แรง จูงใจ กับ การ ตั้งเป้าหมาย ใน ชีวิต

เหตุผลที่เราทุกคนต้องทำงานนั้นไม่ใช่เพียงแค่รายได้เพื่อนำมาเลี้ยงชีพอย่างเดียว แต่การทำงานยังหมายถึงเรื่องของความก้าวหน้า ความมั่นคงในหน้าที่การงาน ในระหว่างการทำงานนั้นอาจจะก่อให้เกิดความท้อ ความเหนื่อยล้า และอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามา 

การตั้งเป้าหมายของตัวเอง

การทำงานที่ปราศจากจุดหมายก็เปรียบเสมือนทำงานไปวัน ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าทำงานไปเพื่ออะไร ส่งผลให้คุณภาพของการทำงานต่ำ แต่หากมีการตั้งจุดหมายเรื่องการทำงานเอาไว้ จะทำให้คุณมีหลักในการดำเนินการต่อไปอย่างมีจุดหมายที่เข้มข้นขึ้น เช่น การตั้งจุดหมายของการทำงานในองค์กรหนึ่งในระยะเวลา 5 ปี ว่าเราจะสามารถทำอะไรเพื่อให้องค์กรนี้ได้บ้าง ภายใน 2 ปี เราจะสามารถก้าวเป็นผู้ชำนาญในงานที่ทำอยู่ และภายใน 5 ปี จะได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น หากมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้เช่นนี้ในการทำงานของเราก็จะไม่น่าเบื่อหน่ายอีกต่อไป อีทั้งยังเป็นการเพิ่มแรงกระตุ้นให้มีความใส่ใจในการทำงานมากขึ้นเพื่อได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตนเองได้ตั้งเอาไว้

วางแผนสู่ความสำเร็จ

หลังจากที่มีเป้าหมายแล้ว สิ่งต่อมาคือการวางแผนสู่ความสำเร็จว่า เป้าหมายที่เราจะไปให้ถึงนั้นมีวิธีการใดบ้าง ตัวอย่างเช่น หากคุณประกอบอาชีพเป็นเป็นนักขาย ดังนั้นยอดขายคือสิ่งที่สะท้อนความสำเร็จของคุณ ยอดขายที่สูงสะท้อนความตั้งใจการทำงานสูง คุณจึงต้องการวางแผนและตั้งเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือนและแต่ละปีว่าคุณจะต้องทำยอดขายได้มากขนาดไหนเพื่อให้เกิดการพัฒนาและก้าวสู่ความสำเร็จให้ได้

การพัฒนาตนเอง

เป็นอีกก้าวหนึ่งของการสร้างแรงจูงใจ เพราะหากคุณมีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้งการอบรมเพิ่มเติม การอ่านหนังสือเพิ่มเติมหรือการพูดคุยเพื่อขอความรู้จากผู้มีประสบการณ์ ผลที่ได้ก็จะเกิดขึ้นกับตัวคุณ คุณสามารถสร้างงานที่ดีมีคุณภาพให้กับองค์กรและความรู้เหล่านั้นทำให้ตัวคุณเองนั้นจะเป็นผู้ที่มีความรู้ในงานที่ทำมากขึ้น เพิ่มความน่าเชื่อถือและเป็นการสร้างศักยภาพให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี

การคิดบวกเป็นการสร้างแรงผลักดันที่ดีในการทำงาน

เพราะเมื่องานมีปัญหาหรือหากคุณกำลังมีปัญหากับงานที่ทำ หากคุณเป็นคนคิดบวกเรื่องเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กและหนำซ้ำปัญหาเหล่านั้นยังเป็นเรื่องที่ช่วยให้คุณได้พัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีได้อีก ตัวอย่างเช่น กรณีที่งานที่คุณส่งงานให้ลูกค้าแล้วเกิดปัญหาขึ้นมา หากคุณมีความคิดแง่ลบ คุณจะเกิดความเครียด เมื่อมีความเครียดก็จะไม่สามารถแก้ไขงานชิ้นนั้นให้ดีขึ้นมาได้ แต่หากคุณเปลี่ยนไปคิดอีกมุมหนึ่งจะเข้าใจว่า การที่งานมีปัญหานั้นเกิดจากความผิดพลาดในส่วนใดส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงาน ซึ่งมันจะทำให้คุณมองเห็นปัญหาและนำมาแก้ไข ปรับปรุงเพื่อให้มีการพัฒนาและแก้ไข

