�ô��ҹ����ԡҡ��ʴ��������
1. ��ͤ����ͧ��ҹ�Т���ʴ����ѵ��ѵԷѹ�շ�����Ѻ������
2. �����ʵ� ��ͤ�������������Դ�����ع�ç�ҧ�ѧ�� ��ͤ������������Դ�����������������������µ�ͺؤ�ŷ�����, �������Ѿ��,
�ٻ�Ҿ�������������������Ǫ������Ҿ����Ҩ�� ���͡�з��֧ʶҺѹ�ѹ�繷����þ ��������駡�з���Ѻ�Դ�ͺ����ͧ
����Ѻ�Դ�ͺ����ѧ�� ����ٻ�Ҿ ���͢�ͤ�����觼š�з���ͺؤ����� ����ҹ�����������������´������˹�ҷ��
���͵���Ѻ��Ǽ���зӼԴ����
3. ��Ҫԡ����ʵ��������ҹ�� �Ҩ�١���Թ��շҧ�����¨ҡ������������
4. ���حҵ����ա���ɳ��Թ���� � ������ ��駷ҧ�ç��зҧ����
5. �ء�����Դ����繢�ͤ������ҧ����������������������駡�з������䫵� �ҧ���䫵� kroobannok.com �������ǹ����Ǣ�ͧ�� ������
6. �ҧ����ҹ��ʧǹ�Է���㹡��ź��з����������������ѹ�� ������ͧ�ա�ê��ᨧ�˵ؼ��� �����Ңͧ������繹�鹷�����
7. �ҡ������ٻ�Ҿ ���͢�ͤ���������������� ��س����ҷ�������� kornkham@hotmail.com ���ͷӡ��ź�͡�ҡ�к�����
** ����Ҫ�ѭ�ѵ���Ҵ��¡�á�зӼԴ����ǡѺ���������� �.�.����**
������㹤�������дǡ ���ͧ�ҡ��һ��ʺ�ѭ���ռ���ʵ��ͤ����������������������������繨ӹǹ�ҡ
��ٺ�ҹ�͡�ͷ����֧�ͤ������������Ҫԡ
��س��������к����ʴ�������繤�Ѻ��Ѥ���Ҫԡ����
การบริหารการจัดการเรียนรู้
1.ความหมายและความสำคัญและองค์ประกอบของการบริหารการจัดการเรียนรู้
1.1.ความหมายของการบริหารการจัดการเรียนรู้
การบริหารการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยคำสำคัญคือ คำว่า การเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้และการบริหาร เมื่อนำคำสำคัญทั้ง 3 คำว่า รวมกันเป็นคำเดียว คือ การบริหารการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การกระทำโดยการดำเนินงานอย่างเป็นระบบของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อให้การจัดการเรียนรู้ของครูบรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้เรียนเกิดพฤติกรรมการเรียนรู้และเกิด ผลลัพธ์ทางการเรียนตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการจัดการศึกษา (ประเวศ เวชชะ,2561:635 )
1.2 ความสำคัญของการบริหารการจัดการเรียนรู้
ความสำคัญของการบริหารการจัดการเรียนรู้ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของครู (ประเวศ เวชชะ,2561:636)
1.ทำให้การจัดการเรียนรู้ของครูในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีระบบ มีมาตรฐาน และมีขั้นตอนการดำเนินการแบบเดียวกัน
2.ทำให้คนสามารถใช้ทรัพยากรในการจัดเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน
3.ทำให้คนในแต่ละกลุ่มสาระกลุ่มสาระการเรียนรู้สามารถผนึกกำลังใจการสร้างความร่วมมือร่วมแบ่งปันองค์ประกอบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ระหว่างกันและกันได้
4.ทำให้สถานศึกษามีระยะเวลาและงบประมาณในการจัดการเรียนรู้สามารถใช้ประโยชน์จากกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ ใช้ทรัพยากรอื่นร่วมกันได้
1.3 องค์ประกอบของการบริหารการจัดการเรียนรู้
1)องค์ประกอบการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้ มีหลายองค์ประกอบขึ้นอยู่กับแนวคิดทฤษฎีที่นำมาประยุกต์ใช้เป็นมุมมองหรือใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาที่สำคัญ ดังนี้
1. มุมมองจากทฤษฎีระบบ ที่จำแนกออกเป็น 3 ส่วน คือ
1.1ตัวป้อน ได้แก่ครู ผู้เรียน หลักสูตร สิ่งอำนวยความสะอดวก สื่อ กิจกรรม และวัสดุอุปกรณ์
1.2.กระบวนการ คือ การทำกิจกรรมต่างๆ ตามระดับขั้นตอนของผู้เรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามเป้าหมาย
1.3.ผลผลิต ได้แก่ผลการเรียนรู้เกิดขึ้นกับผู้เรียนทั้งที่เป็นความรู้ทักษะค่านิยมและคุณลักษณะอื่น ๆ
2.มุมมองทฤษฎีการสอน การจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือผู้เรียน บรรยากาศในชั้นเรียน
การปฎิสัมพันธ์ในชั้นเรียน
3.มุมมองด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ ของ Cronboch (มาลินี จุฑะรพ.2530:70-71;อ้างถึงใน ประเวศ เวชชะ,2561:638) กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ต้องคำนึงถึงธรรมชาติของการเรียนรู้ ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 7 ประกอบ คือ
1)จุดประสงค์ในการเรียนรู้
2)ความพร้อมของผู้เรียน
