วงเงินที่คุณใช้บัตรกดเงินสด ktc เริ่มต้นเพียงแค่ 0.92% ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว นอกเหนือจากการใช้บัตร ktc กดเงินสดออกมาใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีหลักประกันใดแล้ว บัตรกดเงินสด ktc ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชย์และบริการที่น่าสนใจมากมาย ในกรณีที่คุณต้องการซื้อสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงแต่คุณไม่อยากจ่ายเงินทั้งก้อนทีเดียว คุณก็สามารถใช้บัตรกดเงินสด ktc proud แทนบัตรเครดิตเพื่อรูดซื้อสินค้าและบริการที่คุณต้องการในอัตราดอกเบี้ย 0% และผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 10 เดือนผ่านร้านที่ร่วมการได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาบัตรสักใบที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ครอบคลุมรอบด้าน บัตรกดเงินสด ktc proud ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ
บัตรกดเงินสด ktc บัตร ktc proud ผ่อนสินค้าอะไรได้บ้าง
อย่างที่ทราบดีว่าบัตรกดเงินสด ktc หรือบัตร ktc proud ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากบริษัทบัตรกรุงไทยที่ไม่เพียงแค่เปิดโอกาสให้คุณสามารถใช้บัตรกดเงินสด ktc โอนเงินเข้าบัญชีเท่านั้น ในกรณีที่คุณสนใจอยากจะผ่อนสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการ คุณก็สามารถใช้บัตรกดเงินสด ktc proud รูดเพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้าที่ร่วมรายได้ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมไปถึงบริการต่างๆที่รับชำระเงินผ่านบัตรกดเงินสด ktc proud ได้เลย ผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสด ktc สามารถศึกษารายละเอียดข้อมูลโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ของบัตรทางออนไลน์ผ่าน www.ktc.co.th ด้วยตัวเองได้เลย ในกรณีที่คุณมีคำถามสงสัยหรือปัญหาทางการใช้งานเกี่ยวกับบัตรกดเงินสด ktc ไม่ว่าจะเป็นการสมัครบัตรกดเงินสด ktc ขอเพิ่มวงเงิน บัตรรูดไม่ได้และปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้อง คุณก็สามารถติดต่อบัตร ktc ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์โทร 02 123 5000 เพื่อแจ้งปัญหาหรือสอบถามข้อมูลได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ
บัตรกดเงินสด ktc proud สมัครบัตรกดเงินสดเงินเดือน 10000 ก็ทำได้
สำหรับขั้นตอนการสมัครบัตรกดเงินสด ktc หลายคนที่สนใจในที่นี้ก็คงอยากจะทราบว่ามีเงื่อนไขในการสมัครอย่างไรหรือใช้เวลานานไหมในการอนุมัติ ในส่วนของขั้นตอนการสมัครบัตรกดเงินสด ktc proud ต้องบอกเลยว่าคุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหาคำตอบจากกระทู้ บัตรกดเงินสด ktc pantip ให้ยุ่งยาก ทางธนาคารกำหนดเงื่อนไขไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่คุณมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไปและมีรายได้หลักหมื่นต่อเดือนคุณก็สามารถลงทะเบียน
ปัญหาหนึ่ง (ที่พี่ทุยขอเรียกว่าว่า ‘เป็นปัญหา’) ก็คือพฤติกรรม “จ่ายขั้นต่ำ” ชำระบิลบัตรเครดิตในแต่ละเดือน อาจจะด้วยเหตุผลใดใด เช่น หาเงินมาหมุนไม่ทัน หรืออะไรก็ตาม แต่การชำระบิลบัตรเครดิตแค่ขั้นต่ำ นั่นสร้างหนี้ให้มากกว่าที่หลายคิดไว้มากนัก
ต้องบอกก่อนว่า ถ้าเราไม่นับเฉพาะหนี้ในระบบหนี้ หนี้ที่มีดอกเบี้ยที่สูงอันดับต้น ๆ และเป็นที่นิยมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ‘หนี้บัตรเครดิต’ ส่วนตัวพี่ทุยชอบใช้บัตรเครดิตมาก ๆ เพราะช่วยทำให้การใช้จ่ายง่าย สะดวก คล่องมือมากขึ้น