แบ่งขอบเขตระหว่างเรื่องงานกับเรื่องสำคัญอื่น ๆ

ในการทำงานนั้นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความท้อแท้หรือสิ้นหวังนั่นคือการที่ไม่รู้จักการแยกแยะ การแบ่งเวลา ทำให้ต้องรับภาระ แบกรับงานหลาย ๆ อย่างเอาไว้เพียงคนเดียว ซึ่งการทำงานดังกล่าวจะทำให้คุณรู้สึกไม่ดีและทำให้ไม่มีเวลาในการทำงานอื่น ๆ ดังนั้นควรแยกแยะแบ่งงานออกเป็นสัดส่วนให้ดี เพื่อไม่ต้องเจอกับปัญหางานล้น ทำงานไม่ทันส่งตามกำหนด

รู้จักรับมือกับความผิดหวัง

เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม หากคุณมีการตั้งรับที่ดี ไม่คาดหวังกับสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกเครียดและเกิดความท้อ เช่น เมื่อคุณทุ่มเทไปกับงานชิ้นหนึ่งอย่างสุดความสามารถ แต่ผลตอบรับที่ได้นั้นไม่ดี คุณก็ต้องยอมรับในจุดนั้นเพราะอาจจะเกิดจากความผิดพลาดที่ตัวคุณเองไม่เคยทราบมาก่อนหรืออาจจะมีคนที่สามารถทำงานชิ้นนี้ออกมาได้ดีกว่า ดังนั้นจงเปลี่ยนความผิดหวังนั้นเป็นพลังในการก้าวเดินต่อไป

สร้างความเป็นมืออาชีพให้กับตัวเอง

เป็นการแสดงความสามารถให้ทั้งนายจ้างและลูกค้าได้เห็นถึงความสามารถในการทำงานของคุณว่ามีประสิทธิภาพขนาดไหน ซึ่งการเป็นมืออาชีพนั้นสามารถสร้างความเป็นมืออาชีพได้หลายทาง ทั้งจากประสบการณ์ การใช้ความรู้เพื่อพัฒนางาน การมีมุมมองที่กว้างไกล การควบคุมสติอารมณ์ในการทำงาน การสื่อสารกับผู้ร่วมงานด้วยความจริงใจและสุภาพอ่อนโยน การวางตัวให้มีความน่าเชื่อถือ ไม่เอาเรื่องส่วนตัวไปปะปนกับเรื่องงาน ซึ่งเมื่อคุณมีความเป็นมืออาชีพก็จะเกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้คุณสามารถทำงานนั้นได้ราบรื่นและไม่รู้สึกสะดุดกับงาน

การให้รางวัลกับตัวเอง

ซึ่งเป็นรางวัลชีวิตที่คุณสามารถทำให้กับตัวคุณเองได้ คือ เมื่อคุณทำงานได้ดีก็ย่อมต้องมีการให้รางวัลกับตัวเองบ้างเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทำงานต่อไปได้ เช่น การไปพักผ่อนสักสองวัน การรับประทานอาหารดี ๆ สักมื้อ เป็นต้น เพราะหากเราทำแต่งานพียงอย่างเดียวโดยไม่รู้จักให้รางวัลตัวตนเองเลย จะก่อให้เกิดความเครียดจากการงานได้มาก เนื่องจากสมองไม่ได้ถูกคลายเครียดกับช่วงเวลาที่มีความสุขเลย การพักผ่อนและการท่องเที่ยวสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานหนัก ช่วยเติมพลังชีวิตให้ก้าวต่อไปของการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองนั้นสามารถทำได้ง่ายเมื่อเริ่มรู้สึกท้อกับการทำงาน เพียงแค่นึกถึงหลัการสร้างแรงจูงใจเหล่านี้ และค่อย ๆ ทำตามทีละก้าว ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนความสามารถของคุณที่มีออกมาสู้ต่อและก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ หากคุณยังมีจุดหมายที่ชัดเจน ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล คุณสามารถทำมันเพื่อให้มีอนาคตที่ดีได้

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้