สอบสัมภาษณ์เข้ามหาลัย ครูปฐมวัย

อาชีพคุณครู หรือที่เราเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า แม่พิมพ์ของชาติ เป็นอาชีพที่จะต้องมีความรู้ความสามารถ และทักษะในการสอนการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีให้กับเด็กในช่วงวัยที่กำลังเติบโต เรียนรู้ และจดจำ ซึ่งที่เรากำลังพูดถึงก็คือการเป็นครูปฐมวัย หรือครูสอนเด็กอนุบาล ที่นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติสำคัญอย่างแรก คือมีใจรักในอาชีพครู รักในการสอนแล้ว ยังจะต้องมีความอดทนและเป็นคนที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เป็นอย่างดีด้วย

เพราะว่าการจะมาเป็นครูสอนเด็กอนุบาลได้นั้น จะต้องคลุกคลีและใช้ชีวิตอยู่กับเด็กนักเรียนตลอดทั้งวัน หากคุณครูเองที่มีปฏิกิริยาไม่ดีต่อเด็ก ๆ ก็อาจจะทำให้เด็กจดจำและนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีในอนาคตได้ โดยในวันนี้ Tonkit360 จะพาทุกคนไปพูดคุยกับ “คุณเอส นิรันรัตน์ พันธ์ประสิทธิ์” ซึ่งจบการศึกษามาจากคณะครุศาสตร์ เอกการศึกษาปฐมวัย มหาวิทยาลัยบูรพา ปัจจุบันเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล ว่าคุณเอสมีข้อแนะนำหรือเทคนิคในการสอนให้เด็ก ๆ จดจำในสิ่งที่สอนได้อย่างไรบ้าง และในฐานะครูปฐมวัย คุณเอสมีความคิดเห็นอย่างไรที่คุณพ่อคุณแม่บางคนเริ่มให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่อนุบาลเพื่อเตรียมสอบเข้า ป.1 เราไปฟังความคิดเห็นจากคุณครูเอสกันเลย

ทำไมคุณเอสถึงเลือกเรียนครุศาสตร์ปฐมวัย และเลือกที่จะมาเป็นครูสอนเด็กอนุบาล

คุณเอส : ตั้งแต่แรกเลยก็คือ มีช่วงเวลาหนึ่งที่เอสได้คลุกคลีอยู่กับเด็ก ๆ เลยทำให้รู้สึกว่าตัวเองรักและชอบที่จะอยู่กับเด็ก ชอบที่จะพาเด็ก ๆ เล่น ทำกิจกรรมหรือคอยบอกคอยสอนเขาต่าง ๆ ก็เลยคิดว่าเราน่าจะประกอบอาชีพ หรือว่าทำงานอะไรก็ได้ที่ทำให้เด็กมีความสุข ทำให้เด็กมีความรู้ เอสก็เลยตัดสินใจเลือกเรียนวิชาชีพครูค่ะ และพอเอสเรียนจบก็มาประกอบอาชีพเป็นคุณครูเลยค่ะ แต่ว่าก็เคยผ่านการทำงานพาร์ทไทม์ในอาชีพอื่นมาบ้าง แต่ความรู้สึกของเราเองก็คือเราชอบอยู่กับเด็กมากกว่า ก็เลยคิดว่าเอาล่ะในเมื่อเราเลือกเรียนสายวิชาชีพครูมาแล้วและเราก็รักในอาชีพนี้ ก็เลยตั้งมั่นกับตัวเองว่าเราจะประกอบอาชีพเป็นคุณครูล่ะกัน (ยิ้ม)

อาชีพอื่นที่คุณเอสเคยลองทำมา มีความแตกต่างจากการเป็นครูสอนเด็กอนุบาลอย่างไร

คุณเอส : ค่อนข้างแตกต่างค่ะก็คืออาชีพอื่น ๆ มันจะมีผลกระทบต่อตัวเรา ต่อตัวงาน แต่ครูสอนเด็กอนุบาลก็คือเราทำงานเกี่ยวกับเด็กโดยตรง ฉะนั้นเราจะต้องคิดถึงเด็กก่อนเสมอ เพราะเด็กเขาจะซึมซับจากสิ่งที่เราสอน สิ่งที่เราเป็น ถ้าเกิดเราสอนสิ่งที่ดี ๆ ให้กับเขา มีปฏิกิริยาที่ดีกับเขา เขาก็จะซึมซับสิ่งที่ดีจากที่เราเป็น แต่ถ้าเราหงุดหงิดหรือทำไม่ดี เด็กเขาก็จะซึมซับสิ่งที่ไม่ดีไป เพราะฉะนั้นมันก็จะแตกต่างกันที่ การเป็นครูสอนเด็กอนุบาลก็คือต้องพยายามควบคุมตัวเอง พยายามเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เด็ก ๆ ค่ะ

สำหรับคุณเอส คิดว่าคุณสมบัติที่คนจะมาเป็นครูสอนเด็กอนุบาลควรมีคืออะไร

คุณเอส : ส่วนตัวเอสคิดว่าคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นครู สิ่งแรกที่ควรมีเลยก็คือ รักความเป็นครู รักในการสอน รักเด็ก อยากที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก อยากจะทำให้เด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และก็ที่สำคัญคือต้องมีความอดทน มีความเมตตา อันนี้เป็นหลักสำคัญเบื้องต้นเลยที่คนจะมาเป็นครูหรือคนที่เป็นครูต้องมีค่ะ

จริงไหมที่การจะมาเป็นครูสอนเด็กอนุบาลนั้นยากกว่าการเป็นครูสอนเด็กโต

คุณเอส : สำหรับเอสมองว่ามันยากกันคนละแบบ เพราะว่าอย่างเด็กโตเขาค่อนข้างที่จะพูดรู้เรื่องแล้ว แต่ว่าก็จะไปหนักทางด้านการสอนวิชาต่าง ๆ วิชาที่ยากขึ้นไปอีก อย่างเช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา แต่สำหรับเด็กเล็กอย่างเด็กอนุบาล ก็คือเราจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่เขา ไม่ใช่แค่เป็นการสอนเท่านั้น แต่จะเป็นเหมือนการอบรมเลี้ยงดูไปในตัวด้วย ก็เลยจะยากแตกต่างกันตรงนี้ค่ะ

เทคนิคหรือวิธีการสอนให้เด็ก ๆ จดจำในสิ่งที่เราสอนได้ดี

คุณเอส : จริง ๆ เด็กจะเรียนรู้ได้ดีผ่านการเล่น ผ่านการลงมือสัมผัส ผ่านการลงมือปฏิบัติค่ะ ถ้าสมมติเราจะสอนเขาเรื่องสัตว์ แต่เราให้เขาดูแค่ภาพว่านี่คือสัตว์ชนิดนี้นะ เรียกว่าอะไร เขาก็จะฟังเราไปเรื่อย ๆ แต่สักพักเขาก็จะลืม แต่ถ้าเกิดเราให้เขาทำกิจกรรม อาทิเช่นอาจจะมีสัตว์จริง สัตว์จำลอง หรือพาเขาไปดูสวนสัตว์ ให้เขาได้เห็นจากประสบการณ์จริง เขาก็จะจดจำได้ดีมากขึ้นค่ะ

ใน 1 วันของการเป็นครูสอนเด็กอนุบาลจะต้องทำอะไรบ้าง

คุณเอส : 1 วันของครูอนุบาล จะแตกต่างจากครูสอนเด็กโตเลยค่ะ เพราะว่าครูสอนเด็กโตจะเป็นการสอนหลักวิชาโดยส่วนใหญ่ แต่ว่าครูอนุบาลจะต้องมาถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้า เพื่อมาตรวจสุขภาพของเด็ก ๆ ว่าเด็กมีสุขภาพที่ดีหรือเปล่า เป็นโรคอะไรไหม แล้วก็ต้องคอยเล่นกับเด็กด้วย จะต้องมีการสอนให้เขาทำกิจกรรม ต้องอบรมเลี้ยงดู สอนความรู้ต่าง ๆ ให้กับเขา ๆ แล้วก็สอนวิชาชีพควบคู่กันไปด้วยค่ะ

สิ่งที่คุณเอสได้จากการเป็นครูสอนเด็กอนุบาล

คุณเอส : สิ่งที่เอสได้จากการเป็นครูสอนเด็กอนุบาลก็คือ ความภาคภูมิใจในการทำงานด้านอาชีพครูค่ะ เพราะว่าเด็กอนุบาลเป็นช่วงวัยสำคัญของชีวิตมนุษย์ ก็คือถ้าสมมติเขาได้รับแต่สิ่งดี ๆ เขาได้รับการพัฒนา เขาก็จะสามารถเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ต่อไปในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราเห็นเด็ก ๆ เขาค่อย ๆ เติบโตและเรียนรู้ หรือเขาทำอะไรด้วยตัวเองได้ แม้แค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างผูกเชือกรองเท้าเองได้ ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจของคุณครูอนุบาลได้เหมือนกันค่ะ

เหตุการณ์ความประทับใจที่คุณเอสมีต่อเด็กนักเรียน

คุณเอส : เรื่องราวความประทับใจระหว่างเอสกับเด็กในชั้นเรียน จริง ๆ มีเกือบทุกวันนะคะ (ยิ้ม) เพราะว่าเด็กอนุบาลเขาจะแสดงความรักเก่ง อย่างเช่นมาบอกรักคุณครู หรือบางทีเขาก็จะมีการ์ดเล็ก ๆ มาให้ เวลาที่เขาไปเที่ยวต่างจังหวัด เขาก็จะมีการเขียนจดหมายมาหาคุณครู แม้แต่เขาเลื่อนชั้นเรียนไปประถม 1 ประถม 2 แล้ว เขาก็ยังกลับมาหาแวะมาสวัสดีคุณครู ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เอสประทับใจในเด็ก ๆ ค่ะ

รายได้ของครูอนุบาลเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ หรือไม่

คุณเอส : จริง ๆ เรื่องรายได้ก็ค่อนข้างพอเพียงค่ะ ถึงแม้ว่าคุณครูอาจจะต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่ง ไปใช้สำหรับการซื้อสื่อการเรียนการสอนหรือจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ว่าถ้าเกิดมีการจัดสรรการใช้จ่ายที่ดี โดยอาจจะใช้สื่อที่รีไซเคิลได้ ก็จะช่วยให้เราประหยัดเงินตรงนี้ไปได้ และก็สามารถเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพเราเองในแต่ละเดือนได้ด้วยค่ะ

คุณเอสมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ที่คุณพ่อคุณแม่บางคน เริ่มให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่อนุบาล เพื่อเตรียมสอบเข้า ป.1

คุณเอส : ตรงนี้เอสอยากจะฝากถึงคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันค่ะ ว่าจริง ๆ วัยเด็กอนุบาลเขาเป็นวัยที่ควรจะได้วิ่งเล่น ได้ทำกิจกรรมเยอะ ๆ ถ้าเกิดเขาเอาเวลาทั้งหมดของช่วงวัยเขาไป เรียน เขียน อ่าน อย่างเดียว เขาก็อาจจะเกิดความเบื่อหน่าย หรือมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียนไปเลยก็ได้ ฉะนั้นในช่วงวัยที่เขาจะสามารถพัฒนาทักษะความสามารถต่าง ๆ มันก็จะหมดไป ดังนั้นทางที่ดีเอสคิดว่าน่าจะเป็นช่วงที่เราควรปล่อยให้เขาได้เล่นมากกว่า แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากจะเพิ่มเติมทักษะวิชาให้กับลูกตั้งแต่เด็ก ก็ต้องค่อย ๆ บูรณาการผ่านการเล่นไปแบบนี้น่าจะดีกว่าค่ะ

ฝากถึงคนที่อยากจะมาเป็นครูอนุบาล และคนที่กำลังประกอบอาชีพครูอยู่

คุณเอส : สำหรับคนที่อยากจะมาเป็นคุณครูอนุบาลนะคะ อย่างแรกเลยควรถามตัวเองก่อนว่ามีใจรักเด็กหรือเปล่า เราควรมาทำงานตรงนี้ไหม หากมีใจรักแล้วก็อยากจะสอนเด็กจริง ๆ ก็สามารถมาเป็นครูอนุบาลได้ค่ะ เอสอยากให้มองว่าการมาเป็นครูอนุบาลเป็นเหมือนกำไรชีวิตเล็ก ๆ ให้กับเรา เพราะว่าเราสามารถพัฒนาคน ๆ หนึ่งให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีอนาคต มีความรู้ความสามารถได้ ส่วนคนที่กำลังเรียนสายวิชาชีพครูอยู่หรือคนที่กำลังเป็นคุณครูอยู่ เอสก็อยากฝากให้กำลังใจนะคะ ถึงแม้ว่าบางทีที่เราอาจจะมีปัญหาเรื่องของตัวเด็กเอง เรื่องของผู้ปกครอง หรือภาระงานต่าง ๆ ก็อยากจะให้คิดว่างานตรงนี้เป็นเหมือนคล้ายกับว่าเราทำบุญสร้างคน เพราะฉะนั้นก็อยากให้คุณครูทุกคนสู้ ๆ นะคะ (ยิ้ม)

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้