Balance การทรงตัว หมายถึง ความสามารถในการควบคุมร่างกายให้อยู่ในแนวตั้งตรง และการทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย (center of gravity) อยู่ภายในฐานรองรับ (base of support)
หลักการสำคัญ ความสมดุลในการทรงตัวของร่างกายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน การทรงตัวต้องอาศัยการประสานงานระหว่างสมอง ระบบหูชั้นใน การมองเห็น และการรับรู้ของข้อต่อและกล้ามเนื้อ
ระบบการมองเห็น การรับความรู้สึก
และการทรงตัวของหูชั้นในจะถ่ายทอดข้อมูลของท่วงท่าและการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของศีรษะ สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ระบบประสาทและกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ จะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวตอบสนองต่อระบบรับความรู้สึกของร่างกายและการเปลี่ยนท่วงท่าต่างๆ
การทรงตัวมี 2 ลักษณะ คือ
1. การทรงตัวอยู่กับที่ (Static balance) เช่น ยืนขาเดียว
2. การทรงตัวในขณะเคลื่อนที่ (Dynamic balance) เช่น เดินบนราว
ความสัมพันธ์ระหว่างระบบต่างๆที่ใช้ควบคุมการทรงตัว
จุดประสงค์และ ประโยชน์
· การฝึกสร้างความสมดุลในการทรงตัวจะช่วยลดปัญหาและป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุได้ หรือขณะที่ยังวัยกลางคนจะเดินมั่นคงขึ้น ไม่ข้อเท้าพลิกง่ายๆ
· เสริมสร้าง Joint Stability
· เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ภายหลัง ankle injury or knee injury
· ผู้ป่วย ที่มีอาการ Neurological conditions (stroke, traumatic brain injuries) ควรฝึก
· ผู้ป่วย ที่มีอาการ Orthopedic injuries, especially ankle sprains/strains ควรฝึก
· ป้องกันการบาดเจ็บ
· เพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของร่างกาย
การฝึกการทรงตัว
เป็นการฝึกเพื่อให้ระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อทำงานสัมพันธ์กัน ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล มีการทำงานประสานกันระหว่างตา มือ เท้า และการเคลื่อนไหวสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี
หลักและวิธีการฝึกการทรงตัวมีดังนี้
- ยืนจับขาซ้าย ย่อเข่าขวาลงแตะพื้น กระทำ 3 - 5 ครั้ง แล้วหยุดพัก 1 นาที และทำต่อไปอีก 3 เที่ยว
- กระโดดเปลี่ยนเท้า เท้าขวากระโดด เท้าซ้ายงอ สลับกับเท้าซ้ายกระโดด เท้าขวางอ กระทำ 10 ก้าว แล้วกระโดดถอยหลังสลับเท้าเช่นเดียวกัน อีก 10 ก้าว
- นั่งขาฉาก โดยยกขาข้างหนึ่งตั้งฉากเหยียดตรงไปข้างหน้า กางแขนไปข้างๆ ย่อเข่าลงแล้วยืนขึ้นกลับสู่ท่าเดิม กระทำ 3 - 5 ครั้ง
- กระโดดหมุนตัวครึ่งรอบ สลับซ้าย - ขวา
- กระโดดหมุนตัว 1 รอบ สลับซ้าย - ขวา
ที่มาของข้อมูล //tonsakda_ss.igetweb.com/articles/479710/
ที่มาของรูปภาพ //women.thaiza.com/
5 กีฬายอดฮิต ช่วยให้ลูกร่างกายแข็งแรง
หากพูดถึงกระแสของการแข่งขันกีฬาในช่วงนี้ ก็จะคงต้องนึกถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่เพิ่งจบไปนะคะ และในโอลิมปิกเกมส์ ก็มีกีฬาหลากหลายประเภท ที่แอดมินคิดว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะส่งเสริมให้ลูกเห็นความสำคัญ และหันมาเล่น เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น กีฬาทั้ง 5 ประเภทน่าสนใจอย่างไร ไปดูกันค่ะ :)
1.กรีฑา หรือ การวิ่ง >> กีฬาที่ลูกจะได้ใช้ทุกส่วนของร่างกาย จึงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้การวิ่งยังช่วยฝึกการทำงานของปอด ระบบทางเดินหายใจ ช่วยผ่อนคลายความเครียดให้ลูกได้
วันหยุดสุดสัปดาห์คุณพ่อคุณแม่ก็ลองชวนลูกไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะดูนะคะ หรือจะชวนลูกเข้าร่วมงานวิ่งการกุศล ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะลูกจะได้ทั้งสุขภาพที่แข็งแรง และยังรู้จักการแบ่งปันอีกด้วยค่ะ
2.ฟุตบอล >> กีฬายอดฮิตที่เด็กทุกวัยชื่นชอบ สร้างความสนุกสนาน ฝึกความสามัคคีในการเล่นเป็นทีม การเล่นฟุตบอลจะช่วยให้เด็กๆ ได้ขยับทุกส่วนของร่างกายจากการวิ่งเลี้ยงลูกบอล ช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง สร้างความมุ่งมั่น จากการที่ต้องทำประตูให้สำเร็จ
และต้องประสานงานกันเป็นทีมอีกด้วย ถ้าลูกชอบและสนุกกับการเล่นฟุตบอล คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกรัก มุ่งมั่นไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคตได้นะคะ
3.เทควันโด >>กีฬาที่พัฒนามาจากศิลปะการต่อสู้ที่เน้นใช้มือและเท้า มีการกระโดดและการหมุนตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยสร้างความแข็งแรง ฝึกสมาธิและสติ ซึ่งเทควันโดยังเป็นกีฬาที่นักกีฬาทีมชาติไทยคว้าเหรียญจากโอลิมปิก 2016 มาได้ด้วยนะคะ
ดังนั้นจึงเป็นกีฬาอีกประเภทที่น่าส่งเสริมให้ลูกฝึกฝนเพื่ออาชีพในอนาคตเช่นกัน
4.ยิงธนู >> กีฬายิงธนูเป็นกีฬาที่ช่วยสร้างสมาธิ ความสง่างาม และบุคลิกภาพที่ดีให้กับลูกรักได้ เพราะขณะเล่นต้องจดจ่ออยู่ที่เป้าหมายอย่างมุ่งมั่น ช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่หัวไหล่ แขน และยังช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น เพราะลูกจะได้ฝึกกำหนดลมหายใจ ดังนั้นการส่งเสริมให้ลูกได้ฝึกกีฬายิงธนู และเข้าแข่งขันอย่างจริงจังก็นับเป็นความคิดที่ดีค่ะ
5.ยิมนาสติก >> กีฬาที่ฝึกความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และฝึกสมาธิไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยิมนาสติกยังช่วยให้ลูกได้พัฒนาบุคลิกภาพ และรูปร่างที่สวยงาม เพราะยิมนาสติกจะมีการฝึกทั้งความอ่อนช้อยของท่าทาง ความสง่างามของท่วงท่า และความแข็งแกร่งในการทรงตัว นับว่าเป็นกีฬาที่น่าสนใจสำหรับเด็กผู้หญิงอีกชนิดหนึ่งเลยค่ะ
กีฬาทั้ง 5 ประเภทที่แอดมินนำมาฝากคุณพ่อคุณแม่นั้น นอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพของลูกรักแล้ว ถ้าลูกสนุกและมีความสุขกับการเล่นกีฬาทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุน และส่งเสริมให้ลูกรักต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในอนาคตได้อีกด้วยนะคะ