เปิดบ้านสุดหรู "ผู้กำกับโจ้" กลางกรุง รถหรูอื้อ-สระน้ำ-สนามหญ้า สุดอลังการ
ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ค้นบ้าน "ผู้กำกับโจ้" หมู่บ้านหรูกลางกรุงย่านรามอินทรา เนื้อที่ 5 ไร่ ไม่พบตัวพบแต่รถยนต์หรู จอดเรียงราย 13 คัน ขณะที่แม่บ้านบอก กลับบ้านเฉพาะวันหยุดมากับแฟนสาว
วันที่ 25 สิงหาคม ช่วงเช้าที่ผ่านมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ในหมู่บ้านหรู เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ
ทั้งนี้บ้านหลังดังกล่าวปลูกในเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ มีบ้าน 2 หลัง เบื้องต้นตรวจสอบพบรถยนต์หรูจำนวน 13 คัน มูลค่ารวมกันนับร้อยล้าน จอดเรียงรายไว้ภายในรั้วบ้านหลังดังกล่าว โดยขณะเข้าตรวจค้น แต่เพียงแม่บ้านชาวเมียนมา 2 คน
จากการสอบถามแม่บ้าน บอกแต่เพียง ผู้กำกับโจ้ จะเดินทางจากนครสวรรค์เข้ามาที่บ้านใน กทม.ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยบางครั้งจะมากับแฟนสาว แต่ส่วนใหญ่จะเดินทางมาพักผ่อนที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง
ทั้งนี้โลกโซเชียลต่างพากันขุดประวัติ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ นรต.รุ่น 57 หรือ “ผู้กำกับโจ้” หลากหลายมุม ทั้งประวัติ ครอบครัว ความรัก นอกจากนี้ยังพบว่าได้มีการเปิดเอกสาร จำนวนรถในความครอบครองของผู้กำกับโจ้ พบว่ามีทั้งหมด 29 คันด้วยกันจึงกลายเป็นที่มาฉายา “โจ้ เฟอร์รารี่” โดยตามรายชื่อพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถหรูทั้งสิ้น หลากหลายยี่ห้อ โดยทะเบียนที่ครอบครองนั้นเป็นที่น่าสังเกตุว่าเป็นทะเบียนหมายเลขสวยๆทั้งนั้น
โดยรถคันที่น่าสนใจที่สุดเป็นรถลำดับที่ 11 ยี่ห้อ Lamborghini รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario มูลค่าหลายสิบล้าน หมายเลขทะเบียน จก. 5 กทม. ว่ากันว่าเป็นรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีของ Lamborghini ผลิตเพียง 100 คันทั่วโลก โดยมีการระบุว่าผู้กำกับโจ้ได้ครอบครองรถหรูคันนี้เป็นคนแรกของประเทศ
พาไปรู้จักกับตำรวจหนุ่มในตำนาน อดีตผู้กำกับโจ้ ฉายา โจ้เฟอร์รารี่ กับความโชกโชนที่ไม่ธรรมดา กับคดีถุงดำรัดหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต ล่าสุดศาลตัดสิน ประหารชีวิต แต่ได้รับการลดโทษให้ 1 ใน 3 เป็นจำคุกตลอดชีวิต
วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ข่าว ผู้กำกับโจ้ ล่าสุด รายงานว่า ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ร่วมกัยฆ่าผู้ต้องหา โดยการใช้ถุงดำรัดหัวจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ศาลพิพากษาว่าให้ประหารชีวิต แต่ลดโทษ 1 ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ The Thaiger จึงจะพาทุกคนมารู้จักอดีตตำรวจสุดโหด ฉายา โจ้เฟอร์รารี่ ประวัติไม่ธรรมดา
- วันนี้! ตัดสิน ผู้กำกับโจ้ หรือ โจ้เฟอร์รารี ปมใช้ถุงดำรัดผู้ต้องหาเสียชีวิต
- ‘ผู้กำกับโจ้’ ขึ้นศาล ปฏิเสธเจตนาฆ่า ‘มาวิน’ อ้างทำไปเพื่อประโยชน์ของชาติ
ประวัติ ผู้กำโจ้ ฉายา โจ้เฟอร์รารี่ คือใคร ? หลังมีคดีรีดเงินผู้ต้องหา เอาถุงดำคลุมหัวเสียชีวิต
| พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ประวัติ
พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ฉายา โจ้เฟอร์รารี่ เป็นตำรวจที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในแวดวงไฮโซ แถมยังมีเพื่อนในวงการไฮโซมากหน้าหลายตา เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการที่เขานั้น เคยคบหาดูใจกับนางร้ายสุดเซ็กซี่อย่าง เมย์ พิชญ์นาฏ จนถึงขั้นคุกเข่าขอแต่งงานสาวเมย์ แต่สุดท้ายต้องเลิกรากันไปเพราะพฤติกรรมของฝ่ายชาย
เมื่อปี 2551 ครั้งยังมียศ พ.ต.ต. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ สารวัตรโจ้ ได้เข้าพิธีแต่งงานกับไฮโซสาวตระกูลดัง ซึ่งทำธุรกิจนำเข้ารถหรูอย่าง เฟอร์รารี่ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกัน 1 คน จึงเป็นที่มาของฉายา “โจ้เฟอร์รารี่” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และที่ฮือฮาคือ ผู้กำกับโจ้เคยเป็นเจ้าของรถเก๋งสปอร์ตหรู ลัมบอร์กินี รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario ฉลองครบรอบ 50 ปี ผลิตออกมา 100 คันทั่วโลก
ต่อมา อดีตผู้กำกับโจ้ได้เลิกรากับภรรยาในปี 2555
หลังจากนั้นผู้กำกับโจ้ก็มีข่าวคราวความรักผ่านหน้าแวดวงสื่อเป็นระยะๆ ก่อนจะค่อย ๆ เงียบหายไป เหลือแต่บทบาทด้านการทำงาน ที่ ผู้กำกับโจ้ ได้ตำแหน่งยศพันตำรวจเอกมาจากการที่เขามีความสามารถในการทำผลงานด้านปราบปรามยาเสพติดและการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ อย่างต่อเนื่อง จนเคยได้รับฉายาว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมังมาแล้ว จนกระทั่ง มีข่าวใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
ในวันที่ 8 มิถุนายน 2565 เป็นวันตัดสิน ชี้ชะตาชีวิตข้างหน้าของตัวผู้กำกับโจ้ เฟอร์รารี่คนนี้ กับพวกอีก 7 คนในข้อหา
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289 (5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 4,172
ล่าสุดศาลมีคำพิพากษา ผู้กำกับโจ้ และ จำเลยที่ 2-5, 7 ให้ประหารชีวิต แต่ลดโทษ 1 ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 6 ด.ต. ศุภากร นิ่มชื่น ผิด ม.157 จำคุก 5 ปี 4 เดือน