ไฮฟู (Hifu) กับ ร้อยไหม (Thread lift) คืออะไร? เหมือน หรือ ต่างกันอย่างไร? คนหน้าแบบไหนเหมาะทำอะไร? ทุกวันนี้การมีใบหน้าที่สวยใสไร้ริ้วรอยไม่ใช่เรื่องยาก แค่เพียงเดินสวยๆเข้าคลินิกความงาม ก็สามารถเสกผิวใสได้ไม่ยากแถมยังราคาไม่แพงอย่างที่คิดด้วย อย่าง #ไฮฟู (Hifu) กับ #ร้อยไหม (Thread lift) ก็เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมยอดฮิตที่ลูกค้านิยมกัน ว่าแต่เจ้า 2
โปรแกรมนี้มันต่างกันยังไง ตามฟารีดาคลินิกมาเลยค่ะ เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน #ไฮฟู (Hifu) คือ #ร้อยไหม (Thread lift) คือ #แล้วการทำ ไฮฟู (Hifu) กับ ร้อยไหม (Thread lift) ต่างกันอย่างไร – การทำ ไฮฟู (Hifu) จะเป็นการสร้างแผลให้เกิดใต้ชั้นผิวหนังโดยที่ไม่ทิ้งบาดแผลใดๆให้ได้เห็นจากภายนอก ไม่มีรอยเข็ม ไม่มีเลือดออก เพราะเป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ยิงผ่านชั้นผิวหนังลงไป อาจจะมีการบวมแดงบ้างแต่ก็หายได้เองภายใน 30 นาที -1 ชั่วโมง – ส่วนการ ร้อยไหม (Thread lift)
นั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เข็มร้อยเส้นไหมเข้าไปในผิวหน้าของเรา ฉะนั้นจึงทำให้มีเลือด หรือมีรอยเข็มเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแพทย์จะพยายามเก็บปลายเส้นไหมเพื่อเลี่ยงการทิ้งรอยแผลให้ได้มากที่สุด และมีการทายาชาเพื่อลดอาการเจ็บขณะร้อย #การทำ ไฮฟู (Hifu)และการ ร้อยไหม (Thread lift) เหมาะกับใครบ้าง ส่วนการ ร้อยไหม (Thread lift) นั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากกว่า หรือเริ่มเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัยกลางคน 35-60 ปี แต่ทั้งนี้เนื้อเยื่อต้องไม่ยุบตัวหรือหย่อนคล้อยมากเกินไป
ซึ่งอาจเกิดจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก กรณีนี้อาจต้อง
เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ส่งเข้าไปทำให้ชั้น SMAS เกิดการสร้างคอลลาเจน หรือที่บางคนเรียกว่าการยิง Shot Hifu เพราะมันจะเป็นแผลเล็กๆเหมือนเข็มเย็บผ้า แต่จะยิงถี่ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจำนวนของ Shot จะมีผลต่อการสร้างคอลลาเจน คือถ้ายิงมากก็กระตุ้นการสร้างได้มากค่ะ
ส่วนการ ร้อยไหม (Thread lift)
หลายคนอาจจะคุ้นชื่อนี้ดี มันเป็นการใช้เส้นไหมชนิดพิเศษในการร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวหนังเต่งตึงเช่นกัน โดยไหมนี้ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ไหมละลาย PDO ประเภทเดียวกันกับที่ใช้ในการเย็บแผลผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ ข้อดีคือไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ
ถึงแม้จุดประสงค์ในการเสริมความงามคือ “ทำให้เกิดเป็นแผลใต้ผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเหมือนกัน” แต่ 2 วิธีการนี้ก็ยังมีความแตกต่างกัน คือ
– ข้อดีคือ วิธีนี้เจ็บน้อยกว่าการร้อยไหม (Thread lift) และมีราคาที่ถูกกว่า
– แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการยิง Shot และสภาวะปัญหาของผิวหน้าของแต่ละคน
– ข้อดีของการ ร้อยไหม (Thread lift) คือผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานกว่าการทำ ไฮฟู (Hifu) โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน 1ปี หรือ 2ปี
– แต่ข้อเสียคือจะมีราคาที่สูงกว่า และอาจเสี่ยงเกิดเป็นพังผืดได้ ฉะนั้นหลังจาก ร้อยไหม (Thread lift) ต้องดูแลใบหน้าให้ถูกวิธีนะคะ
จะเห็นว่าการทำ ไฮฟู (Hifu)และการ ร้อยไหม (Thread lift) มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป สำหรับการทำ ไฮฟู (Hifu) จะเจ็บน้อยกว่าและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวหน้ามากนัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคือสาวๆที่อยู่ในช่วงวัย 25-35 ปี
ใช้วิธียกกระชับอื่น ๆ ร่วมด้วยจะเห็นผลได้ดีค่ะ
- หน้าแรก
- บริการของเรา
- ดูดไขมัน body jet
- เติมไขมัน
- ทำตาสองชั้น
- เสริมจมูก
- เสริมคาง
- Non – Surgery
- MESO
- HIFU
- โบท็อก
- Filler
- Laser
- เคสรีวิว
- โปรโมชั่น
- สาระน่ารู้
- ติดต่อคลินิก
- หน้าแรก
- บริการของเรา
- ดูดไขมัน body jet
- เติมไขมัน
- ทำตาสองชั้น
- เสริมจมูก
- เสริมคาง
- Non – Surgery
- MESO
- HIFU
- โบท็อก
- Filler
- Laser
- เคสรีวิว
- โปรโมชั่น
- สาระน่ารู้
- ติดต่อคลินิก
- หน้าแรก
- บริการของเรา
- ดูดไขมัน body jet
- เติมไขมัน
- ทำตาสองชั้น
- เสริมจมูก
- เสริมคาง
- Non – Surgery
- MESO
- HIFU
- โบท็อก
- Filler
- Laser
- เคสรีวิว
- โปรโมชั่น
- สาระน่ารู้
- ติดต่อคลินิก
- หน้าแรก
- บริการของเรา
- ดูดไขมัน body jet
- เติมไขมัน
- ทำตาสองชั้น
- เสริมจมูก
- เสริมคาง
- Non – Surgery
- MESO
- HIFU
- โบท็อก
- Filler
- Laser
- เคสรีวิว
- โปรโมชั่น
- สาระน่ารู้
- ติดต่อคลินิก
ร้อยไหม หรือ ไฮฟู่ HIFU ควรเลือกทำอะไร แบบไหนเหมาะกับใคร ต่างกันอย่างไร มาหาคำตอบกับบทความนี้
ผิวบนใบหน้ากับกาลเวลาเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้จริงหรือ? ปัจจุบันนี้ด้วยนวัตกรรมอันไร้ขีดจำกัดที่เข้ามาทลายความเชื่อเดิมๆ ที่มีต่อความงามกับการยกกระชับใบหน้าด้วยการร้อยไหม และ การเลเซอร์แบบ HIFU ซึ่งกาลเวลาก็ไม่สามารถพรากความอ่อนโยนจากผิวคุณไปได้ วันนี้เราจะไปหาคำตอบกันว่าระหว่างการรักษาด้วยวิธีร้อยไหม กับ HIFU อะไรจะตอบความต้องการของคุณได้มากที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้อยไหมและ HIFU
ร้อยไหมต่างจาก HIFU อย่างไร ?
ทั้งการร้อยไหมและการเลเซอร์ HIFU มีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อปรับรูปหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิวตามธรรมชาติ ปรับผิวหน้าของคุณให้ดูเต่งตึงมากขึ้น แต่จะมีข้อแตกต่างตามกลวิธีในการรักษา เครื่องมือที่ใช้ และการดูแล โดยวันนี้เราได้สรุปออกมาเป็น 4 ข้อหลักๆ ดังนี้ค่ะ
ร้อยไหมเหมาะกับใคร?