3)สถานการณ์ในการเรียน เช่น บรรยากาศในชั้นเรียน สิ่งแวดล้อมในห้องเรียน เปาต้น
4)การแปลความหมายเพื่อนำสิ่งที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
5)ผลการตอบสนองต่อสถานการณ์หรือกิจกรรมการเรียน
6) ผลต่อเนื่องเช่น ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงพติกรรมตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เป็นต้น
7)ปฏิกิริยาขัดขวางซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเรี ยน หรือทำให้การเรียนบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์
4.มุมมองของหน่วยงานที่รับผิดชอบ กระทรวงศึกษาธิการ,2544:27อ้างถึงใน ประเวศ เวชชะ.2561:638-639) กล่าวว่าองค์ประกอบสำคัญของการจัดการเรียนรู้ให้บรรลุผลสำเร็จสูงสุด 5 ประการ คือ 1)คุณลักษณะของครู 2)การจัดกระบวนการเรียนการสอน 3)การจัดสภาพแวดล้อมในชั้นเรียน 4)การจัดสภาพแวดล้อมนอกชั้นเรียน 5) ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้ปกครองและชุมชน
2)องค์ประกอบของการบริหารการจัดการเรียนรู้
สามารถจำแนกได้หลายลักษณะโดยพิจารณาโดยใช้แนวคิดการบริหารแบบ “POLC”ของ Drucker เป็นองค์ประกอบของการจัดการเรียนรู้ซึ่งเป็นงานหรือกระบวนการบริหารที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ มีอยู่ 4 ประการ คือ
1)การวางแผน (Planning) ประกอบด้วย การกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ และวิธีในการจัดการเรียนรู้โดยคำนึกถึงธรรมชาติของผู้เรียน ธรรมชาติของเนื้อชาติ และเป้าหมายของหลักสูตร และแผนพัฒนาการศึกษาทุกระดับ
2) การจัดองค์การ (organizing) ประกอบด้วย การจัดแบ่งสายงานและการจัดครูเข้าสอน และการจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆให้เหมาะสมและสอดคล้องกับงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การเรียนการรู้สามารถดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนงานของโรงเรียน
3)การชี้นำ(reading)ซึ่งจำแนกว่าเป็นองค์ประกอบย่อยได้อีก 2 ส่วน คือภาวะผู้นำ (leadership)และการจูงใจ(motition) โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องสามารถชี้นำ และกระตุ้นจูงใจ
ให้ครูตั้งใจและทุ่มเทให้งานการจัดการเรียนรู้อย่างเต็มความสามารถ
4)การควบคุมกำกับ( Conlrolling) เป็นการควบคุมกำกับการดำเนินงานการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปตามแผนงาน ความคาดหวังหรือมาตรฐานการศึกษาที่กำหนดไว้
2.หลักการและขอบข่ายในการบริหารการจัดการเรียนรู้
2.1หลักการบริหารการจัดการเรียนรู้
หลักการบริหารการจัดการเรียนรู้มีอยู่ 3 ประการ คือ
ประการที่ หนึ่ง การบริหารการจัดการเรียนรู้ต้องยึดหลักความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างหลักการเรียนรู้กับหลักการจัดการเรียนรู้โดยให้ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักจิตวิทยาการเรียนรู้
ประการที่สอง การบริหารการจัดการเรียนรู้ต้องยึดหลักการตามหลักวิชาหลักสูตร เป้าหมายในการศึกษาและอื่น ๆหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าคือ ต้องให้ครูจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับหลักวิชาในกลุ่มสาระที่รับผิดชอบ เป้าหมายของหลักสูตร และเป้าหมายในการจัดการศึกษาที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการศึกษาระดับทุกระดับรวมทั้งนโยบายและทิศทางในการจัดการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ประการที่สาม การบริหารการจัดการเรียนรู้ต้องดำเนินตามกระบวนการหรือขั้นตอนการบริหารโดยนำแนวคิดทฤษฎีทางการบริหารมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมสำหรับขบวนการหรือขั้นตอนในการบริหารการจัดการเรียนรู้ ซึ่งเป็นภารกิจทางการบริหารที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องการดำเนินการจัดการให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพคือ
1)ต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย กลยุทธ์ และมาตราต่าง ๆเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาให้อย่างขัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จได้
2)ต้องมีการเตรียมความพร้อมของครูในด้านความรู้ ทักษะการจัดการเรียนรู้และการแก้ไขปัญหาการจัดการเรียนรู้
