วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ได้รับมอบหมายจาก นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นประธานในการมอบนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัด สพฐ. ปีการศึกษา 2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตทั่วประเทศ หรือรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ผู้รับผิดชอบงานรับนักเรียน เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังนโยบายและแนวปฏิบัติในการรับนักเรียนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งถ่ายทอดสดไปยังสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศได้รับชมพร้อมกัน
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก เลขาธิการ กพฐ. ให้มาสื่อสารกับทุกท่าน เพื่อให้การดำเนินงานรับนักเรียน สังกัด สพฐ. ในปีการศึกษา 2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล โดยยึดหลักนักเรียนทุกคนต้องมีที่เรียน สำหรับนโยบายและแนวปฏิบัติในปีนี้ สาระสำคัญส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปตามนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนฯ ปีการศึกษา 2564 โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1) องค์ประกอบของคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ที่ต้องได้รับความเห็นชอบและแต่งตั้งโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด กำหนดไว้ไม่เกิน 9 คนเช่นเดิม แต่ในปีการศึกษา 2565 นี้ ให้มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานรับนักเรียนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็น “ผู้ช่วยเลขานุการ” เพื่อช่วยดำเนินการรับนักเรียนภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาด้วย และ 2) บทบาทของคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้ปรับจากเดิม 1 ข้อ คือ เดิมที่กำหนดให้มีบทบาทในการ “ให้ความเห็นชอบเขตพื้นที่บริการ…ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา” เปลี่ยนแปลงเป็น “กลั่นกรอง ตรวจสอบ เขตพื้นที่บริการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา”
ในการกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้อง สำหรับชั้นก่อนประถมศึกษา (อนุบาล) กำหนดห้องละไม่เกิน 30 คน และประถมศึกษาปีที่ 1 กำหนดห้องละไม่เกิน 40 คน โดยไม่อนุญาตให้เพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้อง และจะไม่มีการสอบวัดความสามารถทางวิชาการ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กำหนดไว้ห้องละไม่เกิน 40 คน กรณีที่จำเป็นให้เพิ่มได้อีกห้องละไม่เกิน 2 คน ตามที่ได้ประกาศฯ ไว้แล้ว เมื่อปีการศึกษา 2564 โดยไม่นำคะแนน O-NET มาใช้ในการรับนักเรียน ทั้งนี้ สพฐ. ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแจ้งให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ร่วมดำเนินการกับเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการตามบทบาทและอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วยแล้ว ส่วนกรณีที่มีปัญหาเรื่องการรับนักเรียน ในปีการศึกษา 2565 สามารถเสนอมายังคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อพิจารณาและมีอำนาจในการตัดสินปัญหาให้ได้ข้อยุติ แล้วจึงรายงานให้ สพฐ. และ กศจ. รับทราบต่อไป
สำหรับปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2565 เนื่องจากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทศ.) ได้กำหนดวันสอบ O-NET ปีการศึกษา 2564 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวมทั้งสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้กำหนดวันสอบ GAT/PAT และวิชาสามัญ ปีการศึกษา 2565 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไว้ดังนี้
– กำหนดวันสอบ O-NET ปีการศึกษา 2564
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สอบวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สอบวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สอบวันที่ 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2565
– กำหนดวันสอบ GAT/PAT ปีการศึกษา 2565
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สอบวันที่ 12 – 15 มีนาคม 2565
– กำหนดวันสอบ วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2565
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สอบวันที่ 19 – 20 มีนาคม 2565
จึงเปลี่ยนแปลงปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2565 เฉพาะในส่วนของนักเรียนความสามารถพิเศษ และในส่วนของโรงเรียนที่จัดห้องเรียนพิเศษ เพื่อให้โรงเรียนสามารถเป็นสถานที่จัดสอบรายการต่าง ๆ ข้างต้นได้ และขอให้โรงเรียนให้ความร่วมมือกับ สทศ. และ ทปอ. ในการเป็นสถานที่จัดสอบตามรายการและวันดังกล่าว โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการของ ศบค. และตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อของแต่ละจังหวัดกำหนด ทั้งนี้ ในการดำเนินการรับนักเรียน ขอให้แต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ติดตามประกาศของ ศบค. และประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ของแต่ละพื้นที่ตลอดเวลา โดย สพฐ. จะมีหนังสือแจ้งให้ดำเนินการตามมาตรการเป็นระยะ หากมีการเปลี่ยนแปลง ดังเช่นในปีที่ผ่านมา
“ขอให้ผู้อำนวยเขตพื้นที่ฯ ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้รับผิดชอบงานรับนักเรียน ยึดหลักการสำคัญคือนักเรียนทุกคนต้องได้เรียน ต้องมีที่เรียนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เพราะนี่คือหน้าที่ของเราในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยการรับนักเรียนต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมาภิบาล พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนได้ประสานความร่วมมือกัน และสื่อสารทำความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้การรับนักเรียนในปีการศึกษา 2565 นี้ สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นปลอดภัยครับ” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว