนรู้อะไรที่ยากขึ้น
ถึงแม้ว่าซิสจะไม่ได้เค้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษเหมือนคนอื่นเค้า แต่ก็ สามารถเรียนรู้และฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบง่ายๆ จากสิ่งของรอบๆ ตัวได้เหมือนกันนะ อ่ะ! ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล ก็สังเกตดูสิคะว่า เวลาเราเดินออกจากบ้านไปก็มองเห็นป้ายบอกทาง เดินเข้าห้างหรือขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้ยินเสียงประกาศตามลำโพง ซึ่งพ้อยท์สำคัญมันอยู่ที่ การใส่ใจในสิ่งต่างๆ เหล่านั้นแล้วเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ฟัง เท่านี้ก็ช่วยพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษของซิสได้แล้วล่ะ
แล้วถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนลืมง่าย ชอบเกิดอาการสมองว่างเปล่าบ่อยๆ ก็ อย่าลืมจดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ได้เห็นหรือได้ยินลงในสมุดเล่มเล็กๆ เพื่อเป็นการกันลืม และอย่าลืมหยิบมาทบทวนก่อนนอนด้วยล่ะ
อุ๊ยยย! วันนี้ว่างจังไม่รู้จะทำอะไรดี แบบนี้ต้องเข้าเน็ตไปดูหนังหรือฟังเพลงใช้วันว่างแบบชิลล์ๆ ซะหน่อยแล้ว… สาวคนไหนที่ชอบดูหนัง ฟังเพลง เสพความบันเทิงเป็นชีวิตจิตใจ เราขอบอกเลยว่าถ้าซิสไม่ได้แค่ดูหรือฟังแบบผ่านๆ ให้มันจบไป ก็สามารถ ใช้ความบันเทิงเหล่านี้ฝึกฝนให้เก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้ เหมือนกัน
ก็ถ้า สาวคนไหนที่ชอบดูหนังบ่อยๆ ก็ลองเปลี่ยนจากที่เคยดูแต่แบบพากย์ไทย มาเป็นหนังซาวด์แทรคแบบขึ้นซับไทยให้ได้อ่าน พอดูบ่อยๆ จนเริ่มชินกับสำเนียงและคำศัพท์แล้ว คราวนี้ต่อให้ไม่มีซับให้อ่านก็ดูหนังรู้เรื่องได้แล้วล่ะ ส่วนใครที่ชอบฟังเพลงสากล ก็อย่ามัวแต่ฟังแบบอินเกินเบอร์ไปซะล่ะ ลองเสิร์ชค้นหาความหมายของเนื้อเพลงและคำศัพท์ ก็ช่วยอัพสกิลภาษาได้แบบเพลินสุดๆ ไปเลย
ใครที่ชอบเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่ค่อยได้ออกไปไหน ก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนภาษาอังกฤษได้เหมือนกันนะ โดยเราขอแนะนำให้คุณสาวๆ หาคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับของใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น โต๊ะ พัดลม เครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่ของใช้ส่วนตัวอย่างพวกเมคอัพ
พอหาคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้แล้วก็ให้คุณสาวๆ จดคำศัพท์ใส่โพสอิททีละแผ่นแล้วนำไปแปะไว้ตามสิ่งของชิ้นนั้น แบบนี้เวลาเราเดินผ่านหรือหยิบของขึ้นมาก็จะเห็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวตลอดเวลา วิธีนี้ก็จะได้ ช่วยทำให้เราจดจำได้ดีขึ้นและรู้สึกคุ้นเคยกับคำศัพท์นั้นๆ มากขึ้นกว่าเดิม ได้แล้ว
ซิสคะ! เราขอย้ำแรงๆ ตรงนี้เลยนะว่า ต่อให้สาวซิสจะท่องคำศัพท์ได้เยอะหรือแกรมม่าเป๊ะขนาดไหน แต่ถ้าไม่เคยได้ลองใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงสักที งานนี้ก็เท่ากับว่ายังเก่งแบบไม่สุดนะเออ ก็เพราะว่า หัวใจสำคัญของการเรียนภาษาน่ะมันอยู่ที่การได้สื่อสารออกมาจริงๆ ยังไงล่ะคะ
แบบนี้ ถ้าคุณสาวๆ ฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองจนรู้สึกมั่นใจ คิดว่าชั้นคนนี้ก็เก่งในระดับนึงแล้วเหมือนกันนะ คราวนี้ก็ได้เวลาไปลองวิชาด้วยการ ออกไปเจอชาวต่างชาติ
พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อที่จะได้รู้ว่าเราเก่งตรงไหน หรือมีอะไรที่เรายังไม่รู้และต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีกรึเปล่า
แล้วนำฟีดแบคเหล่านั้นกลับมาพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้นอีกขั้น
+ + + + + + + + + + + + + + + + +
ทีนี้เชื่อรึยังล่ะคะ!? ว่าการที่เราจะเก่งภาษาอังกฤษได้น่ะไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ แถมยังไม่จำเป็นจะต้องเข้าคอร์สจ่ายเงินแพงๆ เพื่อไปติวตามติวเตอร์อีกต่างหาก เพียงแค่คุณสาวๆ ต้องมีความพยายาม ขยันเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอ และที่สำคัญต้องไม่กลัวที่จะนำภาษาอังกฤษไปใช้งานสื่อสารจริง ถ้าสาวคนไหนทำได้ทั้งหมดนี้ ก็แสดงว่าประสบความสำเร็จในการ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง แล้วล่ะค่ะ เย้ๆๆๆ