- โปรโมชันมือถือ
- Apple
iPhone iPad ราคาพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค
ผ่อนได้ 0% นานสูงสุด 48 เดือน
กับบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดที่ร่วมรายการ
ลดสูงสุด 25%
Apple Accessories
ครบ ดี ถูก! ซื้อ iPhone iPad ติดโปร บนคลื่นใหม่ 700 MHz จากดีแทค
เต็มที่ทุกการใช้งานแบบที่สาวก Apple ห้ามพลาด กับความคุ้มค่าจากดีแทคที่ส่ง iPhone พร้อมโปรดีๆ รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน และโปรโมชั่น iPad ที่พร้อมให้คุณได้เติมเต็มทั้งเพื่อความบันเทิงและการทำงานจากที่ไหนก็ได้แบบเร็วแรงกว่าใคร!
อุปกรณ์จาก Apple นั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของรูปลักษณ์ของตัวเครื่องและระบบการใช้งานที่ดูพรีเมียม รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการได้ยาวนาน ซื้อเครื่องเดียวก็สามารถอัปเดต iOS ได้หลายเวอร์ชั่น อีกทั้งแอปพลิเคชันสำหรับ iOS ยังมีความเสถียรสูงและมีให้เลือกดาวน์โหลดมากมาย จะเชื่อมต่อกับ Apple Watch หรืออุปกรณ์อื่นในตระกูล Apple ก็ง่าย ทำให้ iPhone และ iPad เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ครองใจผู้ใช้งานมาอย่างยาวนาน ยิ่งผนวกกับคลื่นคุณภาพจากดีแทคที่ 700 MHz ยิ่งตอกย้ำความ #ดีทั่วดีถึง ที่มาพร้อมกับราคา iPhone สุดคุ้มและ iPad พร้อมโปรแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าดีที่สุด ที่เรายกขบวนมาให้คุณเลือกกันอย่างจุใจ
ซื้อ iPhone iPad ออนไลน์พร้อมแพ็กเกจจากดีแทค ดีอย่างไร?
อีกทางเลือกหนึ่งของความคุ้มค่าที่ได้มากกว่าแค่เครื่องเปล่า แต่ยังได้แพ็กเกจทั้งเน็ตและโทรจุใจในราคาพิเศษ หากคุณยังไม่รู้ว่าจะซื้อ iPhone iPad ค่ายไหนดี แล้วซื้อ iPhone iPad ที่ไหนถูกสุด คุ้มสุด ต้องนี่เลย! เครื่องติดโปรจากดีแทค พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของความคุ้มค่าแล้ววันนี้ เพียงสั่งออนไลน์ เราส่งให้ฟรีถึงบ้าน แถมยังได้ส่วนลด 20% สำหรับซื้อ Apple Accessories อีกด้วย
ซื้อโทรศัพท์ iPhone พร้อมโปรราคาพิเศษ
ครบ ดี ถูก เช็กดีแทค! กับราคา iPhone เครื่องศูนย์ที่ดีที่สุดในรุ่นยอดฮิตที่คุณเลือกได้ พร้อมแพ็กเกจสุดคุ้มค่า ให้เน็ตและโทรเต็มที่แบบไม่มีกั๊กในปริมาณการใช้งานที่คุณเลือกเองได้ตามความเหมาะสม คุ้มสุดๆ เพราะผ่อนชำระสบาย 0% สูงสุด 48 เดือน* (สำหรับลูกค้าดีแทคที่มีอายุการใช้งาน 12 เดือนขึ้นไป ไม่ต้องจ่ายล่วงหน้า) พร้อมส่วนลดอื่นๆ อีกมากมาย
เช็กราคา iPad ติดโปรเพื่อความสะดวกและความบันเทิงสไตล์คุณ
จะใช้เรียน ใช้เล่น หรือใช้ทำงานก็ต้อง ว้าว! กับโปรโมชั่น iPad จากดีแทคที่มาในราคาสุดว้าวกว่าใคร มีให้เลือกทั้งรุ่น wifi และ wifi + cellular แถมได้ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 24 เดือน* อีกด้วย
Apple Watch
เพิ่มความครบเครื่องให้คุณได้สัมผัสการใช้งานอุปกรณ์ Apple แบบเต็มที่กว่าที่เคย กับ Apple Watch ราคาพิเศษเพื่อลูกค้าดีแทคเท่านั้น พร้อมสิทธิประโยชน์ในการผ่อนชำระแบบสบายๆ และส่วนลดพิเศษอื่นๆ ตามเงื่อนไขของเรา
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ข้อเสนอที่น่าสนใจอีกมากมาย
พบกับ iPhone และ iPad รุ่นที่คุณรอคอย พร้อมแพ็กเกจดีๆ จากดีแทคได้ที่นี่
ผ่อนสบาย 0% สูงสุด 24 เดือน เน็ตไม่อั้นเต็มสปีด สั่งซื้อออนไลน์ ส่งฟรีถึงบ้าน
