ต่อมน้ำ เหลือง อักเสบ หาหมอ แผนกไหน

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดกับระบบน้ำเหลือง โดยระบบน้ำเหลืองจัดเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ประกอบด้วย หลอดน้ำเหลือง อวัยวะน้ำเหลือง และเนื้อเยื่อน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองนี้จะกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆทั่วร่างกายมีหน้าที่ป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) คือ อะไร ?

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ เนื้องอกร้ายที่เกิดกับระบบน้ำเหลือง โดยระบบน้ำเหลืองจัดเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ประกอบด้วย หลอดน้ำเหลือง อวัยวะน้ำเหลือง และเนื้อเยื่อน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองนี้จะกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆทั่วร่างกายมีหน้าที่ป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

สาเหตุของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ทราบแน่ชัดในปัจจุบัน แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้ เช่น

  • ปัจจัยทางพันธุกรรม
  • การสัมผัสสารเคมีบางอย่าง เช่น ยาฆ่าแมลง สารเคมีปราบศัตรูพืช น้ำยาย้อมผม
  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัส HIV  ไวรัส EBV
  • ภาวะภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ เช่น โรคเอดส์  โรคภูมิแพ้ตนเอง

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองมีอาการอย่างไรได้บ้าง ?

อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมักเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ใช้เวลาระยะหนึ่งจึงแสดงอาการผิดปกติที่ชัดเจน อาการจะขึ้นกับตำแหน่งของต่อมน้ำเหลืองที่ผิดปกติ โดยอาการที่อาจพบได้ เช่น

  • ต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น โดยจะคลำพบก้อนที่บริเวณต่างๆของร่างกาย เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ
  • มีไข้ไม่ทราบสาเหตุ
  • เหงื่อออกมากตอนกลางคืน
  • อ่อนเพลีย
  • อาการคันตามตัว
  • แน่นท้อง ท้องเสียเรื้อรัง
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด

การรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลือง

เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาโดยการให้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง (Monoclonal antibodies) หรือการฉายรังสีรักษา (Radiation therapy ) บริเวณตำแหน่งโรค โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาในผู้ป่วยแต่ละรายตามชนิด ตำแหน่ง ความรุนแรงของโรค และความพร้อมของตัวผู้ป่วยเอง

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis) คือ ภาวะที่ต่อมน้ำเหลืองเกิดการอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากการติดเชื้อของเนื้อเยื่อและ/หรืออวัยวะต่าง ๆ แล้วส่งผลทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียงอักเสบตามมา (เช่น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเนื่องจากฟันผุ) และส่วนน้อยเกิดจากการอักเสบติดเชื้อของต่อมน้ำเหลืองเอง (เช่น วัณโรคต่อมน้ำเหลือง) เกิดจากการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ (เช่น ในโรคออโตอิมมูน) หรืออาจไม่พบสาเหตุการเกิดก็ได้

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเป็นภาวะที่พบได้บ่อยมาก สามารถพบได้ในคนทุกวัยตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ และในเพศชายและเพศหญิงมีโอกาสเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบได้พอ ๆ กัน โดยต่อมน้ำเหลืองอักเสบนี้อาจเกิดขึ้นเพียงต่อมเดียว เกิดขึ้นหลายต่อมพร้อมกัน เกิดขึ้นหลายตำแหน่ง (เช่น ขาหนีบ รักแร้ คอ) หรือเกิดได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุและ/หรือตำแหน่งของเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เกิดการอักเสบว่าเกิดจากอะไรหรือเกิดในตำแหน่งใด

หมายเหตุ : ต่อมน้ำเหลือง (Lymph node) เป็นเนื้อเยื่อในระบบน้ำเหลืองที่มีลักษณะนุ่มเป็นรูปไข่ก้อนเล็ก ๆ (ขนาดเล็กเป็นมิลลิเมตร) และเคลื่อนที่ได้เล็กน้อย โดยจะมีกระจายอยู่ทั่วไปในทุกอวัยวะยกเว้นสมอง มีหน้าที่สำคัญ คือ ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะเชื้อโรค และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรคให้กับร่างกาย ซึ่งในภาวะปกติเรามักจะคลำไม่พบต่อมน้ำเหลือง เพราะต่อมน้ำเหลืองจะอยู่ปนไปกับเนื้อเยื่อไขมันและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าง ๆ

สาเหตุของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. เกิดจากการติดเชื้อของเนื้อเยื่อและ/หรืออวัยวะต่าง ๆ (เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ) แล้วส่งผลทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เคียงอักเสบตามไปด้วย โดยไม่มีการติดเชื้อที่ต่อมน้ำเหลือง เช่น
    • โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย (เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด หัดเยอรมัน) ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่คอทั้งด้านหน้าและด้านหลังคอโต
    • การอักเสบของช่องปากและช่องคอจากเชื้อแบคทีเรีย (เช่น ฟันผุ เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้มอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ) ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคออักเสบ
    • มีการอักเสบหรือแผลที่มือ แขน หน้าอก เต้านม ซึ่งจะส่งผลทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้อักเสบ
    • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการมีแผล การอักเสบของเท้า ขา และอวัยวะเพศ ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบเกิดการอักเสบ
  2. เกิดจากการติดเชื้อของต่อมน้ำเหลืองเอง โดยอาจเกิดจากการที่ต่อมน้ำเหลืองติดเชื้อโดยตรง (การติดเชื้อที่ต่อมน้ำเหลืองโดยตรง มักจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองมีการอักเสบโตหลายต่อมพร้อมกัน และมักมีลักษณะคล้ายสายลูกประคำ เช่น วัณโรคต่อมน้ำเหลือง โรคเอดส์) หรืออาจเกิดต่อเนื่องมาจากการติดเชื้อของเนื้อเยื่อและ/หรืออวัยวะข้างเคียงก็ได้ (เมื่อเนื้อเยื่อและ/หรืออวัยวะข้างเคียงนั้นเกิดการติดเชื้อรุนแรงจนเชื้อลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองด้วย จะทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ติดเชื้อนี้มีลักษณะบวม แดง เจ็บ เป็นหนอง)
  3. ต่อมน้ำเหลืองอักเสบที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ เช่น ในโรคออโตอิมมูน (Autoimmune), ในโรคมะเร็ง (ลักษณะสำคัญ คือ ต่อมน้ำเหลืองจะไม่ค่อยเจ็บ แต่จะโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว และมักมีขนาดโตมากกว่า 1 เซนติเมตร), ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิดหรือจากการแพ้ยาบางชนิด (เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงอะทีโนลอล (Atenolol), ยากันชักเฟนิโทอิน (Phenytoin), ยาลดกรดยูริกและรักษาโรคเกาต์อัลโลพูรินอล (Allopurinol) เป็นต้น)
  4. ไม่พบสาเหตุการเกิด เป็นกรณีที่พบได้ประมาณ 0.5-1% ของผู้ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการต่อมน้ำเหลืองอักเสบและต่อมน้ำเหลืองโต

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

  • ผู้ที่มีการติดเชื้อในอวัยวะระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ผู้ที่มีแผลและ/หรือมีการอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ช่องปาก ผิวหนัง อวัยวะเพศ
  • ผู้ป่วยมะเร็ง
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้ป่วยเอดส์

อาการของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ต่อมน้ำเหลืองจะมีลักษณะโตจนคลำได้ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ นอกจากนั้นอาการที่พบได้อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น

  • ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตมากกว่า 1 เซนติเมตร โดยที่ไม่มีอาการเจ็บ ร่วมกับต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมักจะเป็นอาการของโรคมะเร็ง และมักเกิดร่วมกับอาการของโรคมะเร็งนั้น ๆ
  • ต่อมน้ำเหลืองโตหลายต่อมพร้อมกัน มีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร และมักมีลักษณะโตเป็นสายคล้ายลูกประคำ ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อของต่อมน้ำเหลืองเอง เช่น วัณโรคต่อมน้ำเหลือง โรคเอดส์
  • อาการจากการมีแผลหรือการอักเสบของอวัยวะใกล้เคียง เช่น โรคเหงือก ฟันผุ, อาการไข้ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ เมื่อมีการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด หัดเยอรมัน, ต่อมน้ำเหลืองโต บวม แดง เจ็บ เป็นหนอง เมื่อต่อมน้ำเหลืองติดเชื้อแบคทีเรีย
IMAGE SOURCE : www.supercoder.com
IMAGE SOURCE : vrachfree.ru
IMAGE SOURCE : vrachfree.ru
IMAGE SOURCE : herbalthera.com, www.hivsymptomsinmen.biz

ผลข้างเคียงของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

ผลข้างเคียงที่พบได้ คือ อาการเจ็บ ต่อมน้ำเหลืองเกิดเป็นหนองหรือเป็นฝีแตก สูญเสียภาพลักษณ์เมื่อต่อมน้ำเหลืองโตจนผู้อื่นสังเกตเห็นได้ และอาจทำให้เกิดความกังวลและเกรงว่าจะเป็นโรคร้ายแรง

นอกจากนี้ ในรายที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เชื้อโรคลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้กลายเป็นโลหิตเป็นพิษได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

การวินิจฉัยต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

แพทย์สามารถวินิจฉัยต่อมน้ำเหลืองอักเสบได้จากประวัติทางการแพทย์ (เช่น โรคประจำตัว การใช้ยา แผล) อาการ การตรวจร่างกาย การตรวจอวัยวะที่มีอาการ การตรวจคลำที่ต่อมน้ำเหลือง และอาจมีการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์ เช่น การตรวจภาพต่อมน้ำเหลืองด้วยการอัลตราซาวนด์ การตัดต่อมน้ำเหลืองเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา การเจาะหรือดูดเซลล์เพื่อการตรวจทางเซลล์วิทยา การตรวจเลือดเพื่อการวินิจฉัยโรคเอดส์

การรักษาต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

  • เมื่อมีต่อมน้ำเหลืองอักเสบหรือโตจนคลำได้ โดยที่ต่อมยังโตขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีต่อมน้ำเหลืองเป็นสายคล้ายลูกประคำ หรือต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัว ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลก่อนเสมอ

  • การรักษาหลัก คือ การรักษาที่สาเหตุ เช่น
    1. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ให้รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี (Penicillin V), ไดคล็อกซาซิลลิน (Dicloxacillin), อิริโทรมัยซิน (Erythromycin) หรือโคอะม็อกซิคลาฟ (Co-amoxiclav) ถ้ามีอาการดีขึ้นควรให้ยาปฏิชีวนะต่อไปจนครบ 10 วัน แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรกลับไปพบแพทย์ เพราะยาอาจไม่ได้ผล หรือเพราะเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ
    2. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากแผล ให้ทำการรักษาแผลต่าง ๆ ให้หาย
    3. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากการใช้ยา ให้หยุดยาหรือปรับเปลี่ยนยา
    4. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากเชื้อวัณโรค ให้รักษาวัณโรคให้หาย
    5. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากโรคมะเร็ง ให้รักษาแบบโรคมะเร็ง
    6. ถ้าต่อมน้ำเหลืองอักเสบเกิดจากฟันผุ ให้รักษาฟันผุให้หาย
  • นอกจากนั้นคือ การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น การให้ยาแก้ปวดเมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดต่อมน้ำเหลืองมาก การใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ ๆ และยกแขนขาส่วนที่อักเสบให้สูง เป็นต้น
  • การดูแลตนเองเมื่อมีต่อมน้ำเหลืองอักเสบ คือ การดูแลตนเองไปตามสาเหตุที่เกิด เช่น เมื่อต่อมน้ำเหลืองอักเสบมีสาเหตุมาจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ดูแลตนเองแบบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น ร่วมไปกับการปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
    1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรับประทานยาต่าง ๆ ตามที่แพทย์สั่งให้ถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ขาดยา และไม่หยุดยาเอง ร่วมไปกับการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัดเสมอ
    2. รักษาความสะอาดของต่อมน้ำเหลืองบริเวณที่เป็น ไม่เกา ไม่คลำบ่อย ๆ เพราะจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้นได้
    3. ดูแลตนเองไปตามสาเหตุของโรคที่เป็น เช่น วัณโรค โรคมะเร็ง เป็นต้น
    4. รักษาสุขอนามัยพื้นฐานให้ดี โดยการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ
    5. รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
    6. ไปพบแพทย์ก่อนนัดเมื่ออาการต่าง ๆ เลวลง มีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม ต่อมน้ำเหลืองมีขนาดโตขึ้น และ/หรือเมื่อมีความกังวลในอาการที่เป็นอยู่

ข้อควรรู้เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

  • การพยากรณ์โรคของต่อมน้ำเหลืองอักเสบจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิด แต่โดยทั่วไปสาเหตุของต่อมน้ำเหลืองอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อเป็นหลัก จึงมักรักษาให้หายได้เสมอ
  • ต่อมน้ำเหลืองอักเสบสามารถเกิดเป็นซ้ำได้โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น จากการติดเชื้อ หรือจากผลข้างเคียงของยา
  • หลังการรักษาจนหายดีแล้ว มักจะยังคลำต่อมน้ำเหลืองได้ตลอดไป โดยจะคลำได้เป็นก้อนเล็ก ๆ และมักไม่เจ็บ แต่ก้อนจะไม่โตขึ้น (ถ้ามีการอักเสบเกิดซ้ำขึ้นอีก ต่อมน้ำเหลืองก็อาจโตขึ้นได้อีก) ทั้งนี้เกิดจากการมีพังผืดเกิดขึ้นในต่อมน้ำเหลืองนั้น ๆ
  • มีรายงานว่า ในผู้ป่วยต่อมน้ำเหลืองอักเสบหรือต่อมน้ำเหลืองโต เมื่อแพทย์วินิจฉัยโรคโดยการตัดต่อมน้ำเหลืองเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา พบว่า ในผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป มีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งประมาณ 1-4% ส่วนในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี มีสาเหตุมาจากโรคมะเร็งประมาณ 0.4%

วิธีป้องกันต่อมน้ำเหลืองอักเสบ

การป้องกันที่ดีที่สุดคือการป้องกันที่สาเหตุสำคัญ เพราะสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดต่อมน้ำเหลืองอักเสบมาจากการติดเชื้อ ดังนั้น จึงควรป้องกันการติดเชื้อด้วยการรักษาสุขอนามัยพื้นฐานให้ดี โดยการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ นอกจากนั้น คือ

  • การดูแลร่างกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และหมั่นออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
  • ดูแลรักษาความสะอาดผิวหนังให้ดี และระวังไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือเกิดบาดแผล เช่น แผลจากการเกา
  • รักษาสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี และไปพบทันตแพทย์ตามนัดหรือทุก 6 เดือน
  • รักษาความสะอาดเล็บอยู่เสมอ
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอย่างถูกวิธี
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็นหรือไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
เอกสารอ้างอิง
  1. หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2.  “ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis)”.  (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).  หน้า 993-994.
  2. หาหมอดอทคอม.  “ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis)”.  (พญ.ชลธิรศน์ ศรีเกษตรสรากุล).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [03 ธ.ค. 2016].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เมดไทย

เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด

ต่อมน้ําเหลืองอักเสบ อยู่ตรงไหน

อาการของต่อมน้ำเหลืองอักเสบ มีอาการบวม หรือกดเจ็บที่บริเวณต่อมต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ ต่อมน้ำเหลืองเกิดอาการแข็งตัว หรือขยายตัวอย่างผิดปกติ ผิวหนังบริเวณที่ต่อมน้ำเหลืองอักเสบแดง หรือมีริ้วสีแดงขึ้น มีหนองในต่อมน้ำเหลือง

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบเป็นยังไง

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ (Lymphadenitis) คือภาวะที่ต่อมน้ำเหลืองเกิดการอักเสบ และบวมขึ้นจนมีขนาดใหญ่โตกว่าปกติ โดยอาจจะเกิดกับต่อมน้ำเหลืองเพียงตำแหน่งเดียว หรือหลาย ๆ ตำแหน่งพร้อมกันก็ได้ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นกับร่างกายเพียงซีกเดียว หรือทั้ง 2 ซีก และมีทั้งแบบเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน หรือเป็นเรื้อรังจนต้องรักษาในระยะยาว

ต่อมน้ำเหลืองอักเสบรักษานานไหม

อาการที่ต่อมน้ำเหลืองยังโตอยู่ แม้ว่าการอักเสบจะหายไปแล้ว เป็นเรื่องปกติครับ เหมือนคนออกกำลังมากๆ จนมีกล้ามใหญ่ พอไม่ต้องออกกำลังแล้ว กว่ากล้ามจะเล็กลงคงต้องใช้เวลาบ้าง ปกติ คงใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่นๆนะครับ คุณไม่ต้องกังวล ถ้าไม่มีอาการของปวดบวมแดงร้อน ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ ลืมๆไปไม่ต้องสนใจครับ ถ้า ...

ต่อมน้ำเหลืองบวมกี่วันหาย

2. ต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นเรื่อยๆ ในเวลา 2 สัปดาห์ 3. ต่อมน้ำเหลืองขนาดไม่ลดลงหลังได้รับการรักษาแล้ว 4-6 สัปดาห์ 4. ต่อมน้ำเหลืองที่โตนั้น ขนาดไม่เล็กลงกลับมาปกติ ภายใน 8-12 สัปดาห์

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้