3)ต้องมีการวางแผนและเตรียมการจัดการเรียนรู้ในระดับสถานศึกษาและระดับห้องเรียนอย่างเป็นระบบ เช่นการชี้แจงหลักสูตร การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดหาและผลิตสื่อ อุปกรณ์การจัดทำแบบทดสอบ เครื่องมือประเมินผล แบบรายงาน เป็นต้น
4)ต้องมีการกำหนดมาตราการและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับ การจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน สถานการณ์ หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ และอื่นๆ
5)ต้องมีการจัดระบบและการดำเนินการเกี่ยวกับการนิเทศกำกับติดตามและให้ความช่วยเหลือแก่ครูเพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายและมาตราฐานการศึกษา
6)ต้องมีการจัดระบบและการดำเนินการเกี่ยวกับการประเมิน การรายงานและการปรับปรุง การจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยเลือกใช้เครื่องมือและวิธีการประเมินที่เหมาะสม
2.2 ขอบข่ายงานการบริหารการจัดการเรียนรู้
ขอบข่ายงานที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องรับผิดชอบและดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ จำแนกเป็น 3 ลักษณะคือ
1)การส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนของครู
2)การสร้างบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น การจัดโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ ป้ายแสดงผลงาน สิ่งประดับตกแต่ง เป็นต้น
3)การส่งเสริมสนับสนุนการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้
3.ปัจจัยความสำเร็จในการบริหารการจัดการเรียนรู้
3.1ปัจจัยด้านการเรียนรู้
ปัจจัยด้านการเรียนรู้จำแนกเป็น 2 ลักษณะคือ ปัจจัยด้ายการเรียนรู้และปัจจัยด้านการบริหารการจัดการเรียนรู้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
3.1 ปัจจัยด้านการเรียนรู้
จำแนกเป็นปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ปัจจัยเกี่ยวกับบทเรียน ปัจจัยเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนการสอน และปัจจัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีอิทธิผลต่อความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ คือ
1) ปัจจัยเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ประกอบด้วย วุฒิภาวะในความพร้อมและความสนใจในการเรียน มีประสบการณ์เดิมในสิ่งที่เรียนมาก่อน มีแรงจูงใจ สติปัญญาสูง มีอารมณ์ที่ปกติ มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นต้น
2)ปัจจัยเกี่ยวกับบทเรียน ประกอบด้วย ความยากง่ายของบทเรียน ความยาวของบทเรียน และการมีความหมายของบทเรียนเป็นต้น
3)ปัจจัยเกี่ยวกับวิธีการการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การใช้สิ่งจูงใจ การแนะแนวในการเรียน การส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการถ่ายโอนความรู้ และการกำหนดช่วงเวลาในการเรียน การฝึกฝนและทำซ้ำซ้ำอยู่เสมอเพื่อให้เกิดความจำอย่างยาวนานมากขึ้น
4)ปัจจัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางการเรียน ประกอบด้วย การปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้เรียน การจัดสถานแวดล้อมในห้องเรียนให้เหมาะสม เป็นต้น
3.2 ปัจจัยด้านการบริหารการจัดการเรียนรู้
การบริหารการจัดการเรียนรู้เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผูบริหารสถานศึกษาด้วยดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จนั้น ต้องมีปัจจัยความสำเร็จ ดังนี้
1)ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการเรียนรู้ กล่าวคือต้องกำหนดวิสัยทัศน์การจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาและชี้แจงให้บุคลากรเข้าใจเพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องจนบรรลุผลสำเร็จ กำหนดเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ให้ชัดเจน กำหนดพันธกิจในการดำเนินงาน กำหนดแนวทางในการนำกลยุทธ์มาใช้ในการบริหารจัดการเรียยนรู้ กำกับดูแลการดำเนินงานของให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ และประเมิน ปรับปรุงวิสัยทัศน์ ตามกรอบเวลาที่กำหนด
