วิธี ทำให้รถมอเตอร์ไซค์


5 สิ่งผิดปกติควรสังเกตของรถใกล้จะพัง

อุปกรณ์การทำงานของชิ้นส่วนในรถมอเตอร์ไซค์มีวันหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ โดยแต่ละอย่างมักจะเสียหรือเริ่มมีอาการเตือนผู้ขับให้รู้เป็นระยะ แต่บางครั้งก็อาจจะไม่ทำงานเอาซะดื้อๆ เลยก็มี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องมีความรู้เบื้องต้น และรู้อาการเตือนเหล่านั้นเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ เพื่อความปลอดภัย และสามารถวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายให้เพียงพออีกด้วย


เมื่อสตาร์ตเครื่อง จะมีอาการเหมือนสตาร์ตติด แต่ก็สำลักดับไป หรือติดอยู่สักพักก็ดับ หรือไม่ติดเลย บางครั้งกดปุ่มสตาร์ตก็ไม่มีเสียงการหมุนของเครื่องยนต์ (กรณีสตาร์ตไฟฟ้า) ซึ่งสาเหตุอาจเกิดได้จาก

  • ระบบเชื้อเพลิง : เชื้อเพลิงอาจเหลือแค่ระดับก้นถัง ไม่พอที่จะไหลลงระบบฉีดน้ำมัน, รั่วซึมทำให้แรงดันตก (กรณีเป็นระบบหัวฉีด), น้ำมันท่วมหรือหนาเกินไป (กรณีเป็นคาร์บูเรเตอร์), ไส้กรองเชื้อเพลิงอุดตัน/สกปรก, น้ำมันผิดประเภท/ไม่สะอาด, ระบบหัวฉีดหรือนมหนูคาร์บูเรเตอร์จ่ายน้ำมันอุดตัน, เครื่องมีอุณหภูมิต่ำเกินไป เป็นต้น
  • ระบบไฟ : อาจเกิดจากหัวเทียนสกปรก, สายหัวเทียนชำรุด, ระบบจานจ่ายชำรุด, มอเตอร์สตาร์ตกำลังไม่พอ (ระบบสตาร์ตไฟฟ้า) เป็นต้น

วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า : สตาร์ตด้วยเท้าให้เว้นระยะแล้วค่อยลองอีกครั้ง อาจต้องทำบ่อยให้เครื่องวอร์มจากอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป (ระบบสตาร์ตไฟฟ้าไม่ควรกดสตาร์ตแช่นานเกินไปเพราะแบตเตอรี่อาจหมด) ตวรจระดับน้ำมันในถัง, อาจใช้วิธีเขย่ารถช่วยในกรณีที่มีอุปกรณ์บางอย่างเกี่ยวกับน้ำมันเชิ้อเพลิงอุดตัน เป็นต้น และรีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านซ่อมทันที 


ให้ลองสังเกตกลิ่นแปลกๆ ที่ลอยมาในส่วนต่างๆ ของรถว่าผิดปกติหรือไม่ เช่น กลิ่นไหม้, กลิ่นน้ำมันเบนซิน เป็นต้น ซึ่งอาจมีระบบไฟฟ้าลัดวงจรในบางจุด หรือเกิดการรั่วซึมของระบบท่อทางเดินของน้ำมันเชื้อเพลิง

ส่วนควันมักจะมาพร้อมกับกลิ่น เช่น เมื่อมีจุดที่ไฟฟ้าลัดวงจรมักจะมีควันลอยตามมาด้วย หากเป็นเช่นนี้ยิ่งง่ายต่อการตรวจเช็คด้วยตาเปล่า จากจุดที่ควันนั้นลอยออกมาครับ 

วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า : จอดในที่ปลอดภัยแลดับเครื่องยนต์ทันที รีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านซ่อม และในระหว่างรอให้หาจุดที่มีควันให้เจอเพื่อระงับเปลวไฟหรือชิ้นส่วนต่างๆ ที่อาจเกิดการลุกไหม้ได้ หากพอมีความรู้เรื่องช่างอยู่บ้าง ควรถอดขั้วแบตเตอรี่ออกไว้ก่อนครับ


เมื่อขับอยู่จะรู้สึกว่าต้องออกแรงในการดึงแฮนด์ให้ตรงมากกว่าปกติ เช่น ต้องออกแรงดันแฮนด์ไปทางขวาจนรู้สึกเมื่อยล้า อาจเป็นเพราะศูนย์ของตัวรถ (ล้อหน้า/หลังไม่ได้ศูนย์) หรือแฮนด์ล้อหน้าเอียงซ้ายมากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการเมื่อยล้า นอกจากนี้ อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ เมื่อขับผ่านอุปสรรคต่างๆ อย่างรวดเร็วจนทำให้บังคับแฮนด์ไม่สะดวก สาเหตุอาจเกิดจากขับผ่านถนนที่สภาพเป็นหลุมบ่อด้วยความเร็วสูงบ่อยๆ, รถล้ม, แฮนด์คด หรือบรรทุกหนักเกินไป เป็นต้น