วิธีรักษาด้วยการร้อยไหม คือวิธียกกระชับผิวหน้าให้ได้รูปได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ด้วยการร้อยไปยังชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหน้าหรือลงชั้นกล้ามเนื้อ โดยจะเป็นไหมขนาดเล็กและสามารถละลายได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งเหมาะอย่างมากกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยจากกาลเวลา ไม่ได้รูป หรือ ผิวย่นจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจจะมีการพักฟื้น ซึ่งสามารถรับคำแนะนำจากคุณหมอได้
HIFU เหมาะกับใคร?
อยากหน้าเด็กไร้ริวร้อย คุณสามารถเลือกวิธีการรักษาแบบเลเซอร์ HIFU ด้วยการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งวิธีการนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า กลัวเข็ม ไม่ต้องการพักฟื้น และไม่ต้องการใช้เข็ม
ร้อยไหมกับ HIFU อย่างไหนอยู่ได้นานกว่ากัน?
สำหรับประเด็นเรื่องความคงทนระหว่างการร้อยไหมกับ HIFU ปัจจัยสำคัญที่สุดคือวัสดุหรืออุปกรณ์ที่เลือกใช้ โดยการร้อยไหมจะขึ้นอยู่กับไหมที่ใช้ซึ่งเฉลี่ยแล้วไหมจะละลายภายไหน 8 เดือนถึง 1 ปี ต่างจากการทำ HIFU ที่ใช้เครื่องเลเซอร์ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งการรักษาทั้ง 2 แบบนี้จะแตกต่างไปตามลักษณะผิว โครงสร้างหน้า อายุ และปัจจัยอื่นๆ ของผู้รับการรักษาอีกด้วย
ดังนั้นถ้าสรุปในเงื่อนไขที่คงที่จะพบว่าการร้อยไหมจะอยู่ได้นานกว่าการทำ HIFU แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของราคาและวิธีการดูแลตัวเองหลังการรักษาที่ไม่เหมือนกัน
ร้อยไหมกับ HIFU อย่างไหนเจ็บกว่ากัน?
การร้อยไหมและการทำ HIFU จะให้ผลข้างเคียงไม่เหมือนกัน โดยหากพิจารณาด้านอาการเจ็บหรือผลข้างเคียงที่ตามมาหลังการรักษาก็สามารถสรุปได้ดังนี้
- การร้อยไหม – ผู้รับการรักษาอาจมีอาการเจ็บจากการใช้เข็มหรืออาการปวดจากการยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงอาจพบรอยช้ำบริเวณที่ใช้เข็ม
- การทำ HIFU – อาจพบอาการเสียวแปลบๆ หรือ อาการหน่วงๆ จากการยิงเลเซอร์เข้าไปเพื่อยกกระชับ นอกจากนี้ถ้าทำการรักษากับผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญพออาจพบรอยไหม้จากการทำ HIFU ได้อีกด้วย
โซลูชั่นด้านการเสริมความงามของแต่ละคนอาจให้คุณค่าที่แตกต่างกัน โดยการรักษาด้วยวิธีการร้อยไหม กับ HIFU คือโปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้านการยกกระชับผิวหน้า เพื่อลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยที่เกิดจากกาลเวลาตามธรรมชาติ แต่วันนี้คุณสามารถออกแบบความงามให้กับตัวเองได้เพียงเลือกใช้วิธีการรักษาที่ดีมีคุณภาพ และตอบโจทย์ฉบับความงามที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณมากที่สุด
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แต่ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าเราเหมาะกับการทำยกกระชับด้วยวิธีไหน สามารถติดต่อสอบถามหรือรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ฟรีที่ YDC You Desire Clinic ทั้งสองสาขา ที่เบอร์ 061-1962-391 (สาขาเซ็นทรัล EastVille) หรือที่เบอร์ 088-1991-626 (สาขาแยกเกษตร) และทาง Line ID: @youdesireclinic (มี@)
แชร์บทความให้เพื่อนคุณอ่าน