2)ปัจจัยด้านภาวะผู้นำ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนรู้ของครูสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียน คือ ภาวะผู้นำทางการสอน กล่าวคือผู้บริหารสถานศึกษาที่ดีต้องมีภาวะผู้นำทางการสอนสูงจะสามารถบริหารจัดการเรียนรู้ให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูจะยอมรับ เชื่อถือ และศรัทธา ตลอดจนมีความร่วมือปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย ในการจัดการเรียนรู้จนบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายของโรงเรียน
3)ปัจจัยเกี่ยวกับทักษะและกระบวนการในการบริหาร โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถ หรือมีสมรรถนะในการบริหารโรงเรียนและการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นอย่างดีทั้งในด้านทักษะและด้านกระบวนการบริหาร
กระบวนการบริหารการจัดการความรู้และจัดการชั้นเรียน
1.รูปแบบ กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้และกระบวนการบริหารการจัดการเรียนรู้
1.1รูปแบบและกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้
1)รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เป็นแบบแผนในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลสำเร็จรูปสูงสุด ซึ่งใช้เทคนิค วิธีการ ขั้นตอน กระบวนการในการจัดการเรียนการสอนที่ออกแบบให้สัมพันธ์กับแนวคิดทฤษฎีทางการศึกษา โดยพิจารณาและยึดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์เป็นหลัก จำแนกได้ 3 กลุ่มคือ
1.1)รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิด มีวิธีการจัดการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่นการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหา การเรียนรู้แบบฉลาดรู้ การเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาคุณภาพความคิด การเรียนรู้แบบสรรค์สร้างความรู้ เป็นต้น
1.2)รูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการมีส่วนร่วม มีวิธีการจัดการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม การเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นต้น
1.3)รูปแบบการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาพฤติกรรมและค่านิยม มีวิธีการจัดการเรียนรู้ต่าง ๆเช่นการเรียนรู้จาดสถานการณ์จำลอง การเรียนรู้โดยการทำค่านิยมให้กระจ่าง การปรับพฤติกรรม เป็นต้น
2) กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้ เสรีภาพหรือแบบแผนการจัดการเรียนรู้สึกกำหนดขึ้นอย่างรอบคอบและสามารถเรียกหรือจะเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และเกิดผลลัพธ์ทางการเรียนตามเป้าหมาย
กลยุทธ์การเรียนรู้ จำแนกได้เป็น 4 ลักษณะคือ
2.1)กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้แบบทางตรง เป็นกลยุทธ์ที่เน้นบทบาทของครู ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยการรับฟังข้อมูลหรือเนื้อหาสาระจากครู เช่น การฟังบรรยาย การสาธิต การซักถามเป็นต้น
2.2)กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้แบบทางอ้อม เป็นตัวยึดที่เน้นบทบาทของผู้เรียนในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างมีขั้นตอน ครูเป็นอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ เช่นการเรียนแบบสืบสวนสอบสวน การเรียนแบบค้นหา เป็นต้น
2.3) กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้แบบเน้นการปฏิสัมพันธ์ เน้นบทบาทของผู้เรียนในการสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลหรืออภิปราย เช่นการอภิปรายกลุ่ม การระดมความคิดเห็น เป็นต้น
2.4)กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ เน้นบาทของผู้เรียนและกิจกรรมของผู้เรียนที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนต้องวางแผนเพื่อนำสาระการเรียนรู้ไปประยุกต์ในบริบทอื่น ๆ เช่นการศึกษาดูงานนอกสถานที่ สถานการณ์จำลอง เกม บทบาทสมมุติ เป็นต้น
1.2 กระบวนการบริหารการจัดการเรียนรู้
กระบวนการหรือขั้นตอนการบริหารจัดการเรียนรู้ ที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ มีอยู่ 2 ประการ คือ
ประการที่ หนึ่ง ผู้บริหารสถานศึกษาต้องสร้างความตระหนักและส่งเสริมสนับสนุนครูให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบต่าง ๆ อย่างถ่องแท้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง หลากหลาย และเหมาะสมกับธรรมชาติของผู้เรียน
