แนวทางสอบสัมภาษณ์ from ประพันธ์ เวารัมย์ แบ่งปันความรู้ส่ความก้าวหน้า
ปรากฏในหนังสือพิมพ์รายงานประจำปีความเห็นของคนที่อยู่ในสาขางานนั้นๆรวมทั้งคู่แข่งด้วย และในปัจจุบันนี้ ยิ่งสะดวกง่ายดายขึ้นโดยการค้นหาจากเว็บไซต์ของหน่วยงาน หรือหน่วยงานนั้นๆ
4. การเตรียมพูดถึงความสามารถของผู้สมัคร
ตอบ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่ผู้สมัครต้องทำ โดยอาจจะทำการ์ดขนาด 3" x 5" ด้านหนึ่งให้เขียน
สิ่งที่ผู้สมัครต้องการให้ผู้สัมภาษณ์รู้เกี่ยวกับตัวผู้สมัคร 5 อย่าง อีกด้านหนึงให้จดคำถามที่ผู้สมัครต้องการถามผู้สัมภาษณ์ในระหว่างการสัมภาษณ์เอาไว ◌้5 ค ◌ำถาม เอาไว้ให้พร้อม และซ้อมถาม ซ้อมตอบคำถามต่าง ๆ ทั้ง10 ข้อนี้ ให้คล่องแคล่ว ให้บิดามารดาหรือคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทฟังการถาม-ตอบ ของผู้สมัครและแก้ไขตามที่เขาวิจารณ์
5. หัวข้อประเมินผู้เข้าสัมภาษณ์
ตอบ 1. สุขภาพและสภาพร่างกาย ดูจากความแข็งแรง สภาพร่างกายที่ปรากฏ กริยา ท่าทาง
ความสามารถในการฟัง สายตา การแต่งกาย นํ้าเสียง ฯลฯ แต่มิใช่ว่าจะสำคัญไปหมดทุก ๆ อย่าง
ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งงานที่เปิดรับ ว่าต้องการคุณลักษณะทางกายเป็นพิเศษอย่างไรบ้าง
2. ความสำเร็จดูจากผลการศึกษาและประสบการณ์ที่ผ่านมา เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
3. ความฉลาดและไหวพริบ เป็นสิ่งที่ดูกันยาก อาจใช้ทดสอบเชาว์ปัญญา แต่ส่วนใหญ่แล้ว
จะดูจากความสามารถเข้าใจการเรียนรูสิ่งใหม่ๆ ได้และแนวโน้มเรียนรู้งานว่าเร็วหรือช้าเพียงใด
4. ความถนัด ดูจากความสามารถที่จะพัฒนาทักษะทางด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงาน เช่น การ
ใช้เครื่องมือเครื่องกลในการทำงาน การคำนวณ ฯลฯ
คลังแนวข้อสอบเก่าจากรุ่นพี่อีกมากมาย และตัวอย่างแนวข้อสอบจากสนามสอบจริง
คลิ๊กอ่านได้ที่นี่
5. ความสนใจดูจากประสบการณ์และทักษะที่ผู้สมัครมีผู้สมัครอาจรู้สึกว่าความสนใจของตนไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ผู้สัมภาษณ์กลับสนใจที่จะถามสิ่งนั้นด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น ต้องการดูว่ามีทักษะที่จะเป็นประโยชน์กับงานหรือเปล่า ยกตัวอย่างหากผู้สมัครเคยสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนักศึกษามีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินให้สโมสรนักศึกษาก็อาจทำงานเกี่ยวกับงานพัสดุหรือทำบัญชีได้ดี
เป็นต้น
6. กิจกรรมในยามว่าง ดูจากวิธีการหาความสมดุลในชีวิตประจำวัน เช่น การกีฬา และงานอดิเรกว่ามีผลต่องานเพียงใด เช่น หากผู้สมัครเป็นนักกีฬาทีมชาติต้องไปฝึกซ้อมบ่อย ๆ แต่งานที่ ผู้สมัครไว้ไม่เกี่ยวข้องกับงานกีฬาก็เป็นเรื่องที่ผู้สัมภาษณ์ต้องคิด
7. เหตุการณ์สำคัญในชีวิต เป็นเรื่องยากเรื่องหนึ่งที่จะใช้วัดคน แต่ก็เป็นประโยชน์แก่ผู้
สัมภาษณ์มากทีเดียว เช่น ผู้สมัครอาจเคยทำความสำเร็จความล้มเหลวปัญหาที เคยประสบหรือ
เหตุการณ์ที่สำคัญในชีวิต สิ่งเหลานี้อาจมีผลเกี่ยวโยงต่องานที่จะให้ผู้สมัครรับผิดชอบด้วย
