ข้อกำหนดของกฎหมายที่ทุกสถานประกอบกิจการที่เข้าข่ายตามกฎหมายต้องจัดให้พนักงานผ่านการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นและซ้อมอพยพหนีไฟ ทำให้พนักงานได้มีทักษะเกี่ยวกับการดับเพลิงเบื้องต้นรวมไปถึงวิธีการใช้ถังดับเพลิงประเภทต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้หากไม่มีความรู้ความเข้าใจเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขั้นต้นผู้พบเห็นเหตุการณ์จะไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะดำเนินการตอบโต้อย่างไร
1. พนักงานในองค์กรมีความเข้าใจถึงสาเหตุและการป้องกันอัคคีภัย
การแยกแยะชนิดของเชื้อเพลิงนั้นพนักงานจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานที่สำคัญในการลุกติดไฟเพราะไฟแต่ละประเภทนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกันสิ่งเหล่านี้นำไปสู่การพิจารณาเลือกใช้ถังดับเพลิงหรืออุปกรณ์ดับเพลิงที่จะเข้าตอบโต้เหตุได้อย่างถูกต้องและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ดับเพลิงตามหลักสากล
ประเภทของเพลิงไหม้ 5 ประเภทที่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้ได้แก่
- เพลิงไหม้ประเภท A (Ordinary Combustibles) คือเพลิงที่เกิดจากการลุกติดไฟจากวัสดุทั่วๆไป เช่น กระดาษ เศษไม้ ยางรถ พลาสติก
- เพลิงไหม้ประเภท B (Flammable Liquids) เป็นเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงที่เป็นของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน สารเคมีไวไฟ
- เพลิงไหม้ประเภท C ( Electrical Equipment) เป็นเพลิงไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟไหลอยู่ขณะเกิดไฟไหม้อุปกรณ์ไฟฟ้า
- เพลิงไหม้ประเภท D (Combustible Metals) เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากการลุกติดไฟของโลหะชนิดต่างๆ เช่น ล้อแม็กรถยนต์
- เพลิงไหม้ประเภท K (Combustible Cooking) เป็นเพลิงไหม้จากซากพืชซากสัตว์ น้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหาร
2. ผู้เรียนสามารถประเมินเหตุการณ์ และ อพยพหนีไฟได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
การประเมินสถานการณ์ขณะเกิดเพลิงไหม้มีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ประเมินจะต้องมีความรู้ในหลายๆด้าน จะต้องมีสติเพื่อประสานงานต่อไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วทำให้การควบคุมเพลิงและเข้าตอบโต้เหตุเพลิงไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อทุกคนผ่านการอบรมระบบดับเพลิงแล้วจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และไม่ตื่นตระหนกเมื่ออพยพต้องหนีไฟออกจากอาคารเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย รวมถึงเมื่อพบเห็นเพลิงไหม้ตรงหน้าจะสามารถเตือนผู้อื่นหรือระงับเหตุเบื้องต้นได้ทันที
3. ผู้เข้าอบรมเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัย
ผู้เข้าอบรมที่นอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและการป้องกันการเกิดอัคคีภัยแล้ว ในภาคปฏิบัติที่นอกจากการซ้อมหนีไฟ คือการฝึกการใช้งานอุปกรณ์ดับเพลิงในอาคารเพื่อใช้ในการระงับเหตุอัคคีภัยขั้นต้น ได้แก่
- การปฏิบัติตัวตามแผนฉุกเฉินขององค์กรในการตอบโต้เหตุขั้นต้นไปจนถึงการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ตามความรุ่นแรงของเพลิงไหม้ การใช้ถังดับเพลิงได้อย่างถูกต้องตามประเภทของไฟ ทำให้การดับไฟมีประสิทธิภาพและผู้ระงับเหตุเกิดความปลอดภัย
- การใช้สายส่งน้ำดับเพลิง ซึ่งอยู่ในตู้ดับเพลิงที่ทางอาคารจัดเตรียมเอาไว้ ว่าใช้งานอย่างไรและการใช้สัญญาณมือเพื่อเปิด-ปิด วาล์วน้ำเนื่องจากจะต้องใช้กำลังคนหลายคน
- ฝึกดับเพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดาและแก๊สโดยการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธี และตำแหน่งที่ติดตั้งของถังดับเพลิงในอาคารว่ามีที่ไหนบ้าง จำนวนเท่าไร
การตอบโต้เหตุฉุกเฉินที่เกิดจากเพลิงไหม้ตั้งแต่ไฟยังมีขนาดที่เล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานไปสู่ระดับรุ่นแรงเห็นได้ชัดว่าพนักงานที่ผ่านการอบรมแล้วจะมีความมั่นใจเกี่ยวกับการตอบโต้เหตุเพลิงไหม้ด้วยถังดับเพลิงเพราะว่าได้มีการผ่านการฝึกซ้อมมาแล้วต่างกับพนักงานหรือบุคคลที่ยังไม่ผ่านหรือไม่เคยอบรมเมื่อเกิดเหตุจะไม่สามารถดับเพลิงได้อย่างถูกต้องหรืออาจจะใช้อุปกรณ์ผิดวิธีสิ่งเหล่านี้นำไปสู่อันตรายได้ ดังนั้นเราควรให้พนักงานทุกคนได้มีความรู้เกี่ยวกับการตอบโต้เหตุเพลิงไหม้ขั้นต้นตามหลักสูตรที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ทุกคนนั้นมีความพร้อมต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้ในสถานประกอบการของเรา
ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดแบบยื่นคำขอใบอนุญาตเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น และเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ และกำหนดสถานที่ยื่นคำขอ (14 มีนาคม 2557)ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กำหนดแบบใบอนุญาตเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น และเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ (14 มีนาคม 2557)
คำสั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ 39/2559 เรื่อง การมอบหมายอำนาจหน้าที่ตามกฎกระทรวงการเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้นและการเป็นหน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ พ.ศ. 2556 (ลงวันที่ 29 มกราคม 2559) กฎหมายอบรมดับเพลิงขั้นต้นและหน่วยงานฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น
-กันยายน 09, 2561
กฎหมายอบรมดับเพลิงขั้นต้น คือ กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐาน ในการการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ.2555 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอบรมดับเพลิงขั้นต้น คือ หมวด 8 การดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัยและการรายงาน ข้อที่ 27 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของลูกจ้างแต่ละหน่วยงานของสถานประกอบกิจการรับการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น โดยให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรม
กฎกระทรวงดังกล่าวนี้กำหนดให้นายจ้างจัดฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นให้กับลูกจ้างของตนเอง โดยการกำหนดจำนวนไว้ไม่น้อยกว่า 40 % ของจำนวนพนักงานหรือลูกจ้างแต่ละแผนก สมุติว่าแผนกหนึ่งมีพนักงานจำนวน 10 คน จะต้องมีพนักงานผ่านการฝึกอบรมดับขั้นต้นอย่างน้อย 4 คน เป็นต้น
หน่วยงานฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น คือ หน่วยงานของรัฐ หรือ บริษัท สมาคม นิติบุคคล ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้เป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น การดำเนินการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น จะต้องฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติระยะเวลาไม่น้อยกว่าภาคละ 3 ชั่วโมง ผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินห้องละ 60 คนวิทยากรภาคทฤษฏีอย่างน้อย 1 คน วิทยากรภาคปฏิบัติ 1 คนต่อผู้รับการฝึกอบรมไม่เกิน 20 คน
หน่วยงานฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้น จะต้องเป็นหน่วยงานที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และวิทยากรผู้ทำการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เช่นกัน จึงจะสามารถดำเนินการฝึกอบรมให้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย
วัตถุประสงค์การอบรมดับเพลิง การฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นนั้นเป็นการให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมทั้งด้านการป้องกันและแนวทางในการปฏิบัติเมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้นในสถานประกอบการ รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ในดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน การหยุดชะงักการผลิตจะทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจการค้า เป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้ร่วมธุรกิจ ฯลฯ
อบรมดับเพลิงราคาถูก
หน่วยฝึกอบรมดับเพลิง อบรมดับเพลิง อบรมดับเพลิงขั้นต้น