แต่พี่ทุยย้ำว่า ‘บัตรเครดิต’ เหมาะกับคนที่ใช้เป็นเท่านั้น ถ้าหากใช้ไม่เป็นแนะนำว่าหักบัตรเครดิตทิ้งไปเลยน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เพราะหากเราใช้ไม่เป็น จ่ายเงินไม่ตรงตามงวดที่กำหนดไว้จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ดอกเบี้ย’ แล้วดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บจากบัตรเครดิตก็อยู่ในระดับที่สูงกว่า 20%++ ซะอีก
รู้กันมั้ยว่าทำไม ‘หนี้บัตรเครดิต’ ถึงขึ้นเร็วมาก ๆ ? เพราะนอกจากดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะสูงแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระแล้วเราแค่จ่ายขั้นต่ำ วิธีการคิดดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะแตกต่างออกไปจากแบบปกติ
เช่น รอบบัตรเราตัดทุกวันที่ 10 ของเดือน แล้วถ้ารูดวันที่ 15 เราก็จะได้มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 25 วันโดยประมาณ แต่ถ้าเดือนไหนเริ่ม “ชำระขั้นต่ำ” เมื่อไหร่ เราจะไม่มีระยะ “เวลาปลอดดอกเบี้ย” อีกต่อไป รูดเมื่อไหร่ดอกเบี้ยก็จะวิ่งทันที ทุกการใช้จ่ายหลังจากนั้นก็จะถูกคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน
สำหรับใครก็ตามที่จะใช้บัตรเครดิต ต้องจำให้ขึ้นใจ บัตรเครดิตคิดดอกเบี้ยแบบนี้ ฉะนั้นสิ่งที่ห้ามทำเลยเวลาเป็น ‘หนี้บัตรเครดิต’ ก็คือ ห้ามจ่ายขั้นต่ำเด็ดขาด เพราะ สมมติวันที่ 15 ก.ค. เรารูดบัตรไป 10,000 บาท ครบกำหนดชำระวันที่ 10 ส.ค. แต่เราจ่ายแค่ขั้นต่ำแค่ 1,000 บาท ยอดหนี้ก็จะเหลือ 9,000 บาท
แต่ดอกเบี้ยที่ทางบัตรเครดิตเขาคิดจะมาจากเงินทั้งจำนวน เท่ากับเราเป็นหนี้ 10,000 บาท และธนาคารก็จะเอาเงิน 10,000 บาทตรงนี้ ไปคิดดอกเบี้ยทันที แถมคิดย้อนหลังด้วย นับวันตั้งแต่ที่เราจ่ายเงินก้อน 10,000 บาทนี้ไป
ร้ายกาจกว่านั้นจำนวนเงินที่เราค้างชำระจะกลายเป็นเงินต้น และธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยของเงินก้อนนี้เป็นรายวันไปจนกว่าถึงครบกำหนดชำระบัตรเครดิตรอบหน้า เช่น หลังจากชำระขั้นต่ำ 1,000 บาท เราจะเป็นหนี้ธนาคาร 9,000 บาท และเงิน 9,000 บาทนี้จะถูกคิดดอกเบี้ยจนถึงรอบบัตรครั้งถัดไป
ถ้าเรา ‘จ่ายขั้นต่ำ’ ไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าเราจะเป็นหนี้ทบหนี้ไปเรื่อย ๆ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนที่จ่ายขั้นต่ำแล้ว โอกาสชำระเต็มจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่นานขึ้นเรื่อย ๆ
“ดอกเบี้ยทบต้น” ทำให้เรารวยเวลาที่เราลงทุนได้ฉันใด มันก็ทำให้เราจนเวลาที่เราเป็นหนี้ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นจะใช้บัตรเครดิตต้องมั่นใจได้ว่าเราสามารถจ่ายเงินสด ณ เวลาที่เราจะรูดบัตรเครดิตได้
ถ้าใครที่อยากใช้บัตรเครดิต พี่ทุยแนะนำกฎเหล็กการใช้บัตรเครดิตให้ลองไปปรับใช้กันดูเลยก็คือ ถ้าเราไม่สามารถจ่ายเงินสด ณ เวลานั้นได้ ห้ามใช้เด็ดขาด
สำหรับพี่ทุยแล้วการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องทื่ผิด ถ้าผ่านการประเมินมาเป็นอย่างดีแล้วว่าการเป็นหนี้ครั้งนี้ “จำเป็น” และเราสามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเรื่องดอกเบี้ยและจ่ายคืนเงินต้นได้ แต่จะเป็นเรื่องผิดถ้าเราไม่ได้ประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้เราไม่สามารถจ่ายคืนหนี้ได้ตามงวดหรือตามที่ตั้งใจไว้
แต่ก็อาจจะมีบางกรณีที่คิดไว้อย่างเกิดเหตุไม่คาดคิดทำให้เราไม่สามารถจ่ายได้ตามที่ตั้งใจไว้ เช่นได้รับผลกระทบจากระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลดงหรือรายได้ขาดหายไปเลย ถ้าเกิดเจอสถานการณ์แบบนี้ พี่ทุยแนะนำว่าให้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องวิธีการปลดหนี้อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบได้ที่นี่