นอกจากนี้แล้วผู้สัมภาษณ์จะพิจารณา อายุ แหล่งที่อยู่ สภาพครอบครัว สิ่งแวดล้อมรอบ ๆตัว อารมณ์ความเครียดและความก้าวร้าว ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าผู้สมัครสามารถทำงานกับผู้อื่น ได้ดีหรือไม่เพียงใดมาเป็นเครื่องพิจารณาด้วย อาจจะไม่มีคำถามเฉพาะในเรื่องนี้ แต่ผู้สัมภาษณ์อาจวัดความเหมาะสมได้จากสิ่งอื่นๆ ที่ผู้ตอบแสดงออกมาประกอบด้วย
6. การปฏิบัติตัวหน้าห้องสอบ
ตอบ การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญ ต้องแน่ใจว่าท่านถึงห้องสอบทันเวลา หากมาให้ทันเวลาไม่ได้ให้โทรศัพท์แจ้งผู้สัมภาษณ์โดยด่วน อธิบายเพียงสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้น จะสายไปนานเท่าไรขณะที ผู้สมัครนั่ง คอยเจ้าหน้าที่เรียกตัวเข้าสอบ ให้มองดูรอบๆ ตัวอาจได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานได้มากขึ้น เช่น บรรยากาศในการทำงาน ระเบียบวินัยการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น อย่าพยายามชวนเจ้าหน้าที่หรือเลขานุการ หรือใครต่อใครในสำนักงานคุยนานเกินไป เขาอาจไม่มีเวลาว่างและรู้สึกรำคาญ อย่าตื้อสอบถามเกี่ยวกับตัวผู้สัมภาษณ์ สิ่งที่ผู้สมัครทำไปอาจถูกรายงาน
เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
ให้ผู้สัมภาษณ์ทราบ ควรสุภาพอ่อนน้อมต่อทุก ๆ คนที่พบ พนักงานท่าทางใจดีที่เจอในลิฟท์และช่วยกดลิฟท์ให้ท่านอาจเป็นประธานหน่วยงาน แทนที่จะเป็นพนักงานประจำลิฟท์ก็ได้
หากผู้สมัครสมัครงานทางจดหมาย ในวันนัดสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่อาจยื่นใบสมัครให้กรอกใหม่ กรณีเช่นนี้ ถ้าผู้สมัครได้เตรียมสาระสำคัญที่ต้องกรอกใบสมัครเอาไว้ก่อนล่วงหน้าตามที่ได้ทำแบบฝึกหัดเอาไว้แล้ว จะทำให้ผู้สมัครกรอกได้ง่ายและไม่เสียเวลา และเป็นภาพที่ดีตัวผู้สมัครเองด้วย
7. ภาษากายในการสอบสัมภาษณ์
ตอบ ภาษากายมีความสำคัญในการสอบสัมภาษณ์มากในปัจจุบันหลักสูตรการฝึกอบรมด้านการ
บริหารและการสัมภาษณ์มักบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับ "ภาษากาย" และการแปลความหมายเอาไว้ด้วย ฉะนั้น
1. ผู้เข้าสอบสัมภาษณ์อย่าพูด โกหก หรือเสแสร้งใดๆ
2.ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็นผู้สมัครมีความเชื่อมั่น เพราะผู้มีความเชื่อ มั่นย่อมตอบคำถามและให้ข้อมูลแก่ผู้สัมภาษณ์ด้วยการแสดงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และโต้ตอบปัญหาต่างๆ วิธีลดความตื่นเต้นและสร้างความเชื่อมั่น คือหาความรู้เกี่ยวกับคนในหน่วยงานนั้นและซ้อมการถามตอบสัมภาษณ์กับ เพื่อนสนิท ถ้าไม่สามารถหาเพื่อนมาช่วยได ◌้ ให้ใช้เทปอัดเสียงพูดของผู้สมัคร อย่าหยุดแม้จะพูดได้ไม่ดี อย่าลบเทปทิ้ง แล้วอัดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะฟังแล้วไม่ชอบใจ แต่ให้ฟังเหมือนกับว่าผู้สมัครฟังเสียงใครอยู่ก็ไม่รู้ ลองวิจารณ์ว่าเสียงน่าสนใจและเชื่อได้หรือไม่ ให้ฝึกจนกว่าจะพอใจ และไม่ว่าจะฝึกกับเพื่อน หรือฝึกกับเทป อย่าใช้บทพูด คนเราไม่จำเป็นต้องพูด เหมือนกันทุกครั้ง ทุกครั้งที่ท่านพยายามพูดเหมือนเดิมแต่ใช้คำพูดแตกต่างออกไปจะทำให้ผู้สมัครเพิ่มความมั่นใจขึ้น