ประการที่สอง ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดำเนินการบริหารการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบโดยนำแนวคิดหรือทฤษฎีทางการบริหารที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้เนื่องจากในขณะนี้ยังไมปรากฎว่ามีแนวคิดหรือทฤษฎีที่ว่าด้วยกระบวนการบริหารการจัดการเรียนโดยเฉพาะ
2.การจัดการชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้
การจัดการชั้นเรียน หมายถึง การจัดกิจกรรมหรือการจะทำทุกอย่างที่คุณจะดำเนินการโดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
สำหรับการจัดการชั้นเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้จำแนกเป็น 3 ข้อดังนี้
2.1 การจัดชั้นเรียนด้านกายภาพ หมายถึง การจัดห้องเรียน สิ่งของและอุปกรณ์ต่าง ๆเช่นโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ สื่อการเรียน เป็นต้น ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
2.2การเสริมสร้างวินัยในชั้นเรียน คือการปลูกฝังและขัดเกลาพฤติกรรมเพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้วิธีการควบคุมตนเองอยู่ในระเบียบวินัยที่ โดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องส่งเสริมสนับสนุนครูในการสร้างวินัยในชั้น
2.3 การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน การเรียนที่มีบรรยากาศที่ดีจะช่วยให้การเรียนรู้เป้นไปอย่างราบรื่นและบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์
3.สมรรถนะที่จำเป็นในการบริหารการจัดการเรียนรู้
การบริหารการจัดการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถหรือมีสมรรถนะการเป็นผู้นำเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ดังนี้
3.1 สมรรถนะในการเป้นผู้นำ หมายถึง คุณลักษณะและขีดความสามารถในการบริหารการจัดการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกเป็น 2 ลักษณะคือ สมรรถนะในการเป็นผู้นำทางวิชาการ (academi leadership) และต้องเป็นผู้นำทางการสอน
3.2สมรรถนะในการเป็นผู้บริหารมืออาชีพ
สำนักงานข้าราชการพลเรือน ได้กำหนดคุณลักษณะและทักษะเฉพาะที่สำคัญของข้าราชการไทยซึ่งประกอบด้วยคุณลักษณะและทักษะ 11 ประการ และสมรรถนะขอกนักบริหารจำแนกเป็น 4 ด้าน ดังนี้
คุณลักษณะและทักษะเฉพาะที่สำคัญของข้าราชการไทย 11 ประการ ได้แก่
1)ที่ทักษะในการใช้ความคิด
2)ทำงานให้บรรลุผลสัมฤทธิ์
3)บริหารทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
4)มีทักษะในการสื่อสาร
5)มีความน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจ
6)มุ่งเน้นให้บริการแบบโปร่งใส
7)มีจริยธรรม
8)มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานและทำงานอย่างมืออาชีพ
9)มีความสามารถในการแก้ปัญหา
10)ทำงานเป็นทีม
11)มีทักษะขั้นพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์
สมรรถนะของนักบริหาร 4 ด้านได้แก่
1) การบริหารคน ได้แก่ ความสามารถในการปรับตัวให้หยึดหยุ่นทักษะใน การศื่อการและการประสานสัมพันธ์
2) ความรู้ในการบริหาร ได้แก่ ความารถในการบริหารการเปลี่ยนแปลง การมีจิตมุ่งบริหารและการวางผผนกลยุทธ์
3) การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ได้แก่ การมีความรับผิดชอบที่ตรวจสอบได้
4) การบริหารอย่างมืออาชีพ ได้แก่ ความสามารถในการตัดสินใจ การคิดเชิงกลยุทธ์และความเป็นผู้นำ
สมรรถนะในการเป็นข้าราชการที่ดีและสมรรถนะของนักบริหารดังที่ สำนักงานข้าราชหารพลเรือนกำหนดไว้นี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการเป็นผู้บริหารมืออาชีพและมีอิทธพลต่อความสำเร็จในการบริหารจัดการเรียนรู้ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะหรือมีสมรรถนะตามที่องค์กรวิชาชีพกำหนดไว้อย่างครบถ้วน
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้
1.บทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครู
ผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทหน้าที่การส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูให้เกิดผลสำเร็จตามเปาหมายขของหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ รวมทั้งนโยบายและกฏหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยสิ่งที่ผู้บริหารสถานศึกษาต้องดำเนินการประกอบด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ การสร้างเสริมและพัฒนาครูให้มีคุณลักษณะที่ดีในการเรียนรู้ รายการพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ ดังมีสาระสำคัญ ซึ่งจะได้กล่าวถึงตามลำดับ ดังนี้
1.1 บทบาทในการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้
วิสัยทัศน์และเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้บริหารสถานศึกษาควรถ่ายทอดและชี้แจงครูทุกคนให้เข้าใจตรงกันคือ จัดการเรียนรู้โดยยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ จัดสาระการเรียนรู้โดยเน้นความสำคัญทั้งความรู้ จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน ฝึกทักษะ กระบวนการคิด จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานความรู้ต่างๆ อย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม พัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสม กับผู้เรียนแต่ละระดับการศึกษา และนำขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของผู้เรียนเพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
1.2 บทบาทในการพัฒนาครูให้มีคุณลักษณะที่ดีในการจัดการเรียนรู้
ผู้บริหารสถานศึกษาต้องส่งเสริมและพัฒนาครูให้เป็นครูที่ดี มีความรับผิดชอบต่อการจัดการเรียนรู้ และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน โดยครูต้องมีความรู้และความเข้าใจในกระบวนการจัดการเรียนรู้ รู้เทคนิคในการสื่อสารกับผู้เรียน อีกทั้งสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีเพื่อผู้เรียนเข้าใจสิ่งทีเรียนได้อย่างรวดเร็ว ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ครูต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทางการเรียนของผู้เรียนด้วย
1.3 บทบาทในการพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ
การที่ครูจะจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูต้องได้รรับการพัฒนาด้านทักษะ ความรู้ ความสามารถและการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องโดยผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการพัฒนาครูให้สามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนครูมืออาชีพ คือ
1)ส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาความเป็นมืออาชีพของคณู เช่นฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านพัฒนาทักษะการสอน เป็นต้น
2)ส่งเสริมและเข้าร่วมกับครูผู้สอนเพื่อสร้างความเป็น ชุมชนแห่งวิชาชีพ
3)ส่งเสริมและกระตุ้นการใช้ปัญญา
4)ให้การสนับสนุนครูเป็นรายบุคคล ผู้บริหารสถานศึกษาต้องเอาใจใส่และให้กำลังใจครูแต่ละคนอย่างใกล้ชิด
2.บทบาทในการพัฒนาสื่อและสิ่งและสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้
2.1บทบาทในการบริหารการใช้และการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ อาจทำได้หลายลักษณะขึ้นอยู่กับประเภทและวัตถุประสงค์ในการใช้และการพัฒนาสื่อการเรียนเป็นสำคัญ
2.2 บทบาทในการบริหารสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้อง วิเคราะห์ความต้องการ วางแผนในการจัดหา จัดระบบการใช้ การบำรุงรักษาของ สิ่งอำนวยความสะดวก และพัฒนาครูผู้เรียน และบุคลากรให้มีความรู้ในใช้ ตลอดจนการกำกับติดตาม ประเมินผลการใช้ ปรับปรุงและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.บทบาทในการส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน
ผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้เรียน ได้แก่ การกำหนดวิสัยทัศน์ในการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษา การพัฒนาครูให้มีคุณลักษณะที่ดีในการจัดการเรียนรู้และการพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ และพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนที่สำคัญได้แก่ กิจกรรมการสร้างเสริมทักษะการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ และกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต