มีเงิน 1000 ลงทุนอะไรดี 2565

ลงทุนใน “หุ้น” ได้มั้ย ถ้ามีเงินแค่ 1,000 บาท ?

เป็นคำถามที่พี่ทุยเจอมากที่สุด สำหรับคนที่เริ่มต้นวางแผนการเงินหรือเริ่มต้นลงทุน พี่ทุยตอบตรงนี้เลยว่าได้แน่นอน แต่ถ้าเงินลงทุนเรายังไม่มาก พี่ทุยจะไม่ค่อยแนะนำให้ไปซื้อหุ้นเป็นรายตัวสักเท่าไหร่ เหตุผลก็เพราะว่าเมื่อเรามีเงินลงทุนน้อยจะลงทุนหุ้นได้แค่ไม่กี่ตัวหรืออาจจะได้เพียงแค่ 1 ตัวเท่านั้น

ความเสี่ยงของการซื้อ “หุ้น” ด้วยเงิน 1,000 บาท

อย่างที่เรารู้กันว่าเวลาที่ซื้อหุ้นรายตัวนั้น เราจะต้องซื้อทีละ 100 หุ้นเป็นอย่างน้อย แปลว่าเราจะซื้อหุ้นได้น้อยตัวมาก ๆ ยิ่งเราลงทุนหุ้นน้อยตัวมากเท่าไหร่พอร์ตเราก็จะยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น

ดังนั้นส่วนใหญ่พี่ทุยเลยแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมซะมากกว่า เพราะเงิน 1,000 บาทเราซื้อกองทุนรวม กองทุนรวมจะเอาเงินไปเฉลี่ยหุ้นหลาย ๆ ตัวได้ ลองนึกถึงภาพเงิน 1,000 บาท 1,000 คน ก็เป็นเงิน 1,000,000 บาทแล้ว เงินล้านก็ซื้อหุ้นกระจายได้สบายๆอยู่แล้ว

ออม “หุ้น” คืออะไร ?

หรือถ้าใครรู้สึกว่าไม่อยากซื้อกองทุนรวม จริง ๆ บางบลจ. ตอนนี้ก็มีบริการ “ออมหุ้น” อยู่เหมือนกันนะ คือการที่เราเอาเงินออมเข้าไปในบัญชีเดือนละเท่า ๆ กัน แล้วเราก็เลือกหุ้นสัก 5-10 ตัว บลจ.ก็จะเอาเงินไปซื้อเฉลี่ยหุ้นตามที่เราเลือกไว้ก็สามารถทำเช่นกัน แบบนี้เราก็จะได้เลือกหุ้นที่อยากลงทุนเองแค่ใช้เงินน้อยกว่า แล้วยังได้กระจายความเสี่ยงอีกด้วย

สุดท้ายการลงทุนก็มีคำว่าทุนอยู่ด้านท้าย นั่นแปลว่าถ้าเราอยากให้ผลตอบแทนงอกเงยหรือเห็นเงินเป็นกอบเป็นกำ การที่เราลงทุนไปเรื่อยๆทำให้เงินต้นหรือทุนที่เราใส่ลงไปในพอร์ตเพิ่มขึ้นก็จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้น คนที่ใส่เงินต้นมากกว่าก็จะมีโอกาสได้เห็นเงินเป็นกอบเป็นกำมากกว่า

รู้จักกับ DCA

แต่การลงทุนไม่ได้จำเป็นต้องลงทุนแบบก้อนเดียวเท่านั้น เราทยอยเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปในพอร์ตของเราเรื่อย ๆ ก็ทำได้หรือเรียกว่าวิธีการลงทุนว่า DCA (Dollar Cost Averaging)  ก็คือการที่เราทยอยลงทุนเท่ากันไปเรื่อย ๆ ทุกเดือนเนี้ยแหละ ก็เป็นวิธีการลงทุนรูปแบบนึงเช่นกัน

เพราะลองมาคำนวณดูว่าถ้าเราลงทุนเดือนละ 1,000 บาทไปเรื่อย ๆ สมมติว่าได้ผลตอบแทนปีละ 8% ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แล้วใช้เวลา 20 ปี ในการลงทุนไปเรื่อยสุดท้ายพอปลายปีที่ 20 เงินในพอร์ตเราก็จะมีทั้งหมด 592,947 บาทเลยทีเดียว จากเงินต้นที่เราทยอยใส่ไปเรื่อยๆรวม 240,000 บาท

ปัญหาของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องมีเงินน้อยเลยไม่ลงทุน แต่ปัญหาก็คือไม่รู้จักเริ่มต้นลงทุนต่างหาก

ที่พี่ทุยว่าเป็นปัญหายิ่งว่าเรื่องของการที่เราไม่มีเงิน แล้วถ้าใครรู้สึกว่าไม่ชอบหุ้น พี่ทุยว่าโลกเราก็มีการลงทุนที่หลากหลายมากกว่าหุ้นอยู่เยอะเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือถ้าใครรู้ว่าลงทุนผ่านสินค้าทางการเงินไม่น่าสนใจ ชอบทำธุรกิจพี่ทุยว่าก็ไม่เลวเหมือนกันนะ สำหรับพี่ทุยการลงทุนทำธุรกิจตัวเองก็เป็นวิธีที่ทำให้เงินเรางอกเงยเช่นกัน แต่ความเสี่ยงในการลงทุนก็จะแตกต่างไป

เพราะถ้าเราไม่รู้จักวางให้เงินทำงาน เราก็จะต้องทำงานไปตลอดเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าร่างกายคนเรามีขีดจำกัด ทำงานตลอดชีวิตจนแก่ตายไม่ได้ ณ วันนึงที่ร่างกายเราเสื่อมถอยทำงานสู้คนรุ่นใหม่ไม่ได้ วันนั้นเราก็ต้องเกษียณตัวเองออกอยู่ดี

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

1. ร้านลูกชิ้นทอดหรือลูกชิ้นปิ้ง

    เริ่มต้นธุรกิจได้ด้วยเงินทุนไม่ถึง 3,000 บาทกับการลงทุนเปิดร้านลูกชิ้นทอดหรือ ลูกชิ้นอร่อยรสเด็ด อุปกรณ์ก็อาจจะเริ่มจากหม้อทอดในบ้าน หรือเตาถ่าน เตรียมโต๊ะ เตรียมป้ายบอกราคา และถุงพลาสติกใส่ลูกชิ้น พร้อมกับผักสดกับแกล้ม

เราลงทุนซื้อลูกชิ้น 1,500 บาท เสียบไม้ละ 4-5 ลูก (ค่าประมาณคร่าว ๆ นะครับ สามารถเฉลี่ยตามต้นทุนที่เราซื้อลูกชิ้นได้จ้า) เตรียมน้ำจิ้มใส่ลูกชิ้น 200 บาท รวมจ่ายเบ็ดเสร็จไม่น่าจะเกิน 2,500 บาท ตั้งราคาขายไม้ละ 5-25 บาท (ตามประเภทของลูกชิ้นที่เราซื้อมา)

ถ้าทำเลดีมีผู้คนพลุกพล่าน เช่น หน้าโรงเรียน โรงงาน ขยันขายทุกวัน น้ำจิ้มอร่อย ๆ กำไรอย่างน้อย ๆ วันละ 500 บาทแล้วครับ อย่างไรก็ดี ต้องควบคุมคุณภาพของลูกชิ้นให้ดีอย่าปล่อยให้ลูกชิ้นเน่าเสียหรือบูดนะ เพราะอาจจะทำให้เราขาดทุนและเสียลูกค้าได้นะจ้ะ

2. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

    มีเงิน 3,000 ลงทุนอะไรดีข้าวเหนียวหมูปิ้งก็เป็นอีกธุรกิจน่าสนใจครับ สำหรับสิ่งที่ต้องซื้อหลัก ๆ คือ เนื้อหมู, ไม้เสียบ, ข้าวเหนียว และถุงใส่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ส่วนเตาปิ้งเราทำเองก็ได้หรือซื้อเตาธรรมดาใช้ไปก่อน จำไว้ว่าเวลาจ่ายตลาดห้ามใช้งบเกิน 3,000 บาทนะจ้ะ คุมงบประมาณให้ดีเพื่อกำไรครับ 

คิดรายได้คร่าว ๆ ถ้าขายไม้ละ 10 บาทได้ 100 ไม้ เป็นเงิน 1,000 บาท ข้าวเหนียวถุงละ 10 บาท ขายได้ 100 ถุง เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,000 บาท หักกับต้นทุนก็มีกำไรเหลือ ๆ เนื่องจากข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่ขายได้ตลอดทั้งวัน หรือมีทำเลดี ๆ อาจจะขายได้มากกว่าวันละ 100 ไม้ ซึ่งจะทำให้เรามีกำไรมากขึ้นด้วยครับ

3. ขายหม่าล่าปิ้งย่าง

    หม่าล่าปิ้งย่างเนี้ยะถือเป็นอาหารยอดฮิตแห่งยุคเลยก็ว่าได้ครับ คนที่คิดจะขายหม่าล่าเป็นอาชีพเสริม สามารถลงทุนได้เองไม่ต้องผ่านแฟรนไชส์ แค่มีเงินทุนเริ่มต้นเพียง 3,000 ก็เริ่มต้นอาชีพนี้ได้แล้ว เบื้องต้นเราจะต้องลงทุนวัตถุดิบและเครื่องปรุงหมาล่า อุปกรณ์จะมี เตาปิ้งย่าง ตะแกรงพักของย่าง ไม้ทาพริกหม่าล่า ถุงพลาสติกหรือกล่องโฟม และพลาสติกวางรองกล่อง หรือถ้วยพลาสติกสำหรับใส่ขาย และเพื่อรักษาความสดให้กับเนื้อและผักควรมีตู้แช่สำหรับแช่เนื้อในระหว่างขายด้วย เพราะถ้าหลายชั่วโมง อาจมีกลิ่นหรือไม่น่ารับประทานได้นะ

4. ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่เจียวฟูกรอบ

    มาถึงร้านข้าวไข่เจียวลงทุนไม่ยาก โต๊ะ 1 ตัว เตาแก๊ส จานโฟม ช้อนส้อมพลาสติก วัตถุดิบสำหรับผสมไข่เจียว เช่น หมูสับ, ปูอัด, หมูยอ, ผัก, ไก่สับ ฯลฯ ซึ่งเราอาจไม่ต้องมีเครื่องเคียงมากนักในช่วงแรกที่ทำธุรกิจ แต่ที่ต้องมีและเป็นพระเอกของธุรกิจนี้เลยก็คือ ข้าวและไข่ไก่ 

    ยกตัวอย่างต้นทุน ข้าวสารราคาถังละประมาณ 450 บาท ไข่เบอร์ 1-2 แผงละประมาณ 95 บาท ได้ไข่ไก่ 30 ใบ ต้นทุนเบ็ดเสร็จพร้อมเปิดร้านประมาณ 2,000 บาท หากเราขายข้าวไข่เจียวจานละ 20-25 บาท แค่ 100 จานก็ได้เงิน 2,500 บาท อาจจะเพิ่มเครื่องให้หลากหลาย หรือเพิ่มน้ำจิ้มรสเด็ดที่หลากหลายมากกว่าซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มแจ่ว, น้ำจิ้มซีฟู้ด ที่เข้ากับรสชาติของไข่เจียว เพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับร้านไข่เจียวของเราก็ได้นะ

5. ร้านโจ๊ก

  ใช้ทุนไม่สูงอย่างที่คิดต้นทุนสำคัญคือข้าวสำหรับทำโจ๊ก ไข่ หมู เริ่มต้นง่าย ๆ ก่อนได้ครับไม่ต้องมีวัตถุมากนัก ส่วนพวกเครื่องปรุงเดี๋ยวนี้ก็มีที่ทำสำเร็จรูปเป็นซองเราไปซื้อมาได้เลย แค่ตั้งโต๊ะ หม้อโจ๊กขนาดใหญ่ 1 ใบ เปิดร้านแบบง่าย ๆ ไม่ต้องนั่งทานให้ซื้อกลับบ้านอย่างเดียวต้นทุนรวม 3,000 เอาอยู่แน่นอน ขายโจ๊กถุงละ 30-35 บาท ขายสัก 100 ถุงก็ได้เท่าทุน และยิ่งเปิดร้านนาน ๆ มีลูกค้าประจำแล้วคำนวณได้เลยว่าแต่ละวันจะขายได้ประมาณเท่าไหร่ ธุรกิจนี้ยังไงก็กำไร

    ออกไอเดียว่า เตรียมไข่หลากหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจครับ เช่น ไข่ลวก ไข่สุก หรือไข่เค็ม ได้ตามสไตล์ที่เราต้องการสร้างคาแรคเตอร์ให้ร้านได้เลยล่ะ

6. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

    เมนูเพื่อสุขภาพอีกอันที่น่าลงทุนครับ สำหรับธุรกิจลงทุนไม่เกิน 3,000 บาท ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนใช้ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ มีแป้ง ผักต่าง ๆ หมูสับหรือไก่ หมูยอ ปูอัด เครื่องทำน้ำจิ้ม ถ้าขายก๋วยเตี๋ยวลุยสวนในราคากล่องละ 30-35 บาท ขายได้ 300 กล่อง เป็นเงิน 9,000 – 10,500 บาทแล้วนะ

7. ขายแซนวิช

    แซนวิชมีหลายอย่าง เช่น แซนวิชหมูหยอง, ,แซนวิชแฮม, แซนวิชไข่ดาวหมูยอง, แซนวิชผัก หรือแซนวิชโบราณ ฯลฯ เบื้องต้นเราอาจไม่ต้องมีสินค้ามากเกินไป เอาตามงบประมาณที่มี โดยตั้งราคาขายตามคุณภาพและขนาดของแซนวิชครับ คือตั้งราคาเพิ่มมากกว่าต้นทุน 5-10 บาท ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขายคือเช้า และเย็น สำหรับต้นทุนที่สำคัญคือขนมปังและวัตถุดิบประกอบต่าง ๆ เช่น หมูหยอง แฮม ผัก ไข่ดาว ฯลฯ เบ็ดเสร็จต้นทุนอยู่ประมาณ 2,000 บาทครับ แต่ละวันถ้าขายได้ 100 ชิ้นก็ถือว่าเท่าตัว แต่หากทำตลาดดี ๆ ขายส่งตามโรงเรียนขายส่งตามออฟฟิศ หรือมีออร์เดอร์ประจำ แค่ 100 ชิ้นถือว่าง่ายมากเผลออาจขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500 ชิ้นทีเดียว รายได้ก็ลองคูณดูว่าจะมากขึ้นแค่ไหนนะ

8. ร้านยำ

    ยำคนนิยมมาก เบื้องต้นเราอาจใช้งบ 3,000 ทำเมนูยำที่ไม่มากเกินไป เตรียมยำหลัก ๆ อย่างเช่น ยำวุ้นเส้น ยำมาม่า ยำไข่เยี่ยวม้า ยำตีนไก่ ยำหมูยอ ฯลฯ ซึ่งต้องพยายามคำนวณให้อยู่ในงบประมาณที่เรามี ยิ่งถ้าเรามีฝีมือในการทำยำให้รสชาติจัดจ้าน เพิ่มความปลาร้านัว ๆ รับรองว่า ขายดีคนติดใจซื้อทุกวันแน่นอนครับ ราคาขายตักใส่ถุงละ 35-40 บาท มีรายได้ต่อวันไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 บาท เราเอากำไรมาต่อยอดทำยำเพิ่มก็จะทำให้มีรายได้มากขึ้นด้วย

9. วุ้นแฟนซี

    ต้นทุนวุ้นแฟนซีไม่มีอะไรมาก ผงวุ้น กลิ่น สี แป้นพิมพ์ และกล่องใส่วุ้น เบ็ดเสร็จ 3,000 พอไหว สิ่งสำคัญคือสีสันและความสวยงาม ขายเป็นกล่องกล่องละ    20-30 บาท ซึ่งสามารถขายได้ทั้งหน้าร้านและขายออนไลน์ รวมถึงขายฝากตามร้านต่างๆ ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่หลายคนมองข้ามแต่ถ้าคิดทำจริงจังลงทุนไม่สูงแต่กำไรดี ขึ้นอยู่กับไอเดียด้วยครับ

10. ผัดมาม่าและเส้นต่างๆ

    สามารถขายได้ในราคาห่อละ 10-15 บาท และจะให้ดีควรมีวัตถุดิบให้ลูกค้าเลือกผสมเพิ่มเติมจะทำให้ขายง่ายขึ้นเพิ่มทางเลือกให้มากขึ้น เช่น ลูกชิ้น หมูสับ ไข่ ผัก แฮม ฯลฯ โดยรวมต้นทุนใช้ไม่มาก แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขายว่าจะทำอย่างไรให้คนติดใจ เมนูนี้ไม่ต้องพูดมากไม่ต้องโฆษณาเยอะ แค่ทำอร่อยๆ คนก็ติดใจแน่นอน ดีไม่ดีในกรณีลูกค้าเยอะอาจต้องมีการเพิ่มสาขาตัวเอง รายได้วันละ 2,000-3,000 น่าจะได้สบาย ๆ ครับ

11. ขายน้ำแข็งไส

    

กินตอนร้อน ๆ ยิ่งชื่นใจ เทคนิคคือต้องมีน้ำหวานให้เลือกหลายสี หรือเพิ่มพิมพ์น้ำแข็งใสทรงกลม ทรงเหลี่ยม มีท็อปปิ้งหลายอย่าง และต้องสะอาด ภาชนะต้องได้มาตรฐาน กลุ่มลูกค้าที่สนใจมักอยู่ในวัยเด็ก-วัยผู้ใหญ่ การลงทุนใช้แค่ 1,000 บาทก็เอาอยู่ แต่ต้องหาแหล่งขายสินค้าที่เหมาะสมด้วย ราคาขายถ้วยละ 15-20 บาท ถ้าทำแบบสะสมกำไรไว้แล้วนำมาต่อยอดธุรกิจเพิ่มสินค้าให้มากขึ้น จัดร้านให้น่าสนใจขึ้น อนาคตก็จะเป็นธุรกิจที่แข็งแรงได้เช่นกัน

12.  ขายไก่ทอด

    ไก่ไหมครับไก่ ? ไก่ทอดเป็นอาหารยอดฮิตที่ยุคไหนก็ขายดี ยิ่งตอนเช้า ๆ จะขายดีมาก อุปกรณ์เราหาเองได้ง่าย ๆ ใครที่อยากมีอาชีพไม่รู้จะเริ่มจากอะไรเปิดร้านขายไก่ทอดแบบง่าย ๆ รายได้อาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้ พร้อมกับฝึกฝนเทคนิคดี ๆ ในการทอดไก่ หมักไก่ และขายคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ อร่อย ๆ

13. ร้านน้ำพริกผักลวก

    จะมีเครื่องเคียงเป็นผักลวก ปลาทู ไข่ต้ม ไข่ชะอม และอาจจะมีน้ำพริกอื่น ๆ มาร่วมแทรกด้วย ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่มีมานาน และคนก็ยังให้ความนิยมอยู่ เพียงแต่การจะทำให้เป็นธุรกิจได้ก็ต้องรู้จักพัฒนาฝีมือให้คนติดใจ และแพคเกจก็ต้องเหมาะสมให้คนซื้อกลับบ้านได้ง่าย ๆ การลงทุนไม่เกิน 3,000 ก็ได้น้ำพริกหลายชนิดเลยครับ

14. ขายส้มตำ

    ส้มตำเป็นเมนูเด็ดที่หลายคนชื่นชอบ ส่วนใหญ่มักทานกันในช่วงเวลากลางวันหรือตอนเย็น ถ้าพูดถึงต้นทุนให้ไม่เกิน 2,000 บาท ยกเว้นแต่จะมีไก่ย่าง หรือเครื่องเคียงอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย ส่วนรายได้การันตีได้เลยว่า ยิ่งถ้ามีฝีมือ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก บางวันถ้าลูกค้าเยอะ รายได้มีมากถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวครับ

15. ของทอดทานเล่น

    อาหารทานเล่นมีหลายอย่าง เช่น เฟรนฟราย ไก่ทอด ข้าวโพดทอด ลูกชิ้นทอด ขนมปังทอด เป็นต้น ถ้าเราสามารถทำเมนูทานเล่นให้อร่อย มีรสชาติที่ติดปาก ลูกค้าขาประจำก็จะเยอะตามไป คนที่ทำธุรกิจนี้จริง ๆ จัง ๆ ขายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ต่อวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเล ส่วนต้นทุนนั้นไม่เกิน 3,000 เพราะเดี๋ยวนี้มีแบบสำเร็จรูปให้เราไปซื้อมาทอดขาย เราเลือกได้ว่างบที่มีอยู่จะซื้อวัตถุดิบมาเริ่มต้นขายได้เท่าไหร่ครับ

16. กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด

    มีเงิน 3,000 ลงทุนอะไรดีการเปิดร้านกล้วยทอดมันทอด เผือกทอดก็น่าสนใจครับ เทคนิคการทำให้อร่อย ต้องอร่อยที่ตัวแป้ง และต้องไม่ติดน้ำมันมากจนเกินไป อีกทั้งต้นทุนที่ใช้ก็ไม่สูงมาก ถ้าเริ่มเปิดร้านแรกไม่ต้องมีขนาดใหญ่โต ให้คำนวณต้นทุนและสัดส่วนสินค้าที่คุณจะขายให้ดี

17. ขนมจีนน้ำยา

    แม้จะดูเป็นเมนูจุกจิกในเรื่องของส่วนผสม แต่ต้นทุนโดยรวมไม่เกิน 3,000 ก็ทำขนมจีนน้ำยาขายได้แน่ เริ่มต้นธุรกิจไม่ต้องตั้งร้านใหญ่โต แค่มีที่ในเขตชุมชนหรืออยู่ใกล้ตลาดนัดน้ำยา 1 หม้อ ขนมจีนพร้อมขาย ไว้มีเงินทุนค่อยเพิ่มเมนูอื่นประกอบเข้าไปอย่างน้ำพริกขนมจีน แกงเขียวหวาน น้ำเงี้ยว ขนมจีนน้ำย้อย ต้องไม่ลืมเครื่องเคียงอย่างผักสด ผักดอง ขายชุดละ 30-35 บาทครับ

18. รับทำอาหารกล่อง

    อันนี้น่าจะทีเด็ดคือยังไม่ต้องลงทุนอะไรเลย รับออเดอร์มาก่อนว่าลูกค้าต้องการสั่งเมนูอะไร จำนวนเท่าไหร่ เมื่อได้ออร์เดอร์แน่นอนค่อยไปซื้อวัตถุดิบมาข้อดีของวิธีการนี้คือ คำนวณได้ครับว่าเราจะมีกำไรเท่าไหร่ แม้จะออกทุนไปก่อนแต่ไม่นานเมื่อส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้หมด กำไรก็จะอยู่ในนั้นเรียบร้อย ยิ่งยุคนี้มีสื่อออนไลน์อย่างโซเชียลมีเดียมาเป็นตัวช่วย รวมกับการหาลูกค้าจากออฟฟิศต่าง ๆ ยิ่งมีมาก กำไรเรายิ่งดีขึ้น และถ้ากำลังมองหาที่ฝากร้านสามารถมาฝากร้านฟรีที่กลุ่มตลาดนัดสมหวังนะครับ

19. ขายข้าวโพดต้ม

    บางคนคิดไม่ถึงว่าข้าวโพดต้มจะขายดีได้อย่างไร นี่คือเมนูบ้าน ๆ แต่รายได้ไม่บ้าน ๆ นะครับ ต้นทุนข้าวโพดดิบกิโลกรัมละ 8-10 บาท ติดต่อกับสวนข้าวโพดได้ยิ่งดีครับ ซื้อมาสัก 100 กิโลกรัมก็ประมาณ 1,000 บาท ได้ข้าวโพดประมาณ 200 ฝัก (น้ำหนักเฉลี่ย 2 ฝัก/กก.) ไม่ต้องกังวลเรื่องหม้อต้มหากยังไม่มีทุนมากก็ใช้หม้อธรรมดาไปก่อน ต้นทุนที่เหลือคือค่าแก๊ส ราคาขาย ตั้งแต่ ฝักละ 15-20 บาท ถ้ามี 200 ฝัก ก็ขายได้ 1,500-2,000 บาท แต่แม่ค้าข้าวโพดต้มส่วนใหญ่จะขายได้วันละมากกว่า 5,000 บาท คิดดูว่ากำไรดีแค่ไหน และวิธีการก็ไม่ยุ่งยาก สินค้าขายตัวเองได้ และคนที่นิยมก็ยังมีมากอีกด้วย จะลองเพิ่มน้ำตาล เพิ่มมะพร้าว หรือท็อปปิ้งอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบครับ

20.  ขายขนมปังปิ้ง

    ขนมปังปิ้ง เมนูง่าย ๆ สร้างรายได้ยามเช้า เงินลงทุนเบื้องต้นไม่เกิน 3,000 ได้อยู่ วัตถุดิบมีขนมปัง ราคาขึ้นอยู่กับขนาด น้ำหนัก และการหั่นขนมปัง ถ้าเป็นขนมปังที่ยังไม่ได้หั่นมาให้ก็จะถูกกว่า 

  • แยม 1 กิโลกรัมเริ่มต้น 65 บาท 

  • มายองเนส 1 กิโลกรัมเริ่มต้น 50 บาท 

  • ช็อคโกแลตนูเทลล่า 680 กรัมเริ่มต้น 350 บาท 

  • เนย 5 กิโลกรัม เริ่มต้น 750 บาท 

อุปกรณ์เตา มีด โต๊ะ โหลใส่แยม เอาจากในบ้านก่อนได้ จานกระดาษ 100 ชิ้น เริ่มต้นที่ 60 บาท/แพ็ค ถุงพลาสติก ราคาเริ่มต้น 60 บาท/แพ็ค การเลือกทำเลขาย ควรอยู่ในย่านชุมชน หน้าโรงเรียน ย่านมหาลัยหรือแหล่งออฟฟิศ บริเวณใกล้กับป้ายรถเมล์ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า ตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านในตอนเช้า เพราะจะสามารถขายได้ในปริมาณที่มากในเวลาที่จำกัด

พอจะได้ไอเดียทำธุรกิจทุน 3,000 ลงทุนทำอะไรดีกันแล้วใช่ไหมครับ และถ้ามองหาเงินทุนเปลี่ยนรถเป็นเงินทุน รถยังมีขับ วงเงินสูงถึง 150% ของราคาประเมินรถยนต์* ลองดูรายละเอียด

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เพื่อหมุนเวียนธุรกิจ SME กับสมหวัง ได้ครับ ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก ตลาดนัดสมหวัง

หมายเหตุ : ธนาคารของสงวนสิทธิ์ในการกำหนดวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และผู้ค้ำประกัน โดยพิจารณาจากยี่ห้อ รุ่น ปีที่จดทะเบียนของรถ รวมถึงรายได้และสถานภาพต่างๆ ของผู้สมัคร ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้