3. การแต่งกายในวันสอบสัมภาษณ์ เสื้อผ้าที่ใช้แต่งในการเข้าสัมภาษณ์ควรเป็นชุดที่สุภาพสะอาด ดูว่าผู้สมัครให้ความเอาใจใส่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งรูปแบบและสีสันควรเข้ากันได้กับวัฒนธรรมการแต่งกายของพนักงานในหน่วยงานทีท่านเข้ารับการคัดเลือก
4. ยกมอืไหว้ทักทาย ถ้าผู้สัมภาษณ์จับมือ ให้จับอย่างกระชับอย่างจับนานเกินไป ขณะจับมือให้มองหน้าและยิ้มให้ ก่อนอื่นผู้สมัครต้องให้เวลากับตัวเองที่จะทำให้ตัวให้สบาย การมองรอบๆ ห้องจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง สบตากับผู้สัมภาษณ์หายใจลึกๆ เว้นระยะ และเตรียมพร้อมที่จะฟังผู้สัมภาษณ์
5. ท่าทางการนั่งในขณะสอบสัมภาษณ์ให้นั่งสบาย ๆ ไม่ยื่นตัว ไม่คํ้าโต๊ะ นั่งมั่นคง ก้นชิดหนัก วางแขนไว้ข้างลำตัว อย่านั่งแบบพักผ่อน วางศีรษะนิ่ง อย่าหลบตา แต่อย่าถึงกับจ้องเขม็งขณะผู้สัมภาษณ์พูดให้มองผู้พูดขณะตอบ ให้กวาดสายตามองกรรมการสอบทุก ๆ คน เปิดติวออนไลน์และติวทางไปรษณีย์ รายละเอียดที่ www.งานราชการไทย.com
6. ขณะตอบให้สังเกตว่าผู้สัมภาษณ์สนใจฟังผู้สมัครหรือไม่ ถ้าไม่ฟังให้เปลี่ยนจังหวะการพูด คำแนะนำให้ใช้โดยความระมัดระวั ง ถ้าตอบไปแล้วผู้สัมภาษณ์มีท่าทางสงสัย ให้พิจารณาดูว่าผู้สมัครได้พูดอะะไรไป และเรียนถามผู้สัมภาษณ์ว่าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก
8. เทคนิคในการพูด
ตอบ 1. พูดช้าๆอย่าเอามือป้องปากขณะพูด
2. อย่ากังวลกับการออกเสียงตะกุกตะกักของตัวเอง
3. ตอบง่ายๆ อย่ายาวมาก พูดเนื้อหาสำคัญๆ ควรอ้างข้อมูลที่ตนเองเคยประสบมาสนับสนุนคำตอบ
4. ในตอนแรกๆ ให้พูดช้าๆ ระมัดระวั ง จนกว่าได้ผ่อนคลายเต็มที่แล้วจึงพูดจาโต้ตอบไปตามธรรมชาติ
5. พูดให้มีระดับเสียงสูงตํ่า เน้นความหนักเบาให้มีชีวิตชีวา หรือคอยสังเกตผู้สัมภาษณ์ถ้าเขามีที่ท่าเห็นคล้อยตาม เช่น พยักหน้าให้เปลี่ยนนํ้าเสียง เน้นความสนใจของเขาอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่เช่นนั้นก็ให้เว้นระยะหนึ่งก่อนพูดต่อ
6. ใช้เวลาในการคิดหาคำตอบแต่อย่านานจนกรรมการทนรอฟังไม่ได้จนต้องพูดแทรกขึ้น
7. อย่าพูดเร็วผู้สัมภาษณ์จะเกิดความรำคาญ และเป็นผลเสียต่อเราเอง เพราะการพูดเร็วขาดการควบคุม อาจทำให้พูดเปิดเผยมากกว่าที่ตั้งใจพูด
8.ระมัดระวังในการพูด ถึงงานอดิเรกหรืองานพิเศษของผู้สมัคร อย่าให้ผู้ฟังเข้าใจว่าผู้สมัครสนใจงานอดิเรก สนใจรายได้พิเศษมาก จนอาจใช้เวลาทำงานไปสนใจกับงานเหล่านั้น จนงานในหน้าที่ต้องเสียหาย
9. ในการตอบคำถามแต่ละครั้งควรมีความยาวอยู่ในระหว่าง 20 วินาที ถึง 2 นาที
9. ก่อนที่จะสิ้นสุดการสอบสัมภาษณ์
ผู้สมัครสามารถจะแสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่างในขณะที่ ผู้สอบสัมภาษณ์กำลังจะแสดงสัญญาณบางอย่างออกมา ที่มีความหมายถึงการสิ้นสุดการสอบสัมภาษณ์ได้แต่ห้ามแสดความรู้สึกในเชิงต่อต้านออกไป ผู้สมัครจะต้องมีเทคนิคและความรู้สึกที่ดีในการรู้เวลาว่า กาสอบสัมภาษณ์ได้หมดเวลาลงแล้ว ผู้สอบสัมภาษณ์อาจจะนัดหมายกำหนดการสอบสัมภาษณ์อีกครังหนึ่งก็ได้ หรืออาจจะให้ข้อมูลว่าขั้นตอนต่อจากการสอบสัมภาษณ์ จะเป็นขั้นตอนอย่างไรและขั้นตอนต่อไปนั้น ผู้สมัครจะต้องใช้เวลานานเท่าไร