เสนอมหาเถรสมาคม ออกกฎเหล็ก 6 ข้อ คุมพระสงฆ์กรณีบิณฑบาตไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย โดยกำหนดการออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ ไม่ควรเกิน 8 โมงเช้า ห้ามยืน-นั่งรับบาตร-นั่งในรถ ตามร้านขายอาหาร หรือเดินไปตามสถานที่ต่างๆ ห้ามสวดบทกรวดน้ำ
วันนี้ (7 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขอนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.)
หนังสือระบุว่า ตามที่ มีข้อร้องเรียนผ่นทางระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ชาติ (พศ.)
กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับวัดช้าเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณทบาต บริเวณหน้าร้านค้าตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมให้ร้านจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ
เมื่อบิณทบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตร และผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเน้นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว และลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าว เสนอคณะกรรมการมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้
- การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณร จะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น.
- การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ ตามร้านขายอาหาร หรือบิณทบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณทบาตแห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ
- การบิณทบาต ด้วยการนั่งรับบาตร หรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ
- สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร พระภิกษุไม่ควรเข้าไปบิณทบาต
- การบิณฑบาตไม่ควรสูบบุหรี่ สวมรองเท้า พูดคุยกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น ถ่ายเทอาหาร หรือทิ้งดอกไม้ให้กับเจ้าของร้านอาหาร หรือแย่งกันรับของปัจจัย
- เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้ว ไม่ควรยถา...สัพพี
ทั้งนี้ ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในทุกระดับ ตลอดจนพระวินยาธิการ คอยตรวจตรา สอดส่องดูแล พระภิกษุสามณรในการบิณบาตให้เป็นไปตามหลักพระรรรมวินัย โดยยึดหลักเสขิยวัตรเป็นเกณฑ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวบ้านจ.อ่างทองร้องพบ"พระสงฆ์"ทำผิดวินัย ขณะบิณฑบาต
รัฐบาลจ่อเยียวยาพระสงฆ์ รูปละ 60 บาทต่อวัน กว่า 2 แสนรูป
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เสขิยวัตร เป็นส่วนหนึ่งของวินัยบัญญัติของภิกษุ (ศีล 227 ข้อ) กล่าวคือ วัตรที่ภิกษุจะต้องศึกษา จัดเป็น 4 หมวด ได้แก่
- สารูป(ว่าด้วยความเหมาะสมแก่สมณเพศในการประพฤติปฏิบัติต่อชุมชน) มี 26 ข้อ
- โภชนปฏิสังยุต(ว่าด้วยการฉันอาหาร) มี 30 ข้อ
- ธัมมเทสนาปฏิสังยุต(ว่าด้วยการแสดงธรรม) มี 16 ข้อ
- ปกิณณกะ(เป็นหมวดเบ็ดเตล็ด) มี 3 ข้อ
ตัวอย่างที่พบได้ทั่วไป เช่น ภิกษุจะไม่ยืนถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ, ภิกษุจะไม่ยืนดื่มน้ำ เป็นต้น
อ้างอิง[แก้]
- สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส นวโกวาท (หลักสูตรนักธรรมชั้นตรี) 80/2550 (50/2493)
ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ นักธรรมชั้นตรี
สอบในสนามหลวง
วันเสาร์ ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
๑. พระวินัย คืออะไร ? ภิกษุรักษาพระวินัยแล้ว ย่อมได้อานิสงส์อะไร ?
เฉลย คือพระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร ฯ ได้อานิสงส์ คือไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับ ความแช่มชื่นว่า ได้ประพฤติดีงาม จะเข้าหมู่ภิกษุผู้มีศีลก็องอาจไม่สะทกสะท้าน ฯ
๒. ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตเรียกว่าอะไร ? มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
เฉลย เรียกว่า นิสสัย ฯ มี ๔ อย่าง ฯ คือ
๑. เที่ยวบิณฑบาต ๒. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล
๓. อยู่โคนต้นไม้ ๔. ฉันยาดองด้วยน้ามูตรเน่า ฯ
๓. สิกขาบทที่มาในพระปาติโมกข์มีเท่าไร ? สิกขาบทว่าด้วยปาราชิกมีอะไรบ้าง ?
เฉลย มี ๒๒๗ สิกขาบท ฯ มี
๑. เสพเมถุน
๒. ภิกษุถือเอาของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ได้ราคา ๕ มาสก
๓. ภิกษุแกล้งฆ่ามนุษย์ให้ตาย
๔. ภิกษุอวดอุตตริมนุสสธรรม (คือธรรมอันยิ่งของมนุษย์) ที่ไม่มีในตน ฯ
๔. ในอทินนาทานสิกขาบท กำหนดราคาทรัพย์ เป็นวัตถุแห่งอาบัติไว้อย่างไรบ้าง ?
เฉลย ทรัพย์มีราคาตั้งแต่ ๕ มาสก ขึ้นไป เป็นวัตถุแห่งอาบัติปาราชิก
ทรัพย์มีราคาต่ำกว่า ๕ มาสก แต่สูงกว่า ๑ มาสก เป็นวัตถุแห่งอาบัติถุลลัจจัย
ทรัพย์มีราคาตั้งแต่ ๑ มาสก ลงไป เป็นวัตถุแห่งอาบัติทุกกฏ ฯ
๕. ภิกษุโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิกอย่างไร ภิกษุผู้โจทจึงต้องอาบัติสังฆาทิเสส ?
เฉลย ภิกษุโกรธเคือง แกล้งโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล และภิกษุโกรธเคือง แกล้งหาเลสโจทภิกษุอื่นด้วยอาบัติปาราชิก ฯ
๖. ภิกษุประพฤติอย่างไร ชื่อว่าประทุษร้ายตระกูล ?
เฉลย ประจบคฤหัสถ์ ฯ
๗. พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ภิกษุขอจีวรต่อคฤหัสถ์ผู้ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ปวารณา ได้ในสมัย ใดบ้าง ?
เฉลย ในสมัยที่ภิกษุมีจีวรอันโจรลักไป หรือมีจีวรอันฉิบหายเสีย ฯ
๘. ภิกษุนำเก้าอี้ของสงฆ์ไปใช้ในที่แจ้ง เมื่อหลีกไปจากที่นั้น พึงปฏิบัติอย่างไร ? ถ้าไม่ปฏิบัติ อย่างนั้น ต้องอาบัติอะไร ?
เฉลย พึงเก็บเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นเก็บ หรือมอบหมายแก่ผู้อื่น ฯ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ
๙. ในการรับบิณฑบาต ภิกษุพึงปฏิบัติอย่างไรจึงถูกต้องตามเสขิยวัตร ? จงตอบมาเพียง ๒ ข้อ
เฉลย รับโดยเคารพ แลดูแต่ในบาตร รับแกงพอสมควรแก่ข้าวสุก รับแต่พอเสมอขอบ ปากบาตร ฯ (เลือกตอบเพียง ๒ ข้อ)
๑๐. การเถียงกันด้วยเรื่องอะไรจึงจัดเป็นวิวาทาธิกรณ์ ?
เฉลย การเถียงกันว่า สิ่งนั้นเป็นธรรมเป็นวินัย สิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย ฯ