iPhone 14 Series และ iPhone 14 Pro Series เปิดตัวกันไปแล้ว โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ให้ได้เลือกไปเป็นเจ้าของ ซึ่งแต่ละคนก็น่าจะอยากรู้กันล่ะว่าแต่ละรุ่นมีสเปคส่วนไหนแตกต่างกันบ้าง และควรจะซื้อรุ่นไหนมาใช้ดี…เราก็เลยขอนำเอาสเปคและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่นมาเทียบให้ดูกันเห็น ๆ ไปเลยว่าใครเด่นใครด้อยตรงจุดไหนบ้าง จะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจอีกทางนึงครับ
สเปค iPhone 14 | iPhone 14 Plus | iPhone 14 Pro | iPhone 14 Pro Max
| สเปค | iPhone 14 | iPhone 14 Plus | iPhone 14 Pro | iPhone 14 Pro Max |
| หน้าจอ | OLED 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532 x 1170 460ppi | OLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด2778 x 1284 458ppi | OLED 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556 x 1179 460ppi | OLED 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796 x 1290 460ppi |
| CPU | A15 Bionic | A15 Bionic | A16 Bionic | A16 Bionic |
| RAM | – | – | – | – |
| ความจุ | 128GB / 256GB / 512GB | 128GB / 256GB / 512GB | 128GB / 256GB / 512GB / 1TB | 128GB / 256GB / 512GB / 1TB |
| กล้องหลัง | กล้องหลัก 12MP (f/1.5), กันสั่น Sensor-shift OIS กล้อง Ultrawide 12MP (f/2.4) | กล้องหลัก 48MP (f/1.78), กันสั่น Sensor-shift OIS กล้อง Telephoto 12MP (f/2.8) ซูม Optical 3x, กันสั่น OIS กล้อง Ultrawide 12MP (f/2.2) | ||
| กล้องหน้า | 12MP (f/1.9) | |||
| การเชื่อมต่อ | 5G (sub‑6 GHz and mmWave) with 4×4 MIMO8 Gigabit LTE with 4×4 MIMO and LAA8 Wi‑Fi 6 (802.11ax) with 2×2 MIMO Bluetooth 5.3 Ultra Wideband | |||
| เซนเซอร์ | Face ID, accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer | |||
| ระบบเสียง | ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos, Spatial Audio | |||
| มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น | IP68 ลงน้ำจืดลึก 6 เมตร | |||
| แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จ | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 20 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 26 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 23 ชั่วโมง | การเล่นวิดีโอ สูงสุด 29 ชั่วโมง |
| ขนาด / น้ำหนัก | 146.7 x 71.5 x 7.80 / 172 กรัม | 160.8 x 78.1 x 7.8 / 203 กรัม | 147.5 x 71.5 x 7.85 / 206 กรัม | 160.7 x 77.6 x 7.85 มม. / 240 กรัม |
| ระบบ | iOS 16 |
หน้าจอ
หน้าจอของ iPhone 14 ทุกรุ่นเป็นหน้าจอแบบ OLED ที่มีความละเอียดในระดับเดียวกัน แต่หากว่าใครที่ชอบมือถือเครื่องกระทัดรัดพกพาง่ายใส่กระเป๋ากางเกงสบาย ๆ ก็แน่นอนว่า iPhone 14 และ iPhone 14 Pro เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดแล้ว เพราะขนาดจอ 6.1 นิ้ว นอกจากจะทำให้ตัวเครื่องมีขนาดพอดีมือแล้ว ยังมีน้ำหนักที่ไม่มากเกินไปด้วย
ส่วนใครที่ชอบจอใหญ่ไว้ดูหนัง เล่นเกมแบบจุใจสบายตาก็ต้องขยับขึ้นมาเป็นรุ่น Pro กันเลย เพราะขนาดจอขยับขึ้นมาเป็น 6.7 นิ้ว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยขนาดเครื่องที่ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้นด้วย โดยตัว 14 Pro Max นี่มีน้ำหนักเกือบ 2 ขีดครึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของดีไซน์หน้าจอที่แตกต่างกันด้วย โดย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ยังใช้หน้าจอแบบ Notch สำหรับวางกล้องเซลฟี่และเซนเซอร์ต่าง ๆ เหมือนรุ่นก่อน ๆ อยู่ ส่วน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เปลี่ยนมาใช้ดีไซน์เจาะรูบนหน้าจอแทน แถมยังมากับฟีเจอร์เกร๋ ๆ Dynamic Island ที่จะปรับเปลี่ยนรูกล้องให้กลายเป็นแถบสำหรับแสดงผลต่าง ๆ ทั้งการแจ้งเตือน หรืออื่น ๆ ซึ่งทำให้มันดูแนบเนียนเป็นส่วนนึงกับหน้าจอไปเลย
กล้อง
กล้องหลังของ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ให้มาทั้งหมด 2 ตัว ซึ่งยังใช้ความละเอียดเท่าเดิมคือ กล้องหลัก 12MP + กล้อง Ultrawide 12MP แต่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาด้วยเซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีรูรับแสงที่กว้างขึ้น ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
แต่หากต้องการกล้องที่มีประสิทธิภาพขั้นสุดก็ต้องจัดรุ่น Pro กันไปเลย โดย iPhone 14 Pro Series ได้รับการอัปเกรดกล้องหลักให้มีความละเอียดเป็น 48MP พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel ที่จะรวมพิกเซล 4 เม็ดเล็กให้กลายเป็น 1 เม็ดใหญ่ ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น นอกจากนี้กล้องหลักยังสามารถซูมได้ที่ระดับ 2x และยังมีกล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP ซูม Optical 3x กับกล้อง Ultrawide 12MP ด้วย
ทั้ง 4 รุ่น มีฟีเจอร์ในการถ่ายวิดีโอได้แบบนิ่งและสมูทสุด ๆ ด้วย Action Mode และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps แถมคราวนี้โหมดภาพยนตร์ยังถ่ายได้สูงสุดถึง 4K HDR 30fps อีกต่างหาก
สเปค
จริง ๆ ชิป A15 Bionic ที่ใช้ในรุ่น iPhone 14 กับ iPhone 14 Plus ก็เรียกว่าแรงจัด ๆ เหนือกว่ามือถือรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบันแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นอยู่แล้ว แต่หากใครที่จะซื้อทั้งทีแล้วต้องจัดให้หนักไปเลยก็คงต้องหันมาที่ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ที่มากับชิปใหม่ A16 Bionic ซึ่งแน่นอนว่าแรงกว่า A15 Bionic อยู่แล้ว (แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแรงไปทำไมนักหนาเหมือนกัน 555)
ราคา
iPhone 14
- ROM 128 GB ราคา 32,900 บาท
- ROM 256 GB ราคา 36,900 บาท
- ROM 512 GB ราคา 45,900 บาท
iPhone 14 Plus
- ROM 128 GB ราคา 37,900 บาท
- ROM 256 GB ราคา 41,900 บาท
- ROM 512 GB ราคา 50,900 บาท
iPhone 14 Pro
- ROM 128 GB ราคา 41,900 บาท
- ROM 256 GB ราคา 45,900 บาท
- ROM 512 GB ราคา 54,900 บาท
- ROM 1 TB ราคา 63,900 บาท
iPhone 14 Pro Max
- ROM 128 GB ราคา 44,900 บาท
- ROM 256 GB ราคา 48,900 บาท
- ROM 512 GB ราคา 57,900 บาท
- ROM 1 TB ราคา 66,900 บาท
แกะกล่อง ลองเครื่องจริง iPhone 14 , iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max
สรุป
ใครที่ชอบมือถือเครื่องกะทัดรัดสเปคแรง ๆ แต่ไม่ได้ต้องการกล้องที่เทพจัด ๆ ก็แนะนำว่า iPhone 14 ธรรมดาก็น่าจะตอบสนองความต้องการทั่วไปได้แบบครบถ้วนในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป หรือหากชอบหน้าจอใหญ่เต็มตาก็เพิ่มอีกนิดหน่อยมาเลือกตัว iPhone 14 Plus ได้เหมือนกัน
ส่วนใครที่อยากจัดเต็มสุด ๆ ทั้งเรื่องความเร็วแรง และกล้องเทพ ๆ รวมถึงมีงบเยอะเหลือเฟือก็คงต้องเลือก iPhone 14 Pro Series กันไปเลย ส่วนจะชอบหน้าจอเล็กหรือใหญ่ก็ต่างกันแค่ไม่กี่พันบาทเท่านั้นครับ