ส่วนอาการ "แกว่ง" นั้น เมื่อใช้ความสูงๆ รถจะสะเทือนสั่นเป็นเจ้าเข้า สาเหตุอาจเกิดจากวงล้อที่ "คด" หรือบิดเบี้ยวไม่กลมทำให้เมื่อหมุนแล้วไม่สมดุล จึงเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น  

วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า : ใช้ความเร็วต่ำและรีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านซ่อมเพื่อตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดพร้อมแก้ไขซ่อมแซมให้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด


อาการกระเด้งกระดอนนี้ เกิดจากระบบกันสะเทือนที่ชำรุดหรือเสื่อมคุณภาพ อาการที่เกิดขึ้นคือ รถจะกระเทือนเมื่อตัวรถมีช่วงยุบมากเกินไปจน "โช้กยัน" หรือตัวรถกระเด้งขึ้น-ลงมากผิดปกติ สาเหตุอาจเกิดจากหลายกรณี เช่น โช้กแตก/รั่ว, แกนโช้ก "คด/งอ"  เป็นต้น ซึ่งจะมีผลให้การควบคุมรถทำได้แย่ลง โดยเฉพาะเมื่อขับผ่านเนินหรือคอสะพาน รถอาจจะยุบตัวจนใต้ท้องกระแทกพื้นได้ และยังส่งผลเมื่อต้องการขับผ่านทางโค้งอีกด้วย ให้สังเกตรอย, คราบของเหลว (น้ำมันโช้ก) ที่ส่วนแกนโช้ก หรือรอยหยดที่ตัวกระบอกโช้กว่ามีหรือไม่ 

วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า : ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วต่ำ และรีบนำรถเข้าตรวจเช็คระบบช่วงล่าง เช่น เปลี่ยนโช้ก, สปริง, อัดน้ำมันแก้ไขจุดที่รั่วใหม่ 


อาการนี้ดูเหมือนจะเบากว่าการสตาร์ตไม่ติด แต่ที่จริงแล้วนั้น อาจมีความผิดปกติของระบบเครื่องยนต์อยู่ แม้ว่าเครื่องยนต์จะสามารถทำงานได้ แต่พอผ่านไปสักระยะหนึ่งเครื่องยนต์ก็ดับ และที่รายแรงกว่านั้นอาจถึงขั้นเครื่องน็อกไปเลยก็ได้ ให้ลองสังเกตก่อนว่า อาการการเร่งไม่ออกหรือไม่ขึ้นนั้นมาพร้อมเสียงแปลกๆ หรือไม่ เช่น มีเสียงดังคล้ายลมรั่วหรือดังแกร็กๆ ซึ่งเสียงแต่ละแบบจะแสดงถึงความผิดปกติแตกต่างกันไป หรือมีเสียงของไฟสปาร์ค (ลัดวงจร) หรือไม่ และสุดท้ายให้ดูถึงระบบเบรกว่าติดขัดหรือไม่ (อาจมาจากลูกสูบเบรก/ดรัมเบรกที่หมดสภาพ) ส่งผลให้มีความหนืดจนเครื่องยนต์ทำงานหนักเกินไปและเร่งไม่ขึ้นนั่นเอง และนำข้อ 1,2 มาใช้ควบคู่กัน รวมทั้งทดลองเข็นรถเปล่าไปข้างหน้าดูว่ามีความฝืดหรือไม่  

วิธีแก้ไขเฉพาะหน้า : ให้ใช้ความเร็วต่ำที่สุดและหาที่จอดเมื่อปลอดภัย, รีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรือร้านซ่อมเพื่อตรวจเช็คแก้ไขโดยละเอียดอีกครั้ง  


ภาพหัวเทียนที่ชำรุดจากหลายสาเหตุ

หากผู้ขับใส่ใจในสุขภาพของมอเตอร์ไซค์ เพียงเพิ่มความช่างสังเกตอีกสักนิด ก็จะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเรื่องของเงิน และเวลา อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ตัวเองมากยิ่งขึ้น เพราะสาเหตุของรถที่เสียหรืออุปกรณ์พังก่อนเวลาอันควรมักมาจากการที่ผู้ใช้รถลืมตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง นอกจากนี้ ก็ยังมีอาการอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ใช้รถต้องหมั่นคอยสังเกตให้เป็นนิสัย เพื่อความปลอดภัย อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนอย่าลืมกลับไปสังเกตรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองกันดูนะครับ ก่อนที่รถของเราจะพังไปเสียก่อน

หมายเหตุ : สาเหตุต่างๆ ในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และการแก้ไขอาจมีได้อีกหลายวิธี

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้